วันศุกร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2566

สหรัฐฯอนุมัติการขายเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon แก่แคนาดา

Canada approved for Poseidon MMA


An artist's impression of the Boeing P-8A Poseidon in Royal Canadian Air Force colours and markings. (Boeing)




The Poseidon to replace the ageing Lockheed CP-140 Auroras of the Royal Canadian Air Force. (RCAF)

รัฐบาลสหรัฐฯได้อนุมัติการขายเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลพหุภารกิจ Boeing P-8A Poseidon MMA(Maritime Multimission Aircraft) แก่แคนาดา สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ประกาศ
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้อนุมัติและคาดการณ์การจัดซื้อจัดจ้างในอนาคตของเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon จำนวน 16เครื่องเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2023 การขายซึ่งยังรวมถึงอะไหล่, การฝึก และการสนับสนุน จะมีมูลค่าที่วงเงินประมาณ $5.9 billion

"ข้อเสนอการขายนี้จะเพิ่มการทำงานร่วมกันของกองกำลังทางทะเลของแคนาดากับกองกำลังสหรัฐฯและกองกำลังชาติพันธมิตรอื่นๆ เช่นเดียวกับขีดความสวามารถของพวดตนที่จะสนับสนุนต่อภารกิจของผลประโยชน์ร่วมกัน
นี่จะเป็นการเพิ่มพูนขีดความสามารถสงครามที่มีเครือข่ายเป็นศูนย์กลาง(network-centric warfare)อย่างมีนัยสำคัญสำหรับกองกำลังสหรัฐฯที่ปฏิบัติการทั่วโลกเคียงข้างไปกับแคนาดา" DSCA สหรัฐฯกล่าว

รัฐบาลแคนาดากำลังมองที่จะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon สำหรับความต้องการโครงการอากาศยานพหุภารกิจแคนาดา(CMMA: Canadian Multi-Mission Aircraft)
เพื่อทดแทนเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Lockheed CP-140 Aurora MPA(Maritime Patrol Aircraft) ของกองทัพอากาศแคนาดา(RCAF: Royal Canadian Air Force) ที่มีอายุการใช้งานมานาน

กองทัพอากาศแคนาดาซึ่งปฏิบัติการอากาศยานทางทหารของแคนาดาทั้งหมดวางกำลังเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล CP-140 จำนวน 14เครื่องที่มีพื้นฐานจากเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-3 Orion ซึ่งได้รับมอบเครื่องแรกในปี 1980
แม้ว่าฝูงบินเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล CP-140 จะได้รับการปรับปรุงล่าสุดด้วย datalink แบบ Link 11 และ Link 16 กองทัพอากาศแคนาดากำลังมองที่จะทดแทนในกรอบระยะเวลาปี 2030

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon ได้ถูกทำการบินโดยกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/p-8a-poseidon-2.html),
กองทัพอากาศนิวซีแลนด์(RNZAF: Royal New Zealand Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/p-8a.html), กองทัพอากาศนอร์เวย์(RNoAF: Royal Norwegian Air Force, Luftforsvaret)(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/p-8a-poseidon.html),

กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/p-8a-poseidon.html), และกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2020/06/p-8a-poseidon.html)
และกำลังได้รับการสั่งจัดหาโดยกองทัพเรือเยอรมนี(German Navy, Deutsche Marine)(https://aagth1.blogspot.com/2022/06/p-8a-maws.html) และกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/boeing-p-8a-poseidon.html)

รวมถึงรุ่นเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8I Neptune ได้ถูกทำการบินโดยกองทัพเรืออินเดีย(IN: Indian Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2017/03/tu-142m.html
การเลือก P-8 Poseidon สำหรับโครงการ CMMA ของแคนาดายังจะเป็นการสร้างงานเกือบ 3,000ตำแหน่งและผลผลิตทางเศรษฐกิจวงเงิน $358 million แก่แคนาดาด้วย อ้างอิงจาก Doyletech Corporation กลุ่มนักวิเคราะห์เศรษฐศาสตร์อิสระใน Ottawa แคนาดาครับ

วันพฤหัสบดีที่ 29 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Korean Air เกาหลีใต้ส่งมอบชิ้นส่วนแรกของเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ AH-6i กองทัพบกไทย

Korean Air delivers first AH-6 light attack helicopter fuselage
Korean Air has delivered the first of eight Boeing AH-6 light attack helicopter fuselages to Boeing. Source: Korean Air



Thailand is set to receive eight AH-6i helicopters with delivery for 2024 and 2025 to replace its seven ageing Bell AH-1F Cobras. Source: Boeing

บริษัท Korean Air สาธารณรัฐเกาหลีได้ส่งมอบชิ้นส่วนโครงสร้างลำตัว(fuselage) ชิ้นแรกของเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ AH-6i จำนวน ๘เครื่องแก่บริษัท Boeing สหรัฐฯ
บริษัท Korean Air ได้รับสัญญาจากบริษัท Boeing ในเดือนธันวาคม 2021 สำหรับการผลิตชิ้นส่วนโครงสร้างลำตัว ๘ชิ้นส่วน ซึ่งขณะนี้จะได้รับการทำการประกอบขั้นสุดท้ายกับส่วนโครงสร้างอากาศยาน(airframe) ที่อเมริกาเหนือ

Korean Air ซึ่งมีแผนกการซ่อมบำรุง, ซ่อมแก้ และซ่อมใหญ่(MRO: Maintenance, Repair and Overhaul) และด้านการบินที่ครอบคลุม Korean Air Aerospace Division(KAL-ASD)
ได้ให้การสนับสนุนอากาศยานทางทหารของสหรัฐฯและกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี(Republic of Korea Armed Forces) ในภูมิภาคนี้มาอย่างยาวนาน(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/korean-air-stealth-uav.html)

Korean Air สาธารณรัฐเกาหลีมีส่วนร่วมในระยะยาวของตนมีการผลิตเฮลิคอปเตอร์ โดยได้ผลิตเฮลิคอปเตอร์ MD 500 ในสาธารณรัฐเกาหลีในช่วงปี 1970s-1980s และได้ผลิตและส่งออกโครงสร้างลำตัวสำหรับ ฮ.รุ่นนี้
"ตามความสำเร็จของโครงการนี้ Korean Air วางแผนที่จะร่วมมือกับ Boeing ที่จะขยายการขายต่างประเทศของตนและธุรกิจการพัฒนาและการผลิตอากาศยานใหม่ในอนาคต" Korean Air แถลง

ในงาน Seoul International Aerospace & Defense Exhibition 2021(ADEX 2021) ในนครหลวง Seoul สาธารณรัฐเกาหลี ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๔ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๔(2021)
Korean Air สาธารณรัฐเกาหลีได้ลงนามข้อตกลงกับ Boeing สหรัฐฯ เกี่ยวกับงานการปรับปรุงเฮลิคอปเตอร์และการพัฒนาอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) ใหม่

ทั้ง Korean Air และ Boeing ไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆว่าโครงสร้างลำตัวของเฮลิคอปเตอร์โจมตีเบา AH-6 ทั้ง ๘เครื่องดังกล่าวเป็นสำหรับลูกค้ารายใด
แต่เป็นเข้าใจว่าลูกค้าส่งออกล่าสุดที่มีการประกาศสำหรับเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ ฮ.ลว./อว.๖ Boeing AH-6i คือกองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) ซึ่งมีกำหนดการส่งมอบในช่วงปี พ.ศ.๒๕๖๗-๒๕๖๘(2024-2025)

กองทัพบกไทยได้ลงนามสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ ฮ.ลว./อว.๖ AH-6i Little Bird จำนวน ๘เครื่องในวงเงิน $103,774,884(ประมาณ ๓,๓๔๒,๕๘๙,๐๑๔บาท) ถูกประกาศโดยกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๕(2022)
หลังกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯอนุมัติการขายแก่ไทยในปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019)(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/ah-6i.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/09/ah-6i.html, https://aagth1.blogspot.com/2019/07/boeing-ah-6i.html)

ข้อเสนอการขายเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ AH-6i(International) จำนวน ๘เครื่อง เช่นเดียวกับระบบอาวุธที่เกี่ยวข้อง, อุปกรณ์ และการสนับสนุนที่ได้รับการอนุมัติรวมถึง อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Lockheed Martin AGM-114R Hellfire จำนวน ๕๐นัด,
จรวดอากาศสู่พื้นนำวิถี BAE Systems APKWS(Advance Precision Kill Weapon System) จำนวน ๒๐๐นัด, ปืนกลอากาศ Dillion M134 Mini-Gun หกลำกล้องหมุนขนาด 7.62mm จำนวน ๑๐กระบอก,

ปืนกลอากาศ General Dynamics GAU-19/B Gatling gun สามลำกล้องหมุนขนาด 12.7mm จำนวน ๔กระบอก, จรวดอากาศสู่พื้น Hydra ขนาด 70mm จำนวน ๕๐๐นัด,
กล้องมองกลางคืน(NVG: Night Vision Goggles) จำนวน ๒๐ชุด และกล้องตรวจการณ์และชี้เป้าหมาย WESCAM MX-10Di EO/IR(Electro-Optical/Infrared) จำนวน ๘ระบบ

การจัดซื้อจัดจ้างจะทำให้กองทัพบกไทยจะปลดประจำการเฮลิคอปเตอร์โจมตี ฮ.จ.๑ Bell AH-1F Cobra จำนวน ๗เครื่องที่มีอายุการใช้งานมานานของตนได้  "เฮลิคอปเตอร์ AH-6i เหล่านี้ขีดความสามารถการลาดตระเวนและโจมตีเบาสำหรับการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด
แก่หน่วยปฏิบัติการพิเศษ, หน่วยทหารราบยานเกราะล้อยาง Stryker และหน่วยป้องกันชายแดน" สำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) กล่าว

เฮลิคอปเตอร์โจมตี ฮ.จ.๑ AH-1F Cobra กองพันบินที่๓(3rd Aviation Battalion), กรมบิน(Aviation Regiment), ศูนย์การบินทหารบก ศบบ.(AAC: Army Aviation Center), กองทัพบกไทยที่มีในปัจจุบัน ๗เครื่องนั้น ๔เครื่องแรกเข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๓๔(1991) 
โดยมี ๑เครื่องสูญเสียไปจากอุบัติเหตุในปี พ.ศ.๒๕๔๓(2000) และจัดหาอีก ๔เครื่องที่เคยประจำการในกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ในปี พ.ศ.๒๕๕๕(2012) ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/walkaround-ah-1f-cobra.html)

วันพุธที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Saab สวีเดนเสนอความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมแก่โคลอมเบียสำหรับเครื่องบินขับไล่ Gripen

Saab proposes industrial co-operation as part of Colombian Gripen offer




Gripen versus primary competing platforms. (Janes)



กองทัพอากาศโคลอมเบีย(Colombian Air Force, FAC: Fuerza Aérea Colombiana) กำลังทำงานอีกครั้งเพื่อเดินหน้าการทดแทนฝูงเครื่องบินขับไล่ Kfir(https://aagth1.blogspot.com/2019/06/iai-kfir-ng.html, https://aagth1.blogspot.com/2015/01/kfir.html)
หลังการเลื่อนการคัดเลือกแบบสุดท้ายของเครื่องบินขับไล่ใหม่ในเดือนธันวาคม 2022 เนื่องระบบของรัฐและข้อจำกัดด้านเวลา และบริษัท Saab สวีเดนกำลังทำงานที่จะรวบรวมความชื่นชอบของเครื่องบินขับไล่ JAS-39 Gripen ของตนผ่านความร่วมมือด้านอุตสาหกรรม

กองทัพอากาศโคลอมเบียได้เริ่มการมองหาสำหรับทดแทนการเครื่องบินขับไล่ Kfir เป็นเวลาราวทศวรรษแล้ว และได้สำรวจกาารเสนอสำหรับเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ฝรั่งเศส(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/dassault-rafale.html), เครื่องบินขับไล่ MiG-35 รัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/mig-35.html), 
เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ยุโรป(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/airbus-eurofighter-typhoon.html), เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/f-16v.html) และเครื่องบินขับไล่ Gripen สวีเดน

Mikael Franzén หัวน้าฝ่ายการตลาดและการขายสำหรับแผนกการบิน Saab Aeronautics กล่าวกับ Janes ว่า นอกเหนือจากเครื่องบินขับไล่ Gripen (เครื่องบินขับไล่ JAS-39C/D หรือเครื่องบินขับไล่ JAS-39E/F)
บริษัท Saab ได้เสนอการจัดตั้งความเห็นหุ้นส่วนและขีดความสามารถการผลิตต่างๆภายในประเทศโคลอมเบีย(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/saab-gripen-cd.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/08/saab-gripen.html)

Saab สวีเดนได้มีส่วนร่วมในการหารือกับบริษัทของรัฐบาลโคลอมเบียต่างๆ เช่นบริษัทอุตสาหกรรมการบินโคลอมเบีย CIAC(Corporación de la Industria Aeronáutica Colombiana), บริษัท Indumil และบริษัท Codaltec ในการสำรวจลู่ทางเพื่อการจัดตั้งศูนย์นวัตกรรม
บริษัท Saab ยังตั้งเป้าที่ริเริ่มโครงการวิจัยร่วมหลายอย่าง และนำเสนอระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) ในความเป็นหุ้นส่วนกับภาคอุตสาหกรรมของโคลอมเบีย

ข้อตกลงข้อเสนอชดเชย(Offset) ในสัญญาทางกลาโหมต่างๆโดยทั่วไปจะเกี่ยวข้องกับการบำรุงรักษาและการดำรงสภาพของฝูงบิน แต่ Franzén กล่าวว่าแนวคิดของ Saab จะไปเพิ่มเติมมากกว่านั้น และจัดตั้งฐานทางอุตสาหกรรมด้านการบินในโคลอมเบีย
"เราพยายามที่จะทำความเข้าใจบริษัทต่างๆที่เราทำงานด้วยเสมอ วิสัยทัศน์ของพวกเขา และพวกเขาสามารถพัฒนาได้อย่างไร เพราะว่าถ้าคุณพยายามจะทำบางสิ่งที่แตกต่าง มันจะไม่ได้ผล" เขากล่าว

"เราจะพยายามที่จะทำงานการพัฒนา เราจะยังพยายามทำบางสิ่งที่เหมือนกับสิ่งที่เราทำสำเร็จกับบราซิล ที่ซึ่งเรานำชาวโคลอมเบียไปยังสวีเดนเพื่อฝึกพวกเขาที่ Saab" Franzén กล่าว
ในภูมิภาคละตินอเมริกา บราซิลเป็นลูกค้าส่งออกเพียงรายเดียวสำหรับเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen E/F จำนวน 36เครื่องพร้อมข้อตกลงการถ่ายทอดวิทยาการการสร้างในบราซิลครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/f-39e-gripen-e.html)

วันอังคารที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2566

อินเดียยืนยันจะจัดหาอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B UAV สหรัฐฯ 31เครื่อง

India confirms AoN to acquire 31 MQ-9Bs





India is planning to equip its navy with 15 MQ-9B SeaGuardians while its army and air force could receive eight SkyGuardians each. (General Atomics)

รัฐบาลอินเดียได้เห็นชอบการยอมรับที่จำเป็น(AoN: Acceptance of Necessity) สำหรับการจัดซื้อจัดจ้างระบบอากาศยานนักบินบังคับจากระยะไกล(RPAS: Remotely Piloted Aircraft System) เพดานบินสูงระยะทำการนาน(HALE: High-Altitude Long-Endurance)
แบบ MQ-9B ของบริษัท General Atomics Aeronautical Systems Inc(GA-ASI) สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/mq-9b-skyguardian-uav.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/04/mq-9b-uav.html)

กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าวเมื่อวันที่ 25 มิถุนายน 2023 ว่าสภาการจัดหากลาโหม(DAC: Defence Acquisition Council) ของอินเดียได้เห็นชอบการยอมรับที่จำเป็น AoN เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2023
ที่จะจัดหาระบบอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B จำนวน 31ระบบสำหรับสามเหล่าทัพ กองทัพบกอินเดีย(IA: Indian Army) กองทัพเรืออินเดีย(IN: Indian Navy) และกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force)

ตามแถลงการณ์ 16เครื่องจะเป็นรุ่นอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B SkyGuardian และ 15เครื่องเป็นรุ่นอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B SeaGuardian การประกาศได้มีขึ้นผ่านเครือข่ายสารสนเทศของรัฐบาลอินเดีย สำนักงานสื่อสารสนเทศ(PIB: Press Information Bureau)
Janes เข้าใจว่ากองทัพบกอินเดียและกองทัพอากาศอินเดียจะได้รับมอบในอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B SkyGuardian เหล่าทัพละ 8เครื่อง กองทัพเรืออินเดียจะปฏิบัติการอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B SeaGuardian จำนวน 15เครื่อง

อากาศยานไร้คนขับ MQ-9B จะได้รับการจัดหาผ่านโครงการการขายรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) จากรัฐบาลสหรัฐฯ กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าว
การยอมรับที่จำเป็น AoN ยังรวมถึงการจัดหาสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง ตามข้อมูลกระทรวงกลาโหมอินเดีย รัฐบาลสหรัฐฯได้อ้างอิงราคาประมาณที่ $3.072 billion สำหรับอากาศยานไร้คนขับ MQ-9B และอุปกรณ์

"อย่างไรก็ตามราคาจะได้รับการเจรจาเมื่อการอนุมัตินโยบายของรัฐบาลสหรัฐฯได้ถูกรับ กระทรวงกลาโหมอินเดียจะเปรียบเทียบราคาการจัดหา
ด้วยราคาที่ดีที่สุดที่เสนอโดยบริษัท GA-ASI สหรัฐฯต่อประเทศอื่น การจัดซื้อจัดจ้างกำลังอยู่ในกระบวนการและจะเสร็จสิ้นเป็นไปตามขั้นตอนที่วางไว้" กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าว

ในฐานะส่วนหนึ่งของการจัดซื้อรูปแบบ FMS จดหมายร้องขอ(LoR: Letter of Request) จะถูกส่งให้กับรัฐบาลสหรัฐฯ กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าว
จดหมายจะระบุความต้องการจากกองทัพเรืออินเดีย กองทัพอากาศอินเดีย และกองทัพบกอินเดีย, รายละเอียดต่างๆของอุปกรณ์ และเงื่อนไขของการจัดซื้อจัดจ้างครับ

วันจันทร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2566

กองทัพเรือไทยฝึกการส่งกลับสายแพทย์กับเรือสำราญ Spectrum of the Seas








Royal Thai Navy (RTN) with Thailand Maritime Enforcement Command Center (TMECC), Marine Department (MD), Office of the Search and Rescue Commision of Ministry of Transport (MOT), NATIONAL TELECOM PUBLIC COMPANY LIMITED (NTPLC), National Institute for Emergency Medicine (NIEMS), Thailand Cruise Ship Operators Association and and related agencies conducted Medical Evacuation (MEDIVAC) Pre-Exercise on Royal Caribbean International's Spectrum of the Seas cruise ship, involved Royal Thai Naval Air Division (RTNAD)'s Sikorsky S-76B helicopters on 24 June 2023 at Phuket, Thailand. (Royal Thai Navy)



ผู้บัญชาการทหารเรือ / รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.)ตรวจเยี่ยมการฝึกการส่งกลับสายแพทย์ (MEDIVAC Pre-Exercise) บนเรือสำราญ Spectrum of the Seas สร้างความมั่นใจท่องเที่ยว และความปลอดภัยตามมาตรฐาน IMO

วันที่ 24 มิถุนายน 2566 พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะรองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (รอง ผอ.ศรชล.) พร้อมคณะ ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมและรับชมการสาธิตการฝึกการส่งกลับสายแพทย์ (MEDIVAC Pre-Exercise) 
โดยมีผู้แทนจากกรมเจ้าท่า สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย (สกชย.) กระทรวงคมนาคม บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ สมาคมธุรกิจเรือสำราญไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วม 
โดยได้รับความร่วมมือจาก บริษัท รอยัล คาริเบียน อินเทอร์เนชันแนล (Royal Caribbean International) และเรือ Spectrum of the Sea 

ตามที่รัฐบาลได้มอบหมายให้ ศรชล. เป็นหน่วยในการบูรณาการการปฏิบัติของทุกภาคส่วนเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการท่องเที่ยวทางเรือสำราญ ที่กลับมาให้บริการอีกครั้งหลังสถานการณ์โควิด-19 ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา 
จนถึงปัจจุบันพบว่ามีเรือสำราญเข้ามาในประเทศทั้งทางฝั่งทะเลอันดามันและอ่าวไทย จำนวน 83 เที่ยว นำนักท่องเที่ยวเข้าประเทศกว่า 310,000 คน สามารถสร้างรายได้มากกว่า 1,800 ล้านบาท 
โดย ศรชล. ได้บันทึกข้อมูลนักท่องเที่ยวลงในระบบ Big Data เพื่อประโยชน์ในการดูแลความปลอดภัยและการช่วยเหลือด้านการแพทย์ให้กับนักท่องเที่ยวหากเกิดเหตุฉุกเฉิน
โดยในห้วงที่ผ่านมาได้รับรายงานว่า ศรชล.ได้ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลหลายครั้งและถือได้ว่าเป็นผลงานเชิงประจักษ์ต่อพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ที่สามารถช่วยเหลือผู้ประสบเหตุในทะเลได้อย่างทันท่วงที ในทุกสถานการณ์ 
อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา คณะผู้ตรวจประเมินประเทศสมาชิกองค์การทางทะเลระหว่างประเทศภาคบังคับ (IMO Member State Audit Scheme, IMSAS) ได้เดินทางมาตรวจและรายงานผลการตรวจประเมินฯ 
โดยชื่นชมประเทศไทยที่มีระบบการปฏิบัติงานด้านการขนส่งทางน้ำที่โดดเด่น มีการใช้เทคโนโลยีทันสมัย สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ยกระดับมาตรฐานการขนส่งทางน้ำ สร้างมาตรฐานความปลอดภัยและสิ่งแวดล้อมทางทะเลได้เป็นอย่างดี 
ทั้งนี้ มีสิ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไข (Findings) คือ ประเทศไทยยังไม่มีหน่วยที่ทำการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลสำหรับเหตุการณ์บนเรือโดยสารขนาดใหญ่ 
รวมทั้งยังไม่มีการจัดทำแผนความร่วมมือ (SAR Cooperation Plan) และการฝึกซ้อมกับเรือโดยสารเพื่อทดสอบประสิทธิภาพด้านการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเล 
ซึ่งคณะอนุกรรมการการจัดทำและขับเคลื่อนกลยุทธ์เพื่อดำเนินการตามพันธกรณีระหว่างประเทศของ IMO ได้กำหนดให้ ศรชล. และ สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย (สกชย.) 
เป็นหน่วยงานหลักในการจัดทำแผนความร่วมมือระหว่างผู้ให้บริการด้านการค้นหาและช่วยเหลือเรือโดยสาร โดยปัจจุบัน ศรชล. ได้จัดทำแผนฯ ดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว

การฝึก Medivac ในวันนี้ จึงถือว่าเป็นการปฏิบัติเพื่อให้แผนฯ ดังกล่าว มีความครบถ้วนสมบรูณ์ โดยผลการฝึกฯ ครั้งนี้ นอกจากจะรวมรวมและเสนอไปยังคณะผู้ตรวจประเมินฯ เพื่อให้ทราบถึงการปรับปรุงแล้ว 
ยังเป็นเครื่องยืนยันและแสดงให้เห็นถึงความพร้อมในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในทะเลได้อย่างรวดเร็ว เป็นการสร้างความมั่นใจต่อการท่องเที่ยวทางทะเลของประเทศไทยอีกทางหนึ่งด้วย
“ศรชล. เป็นหน่วยงานหลักในการบูรณาการการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ที่ได้รับการยอมรับในระดับภูมิภาค เพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนของประเทศชาติและประชาชน”

กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) หน่วยงานหลักใน ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ศรชล.(TMECC: Thailand Maritime Enforcement Command Center) ได้ตอบสนองต่อการเติบโตด้านการท่องเที่ยวทางทะเลกับเรือสำราญเพื่อสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัย
ได้จัดการฝึกการส่งกลับสายแพทย์(MEDIVAC: Medical Evacuation) บนเรือสำราญ Spectrum of the Seas ของบริษัท Royal Caribbean International(RCI) สหรัฐซึ่งเป็นเรือสำราญชั้น Quantum Ultra ลำแรก ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดลำดับที่๕ ของโลก เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖(2023)

การฝึกได้รับการดำเนินการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมเจ้าท่า(MD: Marine Department) สำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัย สกชย.(Office of the Search and Rescue Commision) กระทรวงคมนาคม(MOT: Ministry of Transport)
บริษัทโทรคมนาคมแห่งชาติ(NTPLC: NATIONAL TELECOM PUBLIC COMPANY LIMITED) สถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ(NIEMS: National Institute for Emergency Medicine) และสมาคมผู้ประกอบการธุรกิจเรือสำราญไทย(Thailand Cruise Ship Operators Association)

การฝึกการส่งกลับสายแพทย์บนเรือสำราญ Spectrum of the Seas ได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๔ ฮ.ลล.๔ Sikorsky S-76B กองการบินทหารเรือ กบร.(RTNAD: Royal Thai Naval Air Division) กองเรือยุทธการ กร.(RTF: Royal Thai Fleet) เข้าร่วมในการฝึกรับส่งผู้ป่วยด้วย
ทั้งนี้เคยมีข้อมูลว่า ศรชล.มีแผนโครงการจัดหาเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงกู้ภัยทางทะเลเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน ๓เครื่อง วงเงินราว ๔,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($127.66 million) ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗(2024) อย่างไรก็ตามไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติมใดๆในขณะที่เขียนบทความนี้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2566

เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์กองทัพเรือไทยฝึกยิงปืนเรือ Leonardo 76/62 ด้วยกระสุน VULCANO BER




The Warships of Third Naval Area Command (3rd NAC), Royal Thai Navy (RTN) were conducted readiness exercise at Andaman sea on 23 June 2023, 
include naval guns live firing of OPV-552 HTMS Prachuap Khiri Khan the Krabi-class offshore patrol vessel with Leonardo 76/62 Super Rapid Multi Feeding main gun fired VULCANO 76 BER (Ballistic Extended Range) 76mm ammunition,





FFG-458 HTMS Saiburi the Chao Phraya-class frigate and FAC-333 HTMS Phuket the Chonburi-class fast attack craft (gun) also live firing their naval guns. (Royal Thai Navy)

"เพราะภารกิจ ผิดพลาดไม่ได้ จึงต้องหมั่นฝึก หมั่นเตรียมความพร้อม เสมอ'
"ฝึกเตรียมความพร้อม ทัพเรือภาคที่ 3'
เมื่อวานเรือรบขนาดต่างๆ ของทัพเรือภาคที่ 3 ได้ทะยอยกันออกจากท่าเทียบเรือ ฐานทัพเรือพังงา ตั้งแต่เช้ามืด เพื่อเดินทางเข้าพื้นที่ยิงปืนเรือ 
ซึ่งเป็นหนึ่งของการฝึกที่สำคัญที่สุดของการฝึกเตรียมความพร้อม ทัพเรือภาคที่ 3 ประจำปีงบประมาณ 2566 เพื่อดำรงความพร้อมรบขั้นสูงสุดในฝั่งทะเลอันดามัน
เนื่องจากภารกิจหลักของทัพเรือภาคที่ 3 คือการรักษาอธิปไตย และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ดังนั้น ความพร้อมด้านการรบ การยิงปืนประจำเรือ จะต้องมีความความพร้อมขั้นสูงสุด เพราะภารกิจของทัพเรือภาคที่ 3 นั้น จะผิดพลาดไม่ได้

ภาพนี้ แฟนเพจต้องทราบแน่ ว่าเป็นภาพการยิงปืนเรือของ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์
แต่ ภาพนี้มีความพิเศษอีกอย่างครับ
ดูตรงมุมบนซ้าย ลักลักษณะของกระสุนที่พุ่งออกไป มีเศษกระจายออกมา เรียกมันว่า “การสลัดเปลือก” ของลูกปืน 76 mm VULCANO BER (Ballistic Extended Range) 
เอาจริงๆ ชอบมีหลายคนที่เคยอภิปรายกับผมว่า เรือประจวบยิงฮาร์พูนไม่ได้ ที่ติดมาแต่ท่อดัมมี่ ยิงลูก vulcano ไม่ได้แค่เอาป้อมปืนมาใส่แบบนี้เฉยๆ วันนี้คงกระจ่างแล้วนะครับ ว่ามันยิงได้มาตั้งแต่รับมอบเรือนั่นแหละ 
ขอบคุณภาพจาก ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์

การฝึกยิงอาวุธปืน 76/62 มม. SR MF ของการฝึกเตรียมความพร้อม ทรภ.3

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ได้การฝึกยิงอาวุธปืนเรือด้วยกระสุนจริง ระหว่างการฝึกเตรียมความพร้อม กองทัพเรือภาคที่๓(3rd NAC: Third Naval Area Command) นอกชายฝั่งจังหวัดภูเก็ต ในทะเลอันดามัน
ร่วมกับเรืออื่นจากฐานทัพเรือพังงารวมถึง เรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงสายบุรี ได้ฝึกยิงปืนเรือ NG12-1(H/PJ33A) 100mm แฝดสองและปืนกล NG15-2(Type 76A) 37mm แฝดสอง และเรือเร็วโจมตีปืนชุดเรือหลวงชลบุรี เรือหลวงภูเก็ต ฝึกยิงปืนเรือ OTO Melara 76/62 และปืนกล Oto Melara Breda 40/L70 DARDO แฝดสอง
ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการยิงปืนเรือ Leonardo 76/62 Super Rapid Multi Feeding (SR MR) นับเป็นความสำเร็จอีกครั้งหลังจากทำการยิงจริงครั้งแรกของอาวุธปล่อยนำวิถี Harpoon Block 1C ในเดือนมีนาคม ๒๕๖๖(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/harpoon-block-1c.html)

การยิงอาวุธปืนเรือ Leonardo 76/62 SR MR ของ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเรือรบที่สร้างภายในอู่เรือของไทย ล่าสุดเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ยังได้เปิดเผยเป็นครั้งแรกว่าได้ทำการยิงกระสุนลูกปืน VULCANO 76 BER (Ballistic Extended Range) ด้วย
ลูกปืน VULCANO BER ขนาด 76mm เป็นกระสุนไม่นำวิถีระยะไกลที่พื้นฐานพัฒนาจากกระสุนตระกูล VULACANO ขนาด 155mm และขนาด 127mm โดยสามารถทำการยิงโจมตีได้ทั้งเป้าหมายผิวน้ำ เป้าหมายทางอากาศ และสนับสนุนการยิงชายฝั่ง โดยมีระยะยิงไกลถึง 30km 
ใช้ระบบชนวน Multifunction Fuze เช่น Altimetric Fuze(ชนวนความสูง), Proximity Fuze(ชนวนเฉียดระเบิด), Time Fuze (ชนวนเวลา) และ Impact & Delay Impact(ชนวนกระทบแตกและหน่วงเวลา) จึงนับว่า ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเรือที่มีขีดความสามารถการใช้อาวุธที่ทันสมัยมากครับ

วันเสาร์ที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2566

ฝรั่งเศสเปิดตัวต้นแบบอากาศยานไร้คนขับ Aarok UAV ใหม่

Paris Air Show 2023: New MALE UAV prototype unveiled





The Aarok UAV prototype displayed at the Paris Air Show 2023, demonstrated with various French payloads and capabilities. (Janes/Olivia Savage)



บริษัท Turgis & Gaillard ฝรั่งเศสได้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะทำการนาน(MALE UAV: Medium-Altitude Long-Endurance Unmanned Aerial Vehicle) แบบใหม่
ที่เรียกว่าอากาศยานไร้คนขับ Aarok ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2023 ที่จัดขึ้ระหว่างวันที่ 19-25 มิถุนายน 2023 ใน Le Bourget ฝรั่งเศส

บริษัท Turgis & Gaillard ได้พัฒนาต้นแบบอากาศยานไร้คนขับ Aarok MALE UAV ในฐานะทางเลือกที่เหมาะสมมากกว่าต่อระบบแบบเดียวกันอื่นๆอย่างเช่น อากาศยานไร้คนขับ General Atomics MQ-9 Reaper สหรัฐฯ
ซึ่งตรงตามความต้องการของทั้งกองทัพฝรั่งเศสและกองกำลังพันธมิตรของตน(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/ga-asi-mq-9a-reaper-uav.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/07/mq-9-reaper-block-5-uav.html)

Laetitia Hertz ตัวแทนฝ่ายสื่อและการสื่อสารของบริษัท Turgis & Gaillard กล่าวกับ Janes ว่า Aarok ถูกออกแบบให้เป็นระบบพหุภารกิจที่เหมาะสมกับ
ภารกิจข่าวกรอง, ตรวจการณ์, ,และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) เช่นเดียวกับสำหรับภารกิจการโจมตีความรุนแรงสูง(high-intensity) และในฐานะ node การสื่อสารในสนามรบ

ด้วยน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด(MTOW: Maximum Take-Off Weight) ที่เกือบ 5,500kg และความสามารถที่จะบรรทุกได้ถึง 3,000kg(เป็นอาวุธที่ 1,500kg)
ระบบอากาศยานไร้คนขับ Aarok สามารถที่จะติดตั้งด้วยภารกรรมบรรทุกที่หลากหลาย อย่างเช่น ระบบตรวจจับกล้อง electro-optical(EO) แบบ Euroflir 610 ของบริษัท Safran ฝรั่งเศส

และอาวุธนำวิถีความแม่นยำสูงของมัน อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AASM(Armement Air-Sol Modulaire) เช่นเดียวกับระบบอื่นที่หลากหลายอย่าง radar พหุภารกิจ, ระบบตรวจจับสงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) และอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถัง
การบินครั้งแรกวางแผนจะมีขึ้นในฤดูใบไม้ร่วง(เดือนกันยายน-ธันวาคม) 2023 และภายในปี 2025 Aarok UAV จะพร้อมปฏิบัติการ แม้ว่าเรื่องนี้จะขึ้นอยู่กับลูกค้าก็ตาม Hertz กล่าว

Aarok เป็นอากาศยานไร้คนขับ UAV ที่บริษัท Turgis & Gaillard ลงทุนด้วยตนเองที่มีความ modular สูง และมีจุดประสงค์ที่จะแสดงขีดความสามารถของฝรั่งเศส Hertz กล่าว 
เธอเสริมว่าระบบถูกออกแบบเพื่อเสริมมากกว่าจะแข่งขันกับอากาศยานไร้คนขับ Eurodrone(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/eurodrone-uav.html) Aarok UAV มีปีกกว้างที่ 22m ทำความเร็วเดินทางได้ที่ 287mph และทำเพดานบินเดินทางได้ที่ 30,000ft Hertz เสริมครับ

วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2566

Leonardo อิตาลีและ Airbus ลงนามข้อตกลงการฝึกบนพื้นฐานเครื่องบินฝึกไอพ่น M-346

Paris Air Show 2023: Airbus, Leonardo sign training MOU based on M-346 jet





Under an MOU signed on 21 June Airbus and Leonardo will explore future pilot training opportunities based on the M-346 Master AJT aircraft. (Leonardo)



บริษัท Airbus ยุโรป และบริษัท Leonardo อิตาลีเห็นชอบที่จะสำรวจโอกาสการฝึกนักบินในอนาคตร่วมกันบนพื้นฐานเครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า M-346 Master AJT(Advanced Jet Trainer) ในภายหลัง
ทั้งสองบริษัทจะ "ส่งเสริมระบบการฝึกแบบบูรณาการร่วมกัน และศึกษาแนวทางแก้ไขปัญหาในอนาคตที่จะจัดการความท้าทายการครองอากาศ" ตามบันทึกความเข้าใจ(MOU: Memorandum of Understanding) ที่ลงนามเมื่อวันที่ 21 มิถุนายน 2023

บันทึกความเข้าใจ MOU ได้ถูกลงนาม ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2023 ที่ Le Bourget ฝรั่งเศส "ภายใต้ความร่วมมือนี้ทั้งสองบริษัทจะร่วมกันดำเนินการและแสวงหาโอกาสทางธุรกิจ
สำหรับการจัดเตรียมระบบการฝึกขั้นก้าวหน้าที่ยกประโยชน์จากประสบการณ์ที่ได้รับการพิจน์แล้วของเครื่องบินฝึกไอพ่น M-346 ขอบคุณต่อชั่วโมงบินมากกว่า 100,000ชั่วโมงที่ทำไปทั่วโลกโดยเครื่องบิน" แถลงการณ์ร่วมอธิบาย

"Airbus และ Leonardo จะยังสำรวจความสัมพันธ์อันลึกซึ้งและความร่วมือด้านอุตสาหกรรมที่จะร่วมมือกันจัดการในภาคส่วนการฝึกนักบินทางทหารในอนาคต" แถลงการณ์ร่วมเสริม
ตามที่เน้นในการประกาศ ตลาดเครื่องบินฝึกขั้นก้าวหน้าของยุโรปจะทำบัญชีสำหรับการส่งมอบเครื่องบินใหม่มากกว่า 400เครื่องในอีก 20ปีข้างหน้า เสริมด้วยวงเงินเพิ่มเติม 12 billion Euros($13.12 billion) สำหรับการจัดเตรียมการบริการการฝึกนักบินขั้นก้าวหน้า

M-346 ถูกใช้ในฐานะเครื่องบินฝึกขั้นก้าวหน้าในหลายๆกองทัพ ในหลายกรณีไม่เพียงเฉพาะการฝึกนักบินของพวกตนเท่านั้นแต่ยังฝึกนักบินของประเทศพันธมิตรต่างๆด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/m-346.html)
กองทัพอากาศอิตาลี(Italian Air Force, AMI: Aeronautica Militare Italiana) ใช้เครื่องบินฝึกไอพ่น M-346 ณ กองบินที่61(61st Air Wing) ที่ Galatina เพื่อฝึกนักบินสัญชาติอิตาลีของตน

เช่นเดียวกับนักบินชาติเหล่านี้จากอาร์เจนตินา, ออสเตรีย, ฝรั่งเศส, กรีซ, คูเวต, เนเธอร์แลนด์, โปแลนด์, สิงคโปร์, สเปน, สหราชอาณาจักร และสหรัฐฯ
กรีซเพิ่งจะเปิดโรงเรียนการบินนานาชาติของตนเองใน Kalamata ซึ่งจะใช้เครื่องบินฝึกไอพ่น M-346 ในการฝึกนักบินกรีซ และเหล่านักบินจากประเทศอื่นๆ

เครื่องบินฝึกไอพ่นขั้นก้าวหน้า M-346 AJT ยังถูกนำเข้าประจำการในอิสราเอล, โปแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/leonardo-m-346fa-su-22.html), กาตาร์, และสิงคโปร์
เครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตีเบา M-346 Master ยังได้รับการสั่งจัดหาโดยอาเซอร์ไบจานด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/m-346.html)