วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2568

โคลอมเบียเลือกเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F สวีเดนเพื่อทดแทน Kfir อิสราเอล

Colombia selects Saab Gripen to replace IAI Kfirs



Colombia has signed a LoI with Sweden to purchase the Saab JAS 39E/F Gripen. (Saab) 




Colombia's Kfir C10s are all but obsolete. Replacing them with new aircraft has taken a decade in fits and starts. (USAF)

โคลอมเบียได้ลงนามจดหมายแสดงความจำนง(LOI: Letter of Intent) กับสวีเดนเพื่อจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39E/F Gripen ตาม post บนสื่อสังคม online โดยประธานาธิบดีโคลอมเบีย Gustavo Petro เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2025
เครื่องบินขับไล่ Gripen E/F สวีเดนมีจุดประสงค์ที่จะทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่ Israeli Aircraft Industries(IAI) Kfir อิสราเอลของกองทัพอากาศโคลอมเบีย(Colombian Air Force, FAC: Fuerza Aérea Colombiana) ที่จะกลายเป็นเครื่องบินขับไล่ทิ้งระเบิดหลักของประเทศ 

โคลอมเบียกำลังมองที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F จำนวน 16-24 เครื่องโดยสัญญาน่าจะมีมูลค่าที่วงเงินราวอย่างน้อย 2 billion Euros($2.2 billion) แหล่งข่าวที่มีความรู้ในการเลือกแบบกล่าวกับ Janes
การเจรจาระหว่างรัฐบาลโคลอมเบียและบริษัท Saab สวีเดนซึ่งจะกำหนดราคาของฝูงเครื่องบินและอาวุธจะบรรลุผล "ในหลายเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง" Micael Johansson ผู้อำนวยการบริหารของ Saab กล่าวกับสื่อเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025

เจ้าหน้าที่กองทัพอากาศโคลอมเบียกล่าวว่าเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F จะทดแทน "ขีดความสามารถต่างๆบางส่วนที่เรายังไม่ได้สูญเสียแต่กำลังถดถอยลง"(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/saab-gripen.html)
กองทัพอากาศโคลอมเบียมีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่ Kfir C10 จำนวน 16เครื่อง ตามฐานข้อมูลจาก Janes World Air Forces((https://aagth1.blogspot.com/2019/06/iai-kfir-ng.html)

กองทัพอากาศโคลอมเบียได้เริ่มต้นที่จะมองหาการทดแทนสำหรับเครื่องบินขับไล่ Kfir ที่ใกล้จะหมดอายุการใช้งานมาเป็นเวลาเกินกว่าทศวรรษมาแล้ว และในกระบวนการคัดเลือกได้มีการประเมินค่าเครื่องบินขับไล่หลายแบบรวมถึง
เครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ฝรั่งเศส(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/rafale-80.html), เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ยุโรป(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/eurofighter-typhoon-tranche-1.html),

เครื่องบินขับไล่ MiG-35 รัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/kh-59mkm.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/05/mig-35.html), และเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 สหรัฐฯ

"การศึกษานี้ได้รับการศึกษามาเป็นเวลาหลายทศวรรษ...เราขอขอบคุณประเทศต่างๆที่ได้แสดงความสนใจในการนำเสนอข้อเสนอต่างๆที่แตกต่างกัน" รัฐมนตรีกลาโหมโคลอมเบีย Pedro Sánchez กล่าวต่อสื่อเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2025
กองทัพอากาศโคลอมเบียน่าจะประจำการเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F เป็นเวลาอย่างน้อย 35ปี Sánchez กล่าวต่อ ซึ่งมีส่วนต่อการตัดสินใจที่จะจัดซื้อเครื่องขับไล่สร้างใหม่เทียบกับเครื่องบินขับไล่ที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว

โดยมีบราซิลเป็นผู้ใช้งานส่งออกปัจจุบัน(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/gripen-ef-9.html) โคลอมเบียมีกำหนดที่จะเป็นผู้ใช้งานส่งออกรายล่าสุดสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen E/F ในการทดแทนเครื่องบินขับไล่ Kfir ที่เครื่องแรกเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1989-1990
ขณะที่กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้เลือกที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐ข/ค บ.ข.๒๐ข/ค Gripen E/F จำนวน ๑๒เครื่องครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/gripen-ef.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/02/tai-saab-gripen-ef.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/01/gripen-ef.html)

วันเสาร์ที่ 5 เมษายน พ.ศ. 2568

อินเดียสั่งจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH เพิ่ม 156เครื่อง และเช่าเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-135 จากบริษัทสหรัฐฯ

India orders new Light Combat Helicopters, leases KC-135



The Indian Air Force began inducting its initial batch of 10 HAL Light Combat Helicopters from October 2022. (Janes/Akhil Kadidal)




India MoD has also awarded a US company with a contract to lease a Boeing KC-135 aerial tanker for training. (Metrea)

กระทรวงกลาโหมอินเดียได้สั่งจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา Light Combat Helicopter(LCH) จำนวน 156 เครื่องจาก Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานของอินเดีย
และยังประกาศสัญญากับบริษัทของสหรัฐฯที่จะเช่าเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Boeing KC-135 Stratotanker สำหรับการฝึก(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/lch.html)

ตามแถลงการณ์ของกระทรวงกลาโหมอินเดีย การจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH จำนวน 156เครื่องถูกแบ่งออกเป็นสองสัญญาที่แยกจากกันที่ประกาศแก่ HAL อินเดียเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025
หนึ่งสัญญาครอบคลุมเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH จำนวน 66เครื่องสำหรับกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) และสัญญาที่สองกำลังการส่งมอบ ฮ.โจมตีเบา LCH จำนวน 90เครื่องแก่กองทัพบกอินเดีย(Indian Army)

ทั้งสองสัญญามีมูลค่ารวมทั้งหมดที่วงเงิน 627 billion Indian Rupee($7.3 billion) ไม่รวมภาษี กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าวในแถลงการณ์ที่มีขึ้นในวันเดียวกัน(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/lch-prachanda.html)
การประกาศสัญญามีขึ้นเกือบ 9เดือนหลังจากกระทรวงกลาโหมอินเดียหล่าวว่าตนได้ร้องขอเอกสารขอข้อเสนอ(RFP: Request for Proposals) เพื่อจะจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH จำนวน 156เครื่อง

ณ เวลานั้น HAL อินเดียประมาณการณ์ว่าการเจรจาต่างๆจะมีผลในสัญญาด้วยความเป็นไปได้ที่มูลค่าสูงถึงที่วงเงิน 6 billion Indian Rupee ตามข้อมูลจากกระทรวงกลาโหมอินเดีย
การจัดส่งของเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH จำนวน 156เครื่องจะมีการดำเนินการขึ้นตั้งแต่ปี 2028 และจะขยายต่อเนื่องไปตลอด "ในอีกห้าปีข้างหน้า"(หรือถึงปี 2033)

HAL Prachand LCH เป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีที่พัฒนาในอินเดียที่ออกแบบให้สามารถปฏิบัติการที่พื้นที่ที่มีความสูงเกิน 5,000m ได้ "สัญญาจะขยายขีดความสามารถการรบของกองทัพ ณ เพดานบินสูง" กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าว
เฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH ได้ประจำการในจำนวนจำกัดกับกองทัพอากาศอินเดียและกองทัพบกอินเดียแล้ว ในปี 2016 สภาการจัดหากลาโหม(DAC: Defence Acquisition Council) ของอินเดียได้อนุมัติการจัดหา ฮ.โจมตีเบา LCH จำนวน 15เครื่อง

แบ่งเป็นเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH จำนวน 10เครื่องสำหรับกองทัพอากาศอินเดียและสำหรับกองการบินกองทัพบกอินเดีย(Army Aviation Corps) จำนวน 5เครื่อง
นับตั้งแต่ที่ได้เติมเต็มคำสั่งสั่งซื้อก่อนหน้านี้ Janes เข้าใจว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา LCH ทั้ง 15เครื่องในคำสั่งจัดซื้อจัดจ้างนี้ปัจจุบันได้ถูกส่งมอบเข้าประจำการในกองทัพอากาศอินเดียและกองทัพบกอินเดียแล้ว

นอกเหนือจากนี้กระทรวงกลาโหมอินเดียได้ประกาศสัญญาที่จะเช่าเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-135 กับบริษัท Metrea Management สหรัฐฯ(เดิมบริษัท Meta Aerospace สหรัฐฯ) 
ซึ่งเดิมเป็นเครื่องที่ปลดประจำการจากกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ในปี 2019 (https://aagth1.blogspot.com/2019/11/kc-135r.html) หลังได้รับมอบเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT(Multi Role Tanker Transport)

ตามข้อมูลจาก Janes World Air Forces ปัจจุบันกองทัพอากาศอินเดียมีประจำการด้วยเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Ilyushin IL-78MKI รัสเซียจำนวน 6เครื่องที่ได้รับมอบในปี 2003-2004 อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าเครื่องบินเหล่านี้มีความพร้อมปฏิบัติการที่ต่ำกว่าที่ควร 
เพื่อหยุดช่องว่างขีดความสามารถการฝึกของตน อินเดียยังมองที่จะเช่าเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Airbus A330 MRTT จากกองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace) ด้วยครับ

วันศุกร์ที่ 4 เมษายน พ.ศ. 2568

เครื่องบินขับไล่ F-16D Block 70 สหรัฐฯเครื่องแรกมาถึงบัลแกเรียแล้ว

First Bulgarian F-16 arrives in country





The first of 16 Lockheed Martin F-16 Block 70 Fighting Falcon combat aircraft for Bulgaria was delivered to Graf Ignatievo Air Base near Plovdiv on 2 April 2025. (Bulgarian MoD)



เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 70 Fighting Falcon เครื่องแรกจาก 16เครื่องสำหรับบัลแกเรียประเทศทางยุโรปตะวันออกกลุ่มชาติ NATO ได้ถูกส่งมอบถึงประเทศตนแล้ว กระทรวงกลาโหมบัลแกเรียประกาศ
เครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 70 จำนวน 1เครื่องที่ใช้เป็นเครื่องบินฝึกปฏิบัติการหมายเลขแพนหาง 301 ทำการบินจากโรงงานอากาศยาน Greenville ในมลรัฐ South Carolina สหรัฐฯเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025

และเดินทางมาถึงฐานทัพอากาศขับไล่ที่3(3 Fighter Air Base) ของกองทัพอากาศบัลแกเรีย(BuAF: Bulgarian Air Force) ณ Graf Ignatievo ใกล้ Plovdiv บัลแกเรียเมื่อวันที่ 2 เมษายน 2025
สำหรับการบินเดินทางข้ามมหาสมุทร Atlantic ซึ่งได้รวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 ชุดใหม่ที่ได้ถูกส่งมอบให้สโลวาเกียด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/f-16c-block-70-2.html)

เครื่องบินขับไล่ F-16D Block 70 ในเครื่องหมายกองทัพสหรัฐฯมาถึงในฐานทัพอากาศ Graf Ignatievo โดยได้ถูกนำเสนอให้แก่นายกรัฐมนตรีบัลแกเรีย Rossen Jeliazkov, รัฐมนตรีกลาโหมบัลแกเรีย Atanas Zapryanov, 
ผู้บัญชาการกองทัพบัลแกเรีย พลเรือเอก Emil Eftimov และอุปทูต(charge d'affaires) ประจำสถานทูตสหรัฐฯ ณ นครหลวง Sofia บัลแกเรีย Susan Falatko ที่ปรากฏตนเข้าร่วมเหตุการณ์

"สำหรับกองทัพอากาศบัลแกเรีย นี่มีความหมายถึงยุคใหม่ในการพัฒนาของพวกเรา มีอนาคตอยู่ที่นั่นสำหรับการบินรบของเราจากกองทัพอากาศ เพราะว่าพวกเขาได้มีเครื่องบินรบแบบใหม่แล้วซึ่งจะปฏิบัติการไปในอีก 30-40ปีข้างหน้า
และนี่ผมเชื่อมั่นว่าจะเป็นแรงกระตุ้นกำลังพลที่จะดำเนินการในประจำการด้วยความปรารถนาอันแรงกล้ายิ่งขึ้นและด้วยโอกาสที่ยิ่งใหญ่ยิ่งขึ้น" รัฐมนตรีกลาโหมบัลแกเรีย Zapryanov กล่าว

เหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นหลายสัปดาห์ให้หลังจากที่บัลแกเรียได้รับมอบอย่างเป็นทางการของเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 70 เครื่องนี้ และเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F-16C Block 70 ของตน
ที่โรงงานอากาศยาน Greenville ของบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิตเครื่องบินเมื่อวันที่ 31 มกราคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/f-16-block-70-16.html)

และห้าเดือนให้หลังจากที่เครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F-16C Block 70 ทำการบินครั้งแรกของตน ณ โรงงานอากาศยาน Greenville ที่เดียวกันเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/f-16-block-70-16.html)
เครื่องบินขับไล่ F-16C เครื่องนี้ขณะนี้ได้ถูกใช้เป็นเครื่องบินฝึกสำหรับนักบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดินที่สหรัฐฯ และราว 16เดือนหลังจากการสร้างเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70 เครื่องแรกเริ่มต้นขึ้นในเดือนมกราคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/f-16-block-70-16.html

บัลแกเรียได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 จำนวน 8เครื่องภายใต้สัญญาระยะที่หนึ่ง โดยสัญญาระยะที่สองตามมาอีก 8เครื่องการส่งมอบจะดำเนินการตั้งแต่ปี 2027(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/lockheed-martin-f-16-block-70-8.html)
เครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 ทั้ง 16เครื่องเหล่านี้จะถูกนำเข้าประการในกองทัพอากาศบัลแกเรียแบบเต็มอัตราทั้งฝูงบิน เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ MiG-29 (NATO กำหนดรหัส 'Fulcrum') จำนวน 14เครื่องครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/f-16-block-70-mig-29.html)

วันพฤหัสบดีที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2568

อังกฤษปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1

UK retires Tranche 1 Eurofighters





The RAF has now retired all but four of its remaining Tranche 1 Eurofighter Typhoon combat aircraft, leaving 107 Tranche 2 and Tranche 3 airframes in service. (Janes/Patrick Allen, Crown Copyright)

สหราชอาณาจักรได้ปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 รุ่นแรกของตนที่ยังคงประจำการในกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) เป็นส่วนใหญ่
โดยยังคงประจำการเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 จำนวนน้อยเพื่อมอบการป้องกันทางอากาศสำหรับดินแดนของสหราชอาณาจักรใน South Atlantic หมู่เกาะ Falklands(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/eurofighter-typhoon.html)

การปลดประจำการที่ถูกประกาศมายาวนาน ซึ่งเริ่มต้นในหลายระยะตั้งแต่ปี 2015 ได้เสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025 โดยกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรยืนยันกับ Janes ว่า
การปลดประจำการอย่างเป็นทางการของเครื่องบินขับไล่ Typhoon Tranche 1 ส่วนใหญ่ของเครื่องสุดท้ายจากเดิมจำนวน 53เครื่องของกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/eurofighter-typhoon-tranche-1.html)

ด้วยเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 จำนวน 49เครื่องในรายการยุทโธปกรณ์ทางการ ณ เวลาที่ปลดประจำการ กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรกล่าวว่า(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/typhoon-tranche-1.html
เครื่องบินขับไล่ Typhoon Tranche 1 จำนวน 4เครื่องจะยังคงอยู่ในภารกิจการปฏิบัติการบินขึ้นสกัดกั้นฉับพลัน(QRA: Quick Reaction Alert) หน่วยบิน 1435 Flight ในหมู่เกาะ Falklands จนถึงปี 2027,

เครื่องรุ่น Tranche 1 จำนวน 10เครื่องจะถูกใช้เป็นอะไหล่สำหรับเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 2 จำนวน 67เครื่อง และเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 3 จำนวน 40เครื่อง รวม 107เครื่องที่ยังคงประจำการอยู่
เครื่องบินขับไล่ Typhoon Tranche 1 จำนวน 17เครื่องจะถูกจำหน่ายเพื่อทำลาย(disposed), จำนวน 12เครื่องจะถูกเก็บไว้เพื่อจำหน่าย, จำนวน 4เครื่องจะถูกใช้เพื่อช่วยสำหรับการฝึกภาคพื้นดิน และจำนวน 2เครื่องกำลังถูกพิจารณาสำหรับขาย

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 เข้าประจำการครั้งแรกในปี 2003 และปราศจากระบบ avionic และระบบภารกิจที่ก้าวหน้ากว่าของเครื่องรุ่น Tranche หลังที่ควรจะยังคงประจำการได้เพียงราว 20ปีเท่านั้น 
อย่างไรก็ตามโดยที่กองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเผชิญกับ 'ช่องว่างเครื่องบินขับไล่' ระหว่างการปลดประจำการฝูงบินเครื่องบินขับไล่โจมตี Panavia Tornado GR4(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/tornado.html)

และการสร้างฝูงบินเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/f-35b.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/11/f-35b-hms-prince-of-wales.html)
ได้มีการตัดสินใจในการทบทวนยุทธศาสตร์กลาโหมและความมั่นคง(SDSR: Strategic Defence and Security Review) ปี 2015 ว่าฝูงเครื่องบินขับไล่ Typhoon Tranche 1 ควรจะถูกขยายการประจำการไปจนถึงปี 2040 เพื่อเสริมปริมาณกำลังรบที่จำเป็นยิ่ง

แต่ในปี 2021 สหราชอาณาจักรได้ตัดสินใจใหม่ที่จะปลดประจำการเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon Tranche 1 ลงก่อนกำหนดในปี 2025 แม้ว่าในปี 2023 บริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักรได้ให้ข้อมูลยืนยันว่าเครื่องเหล่านี้ยังสามารถที่จะปรับปรุงเพื่อใช้งานต่อไปได้
โดยที่อายุการใช้งานโครงสร้างอากาศยานของยังคงเหลืออยู่อีกเฉลี่ยเกือบร้อยละ60 ที่ 2,544.8ชั่วโมงเมื่อปลดประจำการในปี 2025 คิดเป็นเพียงร้อย42.4 จากอายุการใช้งานที่ 6,000ชั่วโมง โดยตัวเลขนี้เป็นการเฉลี่ยตลอดทั้งฝูงบิน จำนวนชั่วโมงบินของเครื่องบินที่ถูกส่งมอบล่าสุดกว่าจะมีชั่วโมงบินที่น้อยกว่าตัวเลขค่าเฉลี่ยนี้อย่างมากครับ

Lockheed Martin สหรัฐฯเปิดตัวเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70 ไต้หวันที่สร้างใหม่เครื่องแรกจาก 66เครื่อง

Lockheed Martin unveils first F-16V fighter for Taiwan



Taiwan's representative to the US Alexander Yui speaks during the launch ceremony of the first of 66 Lockheed Martin F-16V Block 70 fighter aircraft on order by Taiwan, at Greenville, South Carolina, on 28 March 2025. (US Representative (R-SC) William Timmons)


The Taiwanese F-16V Block 20 shares the same outer mould-line of the standard Fighting Falcon, but features several advanced systems, including an active electronically scanned array radar. (Taiwan's Ministry of National Defence)

บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯได้เปิดตัวเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70 Fighting Falcon เครื่องแรกจาก 66เครื่องที่ได้รับคำสั่งจัดหาสร้างใหม่แก่เจ้าหน้าที่ไต้หวันในสหรัฐฯ
ระหว่างพิธีที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2025 ณ โรงงานอากาศยานของบริษัท Lockheed Martin ที่ Greenville มลรัฐ South Carolina สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/f-16-block-70-16.html)

เครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70 เครื่องแรกรุ่นสองที่นั่งถูกส่งมอบให้แก่เจ้าหน้าที่ของไต้หวัน ชุดภาพที่เผยแพร่ทางสื่อสังคม online โดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ William Timmons จากเขตที่4 มลรัฐ South Carolina
แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70 รุ่นสองที่นั่งมีหมายเลขเครื่อง 6831 และทำเครื่องหมายตราสัญลักษณ์(emblem) กองทัพอากาศไต้หวัน(RoCAF: Republic of China Air Force)

โฆษกของ Lockheed Martin สหรัฐฯกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2025 ว่าบริษัท "ยืนยันความมุ่งมั่นของตนอีกครั้งที่จะสนับสนุนวัตถุประสงค์ความร่วมมือด้านความมั่นคงของสหรัฐฯสำหรับไต้หวัน
ระหว่างการมาเยือนโรงงานสายการผลิตเครื่องบินขับไล่ F-16 ใน Greenville ของตนโดยตัวแทนของไต้หวันและสหรัฐฯ...สร้างความคืบหน้าในโครงการเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70"

ชุดภาพของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ Timmons ยังแสดงว่า รองรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน Po Horng-hui และตัวแทนของไต้หวันประจำสหรัฐฯ Alexander Yui ได้ปรากฎตัว ณ พิธีเปิดตัวด้วย
เครื่องบินขับไล่ F-16V ชุดแรกเหล่านี้ได้มีความพร้อมสำหรับการส่งมอบแก่ไต้หวันได้รับการเปิดเผยในขั้นแรกโดยรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน Wellington Koo Li-hsiung(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/f-16v.html)

เมื่อวันที่ 16 มกราคม 2025 รัฐมนตรีกลาโหมไต้หวัน Wellington กล่าวว่า เครื่องบินขับไล่ F-16V เครื่องแรกกำลังได้รับการทดสอบ ตามหลังการเสร็จสิ้นของการประกอบสร้าง(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/f-16v.html)
เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025 เขาเสริมว่าหนึ่งในรองรัฐมนตรีกลาโหมไต้หวันมีกำหนดการที่จะเดินทางเยือนสหรัฐฯเพื่อร่วม "พิธีเปิดตัว" ของเครื่องบินขับไล่ F-16V ที่สั่งจัดหา ตามข้อมูลจาก Focus Taiwan องค์กรสื่อของรัฐบาลไต้หวัน

ไต้หวันได้สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 70/72 จำนวน 66เครื่องที่สร้างใหม่ คำสั่งจัดหาได้รับการดำเนินการโดยการอนุมัติของรัฐบาลสหรัฐฯเป็นข้อตกลงวงเงิน $8 billion ในเดือนสิงหาคม 2019(https://aagth1.blogspot.com/2019/08/f-16v.html)
กองทัพอากาศไต้หวันมีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่ F-16A/B Block 20 จำนวน 141เครื่องที่กำลังได้รับการปรับปรุงเป็นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-16V Block 20 ภายใต้โครงการ Peace Phoenix Rising วงเงิน $3.7 billion ที่เริ่มต้นในปี 2016 โดยได้รับมอบเครื่องในฝูงบินแรกในเดือนพฤศจิกายน 2021 ครับ

วันพุธที่ 2 เมษายน พ.ศ. 2568

อังกฤษปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์ Puma หลังประจำการมา 54ปี

UK retires Puma helicopter after 54 years of service







A pair of UK-based Pumas at the type's farewell flypast out of RAF Benson. With the helicopter also operated out of Brunei and Cyprus-based RAF Akrotiri, its retirement comes after 54 years of operational service. (Crown Copyright)







สหราชอาณาจักรได้ปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลาง Airbus Helicopters Puma HC2 ที่ยังมีอยู่ของตนหลังประจำการในกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) มาเป็นเวลา 54ปี
การบินผ่านอำลาได้ถูกจัดขึ้นสำหรับเฮลิคอปเตอร์ Puma HC2 ณ ฐานปฏิบัติการสุดท้ายสามแห่งของเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ในบรูไน, ไซปรัส และสหราชอาณาจักร ก่อนการปลดประจำการจากกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2025

กองทัพอากาศสหราชอาณาจักรมีเฮลิคอปเตอร์ Puma จำนวน 23เครื่อง(เฮลิคอปเตอร์ Westland Puma HC1 จำนวน 24เครื่องที่เข้าประจำการตั้งแต่ปี 1971 ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยเป็นมาตรฐานนี้ แต่มี 1เครื่องที่ได้สูญเสียไปในปฏิบัติการที่อัฟกานิสถาน)
เฮลิคอปเตอร์ Puma จำนวนหนึ่งที่มีที่ตั้งฐาน ณ ฐานทัพอากาศ RAF Benson ในสหราชอาณาจักรได้ถูกเก็บรักษาไว้ในคลังหลายเดือนก่อนหน้าการปลดประจำการแล้ว โดย ฮ.เครื่องอื่นๆตอนนี้มีกำหนดที่จะถูกนำไปเก็บในคลังตามไป

กระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรไม่ได้กล่าวว่าตนมีความตั้งใจที่จะขายเฮลิคอปเตอร์ Puma หรือจะแยกชิ้นส่วนเฮลิคอปเตอร์เหล่านี้หรือไม่ ทั้งยังไม่ได้กล่าวว่าเครื่องที่วางกำลัง ณ British Forces Brunei บรูไน
และที่ฐานทัพอากาศ RAF Akrotiri ในไซปรัสจะถูกส่งคืนเพื่อไปเก็บรักษาในคลังในสหราชอาณาจักรหรือไม่ หรือเฮลิคอปเตอร์ Puma เหล่านี้จะยังคงอยู่ในที่ตั้งนั้นก่อนที่จะถูกขายหรือแยกชิ้นส่วนหรือไม่

ก่อนหน้านี้สหราชอาณาจักรได้บริจาคเฮลิคอปเตอร์ Westland Sea King แก่ยูเครน เช่นเดียวกับที่เยอรมนีได้บริจาคเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Sea King Mk 41 ของตน และนอร์เวย์ที่บริจาคชิ้นส่วนอะไหล่ของ ฮ.Sea King ที่ปลดประจำการไปแล้วของตน
และโดยที่ล่าสุดโปรตุเกสได้บริจาคเฮลิคอปเตอร์ Puma ส่วนเกินของตนแก่รัฐบาลยูเครนในนครหลวง Kyiv อาจจะเป็นไปได้ว่าเฮลิคอปเตอร์ Puma ของสหราชอาณาจักรอาจจะถูกส่งมอบให้ยูเครนด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/sea-king.html)

ความพยายามต่างๆเหล่านี้จะทำให้ยูเครนมีเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางที่สามารถนำมาใช้งานได้จริงในจำนวนที่เพียงพอในการสนับสนุนกำลังรบของตน ที่จะไม่มีผลกระทบหากว่าสูญเสียการสนับสนุนใดๆจากสหรัฐฯ
เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงขนาดกลางแบบอื่นๆที่ยูเครนมีใช้งานอยู่แล้วรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Mil Mi-8/Mi-17 ยังได้ถูกบริจาคให้ก่อนหน้าโดยชาติยุโรปเช่นโปแลนด์และสาธารณรัฐเช็ก(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/mi-24-mi-17.html)

ตามการทบทวนยุทธศาสตร์กลาโหม(SDR: Strategic Defence Review) ที่เผยแพร่ในเดือนมีนาคม 2025 สหราชอาณาจักรวางแผนที่จะปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์ทางทหารที่้มีอายุการใช้งานมานานที่สุดของตนเพื่อประหยัดงบประมาณกลาโหมวงเงิน 500 million British pound sterling($632.4 million) 
นอกจากเฮลิคอปเตอร์ Puma HC2 ที่ถูกปลดประจำการไปแล้ว เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก Boeing Chinook HC6A รุ่นเก่าจำนวน 14เครื่องที่ประจำการในกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรตั้งแต่ปี 1981 เป็นเวลา 35ปีจะถูกปลดประจำการลงตามมาด้วยครับ

เครื่องบินขับไล่ F-15SG RSAF 55th Anniversary กองทัพอากาศสิงคโปร์








Mini Review: Hobby Master 1/72 Air Power series Boeing F-15SG "RSAF 55th Anniversary" (HA4537)
The F-15SG (formerly F-15T) is a variant of the F-15E, ordered by the Republic of Singapore Air Force (RSAF). F-15SGs were chosen on 6 September 2005 over the Dassault Rafale. The F-15SG remains critical to continue having air superiority aircraft over neighboring countries that deploy state of the art Russian aircraft. 
The RSAF's F-15SG is an all-weather multi-role fighter designed to achieve air superiority over the battlefield. The F-15SG is the most advanced version of the Eagle with its great speed, maneuverability, electronics and weapons.
Between June and September 2023 the Republic of Singapore Air Force (RSAF) will celebrate its 55th anniversary. At the National Day Parade the RSAF will put on an enhanced aerial display showcasing their aircraft with markings honoring their humble beginnings in 1968 until present day. 
The logo for the anniversary is the number 55 with a shape of its first aircraft; a Hawker Hunter emerging from the bottom with an F-15SG in a vertical climb representing the RSAF journey through 55 years up to today and the future.

กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ได้เลือกจัดหาเครื่องบินขับไล่ Boeing F-15SG Strike Eagle จากสหรัฐเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2025 โดยมีการเปิดตัวเครื่องแรกจากสายการผลิตเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2008 เริ่มส่งมอบในปี 2009 และได้รับมอบรวม 40เครื่องในปี 2018 เข้าประจำการในฝูงบิน142(142 Squadron) และฝูงบิน149(149 Squadron) ฝูงละ 20เครื่องในฐานทัพอากาศ Paya Lebar
ติดตั้งด้วยเครื่องยนต์ไอพ่น General Electric F110-GE-129C สองเครื่องกำลังขับเครื่องละ 29,000lb กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้เฉลิมฉลองเนื่องในโอกาศครบรอบ 55ปีการก่อตั้งตั้งแต่ปี 1968 โดยการสวนสนามทางอากาศในวันชาติสิงคโปร์ 9 สิงหาคม 2023 งานวันกองทัพอากาศสิงคโปร์ 1 กันยายน 2023 จนถึงงานแสดงการบินนานาชาติ Singapore Airshow 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-25 กุมภาพันธ์ 2024 ที่สิงคโปร์
กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้เปิดตัวเครื่องบินขับไล่ F-15SG หนึ่งเครื่องของตนในลวดลายแพนหางพิเศษครบรอบ 55ปีการก่อตั้งกองทัพอากาศสิงคโปร์ ทั้งนี้กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้นำเครื่องบินขับไล่ F-15SG ของตนเข้าร่วมการฝึกและงานแสดงการบินในต่างประเทศอีกหลายงาน รวมถึงการฝึกผสม Cope Tiger 2025 และงานแสดงการบินนานาชาติ RTAF88 ของกองทัพอากาศไทยในไทยล่าสุด

Hobby Master F-15SG RSAF 55th Anniversary (HA4537) เป็นแบบจำลอง Diecast ล่าสุดที่ผู้เขียนซื้อจากร้าน 1999.co.jp ซึ่งผู้เขียนสั่งซื้อมาหลายครั้งแล้วถ้าไม่มีเข้ามาในไทย แต่ครั้งนี้เพิ่งจะมีปัญหาการสั่งซื้อจากราคาจริงรวมค่าขนส่งและภาษีที่ประมาณ ฿5,400บาท ผู้เขียนโดนตัดบัตรราคาสินค้าไปอีกราว ฿4,250! เพราะร้านคำนวณราคาใหม่และการยกเลิกธุรกรรมชั่วคราวเพื่อคืนเงินมีความล่าช้า ถ้าจะสั่งคราวหลังต้องระวัง  
ซึ่งแบบจำลอง Diecast มีก่อนหน้าคือ Hobby Master F-14D VF-31 Tomcatters (HA5202) เป็นตัวแรก(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/12-f-14-tomcat.html), Hobby Master F-35A 69-8701, JASDF, March 2020 (HA4423) เป็นตัวที่สอง(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/f-35a-302.html), Hobby Master AH-64E Apache Guardian 73117, 1st Air Cavalry, US Army, 2018 (HH1215) 
ตัวที่สาม(https://aagth1.blogspot.com/2023/07/ah-64e-apache-guardian-1.html), Hobby Master Eurofighter Typhoon "Bavarian Tigers" 30+29, JG 74, Neurburg Air Base, 2013 (HA6652) ตัวที่สี่(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/eurofighter-typhoon-bavarian-tigers-74.html) และHobby Master AV-8B Harrier II Plus 1-19, Marina Militare, North Arabian Sea, 2002 "Operation Eduring Freedom" (HA2627) ตัวที่ห้า(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/av-8b-harrier-ii-plus.html)

ตัวแบบจำลองทำจากโลหะแข็งแรงมาก บรรรจุภัณฑ์ที่จัดเก็บนำตัวแบบจำลองยกยากเล็กน้อยเพราะมีการติดเทปกาวใสแปะในหลายจุด คู่มือและชิ้นส่วน parts ต่างๆครบ แต่ไม่มีคู่มือแนะนำการประกอบมาให้ ซึ่งทาง website www.hobbymaster.com.hk มีคู่มือการประกอบให้เข้าไปดูได้ อย่างไรก็ข้อบกพร่องสำคัญยังคงมีอยู่หลายจุด ตั้งแต่ขาตั้งแสดงฐาน plastic ที่ดูไม่ค่อยแข็งแรงพอจะรับน้ำหนักตัวแบบจำลองได้
ห้องนักบินขาดรายละเอียดและไม่ตรงกับรุ่นจริง ยังดีที่ให้หุ่นนักบินมาครบสองนาย ช่องรับอากาศเข้า Intake ที่เลือกได้สองแบบกางขึ้นหรือหักลงที่ติดตั้งค่อนข้างยากและไม่แนบสนิทตัวแบบจำลองหลักในบางส่วน  ชุดอาวุธและอุปกรณ์ที่ให้จะมีอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 AMRAAM 2นัด และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9 Sidewinder สองนัดบนถังเชื้อเพลิงสำรองภายนอกสองใบติดใต้ปีกคู่สองข้าง,
กระเปาะชี้เป้าหมาย AN/AAQ-33 SNIPER กระเปาะนำร่องสร้างภาพความร้อน และชุดระบบตรวจจับ Tiger Eyes, ถังเชื้อเพลิงสำรองกลางลำตัว, ระเบิดนำวิถีดาวเทียม GBU-31 ขนาด 2,000lbs กลางลำตัว และระเบิดนำวิถี laser GBU-12 ขนาด 500lbs ซึ่งให้มาหกชุด 8นัดกับตำบลอาวุธบนถังเชื้่อเพลิงแนบลำตัว CFT แต่มีนัดหนึ่งที่ติดไม่ได้แม้ว่าจะพยายามยัดและตัวระเบิดก็หลุดจากรางอาวุธง่าย รวมถึงมีจุดคราบกาวด้วยครับ