วันเสาร์ที่ 6 กรกฎาคม พ.ศ. 2567

กองทัพอากาศไทยเดินหน้าชั่งน้ำหนักตัวเลือกเครื่องบินขับไล่ใหม่ระหว่าง F-16 Block 70/72 สหรัฐฯ หรือ Gripen E/F สวีเดน

Thailand continues to weigh fighter options







Will Thailand opt for more F-16s or the Gripen E/F? Source: Royal Thai Air Force, Airlinesweek,Thanawat Wongsaprom

การแสวงหาของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) สำหรับเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่ได้ปรากฎที่จะถูกเร่งความร้อนแรงขึ้น โดยสื่อได้รายงานการตั้งข้อสังเกตการดำเนินการในความต้องการเครื่องบินไล่ใหม่ขับจำนวนราว ๑๒เครื่อง 
รายงานล่าสุดจากไทยบ่งชี้ว่า บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯ และบริษัท Saab สวีเดน เดินหน้าที่จะส่งเสริมเครื่องบินขับไล่ของตนสำหรับความต้องการที่มียาวนานเพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B กองบิน๑ โคราช ที่มีอายุการใช้งานมานาน

ตามข้อมูลจากหนังสือพิมพ์ Bangkok Post รายงานอ้างอิงถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง ว่า เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย Robert Godec ได้เสนอรัฐบาลไทยในกรุงเทพมหานคร
ถึงโอกาสที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16 สหรัฐฯผ่านวิธีสินเชื่อเงินกู้ในรูปแบบความช่วยเหลือด้านการเงินแก่มิตรประเทศ Foreign Military Financing(FMF)(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f-16ab.html)

การจัดหาเครื่องบินขับไล่ผ่านเงินกู้จะทำให้สามารถจัดหาเครื่องบินได้ในจำนวนที่มากขึ้น แต่รัฐมนตรีกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง ได้ถูกอ้างคำพูดโดยกล่าวว่า อัตราดอกเบื้ย(ที่ร้อยละ๔.๕ ต่อปีนาน ๑๒ปี)นั้น "สูงเกินไป"
กองทัพอากาศไทยได้กำลังพิจารณาเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70/72 สหรัฐฯมาได้ระยะหนึ่งแล้ว แต่สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) รัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ได้ออกเอกสารการอนุมัติความเป็นไปได้ของข้อตกลงการขายรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) ในเรื่องนี้

Saab สวีเดนเองยังกำลังสร้างข้อเสนอที่น่าดึงดูดสำหรับความต้องการเครื่องบินขับไล่ใหม่ของกองทัพอากาศไทยโดยการเสนอเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F เข้าแข่งขัน(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/saab-gripen-e.html)
รายงานจากช่วงกลางเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๗(2024) บ่งชี้ว่า บริษัท Saab ได้เป็นเจ้าภาพในการเชิญสื่อมวลชนของไทยและเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมไทยและกองทัพไทยมาเยี่ยมชมสำนักงานใหญ่ของตนในกรุง Stockholm สวีเดน

กองทัพอากาศไทยมีประสบการณ์เป็นผู้ใช้งานทั้งเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU, F-16A/B ADF และ F-16A/B EMLU และเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐/ก บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D
ข้อมูลจาก Cirium fleets data ระบุว่ากองทัพอากาศไทยมีเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU และF-16A/B ADF ในฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ และ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B EMLU ในฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี รวมทั้งหมด ๔๗เครื่อง โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ ๓๔.๓ปี

และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก Gripen C/D ในฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานีจำนวน ๑๑เครื่อง(แบ่งเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว Gripen C จำนวน ๗เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง Gripen D จำนวน ๔เครื่อง) โดยมีอายุการใช้งานเฉลี่ยที่ ๑๒.๕ปี
ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๗ สมุดปกขาวของกองทัพอากาศไทย พ.ศ.๒๕๖๗ RTAF White Paper 2024 ได้ร่างเค้าโครงสำหรับความต้องการอากาศยานใหม่ต่างๆ(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/rtaf-white-paper-2024.html) แต่มีข้อสังเกตว่าขาดความคืบหน้าตั้งแต่สมุดปกขาวของกองทัพอากาศ พ.ศ.๒๕๖๓ RTAF White Paper 2020

สมุดปกขาว RTAF White Paper 2024 ได้เรียกร้องการทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ ที่ส่วนหนึ่งถูกโอนย้ายไปรวมกับฝูงบิน๑๐๓ ตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๔(2021) แล้วอีกครั้ง 
ตรงข้ามกับสมุดปกขาว RTAF White Paper 2020 ที่เรียกร้องเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่จำนวน ๑๒เครื่องที่จะได้รับการจัดหาในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๗๑(Fiscal Year FY2023-2028)(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html)

สมุดปกขาว RTAF White Paper 2024 ได้เรียกร้องการเลื่อนกรอบระยะเวลาการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่จำนวน ๑๒-๑๔เครื่องทดแทน บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ เป็นการจัดซื้อจัดจ้างในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘-๒๕๗๗(Fiscal Year FY2025-2034)
กองทัพอากาศไทยหวังที่ได้รับการเห็นชอบจากรัฐบาลไทยในการอนุมัติงบประมาณสำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่ ระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่อง วงเงินราว ๑๙,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($533,414,310) ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ที่จะเริ่มต้นในวันที่ ๑ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ที่จะถึงนี้ครับ