วันอาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

จีนทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สาม CV-18 Fujian

China commissions Fujian aircraft carrier





China's third aircraft carrier, Fujian has commissioned in a ceremony on 5 November 2025. (China Military Bugle)







จีนได้ทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือบรรทุกเครื่องบินลำที่สามของตน เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Type 003 เรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประจำการกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy)
และเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ยังเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกของจีนที่ติดตั้งระบบส่งอากาศยานขึ้นบินรางดีด catapult แม่เหล็กไฟฟ้า(EMALS: Electro-Magnetic Aircraft Launch System)

เรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ถูกทำพิธีขึ้นระวางประจำการ ณ อู่เรือของฐานทัพเรือ Sanya ในเกาะ Hainan เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน 2025 โดยกระทรวงกลาโหมจีนประกาศถึงการทำพิธีอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2025
เรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ซึ่งถูกทำพิธีวางกระดูงูเรือในปี 2016 และถูกทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำในปี 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/type-003-cv-18-fujian.html)

ได้รับการดำเนินการทดลองเรือในทะเลอย่างน้อย 9ครั้งตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2024(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/cv-18-fujian.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/05/cv-18-fujian.html
การติดตั้งรางดีดส่งอากาศยานแม่เหล็กไฟฟ้า EMALS ทำให้เรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian สามารถที่จะปฏิบัติการอากาศยานใช้งานทางเรือแบบใหม่ได้หลายหลายแบบรวมถึงเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Xi'an KJ-600 'Sea Plate' AEW&C(Airborne Early Warning and Control)

Janes ได้ประเมินก่อนหน้านี้ว่ากองบินของเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian จะประกอบด้วยอากาศยานปีกนิ่งจำนวน 40เครื่อง นอกเหนือจากเฮลิคอปเตอร์ ระหว่างพิธีขึ้นระวางประจำการ อากาศยานสี่แบบได้ถูกจอดแสดงบนดาดฟ้าบินของเรือ
รวมถึงเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้าประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน Shenyang J-35 ซึ่งยังไม่ได้รับการกำหนดแบบในประจำการทางเรืออย่างเป็นทางการ(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/j-35a.html), เครื่องบินขับไล่ยุคที่สี่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน Shenyang J-15T, 

เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ KJ-600, และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเลประจำเรือขนาดกลาง Hongdu Z-20J(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/z-20.html)
เครื่องบินขับไล่ J-35, เครื่องบินขับไล่ J-15T และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ KJ-600 ได้ดำเนินการปฏิบัติการบินครั้งแรกของพวกตนจากเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-18 Fujian ในช่วงต้นปี 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/cv-18-fujian.html)

การปรากฎของอากาศยานสี่แบบ ณ พิธีขึ้นระวางประจำการบ่งชี้ว่ากองบินเรือบรรทุกเครื่องบิน Fujian จะประกอบด้วยอากาศยานแบบต่างๆเหล่านี้เป็นหลัก โดยเป็นไปได้ว่าน่าจะเพิ่มเติมด้วย
เครื่องบินโจมตีสงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ Shenyang J-15DT ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/j-15d.html)

มีความเป็นไปได้ว่า CV-18 Fujian ที่เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ CATOBAR(Catapult-Assisted Take-Off But Arrested Recovery) แบบแรกของจีนที่เข้าประจำการต่อจากเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ STOBAR(Short Take-Off But Arrested Recovery) สองลำแรก
คือเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-16 Liaoning และเรือบรรทุกเครื่องบิน CV-17 Shandong จะเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินแบบสุดท้ายของจีนที่ใช้ระบบขับเคลื่อนตามแบบ โดยเรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Type 004 ใหม่ที่เป็นแบบ CATOBAR อาจจะใช้ระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์ครับ

วันเสาร์ที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ความท้าทายในการซ่อมบำรุงอาจจะเร่งการปลดประจำการเครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier II Plus กองทัพเรืออิตาลีให้เร็วขึ้น

IFC 2025: ‘Challenge' of maintaining Italian Navy Harrier II+ fleet may hasten its retirement







While the Harrier II+ (pictured) is due to remain in Italian Navy service until 2030, it may have to bring this date forward as the type becomes increasingly challenging to support. (MMI)

กองทัพเรืออิตาลี(Italian Navy, MMI: Marina Militare Italiana) อาจมองการปลดประจำการก่อนกำหนดของฝูงบินเครื่องบินโจมตี McDonnell Douglas AV-8B Harrier II+(Harrier II Plus) ของตน
ตามที่ความท้าทายของการสนับสนุนเครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier II Plus เหล่านี้ในช่วงหลายปีสุดท้ายนั้นได้มีขึ้นมากเกินไป(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/av-8b-harrier-ii-plus.html)

การพูดคุย ณ งานสัมมนาเครื่องบินขับไล่นานาชาติ IQPC International Fighter Conference 2025 (IFC 2025) ที่นครหลวง Rome อิตาลีระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2025 ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่ที่พูดคุยภายใต้กฏ Chatham House Rule ที่ไม่มีการเปิดเผยตัวตนกล่าวถึงความตั้งใจในปัจจุบันที่จะทำการบินเครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier II+ ไปจนถึงกำหนดการปลดประจำการที่วางแผนไว้ในปี 2030 ว่า

อาจจะไม่สามารถบรรลุผลได้ตามที่อิตาลีได้กลายเป็นเพียงหนึ่งในสองผู้ใช้งานรายสุดท้ายของเครื่องบินโจมตีตระกูล AV-8B Harrier II(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/f-35b-f-35a.html)
"(กองทัพเรืออิตาลี)ยังหวังที่จะเดินหน้าต่อกับเครื่องบินโจมตี AV-8B โดยหวังที่จะให้ไปถึงปี 2030 แต่นั่นเป็นความท้าทายอย่างแท้จริง กำหนดปลดประจำการที่เป็นไปได้จริงมากกว่าควรจะเป็นปี 2028"

"ตั้งแต่นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) จะยุติการทำการบิน(เครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier II+ ของตน) ในเดือนมิถุนายน 2026(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/f-35c.html)
ดังนั้นจะเหลือเพียงอิตาลีและสเปน(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/ef-18-hornet-av-8b-harrier-ii.html) ที่ยังคงเป็นผู้ใช้งานเครื่องบินโจมตี AV-8B" เจ้าหน้าที่ที่ไม่เผยตนกล่าว

โดยรวมกองทัพเรืออิตาลีได้รับมอบเครื่องบินโจมตีที่นั่งเดี่ยว AV-8B Harrier II Plus จำนวน 16เครื่องตั้งแต่ปี 1994-1997 ซึ่งยังคงมีเครื่องบินโจมตี Harrier II+ จำนวน 14เครื่องในประจำการ
ตามข้อมูลจาก Janes World Navies เครื่องบินโจมตี Harrier II+ ของกองทัพเรืออิตาลีเป็นเครื่องบินรบพหุภารกิจและสามารถปฏิบัติการสงครามต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASuW: Anti-Surface Warfare), ลาดตระเวน, โจมตีภาคพื้นดิน, และป้องกันภัยทางอากาศได้

เครื่องบินโจมตี AV-8B Harrier II Plus สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ RTX AIM‐9L Sidewinder และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง RTX AIM‐120B AMRAAM(Advanced Medium‐Range Air‐to‐Air Missile) สำหรับการป้องกันภัยทางอากาศ
สำหรับภารกิจโจมตีเครื่องบินโจมตี Harrier II+ สามารถติดตั้งอาวุธได้หนักถึง 5,000kg ภายใต้ 9ตำบลอาวุธ รวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM‐65F Maverick, อาวุธนำวิถีความแม่นยำสูง(โดยใช้กระเปาะชี้เป้าหมาย AN/AAQ‐28 Litening II ในการกำหนดเป้าหมาย), จรวดอากาศสู่พื้นขนาด 70mm, และระเบิดอากาศอเนกประสงค์ต่างๆ

เครื่องบินโจมตีบินขึ้นระยะสั้นและลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off and Vertical Landing) AV-8B Harrier II Plus ได้ถูกนำมาวางกำลังบนเรือบรรทุกเครื่องบินของกองทัพเรืออิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/l9890-trieste.html
ที่จะถูกแทนที่ด้วยเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35B Lightning II Joint Strike Fighters(JSF) จำนวน 30เครื่อง แบ่งเป็นของกองทัพอากาศอิตาลี(Italian Air Force, AMI: Aeronautica Militare Italiana) จำนวน 15เครื่อง และกองทัพเรืออิตาลีจำนวน 15เครื่องครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/f-35-eurofighter-typhoon.html)

วันศุกร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

Saab เผยตัวอย่างแนวคิดเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต KFS สำหรับกองทัพอากาศสวีเดน

IFC 2025: Saab teases future fighter concepts for Sweden

Saab showcased its KFS future fighter concepts for Sweden at the IQPC IFC 2025 event in Rome. (Saab via Janes/Gareth Jennings)




the concepts airframes might potentially replace the Saab Gripen E in Swedish Air Force service. (Saab/Swedish Armed Forces)

บริษัท Saab สวีเดนได้เปิดเผยตัวอย่างของการออกแบบจำนวนหนึ่งสำหรับความพยายามแนวคิดเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต KFS(Konceptet Framtidens Stridsflyg, Future Combat Aircraft Concept) ของสวีเดน
ที่ถูกจัดแสดงในป้ายจัดแสดงของบริษัท Saab ณ งานสัมมนาเครื่องบินขับไล่นานาชาติ IQPC International Fighter Conference 2025 (IFC 2025) ที่จัดขึ้นในนครหลวง Rome อิตาลีระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2025

ภาพวาดแนวคิดเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต KFS แสดงถึงโครงสร้างอากาศยาน(airframe) หลายรูปแบบทั้งแบบมีนักบินบังคับและแบบไร้คนขับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/10/saab-kfs.html)
ที่อาจจะเป็นไปได้ในการทดแทนเครื่องบินขับไล่ Saab JAS 39 Gripen E ในประจำการกองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet) ในอนาคต(https://aagth1.blogspot.com/2025/10/gripen-e-60.html)

ตามป้ายจัดแสดงซึ่งแสดงเพียงส่วนหน้าของโครงสร้างลำตัว(fuselage)  Saab สวีเดนได้กำลังดำเนินงานเกี่ยวกับการออกแบบทางแนวความคิด 6แบบ ที่ประกอบด้วยอากาศยานแบบมีนักบินบังคับ 3แบบ และอากาศยานแบบไร้คนขับ 3แบบ
อากาศยานแบบมีนักบินบังคับจะเป็นเครื่องบินรบที่นั่งเดี่ยว โดยทุกแบบแผนอากาศยานจะมีคุณลักษณะถูกตรวจพบได้ต่ำ 'stealth' ที่มีคุณลักษณะเฉพาะต่างๆในระดับที่แตกต่างๆกัน(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/saab-helsing-project-beyond-ai-gripen-e.html)

สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน(Defence Material Administration, FMV: Försvarets materielverk) ได้ทำสัญญากับบริษัท Saab และบริษัท GKN สหราชอาณาจักรในเดือนมีนาคม 2024
เพื่อมอบหลักพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตที่มีพื้นฐานจากการศึกษา, การพัฒนาวิทยาการ, และการเตรียมการสำหรับเครื่องบินต้นแบบสาธิตต่างๆแก่ FMV สวีเดน(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/fmv-saab-gkn.html)

โดยระยะที่1 Phase 1 ของโครงการมุ่งเน้นที่การสำรวจแนวคิด, โดยระยะที่2 Phase 2 ของโครงการมุ่งเน้นที่การพัฒนาวิทยาการและเครื่องบินสาธิต การพัฒนาแนวคิดกำลังมีขึ้นภายใต้สี่ silo หลัก การบริหารจัดการและการวางแผน, การพัฒนาแนวคิด, การพัฒนาวิทยาการ และเครื่องบินต้นแบบสาธิตทำการบิน 
การขับเคลื่อนขีดความสามารถหลักจะรวมถึง ความเป็นเอกเทศ(autonomy), ปัญญาประดิษฐ์(AI: Artificial Intelligence), การถูกตรวจพบได้ต่ำที่แข็งแกร่ง, ห้องเก็บอาวุธภายในลำตัว, และการสร้างต้นแบบที่รวดเร็ว เช่นเดียวกับระบบขับเคลื่อนยุคอนาคต, พลังงาน และการหล่อเย็น

เครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตอาจจะเป็นแบบมีนักบิน และ/หรือไร้คนขับหรือทั้งสองแบบและจะปฏิบัติการในฐานะส่วนหนึ่งของระบบของระบบ(system-of-systems)ที่หลากหลายที่จะรวมถึงระบบเสริมแบบไร้คนขับและทรัพยากรอื่นๆ
Saab สวีเดนกล่าวว่าอาจจะมีการออกแบบเครื่องบินสาธิตทำการบินได้มากกว่าหนึ่งแบบ การศึกษาต่างๆในปัจจุบันจะดำเนินการไปถึงปี 2030 โดยการพัฒนาเพิ่มเติมจะมีตามมาตั้งแต่ปี 2031 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/2030.html)

วันพฤหัสบดีที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

รัสเซียทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Khabarovsk ใหม่ที่ออกแบบสำหรับระบบไร้คนขับต่างๆ

Russia launches submarine Khabarovsk made for robotic systems





Russia's new submarine Khabarovsk , which the Russian MoD said was designed to carry what it called robotic underwater systems, seen at its launch on 1 November 2025. (Russian MoD)



กระทรวงกลาโหมรัสเซียประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2025 ถึงพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Khabarovsk สำหรับกองทัพเรือรัสเซีย(RFN: Russian Federation Navy, VMF: Voyenno-Morskoy Flot)
โดยพิธีปล่อยเรือลงน้ำได้มีขึ้นที่อู่เรือ Sevmash ใน Severodvinsk ในตอนเหนือของแคว้น Arkhangelsk ในวันเดียวกัน(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/borei-k-555-knyaz-pozharskiy.html)

ออกแบบโดยสำนักออกแบบกลางด้านวิศวรกรรมทางทะเล Rubin(Rubin Central Design Bureau for Marine Engineering) เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Khabarovsk มี
"จุดประสงค์ที่จะดำเนินภารกิจต่างๆสำหรับกองทัพเรือรัสเซียโดยการใช้ระบบอาวุธใต้น้ำสมัยใหม่รวมถึงระบบหุ่นยนต์ต่างๆหลากหลายรูปแบบ" กระทรวงกลาโหมรัสเซียกล่าว

เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2025 ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้ประกาศว่าการพัฒนา torpedo ระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์แบบ 2M39 Poseidon('Kanyon') ได้ประสบความสำเร็จในการทดสอบการแยกตัวจากเรือดำน้ำที่บรรทุก
เรือดำน้ำ Khabarovsk ถูกอธิบายในฐานะ "เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดอาวุธปล่อยนำวิถีหนัก" รัฐมนตรีกลาโหมสหพันธรัฐรัสเซีย Andrey Belousov เสริมว่าเรือดำน้ำยังคงต้องเข้าสู่การทดลองเรือในทะเลตามวงรอบ

เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Khabarovsk ถูกวางกระดูกงูเรือครั้งแรกในเดือนกรกฎาคม 2014 และมีรายงานว่ามีพื้นฐานการออกแบบจากเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดขีปนาวุธชั้น Dolgorukiy
ความลับอย่างมากมายได้ปกคลุมการพัฒนาและการสร้างของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ Khabarovsk โดยมีเพียงส่วนท้ายเรือเท่านั้นที่ได้ถูกแสดงในชุดภาพที่เผยแพร่โดยกระทรวงกลาโหมรัสเซีย

อย่างไรก็ตามภาพถ่ายจากดาวเทียมทางพาณิชย์ได้จับภาพในระยะสั้นหลังจากที่เรือดำน้ำ Khabarovsk ถูกเปิดตัวออกมาเปิดเผยว่า เรือดำน้ำมีความยาวตัวเรือที่ประมาณ 136m และมีการออกแบบตัวเรือตามแบบ แม้ว่าส่วนหัวเรือจะถูกคลุมปิดด้วยผ้าใบกันน้ำ(tarpaulin) ก็ตาม
นอกเหนือจากรัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Belousov พิธีปล่อยเรือลงน้ำได้เชิญ พลเรือเอก Alexander Moiseyev ผู้บัญชาการกองทัพเรือรัสเซีย, Andrey Puchkov ผู้อำนวยการ United Shipbuilding Corporation(USC) กลุ่มรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการสร้างเรือของรัสเซีย,

และ Mikhail Budnichenko ผู้อำนวยการบริษัทร่วมหุ้น(JSC: Joint-Stock Company) PO Sevmash รัสเซีย รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย Belousov ยังได้ตรวจสอบความคืบหน้าการซ่อมแก้และการปรับปรุงความทันสมัย
ของสิ่งที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียอธิบายว่าเป็น "เรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ติดอาวุธปล่อยนำวิถีทางยุทธศาสตร์และอเนกประสงค์" ณ ศูนย์ซ่อมแก้เรือ Zvezdochka ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/blog-post_24.html)

วันพุธที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

ญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์เริ่มการเจรจาความเป็นไปได้ในการจัดหาเรือฟริเกตชั้น Mogami รุ่นปรับปรุง

Indo Pacific 2025: Japan, New Zealand begin talks on potential frigates acquisition





The JMSDF's second Mogami-class frigate JS Kumano seen here. New Zealand is in talks for a possible acquisition of an improved variant of the ship. (Japan Maritime Self-Defense Force)

ญี่ปุ่นและนิวซีแลนด์ได้เริ่มต้นการเจรจาระดับรัฐบาลต่อรัฐบาลเกี่ยวกับเรือฟริเกตชั้น Mogami รุ่นปรับปรุง และจะเติมเต็มความต้องการของกองทัพเรือนิวซีแลนด์(RNZN: Royal New Zealand Navy) ได้อย่างไร
ตัวแทนจากบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นที่พูดคุยกับ Janes ณ นิทรรศการทางทะเลนานาชาติอินโดแปซิฟิก Indo Pacific International Maritime Exposition 2025 เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2025 ในมหานคร Sydney ออสเตรเลีย

บริษัท MHI ญี่ปุ่นยืนยันว่าการเจรจามีศูนย์กลางที่ขีดความสามารถต่างๆและความเป็นไปได้ในการจัดซื้อจัดจ้างของเรือฟริเกตชั้น Mogami รุ่นปรับปรุง(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/mogami.html)
การยืนยันของการหารือระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลมีขึ้นตามหลังแถลงการณ์ที่ออกโดยกระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2025 ในแถลงการณ์ซึ่งถูกออกเผยแพร่ให้หลังจากการเข้าพบกันระหว่าง

รัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น Shinjiro Koizumi และคู่เจรจาของเขารัฐมนตรีกลาโหมนิวซีแลนด์ Judith Collins ในมาเลเซียระหว่างการประชุมรัฐมนตรีกลาโหม ASEAN(Association of Southeast Asian Nations) 
และรัฐมนตรีกลาโหมประเทศคู่เจรจา ADMM-Plus(ASEAN Defence Ministers' Meeting Plus) ครั้งที่12 กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าวว่ารัฐบาลญี่ปุ่นในกรุง Tokyo ได้ตระหนักถึง

"ความตั้งใจของนิวซีแลนด์ที่จะทดแทนเรือฟริเกตของกองทัพเรือนิวซีแลนด์ของตนและเห็นชอบที่จะยังคงการสื่อสารอย่างใกล้ชิดต่อไปข้างหน้า" ขณะเดียวกันในการตอบสนองต่อคำถามต่างๆจาก Janes
โฆษกจากกองทัพนิวซีแลนด์(NZDF: New Zealand Defence Force) ชี้แจ้งว่าขณะที่ยังได้มีการหารือระหว่างผู้บัญชาการกองทัพเรือนิวซีแลนด์ พลเรือตรี Garin Golding และรัฐมนตรีกลาโหมญี่ปุ่น Koizumi เกี่ยวกับเรือฟริเกตชั้น Mogami

ท่ามกลางหัวข้ออื่นๆ ยังไม่มีการตัดสินใจใดๆเกิดขึ้น "ตามร่างเค้าโครงในแผนขีดความสามารถกลาโหม 2025(DCP: Defence Capability Plan) ของนิวซีแลนด์กองเรือส่วนใหญ่ของกองทัพเรือนิวซีแลนด์จะเข้าสู่การสิ้นสุดอายุการใช้งานภายในกลางปี 2030s
ซึ่งนั้นเป็นเหตุผลว่าทำไมโครงการปรับปรุงกำลังกองเรือทางทะเลใหม่จึงได้ถูกจัดตั้งขึ้น" โฆษกกองทัพนิวซีแลนด์กล่าวในการตอบคำถามที่ถูกเผยแพร่ก่อนหน้านิทรรศการทางทะเลนานาชาติ Indo Pacific 2025 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤศจิกายน 2025

ตามข้อมูลจาก Janes World Navies กองทัพเรือนิวซีแลนด์เป็นกองทัพเรือขนาดเล็กมีเรือแบบต่างๆรวมกันเพียง 8ลำเท่านั้น(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/a09-hmnzs-manawanui.html)
เรือรบหลักในประจำการคือเรือฟริเกตชั้น Anzac จำนวน 2ลำคือเรือฟริเกต F77 HMNZS Te Kaha และเรือฟริเกต F111 HMNZS Te Mana ที่เข้าประจำการในปี 1997 และปี 1999 ตามลำดับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/sh-2gi-super-seasprite.html)

เรือฟริเกตชั้น Anzac ที่ประจำการในกองทัพเรือออสเตรเลีย(RAN: Royal Australian Navy) ตั้งแต่ปี 1990s(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/anzac-ffh150-hmas-anzac.html) ที่นิวซีแลนด์จัดหาร่วมกันนั้น
จะถูกทดแทนด้วยเรือฟริเกตอเนกประสงค์ใหม่จำนวน 11ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/hunter-6.html) ซึ่งออสเตรเลียได้เลือกเรือฟริเกตชั้น Mogami รุ่นปรับปรุงของ MHI ญี่ปุ่นเป็นผู้ชนะโครงการในเดือนสิงหาคม 2025 ครับ

วันอังคารที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

อินโดนีเซียรับมอบเครื่องบินลำเลียง Airbus A400M Atlas เครื่องแรกจาก 2เครื่อง

Indonesia acquires first A400M aircraft





The Indonesian Air Forceʼs Air Squadron 31 will operate the acquired A400M Atlas transport aircraft. (Airbus Defence and Space)





กองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) รับมอบเครื่องบินลำเลียง Airbus A400M Atlas เครื่องแรกของตนเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2025
พิธีส่งมอบมีการจัดขึ้น ณ ฐานทัพอากาศ Halim Perdanakusuma ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียในนครหลวง Jakarta ตามที่บริษัท Airbus Defence and Space ยุโรปกล่าวในแถลงการณ์ในวันเดียวกัน

เครื่องบินลำเลียง A400M Atlas ซึ่งมีหมายเลขเครื่อง A-4001 เป็นเครื่องแรกจากจำนวน 2เครื่องที่บริษัท Airbus ได้รับสัญญาจัดหาจากอินโดนีเซียในปี 2021(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/airbus-a400m.html)
เครื่องบินลำเลียง Airbus A400M Atlas เครื่องที่สองคาดว่าจะถูกส่งมอบในปี 2026 บริษัท Airbus Defence and Space เสริม(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/airbus-a400m.html)

การส่งมอบเครื่องบินลำเลียง A400M เครื่องแรกมีขึ้นตามมาหลายสัปดาห์ให้หลังจากผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซีย Mohamad Tony Harjono และคณะตัวแทนของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย
ได้ตรวจสอบสายการประกอบขั้นสุดท้ายของเครื่องบินลำเลียง Airbus A400M Atlas ที่ Seville สเปนในเดือนตุลาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/airbus-a400m.html)

คณะผู้บัญชาการกองทัพอากาศอินโดนีเซียยังได้เยี่ยมชมศูนย์การฝึกนานาชาติ(ITC: International Training Centre) ของเครื่องบินลำเลียง A400M เพื่อเยี่ยมกำลังพลของกองทัพอากาศอินโดนีเซียที่กำลังเข้ารับการฝึก
ตามข้อมูลจากบริษัท Airbus Defence and Space เครื่องบินลำเลียง A400M ที่อินโดนีเซียทำสัญญาจัดหาอยู่ในรูปแบบสำหรับภารกิจลำเลียงขนส่ง, การส่งกลับทางสายแพทย์(medevac: medical evacuation), และด้านมนุษยธรรม

เครื่องบินลำเลียง A400M Atlas มีขีดความสามารถในการลำเลียงที่น้ำหนักบรรทุกสูงสุดได้ถึง 37tonnes(รวมถึงการบรรทุกขนาดหนักหรือเกินขนาด) ที่สามารถรวมถึงเฮลิคอปเตอร์, ยานยนต์ และสิ่งของบรรเทาทุกข์
ในภารกิจโดยเฉลี่ยที่มีน้ำหนักบรรทุกที่ 30tonnes เครื่องบินลำเลียง A400M สามารถทำการบินได้เป็นระยะทาง 2,400nmi ตามข้อมูลจากบริษัท Airbus Defence and Space นี่ทำให้เครื่องบินสามารถที่จะ 

"บินได้ครอบคลุมทั่วทุกหมู่เกาะของอินโดนีเซียจาก Jakarta" บริษัท Airbus Defence and Space กล่าว การพูดคุยระหว่างพิธีส่งมอบเครื่องบินลำเลียง A400M แก่กองทัพอากาศอินโดนีเซียที่ฝูงบินที่31(Air Squadron 31, Skadron Udara 31) ฐานทัพอากาศ Halim Perdanakusuma
ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย Prabowo Subianto กล่าวว่าเครื่องบินลำเลียง A400M จะได้รับการติดตั้งด้วยขีดความสามารถเครื่องบินพยาบาลทางอากาศ modular และอุปกรณ์เพื่อรับมือกับไฟป่า รวมถึงการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เขายังกล่าวว่ากำลังมีการเจรจาเพื่อจะจัดหาเพิ่มเติมอีก 4เครื่องด้วยครับ

Rheinmetall และ MBDA ส่งมอบระบบสาธิตอาวุธ Laser แก่กองทัพเยอรมนี

Rheinmetall and MBDA deliver laser demonstrator to Bundeswehr





The Rheinmetall and MBDA laser demonstrator pictured during sea trials on the Type 124-class frigate Sachsen . (MBDA)

บริษัท Rheinmetall เยอรมนี และบริษัท MBDA ยุโรปได้ส่งมอบระบบสาธิตอาวุธ laser พลังงานสูง(HEL: High-Energy Laser) แก่ศูนย์เทคนิคด้านอาวุธและกระสุน (WTD 91: Wehrtechnische Dienststelle 91)
กองทัพเยอรมนี(Bundeswehr) สำหรับวัตถุประสงค์ทางการทดลองและทดสอบต่างๆ บริษัท Rheinmetall ประกาศในสื่อประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025 ที่ผ่านมา

การส่งมอบมีขึ้นตามความสำเร็จการทดสอบในทะเลของระบบอาวุธ laser บนเรือฟริเกตชั้น Sachsen(Type 124/F124) เรือฟริเกต F219 FGS Sachsen(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/kurs-marine-2025.html)
ระบบอาวุธ laser ในตู้บรรทุกถูกนำมาวางบนเรือฟริเกต F219 Sachsen ระหว่างเดือนตุลาคม 2022 ถึงเดือนกันยายน 2023(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/type-127.html)

การทดลองในทะเลรวมถึงการทดสอบยิง laser จำนวนมากกว่า 100ครั้ง และทดสอบการติดตามเป้าหมายในจำนวนที่มากว่า ตามที่ Rheinmetall เยอรมนีกล่าว ในสื่อประชาสัมพันธ์เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2025
บริษัท Rheinmetall กล่าวว่าระบบอาวุธ laser พลังงานสูง HEL สำหรับปฏิบัติการในประจำการน่าจะพร้อมที่จะส่งมอบให้แก่กองทัพเรือเยอรมนี(German Navy, Deutsche Marine) ได้ภายในปี 2029

ระบบสาธิตอาวุธ laser ในตู้บรรทุกได้ถูกนำเข้าประจำการ ณ ศูนย์ความสามารถ Laser(Laser Competence Centre) ของศูนย์เทคนิคด้านอาวุธและกระสุน WTD 91 ใน Meppen เยอรมนีสำหรับ "การทดสอบการป้องกัน drone" บนภาคพื้นดินเพิ่มเติม 
บริษัท Rheinmetall กล่าวว่าระบบอาวุธ laser สามารถทำหน้าที่เสริมต่ออาวุธปืนและอาวุธปล่อยนำวิถีต่างๆได้ และระบบอาวุธ laser สามารถที่จะถูกใช้เพื่อต่อต้านอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle), 

ฝูง UAV จำนวนมาก(UAV swarms), เละเรือเร็ว speedboat และถ้าจำเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีในระยะใกล้ ในอนาคตระบบอาวุธ laser สามารถที่จะได้รับการปรับปรุงขีดความสามารถเพิ่มเติมต่างๆ และจะสามารถ
"ทำลายอาวุธปล่อยนำวิถีความเร็วเหนือเสียง supersonic และจรวด เช่นเดียวกับลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิด และกระสุนปืนใหญ่" Rheinmetall กล่าว Rheinmetall และ MBDA ได้มีความร่วมมือในการพัฒนาตัวทำลาย(effector) laser พลังงานสูงตั้งแต่ปี 2019 

งานเกี่ยวกับระบบสาธิตได้เห็นบริษัท MBDA Deutschland เยอรมนีรับผิดชอบด้านการตรวจจับและติดตามเป้าหมาย, แผงควบคุม, และการเชื่อมต่อของระบบสาธิตกับระบบบัญชาการและควบคุม(C2: Command-and-Control) 
บริษัท Rheinmetall ได้รับผิดชอบด้านระบบการเล็งเป้าหมาย, การนำวิถีลำแสง laser beam, และตู้บรรทุกระบบสาธิต ควบคู่ไปกับการบูรณาการทางเครื่องกลและไฟฟ้าของระบบสาธิตบนเรือฟริเกต Sachsen ครับ

วันจันทร์ที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568

Anduril เปิดโรงงานเพื่อผลิตยานใต้น้ำไร้คนขับขนาดใหญ่มาก Ghost Shark XL-AUV ที่ออสเตรเลีย

Anduril opens facility to produce Ghost Shark AUV





Anduril Australia has opened a facility in Sydney to manufacture Ghost Shark XL-AUV. (Commonwealth of Australia)

บริษัท Anduril สหรัฐสาขาออสเตรเลียได้เปิดโรงงานใน Sydney ออสเตรเลียเพื่อผลิตยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก(XL-AUV: Extra-Large Autonomous Underwater Vehicle) แบบ Ghost Shark ของตนที่จะถูกส่งมอบให้แก่กองทัพเรือออสเตรเลีย(RAN: Royal Australian Navy)
"โครงการการผลิต Ghost Shark ได้เริ่มต้นขึ้นด้วยสายการผลิตระดับต่ำ(LRIP: Low-Rate Initial Production) ไปสู่การผลิตเต็มรูปแบบในปี 2026" บริษัท Anduril Australia ออสเตรเลียประกาศเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2025

บริษัท Anduril Australia ได้รับการประกาศสัญญาวงเงิน A$1.7 billion($1.1 billion) จากกระทรวงกลาโหมออสเตรเลียในเดือนกันยายน 2025 เพื่อจะส่งมอบยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Ghost Shark XL-AUV ที่ไม่เปิดเผยจำนวนในอีก 5ปีข้างหน้า
ยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Ghost Shark XL-AUV จะสนับสนุนการปฏิบัติการข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence Surveillance and Reconnaissance) และการโจมตีของกองทัพเรือออสเตรเลีย

Anduril Australia ออสเตรเลียกล่าวว่าตนได้ผลิตยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Ghost Shark XL-AUV ลำแรกแล้ว ซึ่งขณะนี้พร้อมสำหรับการทดลองเรือในทะเลต่างๆแล้ว
ยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Ghost Shark XL-AUV ลำแรกมีกำหนดที่จะถูกส่งมอบให้แก่กองทัพเรือออสเตรเลียในเดือนมกราคม 2026 บริษัท Anduril Australia เสริม

โรงงานใหม่ขนาดพื้นที่ 7,400 ตารางเมตรจะยังทำการผลิตระบบพื้นฐานเชิงพาณิชย์ของ Ghost Shark XL-AUV คือยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Dive-XL XL-AUV
ซึ่งยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Dive-XL XL-AUV สามารถที่จะส่งออกให้แก่กองทัพชาติพันธมิตรต่างๆได้ถ้าได้รับการอนุมัติเห็นชอบจากรัฐบาลออสเตรเลีย บริษัท Anduril Australia กล่าว

ตามข้อมูลจากบริษัท Anduril ยานใต้น้ำไร้คนขับอัตโนมัติขนาดใหญ่มาก Dive-XL เป็นระบบแบบ modular ที่สามารถติดตั้งภารกรรมบรรทุกได้สามสิ่งในเวลาเดียวกัน หรือภารกรรมบรรทุกขนาดใหญ่พิเศษได้หนึ่งสิ่ง
ขึ้นอยู่กับภารกรรมบรรทุกที่ติดตั้งว่าจะถูกใช้สำหรับการปฏิบัติการโจมตี, การสื่อสาร, หรือการข่าวกรอง การเฝ้าตรวจ และลาดตระเวน ISR ยานใต้น้ำไร้คนขับ Dive-XL XL-AUV สามารถปฏิบัติการใต้น้ำได้เป็นเวลาหลายสัปดาห์โดยปราศจากการขึ้นสู่ผิวน้ำหรือการแทรกแซง

Anduril Australia ออสเตรเลียกล่าวว่าโรงงานใหม่มีขีดความสามารถของการผลิตด้วยหุ่นยนต์ขั้นก้าวหน้า, การส่งกำลังบำรุงที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์(AI: Artificial Intelligence) และมีอ่างทดสอบ test tank ที่ถูกปรับแต่งสำหรับการรับรองยืนยันของ
การลอยตัว, ระบบไฟฟ้า, และความปลอดภัยก่อนการทดลองเรือในทะเล โรงงานจะใช้ชิ้นส่วนประกอบและวัสดุต่างๆที่ถูกจัดส่งจากกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลาง(SME: Small and Medium Enterprise) มากกว่า 40รายของออสเตรเลีย บริษัท Anduril Australia เสริมครับ