วันอังคารที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2565

ปากีสถานทำพิธีวางกระดูกงูเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่ห้า PNS Tasnim ที่สร้างในประเทศลำแรก

Pakistan holds keel-laying and cutting-steel ceremonies for the Hangor-class submarines 







The indigenous submarine development project in Pakistan has reached another milestone. The keel laying of the first HANGOR-class submarine (5th overall) and the steel cutting of the second submarine (6th overall) were carried out at Karachi Shipyard & Engineering Works (KS&EW) on December 24, 2022. 





โครงการพัฒนาเรือดำน้ำภายในประเทศของปากีสถานได้มาถึงอีกเหตุการณ์สำคัญ พิธีวางกระดูกงูเรือของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่5 ที่เป็นลำแรกที่สร้างในประเทศ และพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่6 เป็นลำที่สองที่สร้างในประเทศ
ได้รับการดำนินการ ณ อู่เรือ Karachi Shipyard & Engineering Works(KS&EW) เมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/blog-post_14.html, https://aagth1.blogspot.com/2016/10/type-091-han-8.html)

ข้อตกลงกลาโหมระหว่างปากีสถานและจีนรวมถึงการพัฒนาเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำ ที่รวมเรือดำน้ำ 4ลำภายใต้การสร้างที่อู่เรือ Wuchang Shipbuilding Industry Group(WSIG) ในจีน
และอีก 4ลำที่ได้รับการสร้างที่อู่เรือ KS&EW ปากีสถานภายใต้ข้อตกลงการถ่ายทอดวิทยาการ(ToT: Transfer of Technology)(https://aagth1.blogspot.com/2016/08/8-2028.html)

งานการสร้างเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่5 เป็นลำแรกในปากีสถาน เรือดำน้ำ PNS Tasnim ได้มีพิธีตัดเหล็กแผ่นแรก ณ อู่เรือ KS&EW ในเดือนธันวาคม 2021 และตอนนี้พิธีวางกระดูกงูเรือได้รับการทำแล้ว 
ซึ่งเป็นเหตุการณ์สำคัญหลักในประวัติศาสตร์ของเรือลำใดๆที่ถูกสร้างขึ้น ควบคู่กับงานการสร้างของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่6 เป็นลำที่สองในปากีสถาน ได้เริ่มต้นโดยพิธีตัดเหล็กแผ่นแรกในอู่เรือเดียวกัน

เรือดำน้ำชั้น Hangor มีขีดความสามารถที่จะดำเนินภารกิจที่หลากหลายตามที่มีการกำหนดแต่ละคำสั่งปฏิบัติการ เรือมีคุณสมบัติตรวจจับได้ยากขั้นก้าวหน้าและติดตั้งระบบอาวุธและระบบตรวจจับต่างๆที่ทันสมัย
ที่จะปฏิบัติการภายใต้สภาพแวดล้อมภัยคุกคามที่หลากหลาย และสามารถโจมตีได้หลายเป้าหมายที่นอกระยะโจมตีของฝ่ายตรงข้าม(https://aagth1.blogspot.com/2017/01/babur-3.html)

ในโอกาสนี้ หัวหน้าแขกผู้มีเกียรติได้กล่าวว่าเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้เป็นสักขีพยานต่อการวางกระดูกงูเรือและตัดเหล็กของเรือดำน้ำทั้งสองลำพร้อมๆกัน เขาเสริมว่ากองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ได้ตระหนักถึงพัฒนาการสถานะการณ์ภูมิยุทธศาสตร์ในภูมิภาคเอเชียใต้ 
และจะเดินหน้าที่จะพัฒนาศักยภาพทางเรือ, ปรับปรุงสิ่งอำนวยความสะดวกการสร้างเรือและติดตั้งระบบด้วยอาวุธ/ระบบตรวจจับขั้นก้าวหน้า ที่จะต่อต้านภัยคุกคามตามแบบเช่นเดียวกับภัยคุกคามอสมมาตรต่างๆ

นายพลเรือผู้นำกองทัพเรือปากีสถานได้แสดงความมั่นใจว่า เรือดำน้ำชั้น Hangor เหล่านี้จะมีบทบาทภารกิจการนำในการมอบความพึ่งพอใจแก่ความจำเป็นด้านการปฏิบัติการของกองทัพเรือปากีสถาน
ก่อนหน้านี้ตัวแทนจาก China Shipbuilding Offshore Company(CSOC) รัฐวิสาหกิจการสร้างเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีน ได้กล่าวแสดงความขอบคุณสำหรับพิธีวางกระดูงูเรือและตัดเหล็กแผ่นแรก

ตัวแทน CSOC จีนเสริมว่าบริษัทของเขาจะสร้างความมั่นใจในการมอบทรัพยากร/การสนับสนุนทั้งหมดอย่างไร้รอยต่อเพื่อการสร้างที่ราบลื่นของเรือดำน้ำในปากีสถาน เขากล่าวเพิ่มเติมว่ามิตรภาพปากีสถาน-จีนได้หยั่งรากลึกและแบ่งปันเป้าหมายร่วมกัน
พิธียังได้เชิญตัวแทนอื่นๆของ CSOC จีน และนายทหารระดับสูงรวมถึงแขกผู้มีเกียรติจากสถานทูตจีนประจำปากีสถาน, กระทรวงการผลิตทางกลาโหมปากีสถาน, กองทัพเรือปากีสถาน และอู่เรือ KS&EW ปากีสถาน

เรือดำน้ำชั้น Hangor ปากีสถานเป็นรุ่นส่งออกของเรือดำน้ำชั้น Type 039A/B(NATO กำหนดรหัสชั้น Yuan) ที่ประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People’s Liberation Army Navy) 
ปากีสถานยอมรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ 8ลำจากจีนในเดือนเมษายน 2015 ตามข้อตกลงเรือดำน้ำ 4ลำหลังจะถูกสร้างในอู่เรือ KS&EW ปากีสถาน ในเวลาเดียวกับที่เรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกสร้างในจีน

เรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำมีกำหนดที่จะส่งมอบในระหว่างปี 2022-2028 หัวหน้าผู้อำนวยการของโครงการเปิดเผยในเดือนสิงหาคม 2016 ว่า
เรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกส่งมอบในช่วงปี 2022-2023 โดยเรือ 4ลำสุดท้ายจะส่งมอบตามมาในปี 2028 กองทัพเรือปากีสถานไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับระบบย่อยหรือระบบอาวุธเฉพาะของเรือดำน้ำชั้น Hangor 

ระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) ถูกใช้ในแบบเรือดำน้ำ S26T ของ CSOC จีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายรายสันนิษฐานว่าเรือดำน้ำชั้น Hangor มีพื้นฐานมา แต่ทางการปากีสถานไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของเรือดำน้ำชั้น Hangor
ตามข้อมูลจาก blog ด้านความมั่นคงของปากีสถาน Quwa เรือดำน้ำชั้น Hangor มีความยาวเรือ 76m และมีระวางขับน้ำที่ 2800tons ทำให้เรือมีขนาดสั้นกว่าเล็กน้อย และมีระวางขับน้ำหนักกว่าแบบเรือดำน้ำ S26T เดิม

ปัจจุบันกองทัพเรือปากีสถานมีประจำการด้วยเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Khalid(Agosta 90B) ทีมีระบบ AIP จำนวน 3ลำ และเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Hashmat(Agosta 70) จำนวน 2ลำ
เรือดำน้ำแบบ Agosta 90B 3ลำได้รับการปรับปรุงครึ่งอายุภายใต้สัญญาที่ลงนามในปี 2016 กับบริษัท STM ตุรกีในฐานะผู้รับสัญญาหลัก(https://aagth1.blogspot.com/2016/06/agosta-90b.html

STM ตุรกีได้ส่งมอบเรือดำน้ำชั้น Khalid ที่ได้รับการปรับปรุงแล้วลำแรก เรือดำน้ำ S139 PNS Hamza ในปี 2020 ขอบเขตของการปรับปรุงความทันสมัยของเรือดำน้ำคือ
การเปลี่ยนระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire Control System), ชุด Sonar, ระบบสงคราม electronic(EWS: Electronic Warfare System), Radar และระบบกล้องตามเรือ(นำร่อง และโจมตี)

เรือดำน้ำชั้น Hangor ทั้ง 8ลำจะสร้างความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญแก่กองทัพเรือปากีสถาน ปากีสถานน่าจะที่จะเพิ่มขีดความสามารถต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธการใช้พื้นที่(A2/AD: Anti-Access/Area Denial) ในภูมิภาคหลังโครงการเสร็จสมบูรณ์
ตามที่ยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการว่าเรือมีระบบอาวุธอะไรบ้าง เป็นที่ชัดเจนว่าปากีสถานจะได้รับขีดความสามารถการโจมตีทางลึกถ้าเรือดำน้ำชั้น Hangor ได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนยิงจากเรือดำน้ำ Babur-3 (SLCM: Submarine-Launched Cruise Missile) ครับ