วันอังคารที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กองทัพเรือสเปนรับมอบเฮลิคอปเตอร์ H135 เครื่องแรก

Spanish Navy receives first H135 helicopter



The first of seven H135 helicopters for the Armada was delivered on 27 October. (Airbus)




In Armada service the H135 will replace ageing Hughes MD 500 in the maritime support and training roles. (Spanish Navy)

กองทัพเรือสเปน(Spanish Navy, Armada) ได้รับมอบเฮลิคอปเตอร์ Airbus Helicopters H135 เครื่องแรกของตนเข้าประจำการแล้ว บริษัท Airbus Helicopters ยุโรปประกาศเมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2023
การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H135 เครื่องแรกจาก 7เครื่องที่ได้รับการสั่งจัดหาโดยกองทัพเรือสเปนจะทำให้กองทัพเรือสเปนสามารถที่จะเริ่มต้นการฝึกนักบินและช่างอากาศยานก่อนหน้าการวางกำลังของเฮลิคอปเตอร์ในทะเลในปี 2024

เฮลิคอปเตอร์ H135 ในประจำการกองทัพเรือสเปนจะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ Hughes MD 500 สหรัฐฯที่มีอายุการใช้งานมานานในภารกิจการสนับสนุนทางทะเลและการฝึก
สเปนได้สั่งจัดหาเฮลิคอปเตอร์ Airbus H135 จำนวน 36เครื่องสำหรับใช้งานในกองทัพและตำรวจ(National Police, Policía Nacional)/กองกำลังรักษาชายแดน(Civil Guard, Guardia Civil)ของตนในเดือนธันวาคม 2021

คำสั่งซื้อได้รวมถึงเฮลิคอปเตอร์ H135 จำนวน 18เครื่องสำหรับกองทัพอากาศสเปน(Spanish Air Force, EdAE: Ejército del Aire Español) และกองทัพเรือสเปน
เพื่อเสริมกับเฮลิคอปเตอร์ EC135 จำนวน 16เครื่อง(ระบบการตั้งชื่อรุ่นที่ใช้โดยช่วงที่เป็นบริษัท Eurocopter ก่อนกลายมาเป็นบริษัท Airbus Helicopters) ที่ประจำการในกองทัพบกสเปน(Spanish Army, Ejército de Tierra)

มูลค่าของสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ H135 จำนวน 18เครื่องสำหรับกองทัพอากาศสเปนและกองทัพเรือสเปนอยู่ที่วงเงิน 178 million Euros($194 million ในเวลานั้น) รวมถึงเครื่องฝึกจำลองการบิน simulator
การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H135 เครื่องแรกแก่กองทัพเรือสเปนมีขึ้นราว 6เดือนหลังจากกองทัพอากาศสเปนได้รับมอบเฮลิคอปเตอร์ H135 เครื่องแรกของตนในเดือนพฤษภาคม 2023

ตามข้อมูลจากการประกาศของกระทรวงกลาโหมสเปนในพิธีส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ H135 เครื่องแรกของกองทัพอากาศสเปน ณ โรงงานอากาศยานของ Airbus Helicopters Spain ใน Albacete เมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2023
เฮลิคอปเตอร์ H135 จะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky S-76C ที่ประจำการในกองบินที่78(78 Wing) โรงเรียนการบินเฮลิคอปเตอร์ทหาร(Military Helicopter School) ที่มีที่ตั้ง ณ ฐานทัพอากาศ Armilla ใน Granada

เช่นเดียวกับเฮลิคอปเตอร์ H135 ที่ประจำการในกองพันบินทหารบกที่6(6th Army Squadron) กองทัพบกสเปน ซึ่งทดแทนเฮลิคอปเตอร์ Hughes 500M ไปตั้งแต่เดือนตุลาคมแล้วเช่นกัน
โดยถูกใช้ในฐานะเฮลิคอปเตอร์ฝึกของกองทัพสเปนทั้งสามเหล่าทัพ เช่นเดียวที่ส่งออกให้แก่ต่างประเทศรวมถึงกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ในชื่อเฮลิคอปเตอร์แบบที่๑๓ ฮ.๑๓ H135 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/07/airbus-helicopters-h135.html)

วันจันทร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ญี่ปุ่นเปิดเผยความตั้งใจเพิ่มเติมเบื้องหลังโครงการปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้า Railgun

Japan reveals further intentions behind railgun programme



The test firing of the railgun was carried out on the JMSDF's research ship, JS Asuka. (Japan Maritime Self-Defense Force)





A 3D diagram of Japan's EM railgun. (Japan Ministry of Defense)



กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวความตั้งใจของตนเบื้องหลังโครงการปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้า Electromagnetic(EM) railgun ของญี่ปุ่น
ตามที่รายงานโดย Janes เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2023 ญี่ปุ่นได้ดำเนินการทดสอบการยิงบนเรือครั้งแรกของปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้า EM railgun(https://aagth1.blogspot.com/2018/08/railgun.html)

การทดสอบได้รับการดำเนินการโดยความร่วมมือกับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) 
สำนักงานจัดซื้อจัดจ้าง, วิทยาการ และการส่งกำลังบำรุง(ATLA: Acquisition, Technology & Logistics Agency) กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ประกาศผ่าน page สื่อสังคม online ทางการของตนเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม 2023

ในการตอบสนองต่อการตั้งคำถามจาก Janes โฆษกกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเปิดเผยว่า การยิงทดสอบปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้า railgun ได้รับการดำเนินการบนเรือวิจัยชั้น Asuka ลำเดียวของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เรือวิจัย ASE-6120 JS Asuka 
เรือวิจัย JS Asuka ซึ่งมีความยาวเรือ 151m ระวางขับน้ำเต็มที่ประมาณ 6,200tonnes ได้ถูกใช้ในฐานะระบบทดสอบการปรนะเมินค่าสำหรับอาวุธ ตามที่เรือเดินหน้าที่จะดำเนินการทดสอบการยิงเพิ่มเติม

เรือวิจัย JS Asuka ซึ่งมีรูปทรงเหมือนเรือพิฆาตที่ถูกนำเข้าประจำการโดยกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นในฐานะเรือสำรวจและวิจัยในเดือนมีนาคม 1995
นอกเหนือจากปืนราง railgun เรือวิจัย JS Asuka ยังติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launching System) 8ท่อยิง และ Sonar ต่างๆเพื่อประเมินค่าระบบสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare)

ภาพแผนผังสามมิติ 3D diagram ของปืนรางแม่เหล็กไฟฟ้า railgun ที่ถูกมอบให้โดยกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นบ่งชี้ว่า ลำกล้องรางที่เป็นสื่อนำกระแสไฟฟ้า(conductive) ของระบบมีความเข้ากันได้กับการติดตั้งบนแท่นยิงแบบหมุนส่ายได้(trainable)
ตัวแทนของกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นที่ตอบสนองต่อคำถามของ Janes ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายละเอียดทางเทคนิคเพิ่มเติมของปืนราง railgun รวมถึงความเร็วปากลำกล้อง(muzzle velocity) และน้ำหนักกระสุน อ้างถึงความกังวลในการรักษาความลับ

อย่างไรก็ตามโฆษกกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเสริมว่าระบบปืนราง railgun กำลังได้รับการประเมินค่าเพื่อจะทำความเข้าใจว่ามันจะมีการนำประยุกต์ใช้ในทางปฏิบัติสำหรับความต้องการในอนาคตหรือไม่ 
และนั่นยังไม่ได้มีการตัดสินใจมีขึ้นเกี่ยวกับระบบอาวุธแบบนี้ว่าจะถูกสั่งจัดหาหรือไม่อย่างใด โดยมีความเป็นไปได้ว่าปืนราง railgun จะถูกนำมาติดตั้งกับเรือพิฆาตในอนาคตของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นครับ

วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566

นอร์เวย์และสเปนลงนามจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล MH-60R Seahawk สหรัฐฯ

Norway signs for MH-60R helicopters



Norway is to receive six MH-60R helicopters from 2025 to 2027. (US Navy)

Spain cements MH-60R purchase



Spain is set to become the latest international operator of the MH-60R Seahawk, with a contract for eight helicopters announced on 12 October. (US Navy)

นอร์เวย์ได้ลงนามสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) และค้นหาและกู้ภัย(SAR: Search-and-Rescue) แบบ Lockheed Martin MH-60R Seahawk กับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2023
สัญญารูปแบบการขาย Foreign Military Sales(FMS) วงเงิน $364.3 million ครอบคลุมเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำและค้นหาและกู้ภัย MH-60R Seahawk จำนวน 6เครื่องที่จะส่งมอบแก่รัฐบาลนอร์เวย์ตั้งแต่ 2025-2027

การแจ้งเกี่ยวกับสัญญามีขึ้นให้หลังหลายเดือนหลังจากกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯอนุมัติการขายเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล MH-60R Seahawk แก่นอร์เวย์ในเดือนเมษายน 2023 
รวมถึงอุปกรณ์ภารกิจ, ชุดเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง, การฝึกและการสนับสนุน การจัดซื้อจ้างมีมูลค่าทั้งหมดเป็นวงเงินประมาณ $1 billion(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/mh-60r-seahawk.html)

นอร์เวย์ประกาศในเดือนมีนาคม 2023 ว่าตนได้เลือกเฮลิคอปเตอร์ MH-60R เพื่อจะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำและค้นหาและกู้ภัยประจำเรือฟริเกต NHIndustries(NHI) NH90 NFH(NATO Frigate Helicopter) ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/nh90-mh-60r.html)
การตัดสินใจที่จะเลิกใช้งานเฮลิคอปเตอร์ NH90 NFH ได้มีขึ้นในปี 2022 โดยรัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ Bjørn Arild Gram กล่าวว่า ฮ. "ไม่เคยที่จะ(สามารถตรง)ความต้องการของกองทัพนอร์เวย์(Norwegian Armed Forces, Forsvaret) ได้"(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/nh90.html)

เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล MH-60R จำนวน 6เครื่องจะทดแทนเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล NH90 NFH จำนวน 14เครื่อง ขณะที่นอร์เวย์กำลังจัดหา ฮ.MH-60R จำนวนน้อยกว่า ฮ.NH90 ที่พวกตนจะทดแทน รัฐมนตรีกลาโหมนอร์เวย์ Gram กล่าวว่า
ความแตกต่างในจำนวนเครื่องจะถูกสร้างขึ้นโดยการใช้ขีดความสามารถอื่นๆที่จะบรรลุผลลัพธ์ต่างๆเช่นเดียวกัน อย่างเช่นระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) ที่ตั้งฐานบินในอนาคตของเฮลิคอปเตอร์ MH-60R Seahawk จะเป็นที่ Bardufoss ทางเหนือสุดของนอร์เวย์

สเปนได้ยืนยันการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Lockheed Martin MH-60R Seahawk เป็นเวลา 17เดือนหลังจากข้อเสนอการจัดซื้อได้รับการอนุมัติโดยรัฐบาลสหรัฐฯ บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิตประกาศเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2023 ว่า
ตนได้รับสัญญาจากกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) เพื่อส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล MH-60R Seahawk จำนวน 8เครื่องแก่กองทัพเรือสเปน(Spanish Navy, Armada) ตามที่รัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการขายเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2022

ตามเอกสารแจ้งสัญญาของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ข้อตกลงรูปแบบการขาย FMS วงเงิน $379.6 million จะดำเนินไปจนถึงเดือนมีนาคม 2027(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/mh-60r.html)  
ในช่วงเวลาการอนุมัติ รัฐบาลสหรัฐฯให้มูลค่าวงเงินการจัดซื้อจัดจ้างทั้งหมด(รวมถึงอุปกรณที่เกี่ยวข้อง, อาวุธต่างๆ และการบริการ)ที่วงเงิน $950 million

"เฮลิคอปเตอร์พหุภารกิจ MH-60R จะมอบขีดความสามารถที่จะดำเนินภารกิจสงครามต่อต้านเรือผิวน้ำและสงครามปราบเรือดำน้ำ ควบคู่ไปกับความสามารถที่ดำเนินภารกิจรอง รวมถึงการส่งกำลังบำรุงทางดิ่ง, การค้นหาและกู้ภัย และการทวนสัญญาณสื่อสาร 
และจะส่งเสริมขีดความสามารถของกองทัพเรือสเปนที่จะสนับสนุน NATO และดำรงการทำงานร่วมกันกับสหรัฐฯและพันธมิตร NATO" สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) กล่าวในเดือนมีนาคม 2022

กองทัพเรือสเปนมีประจำการด้วยเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky SH-60B Seahawk(S-70B-1) ในฐานะอากาศยานปีกหมุนหลักในสงครามปราบเรือดำน้ำและต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASuW: Anti-Surface Warfare) ของตน 
โดยได้ปลดประจำเฮลิคอปเตอร์ Sikorsky SH-3D เครื่องสุดท้ายจาก 18เครื่องของตนในปี 2022 เฮลิคอปเตอร์ SH-60B เหล่านี้จะถูกเปลี่ยนทดแทนโดยเฮลิคอปเตอร์ MH-60R โดยคาดว่าจะมีการจัดหาทั้ง ฮ.MH-60R หรือ ฮ.NH90 เพิ่มเติมตามมา

กองทัพเรือสเปนยังมีเฮลิคอปเตอร์ SH-60F, เฮลิคอปเตอร์ Bell AB212, เฮลิคอปเตอร์ MD 500 ในประจำการ โดยเฮลิคอปเตอร์ NH90 จะเข้าประจำการระหว่างปี 2023-2025 เพื่อทดแทนเฮลิคอปเตอร์ SH-60F ที่เป็นเครื่องคั่นระยะ
สเปนและนอร์เวย์ได้เข้าร่วมกลุ่มผู้ใช้งานเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล MH-60R Seahawk ร่วมกับออสเตรเลีย, เดนมาร์ก, กรีซ, อินเดีย, ซาอุดีอาระเบีย, สาธารณรัฐเกาหลี และสหรัฐฯ โดยมีจำนวนมากกว่า 330เครื่องที่อยู่ในประจำการประเทศเหล่านี้แล้วครับ

วันเสาร์ที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กรมบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E อังกฤษพร้อมปฏิบัติการในแนวหน้า

British Army declares first AH-64E regiment ‘ready for frontline'




An AH-64E flown by 3 Regiment during the recent Exercise ‘Iron Titan'. (Crown Copyright)



US approves JAGM sale to UK


A British Army AH-64E Apache Guardian attack helicopter showcasing its weapons package. Part of this package will comprise the JAGM missile, whose approval was granted on 23 October. (Janes/Gareth Jennings)

กองทัพบกสหราชอาณาจักร(British Army) ได้ประกาศกรมบินแรกที่จะเปลี่ยนผ่านเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache Guardian ล่าสุดของตนจะ "พร้อมสำหรับการปฏิบัติการในแนวหน้า" กองทัพบกสหราชอาณาจักรประกาศเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2023
กรมบินที่3(3 Regiment) กองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักร(AAC: Army Air Corps) ได้ผ่านการทดสอบการรับรองของตนระหว่างการฝึก Iron Titan 2023 การฝึกภาคพื้นดินที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 20ปีของกองทัพบกสหราชราชอาณาจักรในเดือนกันยายน 2023

การฝึกได้เห็น กรมบินที่3 กองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักร ได้รับการรับรองในภารกิจหลักในการมอบกลุ่มรบโจมตีทางลึกทางอากาศแก่กองพลที่3(3rd Division)(กองพลทำการรบในสงครามของกองทัพบกสหราชราชอาณาจักร)
กลุ่มรบทางอากาศจัดตั้งขึ้นประกอบด้วยเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E และเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวน Leonardo Wildcat AH1 ของกรมบินที่1(1 Regiment) กองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักร(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/apache.html)

"กรมแรกทำการบิน...AH-64E...ได้รับการประกาศความพร้อมสำหรับหน้าที่ในแนวหน้า เพื่อบรรลุการรับรอง ทุกการทำงานเดี่ยวที่เราส่งมอบในฐานกรมได้รับการทดสอบในสถานการณ์ที่สมจริงที่สะท้อนความท้าทายของการปฏิบัติการสมัยใหม่
เราได้แสดงให้เห็นว่าเราสามารถดำรงสภาพและอยู่รอดในสนามรบได้อย่างไร ขณะที่กำลังโจมตีเป้าหมายต่างที่ไกลออกไปจากหลังแนวข้าศึกเพื่อมอบความได้เปรียบอย่างเด็ดขาดแก่กำลังรบภาคพื้นดิน"กองทัพบกสหราชราชอาณาจักรกล่าว

ข่าวเหตุการณ์สำคัญนี้มีขึ้นให้หลัง 15เดือนหลังจากกองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักรกล่าวว่า เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E เครื่องแรกได้มาถึงฐานบิน Middle Wallop ของศูนย์การบินทหารบก(Army Aviation Centre)
ที่จะแบ่งเบาภาระในการฝึกควบคู่ไปกับฐานบินปฏิบัติการหลักของเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E ที่สนามบิน Wattisham ใน Suffolk ทางตะวันออกของ England(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/ah-64e-apache.html)

กองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักรกำลังอยู่ในขั้นตอนการรับมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E จำนวน 50เครื่องที่ได้รับการสร้างใหม่จากเฮลิคอปเตอร์โจมตี WAH-64D Apache Longbow AH1 โดยบริษัท Boeing สหรัฐฯในสหรัฐ การส่งมอบมีกำหนดที่จะเสร็จสิ้นในปี 2024
ในวันเดียวกัน รัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติการขายอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Lockheed Martin AGM-179A JAGM(Joint Air-to-Ground Missile) แก่สหราชอาณาจักร(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/apkws-ii-apache.html)

สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ประกาศการอนุมัติของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2023
กล่าวว่าอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-179A JAGM จำนวน 3,000นัดและสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องต่างๆได้รับการจัดหาเป็นวงเงินประมาณ $957.4 million(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/agm-179-jagm.html)

การอนุมัติสำหรับการจัดหามีขึ้นให้หลังราวสองปีหกเดือนหลังจากที่ Janes รายงานครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2021 ว่าสหราชอาณาจักรได้วางคำสั่งจัดหาสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น JAGM นัดเดียว
เพื่อจะใช้สำหรับการฝึกควบคู่ไปกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Lockheed Martin AGM-114 Hellfire และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น MBDA Brimstone ในแท่นยิงที่ใช้งานร่วมกัน

ในเวลานั้น Janes ชี้ว่า อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น JAGM ถูกกำหนดสำหรับใช้กับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache Guardian ที่เพิ่งเข้าประจำการในกองทัพบกสหราชอาณาจักรในเวลานั้น นี่ได้รับการยืนยันโดยรัฐบาลสหราชอารณาจักรในเดือนมิถุนายน 2021 
เมื่อรัฐมนตรีกระทรวงการจัดซื้อจัดจ้างทางกลาโหม Jeremy Quin กล่าวว่า อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น JAGM ได้ถูกเลือกร่วมกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Hellfire เพื่อใช้กับหน่วยบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E จำนวน 50เครื่องของกองการบินกองทัพบกสหราชราชอาณาจักร

ตามข้อมูลจาก Janes Weapons: Air-Launched(JALW) โครงการ JAGM เป็นโครงการจัดหาทางกลาโหมหลัก(MDAP: Major Defense Acquisition Program)เตรียมการก่อนที่นำโดยกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army)
โดยการร่วมส่วนร่วมโครงการร่วมจากกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) และนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) เช่นเดียวกับความพยายามความร่วมมือการพัฒนากับสหราชอาณาจักร

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น JAGM ถูกนำมาทดแทนรุ่นยิงจากอากาศยานของอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังนำวิถีด้วยเส้นลวด TOW(tube-launched, optically tracked, wire-guided) และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-65 Maverick
และมุ่งเป้าที่การสนับสนุนการส่งกำลังบำรุงที่มีประสิทธิภาพมากกว่าโดยการแทนที่อาวุธปล่อยนำวิถีหลายๆแบบด้วยอาวุธที่ใช้งานร่วมกันได้แบบเดียวครับ

วันศุกร์ที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2566

กองทัพบกมาเลเซียจะจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK ตุรกี

Malaysian Army to receive Turkey's KaraOK anti-tank guided weapons







The KaraOk anti-tank guided weapon (pictured above) is fitted with a tandem high-explosive anti-tank warhead designed to defeat explosive reactive armour. (Rocketsan Missiles Inc)



กระทรวงกลาโหมมาเลเซียได้เลือกอาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง(ATGM: Anti-Tank Guided Weapon) แบบ KaraOK ของบริษัท Roketsan ตุรกี สำหรับความต้องการระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง(ATGM: Anti-Tank Guided Missile) พิสัยกลางจำนวน 18ระบบ
ของกองทัพบกมาเลเซีย(Malaysian Army, Tentera Darat Malaysia) Rahayu Bahaudin ผู้จัดการทั่วไปของบริษัท Ketech Asia มาเลเซียกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2023

สัญญาได้รับการลงนามแล้ว และ Ketech Asia มาเลเซีย ซึ่งกำลังทำหน้าที่ในฐานะผู้บูรณาการระบบในข้อตกลง จะจัดส่งระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK จากตุรกีให้กับกองทัพบกมาเลเซีย ตามข้อมูลจาก Bahaudin
Janes ประเมินว่าระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK ใหม่จากตุรกี จะทดแทนอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Metis-M รัสเซียที่ประจำการในกองทัพบกมาเลเซียมาแล้ว 20กว่าปี

มาเลเซียได้จัดซื้อระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง Metis-M จำนวน 24แท่นยิง และอาวุธปล่อยนำวิถีจำนวน 100นัดจากรัสเซียในปี 2001 ในเดือนมีนาคม 2023 กระทรวงกลาโหมมาเลเซียได้ร้องขอการแข่งขันเพื่อจัดหาระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังพิสัยกลางจำนวน 18ระบบ 
โดยต้องมีอาวุธปล่อยนำวิถีอย่างน้อย 1นัดในท่อยิง ผู้เข้าแข่งขันยังต้องรวมการส่งมอบระบบฝึกจำลอง simulator ในอาคาร 1ระบบ, ระบบฝึกจำลอง simulator กลางแจ้ง 3ระบบ, อาวุธปล่อยนำวิถีที่ผ่าให้ดูภายในเพื่อการฝึกศึกษา 3นัด และอุปกรณ์ทดสอบ

ในเอกสารการแข่งขัน กระทรวงกลาโหมมาเลเซียกล่าวความต้องการที่จะนำมาประจำการในหมวดต่อสู้รถถังของกองพันทหารราบด้วยระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังใหม่ที่สามารถโจมตีและทำลายยานเกราะข้าศึกที่ระยะยิงระหว่าง 2,000-4,000m
ตามข้อมูลจาก Janes Weapons: Infantry KaraOK เป็นระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังแบบเคลื่อนย้ายด้วยบุคคล, จับเป้าก่อนยิง(lock-on-before-launch) ยิงและลืม(fire-and-forget)

อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK สามารถทำเส้นทางการบินโคจรเข้าโจมตีเป้าหมายได้ทั้งการโจมตีด้านบนเป้าหมาย(top attack) หรือโจมตีเป้าหมายโดยตรง(direct attack)
อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK ประกอบด้วยสองส่วนประกอบหลัก หน่วยควบคุมการยิง CLU(Command Launch Unit) และตัวจรวดอาวุธปล่อยนำวิถีแบบครบนัด

ระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KaraOK สามารถนำส่วนหน่วยควบคุมการยิง CLU มาใช้งานซ้ำได้ เช่นเดียวกับระบบอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง FGM-148 Javelin สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/fgm-148-javelin.html)
CLU มีคุณสมบัติประกอบด้วยช่องมองภาพ, ด้ามจับควบคุมแนวตั้งหนึ่งคู่, ระบบตรวจจับกลางวันและกลางคืน และแหล่งพลังงาน Battery หลักสำหรับระบบ มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 125mm ยาว 1.1m และน้ำหนักพร้อมยิงที่ 16kg  และมีระยะยิง 2,500m ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2566

FMV สวีเดนรับมอบเครื่องบินขับไล่ Gripen E มาตรฐานสายการผลิตเครื่องแรกสำหรับทดสอบ

Swedish FMV receives first series standard Gripen E for testing







The first production series Saab JAS 39 Gripen E, aircraft 6002, was handed over to the FMV for testing on 6 October ahead of the commencement of deliveries to the Swedish Air Force from 2025. (Saab )

สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน(Defence Material Administration, FMV: Forsvarets materielverk) ได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ JAS-39E Gripen E มาตรฐานสายการผลิตจำนวนมากเครื่องแรกจากบริษัท Saab สวีเดนสำหรับการทดสอบการปฏิบัติการ
FMV สวีเดนประกาศการพัฒนาเมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2023 กล่าวว่าการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียว Gripen E ได้ถูกส่งมอบไม่กี่วันก่อนหน้าวันที่ 6 ตุลาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2021/12/jas-39-gripen-e.html)

เครื่องบินขับไล่ JAS-39E Gripen E หมายเลข 6002 เข้าร่วมกับเครื่องต้นแบบ Gripen E สองเครื่องที่ได้ส่งมอบให้ FMV สวีเดน สำหรับการทดสอบก่อนหน้าการเริ่มดำเนินการส่งมอบให้กองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet)
"จนถึงตอนนี้ Gripen E สามเครื่องได้ถูกส่งมอบให้รัฐแล้ว พวกมันถูกใช้ในกิจกรรมทดสอบ ตั้งแต่ปี 2025 เป็นต้นไป แผนสำหรับ FMV คือการส่งมอบ Gripen E แก่กองทัพอากาศสวีเดน" Lars Heimrich หัวหน้ากองยุทโธปกรณ์ทางอากาศของ FMV กล่าว

การส่งมอบเครื่องบินขับไล่ JAS-39 Gripen E หมายเลข 6002 แก่สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน FMV มีขึ้นให้หลังสี่ปีหลังจากทำการบินขึ้นครั้งแรกในเดือนธันวาคม 2019

เครื่องบินขับไล่ Gripen E หมายเลข 6002 ในลวดลายพรางโทนสีเทาสามสีแบบเหลี่ยมหลายชิ้น ทำให้นึกถึงลายพรางสีเขียวและน้ำตาลจากสมัยสงครามเย็นของกองทัพอากาศสวีเดน
แม้ว่าในเวลานี้ลายพรางสามสีโทนเทานี้เป็นลวดลายสำหรับใช้ในการทำตลาดที่ถูกใช้โดยบริษัท Saab มากกว่าที่จะเป็นลายพรานสำหรับการวางกำลังปฏิบัติการจริงของกองทัพอากาศสวีเดน

สวีเดนมีกำหนดที่จะได้รับมอบเครื่องบินขับไล่ Gripen E จำนวน 60เครื่อง ขณะที่บราซิลที่เป็นลูกค้าส่งออกรายเดียวในตอนนี้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดียว F-39E Gripen E จำนวน 28เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-39F Gripen F จำนวน 8เครื่อง

ทั้งสองประเทศได้เปิดตัวเลือกสำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F เพิ่มเติมโดยสายการผลิตที่โรงงานอากาศยานของ Saab ใน Linköping สวีเดนสามารถเร่งการผลิตได้ที่ 24 เครื่องต่อปี 
ร่วมกับโรงงานประกอบย่อย ณ São Bernardo do Campo ในบราซิลครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/saab-gripen.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/07/saab-gripen-ef.html)

วันพุธที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2566

ไทยระงับแผนจัดซื้อเรือดำน้ำ S26T จีนมองเปลี่ยนเป็นเรือฟริเกตจีนใหม่

Thailand Shelves Attack Submarine Purchase Plans 

A scale model of the proposed S26T attack submarine developed for Thailand (Handout), Defense minister Sutin Klungsang says the deal is suspended, not cancelled. 


F261 Tughril and F262 PNS Taimur, the Type 054 A/P Frigates of Pakistan Navy

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง ได้ประกาศการระงับโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK) แบบ S26T จีน โดยรัฐบาลไทยยอมรับข้อเสนอของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy)
ที่จะเปลี่ยนเป็นการจัดซื้อเรือฟริเกตด้วยงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรสำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ S26T ระยะที่๑ วงเงิน ๑๓,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($390 million) ที่ปัจจุบันจ่ายไปเพียง ๗,๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($195 million)

เมื่อวันที่ ๒๓ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) รัฐมนตรีกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง กล่าวว่าเขาพร้อมที่จะอธิบายเหตุผลสำหรับการเปลี่ยนแผนแก่คณะกรรมาธิการการทหารและความมั่นคงของรัฐของรัฐสภาไทย
อธิบายว่าความสัมพันธ์ด้านความร่วมมือทางยุทธศาสตร์และการค้าระหว่างจีนและไทยเป็นปัจจัยที่มีส่วนในการตัดสินใจที่จะปรับเปลี่ยนแผนมากกว่าที่จะยกเลิกข้อตกลง เขาอธิบายต่อการให้สัมภาษณ์สื่อตามมาในวันที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ว่า

การเพิ่มวงเงินงบประมาณที่จะจัดซื้อเรือฟริเกตอยู่ที่ราว ๑๔,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($387.4 million) โดยราคาเรือฟริเกตที่วงเงินราว ๑๗,๐๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($466.27 million) ที่กล่าวก่อนหน้าเป็นราคาที่กองทัพเรือไทยตั้งไว้สำหรับเรือฟริเกตจากประเทศอื่นเช่นยุโรป
การเพิ่มวงเงินที่ต้องจ่ายในการเปลี่ยนจากโครงการจัดซื้อเรือดำน้ำ S26T ระยะที่๑ จากเดิมอีกราว ๖,๔๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($177,079,296) เป็นเรือฟริเกตเป็นอีกราว ๖,๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($190,884,567) แทนเป็น "ทางออกที่ดีที่สุด"

ระหว่างการประกาศของเขาเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ว่าการจัดซื้อเรือดำน้ำ S26T จีนได้ถูกระงับลงแล้ว รัฐมนตรีกลาโหมไทย สุทิน คลังแสง เน้นย้ำว่าโครงการเรือดำน้ำยังไม่ได้ถูกยกเลิก 
การกล่าวระหว่างการเยือนกองบัญชาการกองทัพเรือไทยนั้นเขากล่าวว่าโครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยจะกลับมาดำเนินการได้ใหม่ "เมื่อประเทศมีความพร้อม"

โครงการจัดหาเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยได้หยุดชะงักลงเนื่องจากเยอรมนีปฏิเสธที่จะส่งออกเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า MTU 396 ที่ตั้งไว้เป็นระบบขับเคลื่อนของเรือดำน้ำ S26T
รัฐบาลเยอรมนีใน Berlin อ้างถึงการคว่ำบาตรการส่งออกอาวุธของสหภาพยุโรป(EU: European Union) ต่อจีนที่มีขึ้นตั้งแต่เหตุการณ์จลาจลจตุรัส Tiananmen ปี 1989(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/s26t-mtu.html)

ขณะที่ผู้บัญชาการทหารเรือไทยท่านก่อน พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ได้อนุมัติแผนที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า CHD620 จีนเป็นทางเลือกแทนเครื่องยนต์ MTU 396 เยอรมนี หลังจากได้รับการรับรองสมรรนะเพิ่มเติมจากจีน
แต่ในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๖ รัฐบาลไทยชุดใหม่ไม่ได้เห็นชอบข้อเสนอที่ดำเนินการกับเครื่องยนต์ CHD620 จีนสำหรับเรือดำน้ำ S26T(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/chd620v16h6.html)

รัฐบาลไทยชุดปัจจุบันร้องขอให้กองทัพเรือไทยเสนอทางเลือกอื่นแทนการจัดซื้อเรือดำน้ำ กองทัพเรือไทยได้เสนอการจัดซื้อเรือฟริเกตหรือเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง(OPV: Offshore Patrol Vessel) เป็นทางเลือกแทนเรือดำน้ำ โดยรัฐบาลไทยเลือกเรือฟริเกต
กองทัพเรือไทยได้ประกาศความตั้งใจของตนที่จะจัดหาเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า ๓ลำในปี พ.ศ.๒๕๕๘(2015) โดยเลือกเรือดำน้ำ S26T ที่มีพื้นฐานจากเรือดำน้ำชั้น Type 039B(NATO กำหนดรหัสชั้น Yuan) ของกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy)

เรือดำน้ำ S26T ระวางขับน้ำ 2,550ton ความยาวเรือ 77.7m มีคุณสมบัติติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) เพิ่มเติมต่อเเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า MTU 396
ทำให้เรือดำน้ำ S26T สามารถปฏิบัติการในทะเลได้นานถึง ๖๕วันโดยการผสมผสานการใช้เครื่องยนต์ดีเซล-ไฟฟ้าตามแบบกับระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ AIP

สัญญาแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(G-to-G: government-to-government) วงเงิน ๑๓,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($390 million) สำหรับเรือดำน้ำ S26T ลำแรกได้รับการลงนามในเดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐(2017)
โดยการตัดเหล็กแผ่นแรกมีขึ้นเมื่อวันที่ ๔ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๑(2018) และมีพิธีวางกระดูกงูเรือเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒(2019)(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/s26t.html) โดยสัญญาดังกล่าวจะหมดอายุในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖ นี้

เรือดำน้ำ S26T ลำแรกเดิมควรจะสร้างเสร็จในเดือนกันยายน พ.ศ.๒๕๖๖ แต่วันที่เรือดำน้ำลำแรกสำหรับกองทัพเรือไทยจะสร้างเสร็จถูกเลื่อนออกไปเป็นเดือนเมษายน พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
โดยบริษัท China Shipbuilding and Offshore International Company(CSOC) สาธารณรัฐประชาชนจีนผู้สร้างเรือกล่าวโทษว่าความล่าช้าเป็นผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19

กองทัพเรือไทยได้ร้องของบประมาณตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020) สำหรับโครงการจัดหาเรือดำน้ำ S26T ระยะที่๒ และระยะที่๓ สำหรับเรือดำน้ำอีก ๒ลำ แต่ไม่ได้รับการอนุมัติจนถึงปัจจุบันนี้(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/covid-19.html)
โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในรัฐสภาของไทยที่ทำหน้าที่ออกกฎหมายได้ตั้งคำถามถึงความจำเป็นของโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือไทยตามที่ต้องฟื้นฟูเศรษฐกิจของไทยที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19

รุ่นส่งออกของเรือดำน้ำชั้น Type 039B Yuan จีนกำลังได้รับการสร้างสำหรับกองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ในชื่อเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน ๘ลำ ซึ่ง ๔ลำหลังกำลังสร้างในปากีสถาน(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/hangor-pns-tasnim.html)
กองทัพเรือปากีสถานยังได้จัดหารุ่นส่งออกเรือฟริเกตชั้น Type 054A ที่ประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน ในชื่อเรือฟริเกตชั้น Tughril จำนวน ๔ลำด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/type-054ap.html)