วันศุกร์ที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Boeing จะทำการบินเฮลิคอปเตอร์ CH-47 Chinook Block II ด้วยใบพัดรุ่นใหม่ในปี 2016

Boeing to fly new CH-47 Chinook ‘Block II’ rotor blade in 2016
Advanced Chinook Rotor Blade (ACRB) in wind tunnel testing. Boeing

Boeing CH-47 Chinook
https://www.flightglobal.com/news/articles/boeing-to-fly-new-ch-47-chinook-block-ii-rotor-bla-417771/

Boeing สหรัฐฯกำลังพัฒนาใบพัดรุ่นก้าวหน้าใหม่สำหรับเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-47 Chinook Block II ซึ่งใช้ใบพัดคู่หมุนสวนทางกันที่ส่วนหัวเครื่องและท้ายเครื่อง
ใบพัดแบบใหม่ซึ่งต้นแบบเพิ่งสร้างเสร็จในสัปดาห์นี้นั้นจะเพิ่มขีดความสามารถในการบรรทุกของ ฮ.Chinook ขึ้นอีก 2,000lbs หรือ 900kg
ซึ่งทาง Boeing กล่าวว่าจะมีกำหนดการติดตั้งและทดสอบการบิน ฮ.Chinook กับใบพัดแบบใหม่ในปี 2016

การพัฒนาใบพัดแบบใหม่นี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Chinook Block II ของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งคาดว่าจะสามารถเข้าสู่สายการผลิตได้ในช่วงปี 2020s
แม้ว่าจะไม่มีการเปิดเผยข้อมูลการออกแบบปรับปรุงมากนักในขณะนี้ แต่นอกจากการปรับปรุงใบพัดและระบบขับเคลื่อนแล้ว ยังมีการปรับเปลี่ยนถังเชื้อเพลิงภายในตัวเครื่องจาก 6ถังเหลือ 2ถังด้วย
ทาง Boeing และเจ้าหน้าที่ในโครงการของรัฐบาลและกองทัพบกสหรัฐฯกล่าวว่าใบพัดรุ่นใหม่นี้มีความเข้ากันได้กับ ฮ.CH-47F ซึ่งเป็นรุ่นในสายการผลิตปัจจุบัน
โดยทางกองทัพบกสหรัฐฯต้องการจะนำใบพัดรุ่นใหม่มาติดตั้งกับ ฮ.Chinook II ที่ประกอบใหม่จากโรงงานและที่ปรับปรุงจากสายการผลิตเดิมได้ทันที เพื่อลดค่าใช้จ่ายด้านแรงงานคนงาน
"มันจะบินภายในปีหน้า แผนยุทธศาสตร์การบินครั้งแรกสำหรับเครื่อง Block II ถูกทำให้ช้าลง
เนื่องเพราะหลังจากเราประเมินคุณสมบัติของเครื่อง Block II แล้ว เราจะขยายผลให้ดำเนินการได้กับเครื่องรุ่น F ด้วย"
พันเอก Rob Barrie ผู้จัดการโครงการเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงของกองทัพบกสหรัฐฯกล่าว

Chinook Block II เป็นโครงการที่จะทำให้เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงซึ่งออกแบบมานานกว่า 50ปี สามารถปฏิบัติการไปจนถึงปี 2060ได้
ซึ่งทางกองทัพบกสหรัฐฯกล่าวว่า ฮ.Chinook รุ่นเก่าจะเริ่มถูกแทนที่ด้วยเครื่องรุ่นใหม่ภายใต้สายการผลิตเดียวที่จะเริ่มภายในราวปี 2021
ตามที่ทางพันเอก Barrie กล่าว กองทัพบกสหรัฐฯมุ่งหมายที่จะให้เครื่อง BlockII (ซึ่งโครงการยังไม่ได้มีการบันทึกในขณะนี้) สามารถตัดสินใจออกเอกสารขอข้อเสนอได้ในต้นปี 2016
และคาดหวังว่าขั้นตอนการพัฒนาทางวิศวกรรมและการผลิตอีก 4ปี ตามแผนการพัฒนาขั้น Milestone B จะมีการตัดสินใจได้ในไตรมาสที่2ของปีงบประมาณ 2017
"เราพยายามที่จะนำประสิทธิภาพบางอย่างกลับคืนมา โดยหลักคือเรื่องน้ำหนักบรรทุก" พันเอก Barrie กล่าว
ทั้งนี้ทางกองทัพบกสหรัฐฯพยายามที่จะหาแนวทางร่วมกันที่จะให้เครื่องรุ่น CH-47F ที่ใช้ในกองทัพบกสหรัฐฯ และ MH-47G ที่ใช้ในหน่วยบัญชาการปฏิบัติการพิเศษ(USSOCOM:US Special Operations Command)
มีความแตกต่างกันน้อยลงเพื่อลดค่าใช้จ่ายในการสนับสนุนการปฏิบัติการของเครื่องลงด้วย

นาย Stephen Parker รองประธานแผนกเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงของ Boeing และหัวหน้าโครงการ ฮ.Chinook กล่าวว่าทางบริษัทกำลังจะส่งมอบ ฮ.Chinook จำนวน 57เครื่องภายในปีนี้
ซึ่งลูกค้าสำหรับเครื่องรุ่น CH-47F ขณะนี้ก็มีเช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรนต์ และตุรกี ซึ่งดำเนินสายการผลิตในโรงงานที่ Philadelphia มลรัฐ Pennsylvania ใช้เวลาตามการขายแบบ FMS(Foreign Military Sale) 36เดือน
โดย MH-47G เครื่องสุดท้ายสำหรับ USSOCOM ได้ถูกส่งมอบแล้ว และ Chinook HC Mark 6 สำหรับกองทัพอากาศสหราชอาณาจักรเครื่องสุดท้ายจะส่งมอบได้ภายในสิ้นปีนี้
หลังจากที่มีปัญหาล่าช้ามาระยะหนึ่งทาง Boeing ก็เพิ่งลงนามสัญญากับอินเดียในการผลิต ฮ.CH-47F Chinook ให้กองทัพอากาศอินเดียเป็นลูกค้ารายที่ 19 ของ ฮ.ตระกูลนี้
โดยนาย Parker คาดหวังว่าทาง Boeing จะสามารถหาลูกค้ารายใหม่สำหรับ CH-47 ที่จะลงนามจัดหาได้ในอีก 12เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้กองทัพบกสหรัฐฯจะได้รับมอบ CH-47F เครื่องสุดท้ายในปี 2017 แม้ว่าจะไม่มีคำสั่งจัดหาเพิ่มในขณะนี้แต่ทาง Boeing กำลังมองหาความเป็นได้ที่ะได้รับคำสั่งจัดหาเครื่องเพิ่มอีก 150เครื่องเพื่อยืดสายการผลิตได้จนถึงปี 2022
และหวังว่าการสั่งจัดหาเครื่อง Chinook ใหม่จากลูกค้ารายต่างๆเพิ่มเติม จะสามารถทำให้สายการผลิตของโรงงานใน Philadelphia มลรัฐ Pennsylvania ดำเนินการได้จนถึงปี 2030s ครับ