NORINCO VT4 MBT-3000 Main Battle Tank(www.janes.com)
รถถังหลัก NORINCO VT4 (MBT-3000) กองทัพบกไทย
VT4 MBT-3000 test in Pakistan(defence.pk)
คุณลักษณะเฉพาะ น้ำหนักพร้อมรบ: 52tons
พลประจำรถ: 3(ผู้บังคับการรถ, พลขับ, พลยิง)
อุณหภูมิใช้งาน: -25degree Celsius ถึง +55degree Celsius
อัตราส่วนแรงม้าต่อน้ำหนัก: น้อยกว่าหรือเท่ากับ 23HP/ton
ความยาว(เมื่อปืนชี้ไปด้านหน้า): 10.1m
ความกว้าง(พร้อมแผ่นปิดสายพาน): 3.5m
ความสูง(ถึงด้านบนป้อมปืน): 2.4m
ความเร็วสูงสุดบนถนน: 70km/h
ความเร็วเฉลี่ยในภูมิประเทศ: 35-40km/h
อัตราเร่งจาก 0-32km/h: ๑๐-๑๒วินาที
ระยะปฏิบัติการ: 500km
ปีนที่ลาดชันได้สูงสุด: 60%
ปีนที่ลาดเอียงได้สูงสุด: 40%
ข้ามคูได้กว้าง: 2.7m
ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูงสุด: 0.85m
ลุยน้ำลึก(มีการเตรียมการก่อน): 4-5m x 600mm
MBT-3000 test in Pakistan(defence.pk)
เครื่องยนต์: เครื่องยนต์ดีเซลแบบ FW150 สี่จังหวะ ๑๒สูบ พร้อมเครื่องเพิ่มไอดี ระบายความร้อนด้วยน้ำ การควบคุมไฟฟ้า กำลัง 1,200HP ความเร็วรอบเครื่อง 2,200rpm
เครื่องเปลี่ยนความเร็ว: รุ่น Ch1000B Intergrated Transmission System
MBT-3000 test in Pakistan(defence.pk)
ระบบควบคุมการยิง: แบบ Hunter-Killer พร้อมระบบติดตามเป้าหมายอัตโนมัติ, กล้องสร้างภาพความร้อน Gen II สำหรับ ผบ.รถ, พลขับ และพลยิง และระบบควบคุมอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง
ระบบรักษาการทรงตัวปืนใหญ่รถถัง: Stabilizer ควบคุมด้วยไฟฟ้าสองทิศทาง
กระสุนปืนใหญ่รถถัง: กระสุนแบบกึ่งแยกส่วนขนาด 125mm จำนวน ๓๘นัด มีกระสุนในเครื่องบรรจุกระสุนอัตโนมัติ ๒๒นัด ความเร็วในการบรรจุกระสุน ๘นัดต่อนาที
ชนิดกระสุนปืนใหญ่รถถัง: กระสุนเจาะเกราะสลัดครอบทิ้งเองทรงตัวด้วยครีบหาง APFSDS, กระสุนระเบิดแรงสูงต่อสู้รถถัง HEAT, กระสุนระเบิดแรงสูงกระเทาะเกราะ HESH และอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง (9M119M Refleks NATO กำหนดรหัส AT-11 Sniper)
เครื่องยิงลูกระเบิดควัน: เครื่องยิงลูกระเบิดควัน 76mm ๘ท่อยิง และลูกระเบิดสังหาร ๔ท่อยิง
MBT-3000 test in Pakistan(defence.pk)
เกราะป้องกัน: เกราะวัสดุผสม Composite และเกราะปฏิกิริยา Reactive Armour
การป้องกันรอง: ระบบป้องกันนิวเคลียร์ ชีวะ เคมี แบบส่วนรวมและรายบุคคล, เครื่องดับเพลิงอัตโนมัติ, ถังดับเพลิง และเครื่องระงับการระเบิด
การป้องกันเชิงรุก: ระบบแจ้งเตือนการถูกตรวจจับด้วย Laser, ระบบพิสูจน์ฝ่าย IFF
ระบบสื่อสาร: ระบบวิทยุไร้สาย VHF, ระบบติดต่อภายใน Intercom system แบบ Digital มีระบบรับข้อมูลข่าวสารของยานพาหนะ
หลังจากที่มีกระแสข่าวและข้อมูลมาต่อเนื่องในช่วง๑-๒ปีนี้จนถึงช่วงต้นปีที่ผ่านมา ในที่สุดก็มีรายงานออกมาชัดเจนว่า
กองทัพบกไทยได้ลงนามจัดหาจัดหารถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 จาก NORINCO สาธารณรัฐประชนจีนจำนวน ๒๘คัน ไปตั้งแต่ช่วงเดือนมีนาคม-เมษายนแล้ว
โดยจะเข้าประจำการแทนรถถังเบา M41A3 ที่ประจำการมาตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๐๕(1962) ใน กองพันทหารม้าที่๔ รักษาพระองค์ กองพลที่๑ รักษาพระองค์
แหล่งข้อมูลที่พอจะน่าเชื่อถือได้เช่น TAF, สำนักข่าวไทย และ Facebook page Combat Zones นิตยสาร Battlefield Defense ของ บก.สมพงษ์ นนท์อาสา ซึ่งต่างเป็นผู้รายงานข่าวนี้เป็นกลุ่มแรกๆจะยังไม่มีข้อมูลชัดเจนมากพอในบางด้าน
ถึงแม้ว่ายังไม่ทราบแน่ชัดในขณะนี้ว่าโครงการจัดหารถถังหลัก VT4 ใหม่จำนวน ๒๘คันของกองทัพนี้มีวงเงินเท่าใด
ซึ่งมีข้อมูลจากบางสื่ออกมาก่อนหน้านี้ว่าสำหรับโครงการจัดหารถถังหลักใหม่จำนวนหนึ่งกองพันทหารม้ารถถังประมาณ ๕๐คัน ตั้งไว้ที่ ๘,๙๙๗,๔๕๐,๐๐๐บาท
ถ้าเป็นความจริงการจัดหา ถ.หลัก VT4 ครั้งนี้ไม่น่าจะใช้วงเงินถึง ๙,๐๐๐ล้านบาท เพราะจัดหาเพียง ๒๘คัน โดยเป็นการจัดหาในปีงบประมาณผูกพันต่อเนื่อง พ.ศ.๒๕๕๙-๒๕๖๑(2016-2018)
ทั้งนี้ในช่วงที่รถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 เปิดตัวครั้งแรกในปี 2014 มีรายงานเบื้องต้นว่าราคารถต่อคันอยู่ที่ $3 million
ต่อมาในโครงการจัดหารถถังหลักใหม่ของกองทัพบกเปรูที่จีนเสนอ ถ.หลัก MBT-3000 นั้นราคารถต่อคันได้เพิ่มเป็นที่คันละ $4 million
สำหรับข่าวรถถังหลัก VT4(MBT-3000) ของกองทัพบกไทยเองนั้น บก.สมพงษ์ได้ให้ข้อมูลในช่วงต้นปีที่ผ่านมาว่าทางรัสเซียเสนอรถถังหลัก T-90MS ราคาคันละ $7.5 million (ราคาพอๆกับรถถังหลักตะวันตก) ขณะที่จีนเสนอ VT4(MBT-3000) ที่คันละ $5.5 million
แต่ บก.สมพงษ์แจ้งข้อมูลล่าสุดว่าราคาอยู่ของรถถังหลัก VT4(MBT-3000) ที่คันละ $4.9 million
Thailand to procure MBT-3000 tanks from China
http://www.janes.com/article/60340/thailand-to-procure-mbt-3000-tanks-from-china
ถ้าอ้างอิงข้อมูลจากรายงานของ Jane's ในข้างต้นที่มีเพิ่มเติมมาว่า อาจจะมีการส่งมอบรถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 ภายในก่อนสิ้นปี 2016 นี้ (ซึ่งส่วนตัวเข้าใจว่าอาจจะเป็นรถชุดก่อนสายการผลิต Pre-Production จำนวนไม่กี่คันสำหรับทดสอบที่ศูนย์การทหารม้า)
และจะทยอยส่งมอบรถชุดแรกจนครบภายในสองปีคือ พ.ศ.๒๕๖๐-๒๕๖๑(2017-2018) และมีข้อมูลเพิ่มเติมว่าวงเงินการจัดหาโครงการคาดว่าอยู่ที่ประมาณ $150 million หรือประมาณ ๕,๓๐๔ล้านบาท ซึ่งเป็นไปได้สำหรับรถ ๒๘คันตามราคาต่อคันในข้างต้น
คงจะแน่นอนด้วยว่าถ้ามีการรับมอบรถถังหลัก VT4 จนครบชุดแรกที่สั่งจัดหาและผ่านการทดสอบตรวจรับมอบรถจนเป็นที่น่าพอใจแล้ว คงจะมีการสั่งจัดหารถเพิ่มเติมในปีงบประมาณถัดไปจนครบอย่างน้อยหนึ่งกองพัน ซึ่งกองทัพบกต้องการรถถังหลักเพิ่มราว ๑๕๐คันครับ
(อัตราการจัดกองพันทหารม้า(รถถัง) ตาม อจย.๑๗-๑๕ ประกอบด้วย
หนึ่งกองบังคับการกองพัน และกองร้อยกองบังคับการกองพันทหารม้า กับสามกองร้อยรถถัง
อัตราการจัด บก.พัน และร้อย.บก.พัน ตาม อจย.๑๗-๑๖ ประกอบด้วย
-บก.พัน
-ร้อย.บก.พัน ประกอบด้วย บก.ร้อย, ตอนธุรการและกำลังพล, ตอนการข่าว, ตอนยุทธการ, ตอนส่งกำลัง, ตอนสื่อสาร และตอนซ่อมบำรุง
อัตราการจัดกองร้อยรถถัง ตาม อจย.๑๗-๑๗ ประกอบด้วย
กองบังคับการกองร้อย ประกอบด้วย หมู่บริการ, หมู่ซ่อมบำรุง, หมู่น้ำมัน/กระสุน ,หมู่ส่งกำลัง กับสามหมวดรถถัง
หนึ่งหมวดรถถังจะมีรถถังหลักจำนวน ๕คัน โดยเป็นรถของผู้บังคับหมวด ๑คัน หนึ่งกองร้อยรถถังจะมีรถถังหลัก ๑๕คัน+รถถังของผู้บังคับกองร้อย ๑คันเป็น ๑๖คัน
สามกองร้อยรถถังมีรถถัง ๔๘คัน+รถถังของผู้บังคับกองพันอีก ๑คันเป็น ๔๙คัน ดังนั้นหนึ่งกองพันทหารม้ารถถังจะมีรถถังหลักประมาณ ๕๐คัน)
เรื่องเครื่องยนต์ก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่มีข้อสงสัย โดยทางสำนักข่าวไทยรายงานว่ารถถังหลัก VT4 ที่กองทัพบกสั่งจัดหาจะใช้เครื่องยนต์ Deutz เยอรมนีนั้น
ไปค้นใน Google เจอบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องยนต์รายนี้ของจีนมาหลายรายครับเช่น
SHANGHAI CLIENT DIESEL ENGINE CO.,LTD
http://www.client-engine.com/TANKS.html
http://www.client-engine.com/Chinese.html
http://www.client-engine.com/Germany.html
http://www.client-engine.com/Russia.html
บริษัท SCDE นี้จัดจำหน่ายและผลิตเครื่องยนต์สารพัดแบบ DEUTZ, MTU ฯลฯ ตั้งแต่รถยนต์ส่วนบุคคลจนถึงรถถังหลักทั้งของจีนเอง เยอรมนี และรัสเซีย
เท่าที่ทราบการทำงานของบริษัทผลิตอาวุธของจีนจะใช้วิธีจ้างบริษัทย่อยๆในเครือหรือที่เป็นพันธมิตรกัน ทำงานผลิตชิ้นส่วนต่างๆแล้วมาประกอบเข้าด้วยกัน
ซึ่งบริษัท Deutz เยอรมนีเองก็มีโรงงานผลิตชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่ Dalian ตั้งแต่ปี 2007 http://www.deutz.com/company/production_locations/dalian.en.html
ตรงนี้ก็ไม่แน่ใจว่าบริษัท SCDE ที่ว่านี้ซึ่งผลิตเครื่องยนต์ของรถถังหลัก Type 99 กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนนี่เป็นผู้ผลิตเครื่องยนต์ของรถถังหลัก VT4 MBT-3000 ให้ NORINCO ด้วยหรือไม่(สงสัยเรื่องความน่าเชื่อถือ)
และการสั่งจัดหาเครื่องยนต์ของ Deutz เยอรมนีจากบริษัทจีนมาติดตั้งให้รถถังไทย หรือจะมีสิทธิบัตรการผลิตเครื่องยนต์ดีเซลรถถังหลัก Deutz ในจีนมาติดให้รถถังไทยจริงหรือไม่ด้วยนั้นไม่อาจทราบได้เลย
อย่างไรก็ตามเครื่องยนต์ Deutz สำหรับรถรบทางทหารนั้นมักจะถูกใช้ในรถหุ้มเกราะสายพานหรือรถหุ้มเกราะล้อยางโดยยังไม่เคยมีข้อมูลเครื่องยนต์ขนาด 1,000HP ขึ้นไปสำหรับรถถังหลัก
ตัวอย่างเช่นรถหุ้มเกราะล้อยางลำเลียงพล 8x8 ZBL-09 หรือ Type 07P ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนที่มีการอ้างว่าใช้เครื่องยนต์ดีเซล Deutz BF6M1015C กำลัง 440HP
(รุ่นส่งออกของ ZBL-09 คือรถหุ้มเกราะล้อยาง VN1 8x8 ที่ส่งออกให้นาวิกโยธินกองทัพเรือเวเนซูเอลาเป็นลูกค้ารายแรก)
ส่วนรถถังหลัก Type 99 กองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนนั้นมีการอ้างว่าใช้เครื่องยนต์ดีเซลกำลัง 1,500HP ที่มีพื้นฐานมาจากเครื่องยนต์ MTU 871 Ka-501 เยอรมนี
ทั้งนี้ทาง บก.สมพงษ์ได้ให้ข้อมูลว่าเครื่องยนต์ของรถถังหลัก VT4(MBT-3000) คือเครื่องยนต์ดีเซล VT/E1 กำลัง 1,200HP ของ NORINCO จีนเอง
ซึ่งมีข้อมูลบันทึกใน Army-Guide.com http://www.army-guide.com/eng/product5226.html
แต่ทั้งนี้เองแคร่รถฐานของรถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 นั้นพัฒนามาจากรถถังหลัก VT1A หรือ MBT-2000 รุ่นก่อนซึ่งมีพื้นฐานพัฒนามาจากรถถังหลัก Type 90-IIM อีกที
ขณะที่แคร่รถฐานของรถถังหลัก Type 99 จะเป็นอีกแบบที่พัฒนาเพิ่มเติมซึ่งมีจุดแตกต่างกันอยู่ในส่วนของการวางตำแหน่งเครื่องยนต์ ระบบส่งกำลัง และท่อไอเสีย
ดังนั้นในกรณีที่ว่าเครื่องยนต์ของ ถ.หลัก VT4 นั้นจะเป็นเครื่องยนต์เยอรมันหรือเครื่องยนต์จีนที่ได้ Technology จากเยอรมนีก็ยังไม่มีความชัดเจนในขณะนี้ครับ
PLA 125mm APFSDS round
Chinese 125mm APFSDS round for Export
9M119M 125mm Anti-Tank Guided Missile(wikipedia.org)
อาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KOMBAT 125mm สำหรับรถถังหลัก Oplot กองทัพบกไทย ที่ทดสอบการยิงในไทย
ด้านระบบอาวุธในภาพรวมนั้นรถถังหลัก VT4(MBT-300) มีระบบอาวุธประจำรถหลักรูปแบบเดียวกับรถถังหลัก Oplot ที่กองทัพบกไทยจัดหามาประจำการก่อน
แต่ทั้งนี้มีการอ้างอิงว่าปืนใหญ่รถถังที่ติดตั้งกับ ถ.หลัก VT4 หรือ MBT-3000 นั้นเป็นแบบเดียวกับที่ติดตั้งกับรถถังหลัก Type 98/Type 99 ของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเอง
คือปืนใหญ่รถถัง ZPT-98 ขนาด 125mm/50caliber ซึ่งมักจะถูกอ้างว่า Technology ลำกล้องมาจากปืนใหญ่รถถัง Rheinmetall 120mm เยอรมนี
ทำให้ ปถ.ZPT98 จีนมีความเร็วต้นกระสุนสูงกว่า ระยะยิงไกลกว่า อำนาจการเจาะเกราะสูงกว่า และมีความแม่นยำกว่า เมื่อเทียบกับปืนใหญ่รถถัง 2A46 125mm/48caliber รัสเซียและ KBA-3 ยูเครนที่ติดตั้งกับ ถ.หลัก Oplot เมื่อใช้กระสุนแบบเดียวกัน
อย่างกระสุนเจาะเกราะสลัดครอบแบบมีครีบทรงตัว APFSDS(Armour Piercing Fin Stabilized Discarding Sabot) ขนาด 125mm ซึ่งจีนผลิตส่งออกให้ประเทศที่จัดรถถังของตนและสามารถใช้ร่วมกับกระสุนของรัสเซียอย่างที่ใช้กับรถถังหลัก T-72 ได้
รวมถึงการอ้างว่ารถถังหลัก VT4 นั้นสามารถทำการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง 9M119M Refleks ระยะยิง 5,000m ซึ่งจีนได้สิทธิบัตรการผลิตในประเทศจากรัสเซียเช่นเดียวกับรถถังหลัก Type 99
นั่นอาจจะทำให้รถถังหลัก VT4 จะเป็นรถถังหลักแบบที่สองของกองทัพบกไทยที่ทำการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังจากปืนใหญ่รถถังได้เช่นเดียวกับรถถังหลัก Oplot ที่จัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง KOMBAT มาใช้งาน
อีกทั้งอ้างว่าระบบควบคุมการยิง(Fire Control System) และระบบอำนวยการสนามรบ(Battlefield Management System) ของรถถังหลัก VT4(MBT-300) ยังมีความก้าวหน้าทันสมัยกว่ารถถังหลัก Oplot มาก
จะเห็นได้จาก Video Clip ที่ลงในข้างต้นแสดงให้เห็นถึงสถานีพลขับ สถานีพลยิง และสถานี ผบ.รถ ภายในมีระบบแผงควบคุมต่างๆและจอแสดงผล Digital และกล้องมองภาพรอบตัวรถที่ทันสมัยกว่า ถ.หลัก Oplot
และระบบเกราะป้องกันของรถทั้งเกราะวัสดุผสม Composite และเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด ERA(Explosive Reactive Armour)
รวมถึงระบบป้องกันเชิงรุก APS(Active Protection System) แบบ GL5 ที่เลือกติดตั้งได้(แต่ไม่มีข้อมูลมากนัก) และระบบแจ้งเตือนการถูกตรวจจับด้วย Laser (LWR: Laser Warning Receiver) ของ ถ.หลัก VT4 นั้น
ถูกอ้างว่าแม้จะลดระดับมาจาก ถ.หลัก Type 99A แต่ก็เหนือกว่า ถ.หลัก Oplot ที่ติดตั้งเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด ERA แบบ Nozh และระบบป้องกันเชิงรุก APS แบบ Varta ที่ประกอบด้วยระบบตรวจจับ Laser และระบบลวงสัญญาณ Infrared Jammer เป็นต้น
การที่จีนจะถ่ายทอด Technology บางรายการให้ไทยโดยรวมมือกับสถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท.(DTI) ตามสัญญาการจัดหารถถังหลัก VT4(MBT-3000) นั้นก็เป็นอีกประเด็นหนึ่งที่น่าสนใจครับ
เราคงไม่เรียกการถ่ายทอดขีดความสามารถในการซ่อมบำรุงว่า Technology Transfer ได้ครับ เพราะนั่นเป็นสัญญาพื้นฐานของการจัดหายุทโธปกรณ์แทบจะทุกรายการตามปกติอยู่แล้ว
แต่ทั้งนี้สายการผลิตรถถังหลัก VT4 ของกองทัพบกไทยเองก็ยังคงทำการผลิตประกอบที่โรงงานของ NORINCO ในจีนครับ
Oplot-M test in Pakistan(defence.pk)
ขณะที่การทดสอบแข่งขันโครงการคัดเลือกรถถังหลักใหม่ของกองทัพบกปากีสถานที่ทดสอบในทะเลทรายนั้น
รถถังหลัก MBT-3000 จีนที่แข่งกับรถถังหลัก Oplot ยูเครนที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6TD-3 ใหม่กำลัง 1,500HP ที่มีรายงานว่า ถ.หลัก Oplot มีคะแนนสูงกว่า ถ.หลัก MBT-3000
โดยรถถังทั้งสองแบบมีปัญหาเรื่องเครื่องยนต์ที่ไม่สมบูรณ์พอจะใช้งานอย่างหนักในเขตทะเลทราย
อย่างไรก็ตามข้อมูลล่าสุดจากการอ้างอิงของนิตยสาร Kanwa Asian Defence (https://www.kanwa.com) นั้นระบุว่า
ดูเหมือนทางปากีสถานดูจะเอนเอียงไปทางรถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 ที่จีนให้สัญญาว่าจะไปปรับปรุงรถให้ตรงตามความต้องการของปากีสถาน
โดยจะใช้ Technology ล่าสุดจากรถถังหลัก Type 99A รุ่นล่าสุดที่ประจำการในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนกับ MBT-3000(VT4) ของปากีสถานด้วยนั้น
จีนยังได้เสนอการถ่ายทอด Technology ในการเปิดสายการผลิตรถถังหลัก MBT-3000 หรือ VT4 ในปากีสถานด้วย(มักจะถูกอ้างในชื่อรถถังหลัก Al-Haider)
ซึ่งก็ได้เคยรายงานในบทความก่อนหน้านี้แล้วครับว่า โรงงาน Heavy Industries Taxila ปากีสถานได้ทำการประกอบสร้างรถถังหลักที่ได้สิทธิบัตรจากจีนในประเทศมาแล้วหลายรุ่น
เช่น รถถังหลัก Type 69-II, Type 85-IIAP และ Al-Khalid ที่ใช้เครื่องยนต์ดีเซล 6TD-2 กำลัง 1,200HP ยูเครนเช่นเดียวกับรถถังหลัก Oplot
นั่นทำให้ ถ.หลัก VT4(MBT-3000) จีนค่อนข้างจะได้เปรียบในโครงการจัดหารถถังหลักของกองทัพบกปากีสถานนี้มากอยู่บ้าง
VT2 Main Battle Tank(Type 96A export variant) NORINCO Armor Day 2014
Type 96 Main Battle Tank Sudanese Army(defence.pk)
สำหรับ NORINCO จีนแล้วได้วางตลาดผลิตภัณฑ์รถถังหลักของตนในปัจจุบันด้วยกันสามรุ่นครับ
คือรถถังหลัก VT2 ซึ่งเป็นรุ่นส่งออกของรถถังหลัก Type 96A ที่ประจำการในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน เป็นรถถังที่มี Technology พื้นฐานถูกสุดสำหรับประเทศที่มีงบประมาณจำกัด
โดยรถถังหลักรุ่นก่อนคือรถถังหลัก Type 96 ซึ่งเป็นรถถังหลักยุคที่2.5 ที่นอกจากจะประการในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน ยังส่งออกให้กองทัพบกซูดานอีกประเทศ
ซึ่งในสงครามซูดาน-ซูดานใต้ ที่สมรภูมิ Heglig ปี 2012 นั้นมีรายงานว่ากองทัพบกซูดานได้ใช้ ถ.หลัก Type 96 ของตนยิงทำลายรถถังหลัก T-72 ของซูดานใต้ได้ ๔คันโดยที่ไม่มีการสูญเสียรถถัง Type 96 แม้แต่คันเดียว
MBT-2000(VT1A) Main Battle Tank Myanmar Army(mmmilitary.blogspot.com)
VT1A(MBT-2000) of the Bangladesh Army(wikipedia.org)
รถถังหลัก VT1A หรือ MBT-2000 เป็นรถถังหลักที่ระดับ Technology ก้าวหน้าปานกลางซึ่งเป็นรุ่นก่อนหน้าที่ส่งออกได้หลายประเทศแล้วเช่น
ในกลุ่มประเทศ ASEAN คือ กองทัพบกพม่า, กองทัพบกบังคลาเทศ, กองทัพบกศรีลังกา, กองทัพบกโมร็อกโก และกองทัพปากีสถานในชื่อ Al-Khalid ที่ผลิตในประเทศที่ตามที่กล่าวไปข้างต้นเป็นต้น
และรถถังหลัก VT4 หรือ MBT-3000 เป็นรถถังหลักสำหรับส่งออกรุ่นล่าสุดที่มีระดับ Technology สูงสุดและราคาแพงที่สุด
ด้าน DTI ไทยนั้นได้มีความร่วมมือการถ่ายทอด Technology ด้านความมั่นคงร่วมกับจีนมาอย่างต่อเนื่อง
เช่น โครงการจรวดเพื่อความมั่นคง เครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง DTI-1 และเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้องแบบนำวิถี DTI-1G ขนาด 302mm เป็นต้น
ถ้าตามสัญญาการจัดหา ถ.หลัก VT4 มีเรื่องถ่ายทอด Technology จริงนั่นก็ควรจะเป็น Technology รถถังหลักล่าสุดของจีนครับ แต่จะเป็นในรูปแบบใดและมากแค่ไหนก็ยังไม่ทราบในตอนนี้่เช่นกัน
รถถังหลัก Oplot กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ กองทัพบกไทย
แต่อย่างไรก็ตามก็อาจจะเห็นได้ครับว่าขณะนี้กองทัพบกให้ความสำคัญสำหรับการจัดหารถถังหลักใหม่ในส่วน กองพันทหารม้ารถถังประจำกองพลทหารราบ
นอกจากรถถังหลัก Oplot ที่กำลังจัดหาเข้าประจำการที่ กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ ที่ขณะนี้ได้รับมอบรถแล้ว ๑๐คันนั้น
ก็มีความชัดเจนจากกองทัพบกว่าจะยังจัดหารถให้ครบจำนวนที่ตั้งโครงการไว้ต่อไปโดยขยายระยะเวลาส่งมอบรถของทางยูเครนเป็นปี พ.ศ.๒๕๖๑(2018)
ซึ่งก็ตามที่ได้รายงานภาพสายการผลิตและทดสอบรถถังจากยูเครนมาต่อเนื่องครับว่าตอนนี้มี ถ.หลัก Oplot ที่เสร็จสมบูรณ์แล้วอย่างน้อย ๕คัน และมีชิ้นส่วนหลักอยู่ในสายการผลิตที่โรงงาน Malyshev ถึงคันที่๒๑
ยังมี พัน.ม.ถ.ประจำ พล.ร.อีกหลายกองพันที่ยังใช้ ถ.เบา M41A3 อยู่นอกจาก ม.พัน.๔ รอ. คือ กองพันทหารม้าที่๘ กองพลทหารราบที่๓, กองพันทหารม้าที่๙ กองพลทหารราบที่๔ และกองพันทหารม้าที่๑๖ กองพลทหารราบที่๕
ไม่นับ กองพันทหารม้าที่๒๑ กองพลทหารราบที่๖ ที่ใช้รถถังหลัก M48A5 เช่นเดียวกับ ม.พัน.๒ พล.ร.๒ รอ. และกองพลทหารม้าที่๓ ที่มีอัตราจัดกองพันทหารม้ารถถังในหน่วยขึ้นตรงคือ กรมทหารม้าที่๖ และกรมทหารม้าที่๗ ด้วย
ตรงนี้ก็คงต้องมาดูกันต่อไปครับว่าหลังจากที่ ม.พัน.๔ รอ.เริ่มได้รับมอบ ถ.หลัก VT4 MBT-3000 แล้ว ม.พัน.ถ.อื่นๆจะมีโครงการจัดหารถถังใหม่อย่างไร
และเช่นกันกับโครงการจัดหารถถังหลัก Oplot ครับว่า โครงการจัดหารถถังหลัก VT4 MBT-3000 นี่จะมีผลประสิทธิภาพการใช้งานที่แท้จริงออกมาอย่างไร เมื่อรถคันแรกถูกนำเข้าประจำการเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์เช่นเดียวกันครับ