วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2567

จีนกำลังพัฒนาเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ที่ถูกเรียกชั่วคราวว่า Z-21

New Chinese attack helicopter in development





This concept image of China's new attack helicopter, tentatively designated as Z-21, is based on photographs of the prototype aircraft in flight. (Janes/Weibo)

จีนกำลังพัฒนาเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ที่ปรากฏว่าจะมีขนาดน้ำหนักช่วงเดียวกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64 Apache สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/ah-64d-apache.html)
และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mil Mi-28 Havoc รัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2022/01/mi-28ne.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/08/mi-28nm-mi-38t-2019.html)

ชุดภาพของเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ ซึ่งปรากฏในสื่อสังคม online ของจีนในเดือนมีนาคม 2024 แสดงถึงตัวเครื่องที่มีขนาดใหญ่กว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10 ในประจำการกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน(PLA: People's Liberation Army)
ที่พัฒนาโดย Changhe Aircraft Industries Group(CHAIG) ในเครือ AVIC(Aviation Industry Corporation of China) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการบินจีน(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/z-10me.html)

และโดยมีขนาดส่วนโครงสร้างลำตัว(fuselage)ส่วนกลางที่กว้างกว่าเปรียบเทียบกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache โครงสร้างลำตัวรวมถึงส่วนยื่นภายนอก fairings เป็นแก้มด้านข้างที่เปรียบเทียบได้กับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Apache
และรูปแบบส่วนปลายหัวเครื่องที่คล้ายคลึงกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28 เฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache และเฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28N มีน้ำหนักปฏิบัติการสูงสุดที่ 10-12tons

เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่(ถูกกำหนดแบบคร่าวๆชั่วคราวโดยนักสังเกตการณ์ทางทหารของจีนว่าเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-21) ยังปรากฏว่าได้นำคุณลักษณะบางส่วนของเฮลิคอปเตอร์รบรุ่นล่าสุดของกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนมาใช้
อย่างเช่นท่อไอเสียเครื่องยนต์ที่หันขึ้นด้านบนเพื่อลดสัญญาณความร้อน infrared เครื่องต้นแบบเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-21 ปรากฏว่าได้อยู่ในสถานะที่มีความคืบหน้าในการพัฒนาด้วย

ชุดภาพยังแสดงถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-21 ใหม่ติดตั้งระบบตรวจจับแจ้งเตือนการถูกเล็งด้วย laser(LWS: Laser Warning System) ในพื้นที่ส่วนหางของท้ายเครื่องและส่วน fairing แก้มหน้าเครื่อง
ขณะที่คุณภาพของชุดภาพถ่ายแรกๆของเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่นั้นแย่มาก ส่วนอื่นๆที่นูนขึ้นมาบนโครงสร้างลำตัวมีข้อสังเกตว่าน่าจะเป็นการรวมกันของสายอากาศระบบแจ้งเตือนอาวุธปล่อยนำวิถี(MAW: Missile Warning System)

ฮ.โจมตีใหม่ยังปรากฏว่ามีสายอากาศสื่อสารความถี่ VHF/UHF(Very/Ultra-High Frequency) ขณะที่เครื่องไม่ปรากฏว่ามีกระเปาะระบบตรวจจับกล้อง Electro-Optic/Infrared(EO/IR) ที่หัวเครื่อง มีระบบตรวจจับท่อ air-probe ซึ่งเป็นคุณลักษณะมาตรฐานของเครื่องที่กำลังทดสอบ
Janes ประเมินว่าการประกอบชุดใบพัดหางของเครื่องคล้ายเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Harbin Aircraft Industry Group(HAIG) Z-20(https://aagth1.blogspot.com/2022/05/ac313a-z-20.html) ซึ่งมีพื้นฐานคล้ายคลึงกับเฮลิคอปเตอร์ตระกูล Sikorsky S-70 สหรัฐฯ

เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่น่าจะใช้ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น Turboshaft แบบ WZ-10 กำลัง 1,790kW สองเครื่อง ที่ถูกใช้กับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Z-20 ในประจำการกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีนเช่นเดียวกัน
ระบบอาวุธของเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบใหม่ที่ปรากฏในชุดภาพรวมถึงใต้หัวเครื่องติดแท่นปืนกลอากาศ 12.7mm หรือปืนใหญ่อากาศ 23mm และคานปีกข้างลำตัวแต่ละด้านมีตำบลอาวุธสองจุดแข็งใต้คานปีกและรางติดอาวุธหรืออุปกรณ์ที่ปลายปีกครับ

วันพฤหัสบดีที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2567

เรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin กองทัพเรือพม่าติด radar Revathi ใหม่ของอินเดีย

Myanmar equips second Kyan Sit Thar-class frigate with Indian-made radar





Myanmar's second Kyan Sit Thar-class frigate, UMS Sin Phyu Shin , seen here as it arrives at Visakhapatnam, India, for Exercise ‘Milan' 2024. It can be seen here equipped with the Revathi radar. (Royal Thai Navy and Indian MoD)

กองทัพเรือพม่า(Myanmar Navy) ได้ติดตั้ง radar ตรวจการณ์ทางอากาศสามมิติ 3D แบบ Revathi ที่สร้างโดยอินเดียบนเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Kyan Sit Thar ลำที่สอง เรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin ของตน
Janes สามารถยืนยันในขณะนี้ได้ว่า Revathi 3D radar อินเดียได้ถูกบูรณาการเข้ากับเรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin อย่างเต็มรูปแบบในปี 2023 และการยืนยันรับรองบางส่วนของขีดความสามารถบางส่วนของเรือได้ถูกดำเนินการขึ้น 

ณ การฝึกผสมทางเรือนานาชาติ MILAN 2024 ใน Visakhapatnam อินเดียที่ดำเนินขึ้นตั้งแต่วันที่ 19-27 กุมภาพันธ์ 2024 ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/milan-2024.html)
ชุดภาพของเรือฟริเกต UMS Sin Phyu Shin ที่กำลังเดินทางมาถึง Visakhapatnam สำหรับการฝึก MILAN 2024 ที่เผยแพร่โดยกองทัพเรืออินเดีย(IN: Indian Navy) เมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2024 และกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ตามมาหลังจากนั้น

ชุดภาพได้แสดงถึงเรือฟริเกต UMS Sin Phyu Shin กองทัพเรือพม่าพร้อมกับสิ่งที่ปรากฏว่าจะเป็นระบบตรวจจับใหม่บนแท่นยก(pedestal) เหนือด้านท้ายของดาดฟ้ายก(superstructure) ของเรือ
ระบบตรวจจับที่เคยถูกพบว่าติดตั้งบนแท่นยกดังกล่าวคือ radar ตรวจการณ์พื้นน้ำแบบ Bharat Electronics Limited(BEL) RAWL-02 อินเดีย(https://aagth1.blogspot.com/2017/05/blog-post_24.html)

Janes ได้ตรวจสอบยืนยันตั้งแต่นั้นว่าบริษัท Bharat Electronics Limited(BEL) อินเดียได้รับสัญญาที่จะทดแทน radar RAWL-02 ด้วย radar Revathi ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะเพิ่มขีดความสามารถการป้องกันภัยทางอากาศของเรือฟริเกต UMS Sin Phyu Shin
Revathi radar มีขีดความสามารถในการติดตามเป้าหมายได้เป้าและได้ถูกบูรณาการระบบพิสูจน์ฝ่าย(IFF: Identification Friend-or-Foe) เป็นที่เชื่อว่ามีระยะทำการไกลสุดที่ราว 180km โดยมีความสูงตรวจจับครอบคลุมถึง 18,000m

เรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin ถูกสร้างโดยอู่เรือ Myanmar Naval Dockyard ในพม่าและเข้าประจำการในกองทัพเรือพม่าในเดือนธันวาคม 2015(https://aagth1.blogspot.com/2015/12/ums-sinbyushin-f14-stealth.html)
เรือฟริเกตชั้น Kyan Sit Thar ปรากฎว่าจะมีพื้นฐานที่พัฒนาอย่างมากจากการออกแบบของเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Aung Zeya ที่กองทัพเรือพม่ามีประจำการลำเดียวคือเรือฟริเกต F11 UMS Aung Zeya

เรือฟริเกตชั้น Kyan Sit Thar ทั้งสองลำคือลำแรกเรือฟริเกต F12 UMS Kyan Sit Thar ซึ่งเข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2014 และลำที่สองเรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin ที่ทั้งหมดสร้างในพม่ายังติดตั้งระบบตรวจจับและอาวุธที่สร้างโดยอินเดียอีกหลายแบบ
รวมถึง Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำแบบ Shyena ที่พัฒนาโดยบริษัท Larsen & Toubro อินเดีย(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/torpedo-shyena.html) และ sonar ตัวเรือแบบ HUMSA HMS-X ของบริษัท BEL อินเดียครับ

วันพุธที่ 27 มีนาคม พ.ศ. 2567

กองทัพเรือสหรัฐฯสั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet เพิ่ม 17เครื่อง

US Navy orders 17 additional F/A-18E/F Super Hornets







The first F/A-18E/F Super Hornet Block III for the US Navy made its maiden flight on 4 June 2020. The latest order will keep the Super Hornet production line open until 2027. (Boeing)

กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ได้วางคำสั่งซื้อวงเงิน $1.1 billion สำหรับเครื่องบินขับไล่ Boeing F/A-18E/F Block III Super Hornet ใหม่จำนวน 17เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/boeing-fa-18ef-super-hornet-2025.html
ที่เป็นการจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F/A-18E จำนวน 5เครื่อง และเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F/A-18F จำนวน 12เครื่อง กำหนดการส่งมอบจะเริ่มต้นในปลายปี 2026 และดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงต้นปี 2027

ข้อตกลงรวมถึง "ระยะที่หนึ่งของชุดข้อมูลทางเทคนิคเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F และเครื่องบินโจมตีสงคราม electronic แบบ EA-18G รวมถึงการปฏิบัติการ, การบำรุงรักษา, การติดตั้ง และข้อมูลการฝึก" ตามเอกสารแจ้งการประกาศสัญญาเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2024
สิทธิข้อมูลเข้ารหัสความปลอดภัยต่อเครื่องบินมีจุดประสงค์ที่จะทำให้กองทัพเรือสหรัฐฯจะดำรงสภาพเครื่องบินเหล่านี้ด้วยกำลังพลและสถานที่ของตนเองมากกว่าที่จะพึ่งพาบริษัท Boeing สหรัฐฯหรือผู้รับสัญญารองรายต่างๆ

ทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯและกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ในหลายปีที่ผ่านมาล่าสุดได้วางลำดับความสำคัญระดับสูงเกี่ยวกับสิทธิในข้อมูลเข้ารหัสรักษาความปลอดภัย
เป็นการพิสูจน์ว่ากำลังพลของกองทัพเรือสหรัฐฯและกองทัพอากาศสหรัฐฯสามารถปรนนิบัติซ่อมบำรุงอากาศยานในจำนวนเงินที่น้อยกว่าการว่าจ้างผู้รับสัญญา

และสิทธิในข้อมูลเข้ารหัสความปลอดภัยดังกล่าวนั้นมีความจำเป็นต่อผลกระทบการดัดแปลงต่างๆในอนาคตที่อาจจะรวมถึงสิ่งอุปกรณ์จากแหล่งที่มาบุคคลที่สามรายต่างๆ(third parties) "ชุดข้อมูลทางเทคนิคเป็นส่วนสำคัญของการเจรจานี้ 
มันเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับความพร้อมปฏิบัติการและการดำรงสภาพหลังการผลิตของการบินนาวี" พลเรือตรี John Lemmon นายทหารอำนวยการบริหารโครงการฝ่ายโครงการอากาศยานทางยุทธวิธีกองทัพเรือสหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2024

คำสั่งซื้อใหม่นี้ได้ยืดอายุสายการผลิตของเครื่องบินขับไล่ตระกูล F/A-18 Hornet ในโรงงานอากาศยาน St Louis ของบริษัท Boeing ในมลรัฐ Missouri ซึ่งเดิมมีกำหนดที่จะปิดสายการผลิตในปี 2025 โดยปราศจากคำสั่งซื้อเพิ่มเติม
คำสั่งซื้อเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F Super Hornet Block III ล่าสุดเพิ่มเติมรวมจำนวน 17เครื่องนี้จะทำให้สายการผลิตสามารถคงเปิดต่อไปได้จนถึงปี 2027 ที่มีกองทัพเรือสหรัฐฯเป็นผู้ใช้งานหลักในฐานะเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน

สหรัฐฯได้ส่งออกเครื่องบินขับไล่ F/A-18F Super Hornet จำนวน 24เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/fa-18f.html) และเครื่องบินโจมตีสงคราม electronic แบบ EA-18G Growler จำนวน 12เครื่องแก่ออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/ea-18g-growler.html)
คูเวตยังเป็นผู้ใช้งานส่งออกอีกรายสำหรับเครื่องบินขับไล่ F/A-18E/F จำนวน 28เครื่องแบ่งเป็น F/A-18E ที่นั่งเดี่ยวจำนวน 22เครื่อง และ F/A-18F สองที่นั่งจำนวน 6เครื่องครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/boeing-fa-18ef-super-hornet.html)

วันอังคารที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2567

กองทัพอากาศไทยเปิดเผยชุดภาพการฝึกบินเครื่องบินโจมตีและฝึก AT-6TH Wolverine ที่สหรัฐฯ








AT-6 is coming 
The AT-6TH Pilot Training Course at Textron Aviation Defense in Wichita, Kansas, scheduled from February 12 to May 15, 2024. 
Eight pioneer participants from 411 Squadron, Wing 41, are attending the course, which includes close air support mission (CAS) training with the MX-15Di configuration, GBU-12 bombs, 2.75" rockets (M156), and HMP-400 .50 caliber guns. 
They are flying AT-6TH numbered 41103, which the Royal Thai Air Force has purchased and will be delivered to 411 Squadron, Wing 41 by the end of this year. (Royal Thai Air Force)

การฝึกบินหลักสูตร AT-6 Pilot Training ณ บริษัท Textron Aviation Defense เมืองวิชิต้า รัฐแคนซัส สหรัฐอเมริกา ระหว่าง 12 ก.พ. - 15 พ.ค.67 
ของนักบินฝูงบิน 411 กองบิน 41 จำนวน 8 คน ในภารกิจการบินสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (CAS) โดยเครื่องบินติดกล้อง MX-15Di และโหลดอาวุธฝึก ระเบิดนำวิถี GBU-12, จรวด 2.75" M156 และปืนกลอากาศ HMP-400 
โดยใช้เครื่องบิน AT-6TH หมายเลข 41103 ที่กองทัพอากาศจัดซื้อ และจะถูกจัดส่งมาประจำการ ณ ฝูงบิน 411 กองบิน 41 ปลายปี 2567

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ได้เผยแพร่ชุดภาพแรกของเครื่องบินโจมตีและฝึกแบบที่๒๒ บ.จฝ.๒๒ Beechcraft AT-6TH Wolverine ของตนขณะทำการฝึกบินที่สหรัฐฯในสื่อสังคม online ของตนเมื่อวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
ชุดภาพได้แสดงถึงเครื่องบินโจมตีและฝึก บ.จฝ.๒๒ AT-6TH หมายเลข "41103" ทะเบียนสหรัฐฯ "N2790B" กำลังทำการฝึกบินในหลักสูตรการฝึกนักบิน ณ บริษัท Textron Aviation Defense สหรัฐฯใน Wichita มลรัฐ Kansas ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ ๑๒ กุมภาพันธ์-๑๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๗

หลักสูตรการฝึกนักบินประจำเครื่องบินโจมตีและฝึก AT-6 ของนักบินฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ จำนวน ๘นาย ซึ่งเป็นนักบินรุ่นแรกได้รวมถึงการฝึกภารกิจการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด(CAS: Close Air Support) ในฐานะที่เป็นเครื่องบินโจมตีเบา
ชุดภาพแสดงถึง บ.จฝ.๒๒ AT-6TH 41103 ติดตั้งระบบตรวจจับกล้อง electro-optic/infrared(EO/IR) แบบ WESCAM MX-15Di ภายในโครงสร้างลำตัวอากาศยาน(fuselage airframe) ตรงกลางด้านล่างของเครื่อง ซึ่งมอบขีดความสามารถการค้นหา, ตรวจจับ, ติดตาม และกำหนดเป้าหมาย

ชุดภาพยังแสดงการติดตั้งระเบิดนำวิถี laser แบบ GBU-12 Paveway II ขนาด 500lbs, กระเปาะจรวด LAU-131/A ความจุ ๗นัดสำหรับจรวดอากาศอากาศสู่พื้นแบบ Hydra 70 หัวรบ White phosphorus(WP) แบบ M156 และกระเปาะปืนกลอากาศ FN HMP-400 ขนาด .50cal ความจุกระสุน ๔๐๐นัดด้วย
ก่อนหน้านั้นเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗ นาวาอากาศเอก ปรธร จีนะวัฒน์ ผู้บังคับการกองบิน๔๑ ได้แถลงต่อสื่อของไทยถึงความพร้อมการนำ บ.จฝ.๒๒ AT-6TH เข้าประจำการในฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ โดยคาดว่า ๒เครื่องแรกจะถูกขนส่งมาถึงไทยในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๗ นี้

กองทัพอากาศไทยได้ลงนามสัญญาจัดหาเครื่องบินโจมตีและฝึก บ.จฝ.๒๒ AT-6TH จำนวน ๘เครื่องวงเงิน ๔,๓๑๔,๐๓๙,๙๘๐.๘๐บาท($143 million) เมื่อวันที่ ๑๔ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๔(2021) โดยฝูงบิน๔๑๑ จะได้รับมอบครบ ๘เครื่องภายในปี พ.ศ.๒๕๖๗ นี้(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/at-6th.html)
บ.จฝ.๒๒ AT-6TH ที่มีพื้นฐานจากเครื่องบินโจมตีเบาใบพัด AT-6E Wolverine ยังมีพื้นฐานร่วมกับเครื่องบินฝึกแบบที่๒๒ บ.ฝ.๒๒ Beechcraft T-6TH Texan II(T-6C) ของโรงเรียนการบินกำแพงแสนกองทัพอากาศไทย ที่ได้รับมอบครบจำนวน ๑๒เครื่องแล้วในปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023) (https://aagth1.blogspot.com/2023/08/t-6th.html)

การจัดหาเครื่องบินโจมตีและฝึก บ.จฝ.๒๒ AT-6TH ยังรวมถึงการถ่ายทอดวิทยาการแก่ไทย(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/aeronet-at-6th.html) เช่นเดียวกับเครื่องบินฝึก บ.ฝ.๒๒ T-6TH ที่ประกอบในไทยโดยบริษัทอุตสาหกรรมการบินจำกัด(TAI: Thai Aviation Industries) ไทย 
โดยบริษัท Textron ได้ส่งเครื่องบินโจมตีเบา AT-6E ทะเบียนสหรัฐฯ N610AT ของตนมาที่โรงเรียนการบินกำแพงแสนในจังหวัดนครปฐมของไทย เพื่อใช้ในการทดสอบการบูรณาการระบบต่างๆตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕(2022)(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/at-6e-wolverine.html)

เดิมกองทัพอากาศไทยมองที่จะจัดหาเครื่องบินโจมตีและฝึก บ.จฝ.๒๒ AT-6TH ระยะที่๒ จำนวน ๔เครื่องรวมทั้งหมดเป็น ๑๒เครื่อง อย่างไรก็ตามในสมุดปกขาว RTAF White Paper 2024 ล่าสุดที่เผยแพร่เมื่อวันที่ ๒๙ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๗ ไม่ได้ระบุถึงการจัดหา บ.จฝ.๒๒ AT-6TH เพิ่มเติม
โดยมีเฉพาะการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีใหม่หนึ่งฝูงบินจำนวน ๑๒-๑๔เครื่องทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH Super Tigris และเครื่องบินโจมตีแบบที่๗ บ.จ.๗ Alpha Jet A TH เท่านั้นครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/rtaf-white-paper-2024.html)

วันจันทร์ที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2567

FMV สวีเดนทำสัญญากับ Saab และ GKN เพื่อการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต

Sweden contracts Saab, GKN to chart next-generation fighter development





A model of the Gripen E combat aircraft at Saab's headquarters in Stockholm. With the type set to be in Swedish Air Force service through into the 2040s, the country is now looking at what might come after. (Janes/Gareth Jennings)

สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน(Defence Material Administration, FMV: Försvarets materielverk) ได้ทำสัญญากับบริษัท Saab สวีเดน และบริษัท GKN สหราชอาณาจักร
เพื่อที่จะส่งมอบพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตบนพื้นฐานการศึกษา, การพัฒนาวิทยาการ, และการเตรียมการสำหรับเครื่องบินต้นแบบสาธิต(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/rm12-gripen-cd.html)

ประกาศเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2024 การประกาศสัญญาจะดำเนินการเป็นเวลาสองปีตั้งแต่เริ่มต้นในปี 2024 และสิ้นสุดในปี 2025 "ระหว่างช่วงเวลาถึงปี 2025 กิจกรรมที่จะถูกเริ่มจัดตั้งรวมถึงการสร้างองค์ความรู้
ที่กองทัพสวีเดน(Swedish Armed Forces), สำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์กลาโหมสวีเดน และสำนักงานวิจัยกลาโหมสวีเดน(Swedish Defence Research Agency)" FMV สวีเดนกล่าว

"มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสามารถในการเป็นผู้นำ, การวิเคราะห์ และการประเมินธุรกิจ, ดำเนินการศึกษาและแนวคิดระบบ, และการพัฒนาชุดของความต้องการต่างๆโดยรวม
มากไปกว่านี้ กิจกรรมต่างๆจะสร้างความมั่นใจขีดความสามารถทางอุตสาหกรรมแห่งชาติและองค์ความรู้ผ่านการศึกษา, การพัฒนาวิทยาการ, และการเตรียมการสำหรับเครื่องบินสาธิตภารพื้นดินและทางอากาศ" FMV สวีเดนกล่าว

ในการตอบรับการประกาศสัญญา บริษัท Saab เน้นว่า "เรามีวิทยาการและองค์ความรู้ด้านวิศวกรรมที่ก้าวหน้าที่จะนำแนวคิดเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตให้เดินหน้า" เสริมว่างานการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตจะมีขึ้นพร้อมกับ
การปรับปรุงเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/gripen-c-4.html) และงานเครื่องบินขับไล่ Gripen E ที่กำลังมีขึ้นอยู่(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/saab-gripen-e.html)

บริษัท GKN จะทำงานที่จะพัฒนาการศึกษาแนวคิดสำหรับระบบพลังงานและระบบขับเคลื่อนสำหรับขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต โดยกล่าวว่า
"การศึกษาจะช่วยสร้างการก่อสร้างรากฐานสำหรับระบบต่างๆของเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตและเดินหน้าเส้นทางของนวัตกรรมระบบเครื่องบินขับไล่ที่พัฒนาโดยสวีเดน"

บริษัท GKN Aerospace สหราชอาณาจักรปัจจุบันถือครองการรับรองแบบ(type certificate)สำหรับเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ Volvo Aero RM12 ที่มีพื้นฐานจากเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric (GE) F404 สหรัฐฯในเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D
กองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet) จะประจำการเครื่องบินขับไล่ Gripen C/D จำนวน 60เครื่องของตนไปจนถึงปี 2035 ขณะที่เครื่องบินขับไล่ Gripen E รุ่นล่าสุดจำนวน 60เครื่องจะประจำการต่อไปอย่างน้อยถึงปี 2042 และน่าจะเกินกว่านั้นครับ

วันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2567

พิธีปิดการฝึกผสม Hanuman Guardian 2024 กองทัพบกไทย-สหรัฐฯ
















Royal Thai Army (RTA) and US Army held closing ceremony for the exercise Hanuman Guardian 2024 at RTA tactical training center in Baan Deelang, Phatthana Nikhom District, Lopburi Province, Thailand on 22 March 2024. 
13th Hanuman Guardian exercise was conducted from 11-22 March 2024 in the Kingdom of Thailand. (Royal Thai Army)









CLOSING CEREMONY HANUMAN GAURDIAN 2024
เมื่อวันที่ 22 มี.ค. 67 ณ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก บ้านดีลัง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี พล.ต.เอกอนันต์ เหมะบุตร ผบ.พล.ร.11 และ COL. Andrew Gallo 2-2SBCT commander ร่วมเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม Hanuman Guardian 2024 
ขอบคุณและชื่นชมกำลังพลที่มีความตั้งใจในการฝึก นำไปสู่ความร่วมมือที่ยั่งยืน และพร้อมรองรับภัยคุกคามในสถานการณ์โลก พร้อมเยี่ยมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริงร่วมผสมเหล่าของหน่วยยานเกราะสไตรเกอร์ 
การฝึกผสม Hanuman Guardian 2024 ในครั้งนี้ ถือเป็นครั้งที่ 13 ความสำคัญของการฝึกผสมครั้งนี้ ที่เกิดจากมิตรภาพอย่างยาวนานระหว่าง สองประเทศ นอกจากจะเป็นพื้นฐานของเสถียรภาพความมั่นคงในระดับภูมิภาคแล้ว 
ยังจะนำไปสู่ความต่อเนื่องใน การฝึกและความร่วมมือด้านอื่นๆ เพื่อให้กองทัพมีความสามารถและพร้อมรองรับภัยคุกคามในสถานการณ์โลก ทุกรูปแบบ 
ทั้งนี้ก่อนพิธีปิด ได้ตรวจเยี่ยมการฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง CALFEX ของหน่วยยานเกราะสไตรเกอร์ ณ พื้นที่การฝึกเนิน 129 บ้านดีลัง ร่วมชมการยิงในพื้นที่เป้าหมาย และยุทธวิธีการรบผสมเหล่า 
สำหรับการฝึกผสม Hanuman Guardian 2024 ในปีนี้จัดขึ้นในระหว่าง 11 มี.ค.- 22 มี.ค. 67 ณ พื้นที่ฝึก จ.ลพบุรี มีการแลกเปลี่ยนในหลากหลายรูปแบบ ถือเป็นความร่วมมือ และความสำเร็จอันงดงามในการพัฒนาทั้งระดับบุคคลและระดับหน่วยของกองทัพบกไทยและสหรัฐฯ. 

กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) และกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ได้ทำพิธีปิดการฝึกร่วมผสมรหัส HANUMAN GUARDIAN 2024 ณ ศูนย์ฝึกทางยุทธวิธีกองทัพบก บ้านดีลัง อำเภอพัฒนานิคม จังหวัดลพบุรี เมื่อวันที่ ๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
การฝึกผสม Hanuman Guardian 2024 ที่มีพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/hanuman-guardian-2024-open.html) ในพื้นที่จังหวัดลพบุรีเป็นการฝึกครั้งที่๑๓ ได้เสร็จสิ้นในระหว่างวันที่ ๑๑-๒๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๗

การฝึกครอบคลุมหลายด้านรวมถึงการดำรงชีพในป่า(Jungle Survival), การฝึกแลกเปลี่ยน(CTX)การรบระดับหมู่ปืนเล็ก(Squad Battle Drills), การฝึกยิงปืนใหญ่ลากจูง M777 ขนาด 155mm กองพันที่๒ กรมปืนใหญ่สนามที่๑๗(2nd Battalion, 17th Field Artillery Regiment) กองทัพบกสหรัฐฯ
และปืนใหญ่เบากระสุนวิถีโค้งแบบลากจูงขนาด 105mm แบบที่๑ LG1 Mk III กองพันทหารปืนใหญ่ที่๑๑(11th Artillery Battalion), กรมทหารปืนใหญ่ที่๑ รักษาพระองค์, กองพลที่๑ รักษาพระองค์(1st Artillery Regiment, 1st Division Royal Guard) กองทัพบกไทย

การฝึกสุนัขทหาร(MWD: Military Working Dog) ศูนย์การสุนัขทหาร(MDC: Military Dog Center) กรมการสัตว์ทหารบก(Veterinary and Remount Department), การรบในพื้นที่สิ่งปลูกสร้าง(MOUT: Military Operations on Urbanized Terrain) การรบระยะประชิด(CQB: Close Quarters Battle)
กองพันจู่โจมรักษาพระองค์ พัน.จจ.รอ(Ranger Battalion King's Guard) กรมรบพิเศษที่๓ รักษาพระองค์  รพศ.๓(3rd Special Forces Regiment King's Guard) กองพลรบพิเศษที่๑ พล.รพศ.๑(1st Special Forces Division) หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษ(SWCOM: Special Warfare Command) 

การยุทธ์เคลื่อนที่ทางอากาศ(Air Assault) ด้วยเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๖๐ Sikorsky UH-60M Black Hawk กองพันบินที่๙(9th Aviation Battalion), กรมบิน(Aviation Regiment) ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.(AAC: Army Aviation Center) กองทัพบกไทย
เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป UH-60M จากกองพันเฮลิคอปเตอร์จู่โจมที่๒(2nd Assault Helicopter Battalion) กรมบินที่๑๕๘(158th Aviation Regiment) เฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache กองพันโจมตีที่๑(1st Attack Battalion) กรมบินที่๒๒๙(229th Aviation Regiment), กองพลน้อยบินรบที่๑๖(16th CAB: 16th Combat Aviation Brigade) กองพลทหารราบที่๗(7th Infantry Division)

การฝึกยิงกระสุนจริง(LFX: Live Fire Exercise) ยานเกราะล้อยาง Stryker RTA ICV 8x8 กรมทหารราบที่๑๑๒(112th Infantry Regiment) กองพลทหารราบที่๑๑(11th Infantry) กองทัพบกไทย และยานเกราะล้อยาง Stryker 8x8 กองทัพบกสหรัฐ
จากกองพันที่๑ กรมทหารราบที่๑๗(1st Battalion, 17th Infantry Regiment) กองพลน้อยชุดรบ Stryker ที่๒(2nd SBCT: 2nd Stryker Brigade Combat Team) กองพลทหารราบที่๒(2nd Infantry Division) กองทัพบกแปซิฟิกสหรัฐฯ(USARPAC: US Army Pacific) ครับ