วันศุกร์ที่ 18 พฤษภาคม พ.ศ. 2561

นาวิกโยธินสหรัฐฯรับมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K ใหม่เครื่องแรก

Sikorsky Begins CH-53 King Stallion Heavy Lift Helicopter Deliveries to the U.S. Marine Corps
Sikorsky delivered the first of 200 CH-53K King Stallion Helicopters to the USMC from West Palm Beach, Florida, on May 16. Image courtesy of U.S. Marine Corps.
https://news.lockheedmartin.com/2018-05-16-Sikorsky-Begins-CH-53-King-Stallion-Heavy-Lift-Helicopter-Deliveries-to-the-U-S-Marine-Corps#assets_all




บริษัท Sikorsky ในเครือบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ ได้ส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Sikorsky CH-53K King Stallion เครื่องแรกแก่นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: U.S. Marine Corps) เมื่อวันที่ 16 พฤษภาคมที่ผ่านมา ณ West Palm Beach มลรัฐ Florida สหรัฐ
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K นี่เป็นเครื่องแรกจาก 200เครื่องที่คาดว่าจะถูกสั่งจัดหาเข้าประจำการในฝูงบินเฮลิคอปเตอร์ของนาวิกโยธินสหรัฐฯ

CH-53K เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่สร้างใหม่เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Sikorsky CH-53E Super Stallion นาวิกโยธินสหรัฐฯที่มีอายุการใช้งานมานาน
โดย ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53E นั้นทำการบินครั้งแรกในปี 1974 และเข้าประจำการในนาวิกโยธินสหรัฐฯตั้งแต่ปี 1981

"การส่งมอบ CH-53K แก่นาวิกโยธินสหรัฐฯครั้งแรกของเราเป็นเครื่องหมายการเริ่มต้นการส่งมอบ ฮ.ลำเลียงหนักยุคใหม่ที่แท้จริงโดย Sikorsky ที่ไร้สิ่งใดเปรียบและขยายขีดความสามารถรอบสนามรบยุคใหม่
เพื่อส่งมอบความยืดหยุ่นทางภารกิจอันมหาศาล และประสิทธิภาพในการขนส่งกำลังรบ, ความช่วยเหลือทางด้านมนุษย์ธรรมและบรรเทาภัยภัยพิบัติแก่เหล่าผู้คนที่ต้องการ" Dan Schultz ประธานบริษัท Sikorsky สหรัฐฯและอดีตนักบิน ฮ.CH-53 กล่าว

"ด้วยเครื่องเพิ่มเติมอีก 18เครื่องที่พร้อมในหลายขั้นของสายการผลิตแล้ว ตลอดจนทุกทีมของ Sikorsky ในความเป็นหุ้นส่วนกับผู้จัดหาของเรา เรากำลังมองไปข้างหน้าเพื่อการส่งมอบเครื่องเพิ่มเติมเพื่อความพึงพอใจแก่ลูกค้าของเรา" Schultz กล่าว
ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53K เครื่องแรกจะถูกนำเข้าประจำการ ณ สถานีอากาศนาวิกโยธิน(MCAS: Marine Corps Air Station) New River ใน Jacksonville มลรัฐ North Carolina สหรัฐฯ

ฮ.CH-53K จะเข้าสู่แผนทดสอบขีดความสามารถการสนับสนุน(Supportability Test Plan) โดยนาวิกโยธินสหรัฐฯจะดำเนินการประมินการส่งกำลังบำรุงทั้งในด้านการซ่อมบำรุง, การดำรงความพร้อม และการสนับสนุนทั้งหมดของ ฮ.King Stallion
การประเมินนี้จะเป็นการยืนยันการรับรองขั้นตอนการซ่อมบำรุงที่ถูกต้องโดยช่างเครื่องของนาวิกโยธินสหรัฐฯที่ดำเนินการปรนนิบัติ/บำรุงรักษาเครื่อง

แผนทดสอบขีดความสามารถการสนับสนุนจะทำให้มั่นใจในความพร้อมและการสนับสนุนของเส้นทางการบิน เมื่อ ฮ.CH-53K เข้าสู่การประจำการในนาวิกโยธินสหรัฐฯ
Sikorsky คาดว่าการส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53K ชุดที่สองแก่นาวิกโยธินสหรัฐฯจะมีขึ้นในช่วงต้นปี 2019

โครงการทดสอบ ฮ.CH-53K ที่เสร็จสินแล้วได้ผ่านขั้นตอนสำคัญทั้ง การลำเลียงสัมภาระด้วยตะขอสายเกี่ยวจุดเดียวใต้เครื่องด้วยน้ำหนักบรรทุกสูงสุด 36,000lbs(16,329kg), การบินไปข้างหน้าด้วยความเร็ว 200knots, การบินเลี้ยวเอียงข้างทำมุม 60องศา,
การบินที่ระดับความสูง 18,500feet เหนือระดับน้ำทะเล(MSL: Mean Sea Level), การลงจอดและบินขึ้นจากพื้นที่ลาดเอียง 12องศา, การปลดสิ่งบรรทุกนอกลำตัวเครื่องอัตโนมัติ(auto-jettison) และการทดสอบยิงอาวุธปืนจากเครื่อง

"ผมภาคภูมิใจอย่างมากที่ประสบความสำเร็จในงานเพื่อส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ที่ทรงพลังที่สุดที่เคยออกแบบมาให้กับนาวิกโยธินเรา และมั่นใจในทีมงานและการอุทิศตนในโครงการนี้ ซึ่งจะนำพาเราสู่ความพร้อมขีดความสามารถขั้นต้น(IOC: Initial Operational Capability)ในปีหน้า"
พลโท Steven Rudder รองผู้บัญชาการฝ่ายการบิน(Deputy Commandant for Aviation) กองบัญชาการนาวิกโยธินสหรัฐฯ(CMC: Commandant of the Marine Corps)กล่าว(ยศนาวิกโยธินสหรัฐฯเป็นแบบเดียวกับกองทัพบกสหรัฐฯ)

Sikorsky กำลังเตรียมสายการผลิตโรงงานอากาศยานของตนใน Stratford มลรัฐ Connecticut สหรัฐฯ เพื่อเป็นฐานในการผลิต ฮ.CH-53K ที่จะเริ่มขึ้นในฤดูร้อนปี 2018 นี้
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนักใหม่นี้ได้เปิดตัวที่ต่างประเทศครั้งแรกในการแสดงการบินนานาชาติ ILA Berlin Air Show 2018 ที่เยอรมนีระหว่างวันที่ 25-29 เมษายนที่ผ่านมา

ตามโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Schweren Transporthubschrauber(STH) ของกองทัพอากาศเยอรมนี(Luftwaffe) เพื่อทดแทน ฮ.ลำเลียงหนัก CH-53G ที่มีอายุการใช้งานมานาน
Sikorsky CH-53K จะทำการแข่งขันกับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Boeing CH-47F Chinook ที่เข้าประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯ(U.S. Army) แล้ว(http://aagth1.blogspot.com/2017/04/sikorsky-ch-53k-boeing-ch-47f.html)

CH-53K King Stallion เป็นเฮลิคอปเตอร์ที่สร้างใหม่โดยใช้การออกแบบอัจฉริยะยุคใหม่ ให้มีความน่าเชื่อถือสูง, ต้องการการบำรุงรักษาต่ำ, มีความพร้อมปฏิบัติการสูง และเพิ่มการความอยู่รอดในการปฏิบัติการ จากฐานปฏิบัติการส่วนหน้าส่วนใหญ่ที่ยากลำบากและห่างไกล
สายการผลิตระดับต่ำ(LRIP: Low-rate initial production) 26เครื่องใน 4lot จะดำเนินไปจนถึงไตรมาสที่4ของปี 2023 และสายการผลิตเต็มอัตรา(Full-rate production) 126เครื่องจะเริ่มรับสัญญาจ้างใน Lotที่5 ไตรมาสที่4 ปี 2019 จนถึง Lotที่12 ในสิ้นปี 2031 ครับ