วันอาทิตย์ที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

Meteor เข้าประจำการในกองทัพอากาศสวีเดนสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen และ Brimstone2 เข้าประจำการและทดสอบยิงจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache สำหรับกองทัพอังกฤษ

Farnborough 2016: Meteor enters service on Sweden's Gripens
The Gripen is now in operational service with the MBDA Meteor BVRAAM. Source: MBDA
http://www.janes.com/article/62243/farnborough-2016-meteor-enters-service-on-sweden-s-gripens

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศแบบ MBDA Meteor ได้ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพอากาศสวีเดนสำหรับเครื่องบินขับไล่ SAAB JAS-39 Gripen ทำให้ Gripen เป็นเครื่องบินขับไล่แบบแรกที่มีอาวุธปล่อยนำวิถีพิสัยยิงไกลมาก(มากกว่า 100km) รุ่นนี้ใช้งาน
การพัฒนาอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond Visual Range Air to Air Missile) ของบริษัท MBDA ถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับปรุง MS20 สำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen
ซึ่งยังรวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถใหม่อื่นๆของ Gripen เช่นระเบิดนำวิถีดาวเทียม Boeing GBU-39 Small Diameter Bomb (SDB), ระบบเครือข่าย Datalink แบบ Link 16 แบบเต็มความสามารถ เช่นเดียวกับการเพิ่มขีดความสามารถของ Radar และระบบอื่นๆ

พลอากาศตรี Mats Helgesson ผู้บัญชาการทหารอากาศสวีเดนได้กล่าวแถลงในงานแสดงอากาศยานนานาชาติ Farnborough 2016 ที่ Hampshire สหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่า
"Meteor เป็นที่รับรู้ของเราว่าเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศนำวิถีด้วย Radar ที่อันตรายที่สุดที่มีประจำการในโลก และกองทัพอากาศสวีเดนเป็นผู้ใช้งานเพียงรายเดียวในตอนนี้
เมื่อร่วมกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศนำวิถีความร้อน IRIS-T ทำให้เรามีอาวุธอากาศสู่อากาศที่ดีที่สุดเท่าที่คุณจะหาได้ในโลกนี้"

Meteor ถูกนำเสนอว่าเป็นผู้เปลี่ยนเกมโดยกองทัพและอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาอาวุธปล่อยนำวิถี เนื่องจาก Meteor มีระยะยิงที่ไกลมากๆจากระบบขับเคลื่อนจรวดคู่และ Ramjet ซึ่งให้กำลังขับอย่างต่อเนื่องและเร่งไปได้ถึงระยะยิงไกลสุด
ขณะที่ระบบขับเคลื่อนจรวดของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศโดยทั่วไปจะให้กำลังขณะที่ทำการบินเมื่อยิงออกไปในช่วงต้นเท่านั้น จากนั้นประสิทธิภาพจะลดลงเมื่อจรวดเข้าสู่ระยะสุดท้ายเมื่อใกล้เป้าหมายในระยะยิงไกลสุดของจรวด
"ด้วยการปฏิวัติขีดความสามารถของ Meteor นี้ Gripen สามารถโจมตีเป้าหมายโดยมีความเสี่ยงน้อยต่อนักบินเรา นี่ไม่ใช่เพียงเพราะสมรรถนะทางจลนศาสตร์ที่เหนือกว่าเท่านั้น ยังเพราะอาวุธปล่อยนำวิถีมีพื้นที่เป้าหมายที่ไม่สามารถหลบหนี(no escape zone)ได้เหนือกว่าด้วย
ระบบควบคุมอัจฉริยะของเครื่องยนต์ Ramjet ได้เพิ่มประสิทธิภาพวิถีโคจรและความเร็วที่ขึ้นกับสถานการณ์ในการสั่งการเพื่อเพิ่มพื้นที่ไร้ทางหลบหนีได้สูงสุด" พลอากาศตรี Helgesson กล่าวอธิบายครับ

Farnborough 2016: Brimstone 2 enters service, begins Apache trials
Firing trials of the Brimstone missile have been conducted for the first time from an Apache attack helicopter, MBDA announced at the Farnborough Air Show. Source: Boeing
http://www.janes.com/article/62277/farnborough-2016-brimstone-2-enters-service-begins-apache-trials

บริษัท MBDA ประกาศเมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมในงานแสดงอากาศยานนานาชาติ Farnborough 2016 ว่า
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นแบบ MBDA Brimstone 2 ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) สำหรับเครื่องบินขับไล่โจมตี Tornado GR4
การประกาศยังรวมถึงการยิงครั้งแรกของอาวุธปล่อยนำวิถี Brimstone จากเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64 Apache ที่มีขึ้นเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
และการเสร็จสิ้นการทดสอบติดตั้งขั้นต้นของ Brimstone กับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ที่ทำการทดสอบติดตั้งกับจรวดเครื่อง ทำการบิน และทดสอบการเชื่อมโยงใช้งานอาวุธด้วย

Brimstone 2 เป็นอาวุธปล่อยนำวิถีตระกูล Brimstone รุ่นล่าสุดซึ่งรวมถึง Brimstone รุ่นดั้งเดิมและรุ่นระบบค้นหาเป้าหมายคู่ Dual-Mode Brimstone
โดย Brimstone 2 ได้รับการปรับปรุงให้เป็นอาวุธแบบ Insensitive Munition(IM) ที่ไม่ไวต่อการทำให้เกิดการระเบิดอย่างไม่ถูกต้อง และปรับปรุงระบบค้นหาเป้าหมายให้ดีขึ้น
ซึ่งการปรับปรุงนี้ Brimstone 2 ใช้เครื่องยนต์ Motor จรวด Roxel ใหม่และหัวรบ TDW ใหม่ซึ่งมีคุณสมบัติในการใช้อุปกรณ์จุดชนวนห้ามไกแบบ Electronic
โครงสร้างตัวจรวดของ Brimstone 2 ยังถูกออกแบบใหม่ให้ "ยกระดับความทนทานต่อสภาพแวดล้อมมากขึ้น" ซึ่งนั่นทำให้ "เพิ่มจำนวนชั่วโมงที่ติดตั้งจรวดกับอากาศยานในอากาศได้มากขึ้น"
ตามข้อมูลของ Adrian Monk หัวหน้าอาวุธโจมตีภาคพื้นดินพิสัยใกล้ของ MBDA กล่าวเพิ่มเติมว่า
ระบบค้นหาเป้าหมายคู่(Semi-Active Laser และ Millimetric Wave Radar) นั้น "ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วน Hardware และ Software จำนวนมาก" รวมถึงการขยายขีดความสามารถของระบบ Autopilot ที่ทำให้ Brimstone 2 "เพิ่มสมรรถนะการบินนอกแกนและระยะยิงไกลสุดของอาวุธ"

MBDA ยังได้ประกาศถึงความสำเร็จในการทดสอบการยิงครั้งแรกของอาวุธปล่อยนำวิถี Brimstone จาก ฮ.โจมตี Apache ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาระบบ ซึ่งการทดสอบมีขึ้นที่สนามทดสอบอาวุธใน Yuma มลรัฐ Arizona สหรัฐฯ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ซึ่งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Brimstone จะถูกนำมาใช้กับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache Guardian ของกองทัพบกอังกฤษ(British Army) ซึ่งได้ลงนามจัดหาจำนวน 50เครื่องเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคมที่ผ่านมาตามที่ได้รายงานไป
ทั้งนี้อาวุธปล่อยนำวิถี Brimstone สำหรับ ฮ.โจมตี Apache จะถูกประเมินค่าและพัฒนาเพิ่มเติม โดย MBDA จะทำการตลาดในฐานะระบบอาวุธเฮลิคอปเตอร์โจมตียุคอนาคต(FAHW: Future Attack Helicopter Weapon)
อีกทั้งในการทดสอบติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถี Brimstone 2 กับเครื่องบินขับไล่ Typhoon ตามแผนการเพิ่มขีดความสามารถด้านอาวุธ P3E นั้นได้ทำการทดสอบบินขั้นไปแล้ว และคาดว่าจะมีการทดสอบยิงในราวไตรมาสแรกของปี 2017 ครับ