วันเสาร์ที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2559

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Mi-28N รัสเซียที่เกิดอุบัติเหตุตกในซีเรียอาจจะมีสาเหตุจากความขัดข้องทางเทคนิคของตัวเครื่อง

Russian combat helicopter in Syria may have crashed due to technical malfunction
Rostislav Koshelev/ITAR-TASS
Terrorists can`t have shot down the helicopter they do not have effective air defense weapons
http://tass.ru/en/defense/869959

ฝ่ายประชาสัมพันธ์กระทรวงกลาโหมรัสเซียได้ให้ข้อมูลต่อกรณีที่เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ Mil Mi-28N Night Hunter (NATO กำหนดรหัส Havoc) กองทัพอากาศรัสเซีย(VKS: Aerospace Force)
เกิดอุบัติเหตุตกระหว่างปฏิบัติการรบในซีเรียโดยนักบินประจำเครื่องทั้งสองนายเสียชีวิตเมื่อวันที่ 12 เมษายนว่า กำลังอยู่ในระหว่างการสอบสวนสาเหตุ โดยศพของนักบินทั้งสองนายได้เก็บกู้และส่งมาที่ฐานทัพอากาศ Humaymim แล้ว

ทั้งนี้จากแหล่งข้อมูลในรัสเซียหลายแห่งความขัดข้องทางเทคนิคของตัวอากาศยานน่าจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ
"พวกผู้ก่อการร้ายไม่สามารถจะยิงเฮลิคอปเตอร์ให้ตกได้ พวกนี้ไม่มีระบบอาวุธต่อสู้อากาศยานที่มีประสิทธิภาพพอ มันมีโอกาสน้อยกับระบบอาวุธต่อสู้อากาศยานแบบประทับบ่ายิง(MANPADS: Man Portable Air Defense Systems)ที่มีอายุการใช้งานมากหรือล้าสมัย
ที่พวกผู้ก่อการร้ายมีใช้งานอย่างเช่น 9K32 Strela-2 (NATO กำหนดรหัส SA-7 Grail) และ 9K310 Igla-1 (NATO กำหนดรหัส SA-16 Gimlet) รัสเซีย หรือ HN-5 จีน
ที่จะทำลายเกราะของ ฮ.โจมตี Mi-28N ที่ป้องกันกระสุนปืนใหญ่ขนาด 12.7mm, 14.5mm และ 23mm พร้อมระบบลวงต่อต้าน(Jammer) ได้ ด้วยเหตุนี้ความขัดข้องทางเทคนิคจึงน่าจะเป็นสาเหตุของอุบัติเหตุ"
แหล่งข้อมูลภายในส่วนอุตสาหกรรมความั่นคงของรัสเซียรายหนึ่งกล่าวโดยให้ข้อมูลเสริมอีกว่า หลังจากที่ ฮ.โจมตี Mi-28N เกิดอุบัติเหตุตกในงานแสดง Aviadarts 2015 เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2015 ซึ่งมีนักบินประเครื่องเสียชีวิตหนึ่งนายนั่น
มีการนำชิ้นส่วนประกอบต่างๆชุดใหม่ถูกส่งไปติดตั้งเสริมกับ ฮ.โจมตี Mi-28N ทุกเครื่องหลังจากเหตุการณ์ดังกล่าว

ทั้งนี้ความขัดข้องทางเทคนิค(หรือมักถูกเรียกรวมว่า 'ปัจจัยจากมนุษย์') มักจะเป็นสาเหตุหลักส่วนใหญ่ของการเกิดอุบัติเหตุของเฮลิคอปเตอร์ที่ใช้งานโดยกองทัพต่างๆทั่วโลก
ตามข้อมูลของ Joint Aircraft Survivability Program Office ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯนั้น
กองทัพสหรัฐฯได้สูญเสียเฮลิคอปเตอร์รบระหว่างยุทธการ Iraqi Freedom ในอิรัก และยุทธการ Enduring Freedom ในอัฟกานิสถานรวม 83เครื่อง ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2001 ถึงกันยายน 2009
ซึ่งรวมถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64A Apache และ AH-64D Apache Longbow 68เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1/AH-1W Super Cobra 15เครื่อง

มี ฮ.โจมตี Apache เพียง 11เครื่องหรือร้อยละ16 เท่านั้นที่ถูกยิงตกจากข้าศึก(แม้แต่จากการถูกยิงด้วยกระสุนปืนเล็กยาว AK ขนาด 7.62x39mm)
สาเหตุการสูญเสียที่มาจากความขัดข้องทางเทคนิคและความผิดพลาดของนักบินของ ฮ.โจมตี AH-64 Apache มีเป็นจำนวน 31เครื่องหรือร้อยละ45 นอกนั้นอีก 26เครื่องหรือร้อยละ39 มาจากสาเหตุอื่นๆในสนามรบ
ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่ามี ฮ.โจมตี Apache 42เครื่องหรือร้อยละ61 ที่สูญเสียจากเหตุความขัดข้องทางเทคนิคเป็นสาเหตุหลักมากที่สุด
ในส่วนของเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1/AH-1W Super Cobra ที่กองทัพสหรัฐฯวางกำลังในอิรักและอัฟกานิสถานั้น
มีเพียง 5เครื่องหรือร้อยละ33 ที่ถูกทำลายจากปฏิบัติการรบจากสาเหตุทั้งจากอุบัติเหตุและความขัดข้องทางเทคนิค โดยมี 5เครื่องที่สูญเสียโดยไม่ได้อยู่ระหว่างทำการรบ

รวมแล้วกองทัพสหรัฐฯสูญเสียอากาศยานปีกหมุน 375เครื่องจาก 496กรณี ในอิรักและอัฟกานิสถานตั้งแต่เดือนตุลาคม 2001 ถึงกันยายน 2009
โดยสูญเสียร้อยละ81หรือ 304เครื่องจากหลายสาเหตุ แต่มีเพียงร้อยละ19 หรือ71เครื่องที่เกิดจากการยิงของข้าศึกในสนามรบ
ซึ่งมีทั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ MANPADS และเครื่องยิงจรวดต่อสู้รถถัง RPG-7 เป็นภัยคุกคามหลักของอากาศยานปีกหมุน
อัตราการสูญเสียที่ไม่ได้มาจากข้าศึกโดยตรงรวมเป็น 2.71ต่อ 100,000ชั่วโมงบิน เกินอัตราการสูญเสียจากข้าศึกเพียงเล็กน้อย

ดังนั้นสำหรับกรณีอุบัติเหตุของ ฮ.โจมตี Mi-28N รัสเซียที่ตกในซีเรียล่าสุดนั้น นักวิเคราะห์ทางทหารรัสเซียจึงให้ความเห็นว่าน่าจะมีสาเหตุจากความขัดข้องทางเทคนิคของเครื่องหรือความผิดพลาดของนักบิน
ที่เป็นสาเหตุหลักส่วนใหญ่ของอุบัติเหตุที่เกิดกับอากาศยานปีกหมุนของกองทัพในสนามรบยุคปัจจุบันครับ