http://www.janes.com/article/80552/south-korea-signals-aesa-progression
สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลี ได้ส่งสัญญาณถึงความคืบหน้า
ในโครงการพัฒนาระบบ radar AESA(Active Electronically Scanned Array) ของตนในความร่วมมือกับภาคอุตสาหกรรมภายในของเกาหลีใต้
DAPA กล่าวในการแถลงเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่าโครงการพัฒนา AESA radar มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ KF-X(Korean Fighter Experimental)
ที่ได้เสร็จสิ้นขั้นตอนการออกแบบขั้นต้นระยะเวลา 2ปี และขณะนี้ได้สู่ขั้นตอนการออกแบบที่สำคัญก่อนเข้าสู่ขั้นการทบทวนการออกแบบในเดือนพฤษภาคม 2019(http://aagth1.blogspot.com/2017/10/kai-kf-x-if-x.html)
ภายหลังขั้นตอนการทบทวนการออกแบบ DAPA หวังที่จะทำการผลิต Radar ต้นแบบนำร่องในปี 2020 ซึ่งจะมาติดตั้งกับเครื่องต้นแบบชุดแรกของเครื่องบินขับไล่ KF-X ในปี 2022
หลังจากการทดสอบเป็นเวลาหลายปี DAPA ตั้งเป้าที่จะเริ่มต้นสายการผลิตทั้งเครื่องบินขับไล่ KF-X และ AESA radar ภายในช่วงกลางปี 2020s
ภายใต้สัญญาวงเงิน 360 billion Korean Republic Won($334 million) ที่ลงนามเมื่อกลางปี 2016 โครงการพัฒนา AESA radar ได้ถูกนำโดยบริษัท Hanwha Systems สาธารณรัฐเกาหลี
ซึ่งมีความร่วมมือกับสำนักงานเพื่อการพัฒนากลาโหม(ADD: Agency for Defense Development) ที่เป็นหน่วยงานย่อยในเครือ DAPA
บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลีในฐานะผู้นำโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X ยังได้มีส่วนร่วมในโครงการ AESA radar ด้วย โดย KAI ได้วางแผนโครงร่างก่อนหน้าตั้งเป้าที่จะทำการผลิตเครื่องบินขับไล่สองเครื่องยนต์ไอพ่น KF-X 250เครื่อง
เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-4E Phantom II, F-5E Tiger II และท้ายที่สุด F-16 Fighting Falcon ของกองทัพอากาศสาธารณรัฐเกาหลี(ROKAF: Republic of Korea Air Force)
KAI ยังคาดว่าจะสามารถส่งออกเครื่องบินขับไล่ KF-X ได้ราวหลายร้อยเครื่องทั่วโลก ซึ่งมี PT Dirgantara(PTDI) รัฐวิสาหกิจอุตสากรรมอากาศยานอินโดนีเซียได้เข้าร่วมโครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ IF-X(Indonesia Fighter Experiment) กับเกาหลีใต้
อย่างไรก็ตามรัฐบาลอินโดนีเซียมีความต้องการที่จะทบทวนการลงทุนในโครงการเครื่องบินขับไล่ KF-X/IF-X ครับ(http://aagth1.blogspot.com/2018/05/kf-xif-x.html)
