แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Boeing แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Boeing แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568

สิงคโปร์จะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon สหรัฐฯ 4เครื่อง

Singapore announces intent to procure P-8A aircraft



Singapore aims to procure four Boeing P-8A Poseidon aircraft as part of the first phase of the Singapore Armed Forces' refresh of its maritime security capabilities. (Boeing)




The P-8A aircraft will replace the RSAF's ageing fleet of five Fokker 50 maritime patrol aircraft. (Singapore Ministry of Defence)

สิงคโปร์ได้ประกาศว่าตนจะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Boeing P-8A Poseidon เพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force)
การประกาศได้มีขึ้นโดยรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan Chun Sing ตามการเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการสงครามสหรัฐฯ Pete Hegseth ที่ Pentagon สหรัฐฯเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon จำนวน 4เครื่องจะถูกจัดหา "ในระยะที่1 ของการปรับเปลี่ยนใหม่ขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพสิงคโปร์(SAF: Singapore Armed Forces)
ตามที่เพื่อจะเสริมความแข็งแกร่งการหยั่งรู้สถานการณ์ทางทะเลและความสามารถที่ต่อต้านภัยคุกคามใต้ผิวน้ำต่างๆของกองทัพสิงคโปร์" กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025

กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เสริมว่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A จะทดแทนเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA(Maritime Patrol Aircraft) จำนวน 5เครื่องที่มีอายุการใช้งานมานานซึ่งเข้าประจำการในกองทัพอากาศสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 1993

กองทัพสิงคโปร์ยังได้ประเมินค่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Airbus C295 MPA ยุโรป(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/c295-mpa-c295-msa-16.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/01/airbus-c295-mpa-2023.html
ในฐานะการทดแทนที่เป็นได้สำหรับฝูงบินเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA ตามการเปิดเผยโดยอดีตรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Ng Eng Hen ในเดือนมีนาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/invincible-2.html)

ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan การสั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A/B Lightning II ของสิงคโปร์กำลังมีความคืบหน้า ในเดือนมีนาคม 2024 สิงคโปร์ได้ประกาศว่า
ตนจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing) จำนวน 8เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f-35a-8-f-35b-12.html)

ในการเพิ่มเติมต่อเครื่องบินขับไล่ F-35B Lightning II รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off Vertical Landing) จำนวน 12เครื่องที่มีสัญญาจัดหาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/f-35b-stovl.html)
ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan การผลิตของเครื่องบินขับไล่ F-35A/B จำนวน 20เครื่องได้รับการดำเนินการแล้ว โดยโครงการ "เป็นไปตามกำหนดการ" สำหรับการส่งมอบในปลายปี 2026 เป็นต้นไป

Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าสิงค์โปร์มองที่จะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลใหม่ที่มีสมรรถนะเหนือกว่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA ที่จะทำให้กองทัพสิงคโปร์เสริมความแข็งแกร่งมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเลของตน
ที่ยังรวมถึงการลงนามสัญญาจัดหาเรือดำน้ำชั้น Invincible(Type 218SG) เพิ่มเติม 2ลำสำหรับกองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) จากที่สั่งจัดหาแล้ว 4ลำ รวมเป็น 6ลำด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/type-218sg-invincible-2.html)

วันอังคารที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2568

Boeing เสร็จสิ้นการสาธิตขีดความสามารถอากาศยานไร้คนขับ MQ-28A Ghost Bat ออสเตรเลีย

Boeing completes MQ-28 capability demonstrations





The Boeing MQ-28 Ghost Bat Collaborative Combat Aircraft (CCA) is scheduled to begin air-to-air weapons trials in 2025–26. (Boeing)



บริษัท Boeing สหรัฐฯและกองทัพอากาศออสเตรเลีย(RAAF: Royal Australian Air Force) ได้ประกาศการเสร็จสิ้นของการประเมินค่าการสาธิตขีดความสามารถการปฏิบัติการต่างๆ
ของอากาศยานรบทำงานร่วมกัน(CCA: Collaborative Combat Aircraft) แบบ MQ-28 Ghost Bat(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/mq-28a-ghost-bat.html) ที่มีกำหนดจะเริ่มต้นการทดสอบอาวุธอากาศสู่อากาศในปี 2025-2026

กองทัพอากาศออสเตรเลียได้กำหนดให้อากาศยานรบทำงานร่วมกัน MQ-28 Ghost Bat CCA ที่จะ "หลายชุดของด้านการปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องกับภารกิจต่างที่ได้รับการออกแบบ
เพื่อที่จะเสริมและเพิ่มขยายขีดความสามารถต่างๆของระบบอากาศยานแบบที่มีนักบินบังคับที่มีอยู่" บริษัท Boeing กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา

การทดสอบต่างๆได้ถูกดำเนินการภายใต้โครงการการสาธิตขีดความสามารถ 2025(Capability Demonstration 2025) ผลการทดสอบต่างๆได้ยืนยันรับรองความต้องการการปฏิบัติการห้าข้อกำหนด 
และได้เสร็จสิ้นภายในสี่เดือนก่อนหน้ากำหนดการ บริษัท Boeing เสริม ตามข้อมูลของบริษัท Boeing ข้อกำหนดความต้องการต่างๆรวมถึงการสาธิตของขีดความสามารถต่างๆ

ของพฤติกรรมอัตโนมัติต่างๆของระบบและ "การดำเนินการปฏิบัติการภารกิจ", "การปฏิบัติการด้วยอากาศยานหลายเครื่อง(multiship) เพื่อมอบปริมาณการรบจำนวนมาก(combat mass), 
การวางกำลังไปยังฐานทัพอากาศที่ห่างไกลเพื่อทดสอบขีดความสามารถของอากาศยานที่จะปฏิบัติการในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคย(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/f-35a-72.html),

และการทำงานเป็นทีมกับเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Boeing E-7 Wedgetail(https://aagth1.blogspot.com/2022/05/e-7-wedgetail-e-3-awacs.html) ขณะที่บรรลุผล "การหลอมรวมข้อมูลกับ MQ-28 จำนวนหลายเครื่อง, 
และการถ่ายทอดข้อมูลดังกล่าวไปยังระบบอากาศยานที่มีนักบินบังคับ" ในการแถลงข่าวที่ Woomera เมื่อวันที่ 5 กันยายน 2025 รัฐมนตรีอุตสาหกรรมกลาโหมออสเตรเลีย Pat Conroy กล่าวว่าการสาธิตได้รวมถึง 

"เจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ(หนึ่งนาย) ใน E-7 Wedgetail ทำการควบคุม MQ-28 สองเครื่องพร้อมกัน และส่งอากาศยานไร้คนขับเล่านี้ไปในภารกิจของเครื่อง" การทดสอบมุ่งไปที่การประเมินขีดความสามารถตามแผนของ MQ-28
ที่จะเสร็จสี่ก้าวย่างแรกใน 'ห่วงโซ่การรบทางอากาศ'(air combat chain) ที่ประกอบด้วยการค้นหา, ตรึง, ติดตาม และกำหนดเป้าหมาย ด้วยพฤติกรรมอัตโนมัติ, ลดความเสี่ยงของระบบที่มีนักบินต่างๆ ตามข้อมูลจาก Boeing ครับ

วันอาทิตย์ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568

Boeing สหรัฐฯเพิ่มอากาศยานรบไร้คนขับ Ghost Bat ในการเสนอเครื่องบินขับไล่ F-15EX แก่โปแลนด์

MSPO 2025: Boeing adds Ghost Bat CCA to F-15EX bid for Poland







An artist's impression of the Boeing F-15EX Eagle II manned combat aircraft operating in concert with a pair of Boeing MQ-28 Ghost Bat ‘loyal wingmen', as per the company's latest bid to Poland. (Boeing)

บริษัท Boeing สหรัฐฯได้เสริมข้อเสนอของตนสำหรับความต้องการที่เป็นไปได้ของโปแลนด์สำหรับระบบเครื่องบินรบสองเครื่องยนต์ด้วยขีดความสามารถอากาศยานรบทำงานร่วมกัน(CCA: Collaborative Combat Aircraft)
ณ งานแสดงอาวุธยุทโธปกรณ์นานาชาติ MSPO 2025 ใน Kielce โปแลนด์ ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 2-5 กันยายน 2025 ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/boeing-f-15ex-eagle-ii.html)

การส่งเสริมการประชาสัมพันธ์เครื่องบินขับไล่  F-15EX Eagle II ของ Boeing สหรัฐฯแก่กระทรวงกลาโหมโปแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/f-15ex-2026.html, https://aagth1.blogspot.com/2025/03/boeing-f-15ex-lot-2.html)
ในฐานะส่วนหนึ่งของ 'Team Eagle' ร่วมไปกับบริษัท General Electric สหรัฐฯ, บริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักร-สหรัฐฯ และบริษัท Raytheon สหรัฐฯ ณ งานแสดง MSPO 2025

งานแสดง MSPO 2025 ในปีนี้บริษัท Boeing ยังเลือกที่จะส่งเสริมการประชาสัมพันธ์อากาศยานรบทำงานร่วมกัน MQ-28 Ghost Bat CCA ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/mq-28a-ghost-bat.html)
ซึ่งเจ้าหน้าที่ Boeing สหรัฐฯตั้งข้อสังเกตว่าสามารถสร้างความพึ่งพอใจต่อความต้องการของโปแลนด์สำหรับ "จำนวนเครื่องปริมาณมากที่เหมาะสมในค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง" ได้

การพูดคุยในการประชุมโต๊ะกลมสื่อ ณ งานแสดง MSPO 2025 ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่าการพัฒนาธุรกิจนานาชาติของ Boeing สหรัฐฯ Tim Flood ยืนยันว่าอากาศยานรบไร้คนขับ MQ-28 Ghost Bat
(พัฒนาโดยบริษัท Boeing Defence Australia ออสเตรเลีย-สหรัฐฯ และเครือรัฐออสเตรเลีย) ได้ดำเนินการทำการบินทดสอบเป็นจำนวน "หลายร้อย" ครั้งแล้ว

Flood ได้กล่าวไปสู่การเน้นย้ำต่อไปว่า การทดสอบระบบอาวุธอากาศสู่อากาศสำหรับอากาศยานรบทำงานร่วมกัน MQ-28 Ghost Bat CCA มีกำหนดจะมีขึ้นในอีก 12เดือนข้างหน้า
ในการเพิ่มเติมต่อทีมมีคนบังคับ-ไร้คนขับ(MUM-T: Manned-Unmanned Teaming) กับอากาศยานรบแบบมีนักบินบังคับในปี 2026(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/loyal-wingman-uav-mq-28a-ghost-bat.html)

ข้อเสนอของบริษัท Boeing ต่อโปแลนด์มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อความพยายามของกระทรวงกลาโหมโปแลนด์ที่จะปรับปรุงขีดความสามารถของกองทัพอากาศโปแลนด์(Polish Air Force, ISP: Inspektorat Sił Powietrznych) ในเวลาอันสั้นมาก
หลังจากจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา Korea Aerospace Industries(KAI) FA-50 Fighting Eagle จำนวน 48เครื่องในปี 2022(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/fa-50pl-sniper-atp.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/09/fa-50pl.html)

เพื่อเสริมกับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16 C/D Block 52+ จำนวน 47เครื่องที่จะได้รับการปรับปรุงครึ่งอายุ(MLU: Mid-Life Upgrade) เป็นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ F-16V Viper(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/mlu-f-16v-48.html)
และเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II จำนวน 32เครื่องที่กำลังจะถูกส่งมอบในเร็วๆนี้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/f-35-1.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/12/f-35a-husarz.html)

วันอาทิตย์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2568

โปแลนด์มองอาวุธปล่อยนำวิถีพิสัยไกล Spike NLOS อิสราเอลสำหรับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache สหรัฐฯ

Poland eyes Spike NLOS stand-off weapon for Apache







On 28 August, Rafael announced a live-fire test campaign of the Spike NLOS missile aboard the AH-64E Apache Guardian in Poland. (US Army/Rafael)

โปแลนด์กำลังพิจารณาที่จะวางกำลังอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นระยะยิงไกลเกินพิสัยยิงข้าศึก(stand-off) แบบ Rafael Spike NLOS(Non-Line-Of-Sight) อิสราเอล(https://aagth1.blogspot.com/2019/08/spike-nlos-ah-64e.html)
จากกองบินเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache Guardian ที่ตนจะได้รับมอบในเร็วๆนี้(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/ah-64d-8-ah-64e-96.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/08/ah-64e-apache-96.html)

บริษัท Rafael อิสราเอลประกาศเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2025 ว่า การทดลองยิงด้วยกระสุนจริงของการผสมผสานเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Spike NLOS ได้เสร็จสิ้นอย่างประสบความสำเร็จ 
ณ สนามฝึกกองทัพอากาศกลาง Central Air Force Training Range ใน Ustka โปแลนด์ โดยกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) และกองทัพอากาศโปแลนด์(Polish Air Force, ISP: Inspektorat Sił Powietrznych) ด้วยการสนับสนุนของตน

"การรณรงค์ได้ถูกจัดตั้งขึ้นภายใต้การกำกับของกองทัพบกสหรัฐฯ ซึ่งวางกำลังเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache จากกองพลน้อยบินรบที่12(12th CAB: Combat Aviation Brigade) ที่มีที่ตั้งกองบัญชาการใน Ansbach เยอรมนี
มายังโปแลนด์เพื่อการฝึกและการประเมินค่า การฝึกได้รับการเป็นเจ้าภาพโดยกระทรวงกลาโหมโปแลนด์โดยการมีส่วนร่วมจากคณะเสนาธิการทหารกองทัพโปแลนด์(Polish Armed Forces, WP: Wojsko Polskie) และกรมจเรกองทัพอากาศโปแลนด์"

Rafael อิสราเอลกล่าวโดยเสริมว่าผู้สังเกตการณ์จากชาติพันธมิตรต่างๆ 10ประเทศได้รับเชิญเข้าชมการรณรงค์ ร่วมไปกับเหล่าผู้บัญชาการระดับสูงจากกองทัพอากาศนานาประเทศของกลุ่มชาติ NATO ด้วย
ตามการประกาศ การรณรงค์ได้เห็นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Spike NLOS สองนัดทำการยิงจากเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E กองทัพบกสหรัฐฯต่อหลายเป้าหมายทางทะเล ที่บรรลุผลชนเป้าหมายที่ระยะยิง 26km

"เจ้าหน้าที่ทางทหารระดับสูงของสหรัฐฯและโปแลนด์เน้นย้ำว่าการบูรณาการอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Spike NLOS เข้ากับระบบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache เพิ่มขยายการบินปีกหมุนด้วยขีดความสามารถการโจมตีระยะยิงไกลเกินพิสัยยิงข้าศึกที่ถูกเพิ่มขยาย
และการโจมตีความแม่นยำสูง พวกเขาเน้นเพิ่มเติมถึงความเป็นไปได้ของระบบในฐานะส่วนหนึ่งของกองบิน ฮ.โจมตี AH-64E ในอนาคตของโปแลนด์" บริษัท Rafael กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/ah-64e-apache.html)

โปแลนด์กำลังจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E จำนวน 96เครื่องภายใต้ความต้องการโครงการ Kruk(นกกา Raven) ของตน(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/ah-64e-apache-96.html)
โดยที่กำลังพลของโปแลนด์ขณะนี้กำลังทำการฝึกกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64D Apache Longbow กองทัพบกสหรัฐฯ การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E แก่โปแลนด์จะมีขึ้นในปี 2028 และดำเนินไปจนถึงปี 2032

ขณะที่อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น Spike NLOS Mk 5 รุ่นที่ยิงจากยานพาหนะภาคพื้นดินและเรือผิวน้ำจะมีระยะยิงที่ระหว่าง 1-25km(https://aagth1.blogspot.com/2023/11/defense-security-2023-dti-rafale-spike.html)
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Spike NLOS Mk 5 รุ่นยิงจากอากาศปีกหมุนจะมีระยะยิงที่ระหว่าง 1-32km และในรุ่นใหม่ล่าสุดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Spike NLOS Mk 6 จะมีระยะยิงที่ไกลถึง 50km ครับ

วันเสาร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศไทยและสหรัฐฯเสร็จสิ้นการฝึกผสม Enduring Partners 2025























We're thrilled to share just a taste of the incredible action from Enduring Partners 2025!
We're still buzzing from two weeks of intense training, groundbreaking collaborations, and unforgettable moments here in Thailand. 
This video (courtesy of our WORLD CLASS PA team) gives you a quick glimpse into the diverse missions – from high-flying aerial operations and critical ground training to vital cyber defense and humanitarian efforts – all powered by the incredible teamwork between the Royal Thai Air Force and our U.S. National Guard forces.
Get ready to see some serious interoperability in action! More incredible content is on its way, but for now, enjoy this little preview of what Enduring Partners is all about!

The Royal Thai Air Force (RTAF) and U.S.Air Foce (USAF) concluded the third annual Enduring Partners exchange on August 28, 2025 at Korat Air Force Base, Wing 1 in Nakhon Ratchasima, Thailand. 
Enduring Partners builds joint readiness by integrating U.S. and Thai forces in mission areas including ground-controlled interception, cyber, humanitarian aid and disaster relief, tactical air control party, and space.
U.S. aircraft deployed in support of the exchange include two KC-135 Stratotankers from the 141st Air Refueling Wing, Fairchild Air Force Base, Washington and the 151st Wing, Roland R. Wright Air National Guard Base, as well as two UH-60 Black Hawks from the 1st Battalion, 168th General Support Aviation, Joint Base Lewis-McChord, Washington.
RTAF's aircrafts participated with AT-6TH Wolverine light attack aircrafts of 411th Squadron, Wing 41 Chiang Mai for first time; F-16A/B Block 15 OCU/ADF of 103rd Squadron, Wing 1 and F-16AM/BM EMLU of 403rd Squadron, Wing 4 Takhli; and C-130H Hercules of 601st Squadron, Wing 6 Don Muang. (Royal Thai Air Force and US Air Force)

กองทัพอากาศจัดพิธีเปิดการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025
เมื่อวันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม 2568 นาวาอากาศเอก ณัฎฐ์  คำอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ/ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ฝ่ายไทย 
พร้อมด้วย Brigadier General Kenneth A.Borchers, Assistant Adjutant General and Commander, Washington Air National Guard (WA ANG) ในฐานะ Head of Delegation กองอำนวยการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 อย่างเป็นทางการ ณ อาคาร STARFIRE กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
การฝึกผสม ฯ เป็นการฝึกผสมระหว่าง กองทัพอากาศ กับ Washington Air National Guard (WA ANG) โดยการฝึกผสม ฯ ครั้งนี้ WA ANG ได้เชิญ Washington Army National Guard (WA ARNG) และ Utah Air National Guard (UT ANG) นำอากาศยาน เข้าร่วมการฝึกผสม ฯ รวมทั้งได้เชิญ จนท.Air National Guard จากรัฐต่าง ๆ รวมทั้ง จนท.จาก Headquarters National Guard Bureau เข้าร่วมการฝึกผสม ฯ 
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อดำรงความพร้อมรบของผู้เข้ารับการฝึก (Combat Readiness) และพัฒนาขีดความสามารถ ในการปฏิบัติทางอากาศผสม (Interoperability) โดยในการฝึกผสม ฯ ในปีนี้วางแผนจัดภายใต้แนวคิดการปฏิบัติการหลายมิติ (Multidomain Operation Concept : MDO Concept) 
โดยนำผลกระทบที่เกิดขึ้นในการปฏิบัติภารกิจในแต่ละมิติทั้งมิติทางอากาศ มิติทางอวกาศ และมิติทางไซเบอร์ มาบูรณาการสถานการณ์การฝึกผสม ฯ ให้กับการปฏิบัติการทางอากาศ นอกจากนี้ยังมีการฝึกด้านการแพทย์ การฝึกการค้นหาและช่วยชีวิต การฝึกการสถาปนาระบบสื่อสาร การฝึกด้านการส่งกำลังบำรุง และการฝึกด้านการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและบรรเทาภัยพิบัติ 
เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ยกระดับขีดความสามารถ และความพร้อมรบในการปฏิบัติการร่วมกันของกำลังทางอากาศทั้งสองประเทศ ทั้งนี้ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่เข้าร่วมสนับสนุนการฝึกครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความปลอดภัยด้านการบินร่วมกันระหว่างภาครัฐและพลเรือน
โดยการฝึก ENDURING PARTNERS 2025 กำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 29 สิงหาคม 2568 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี กองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และที่ตั้งฐานทัพอากาศดอนเมือง
การฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 นับเป็นอีกก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศ และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทางอากาศ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นคง และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน

F-16 ไทย บินทะยานก้าวข้ามขีดจำกัด ด้วยการเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ (AAR) จากเครื่องบิน Tanker สหรัฐอเมริกา
กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบิน #F16 ขึ้นบินฝึกเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ ( AAR : Air-to-Air Refueling)กับ เครื่องบิน #KC135 จาก Washington Air National Guard (WA ANG) และ Utah Air National Guard (UT ANG) ในการฝึกผสม Enduring Partners 2025 เพื่อดำรงขีดความสามารถของนักบิน และเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติที่จะต้องอาศัยทักษะ ความแม่น และประสบการณ์อย่างสูง 
การเติมเชื้อเพลิงทางอากาศจะช่วยสร้างความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการทางอากาศได้หลายมิติ อาทิเช่น การเพิ่มพิสัยการบิน การเพิ่มเวลาบิน การดำรงความต่อเนื่องในการครองอากาศ เป็นต้น โดยการฝึกฯ ครั้งนี้ได้ทำการร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และประสบการณ์จากผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งเสริมสร้างความร่วมมือในการปฏิบัติการร่วมทางอากาศกับชาติพันธมิตร  
ที่จะตอกย้ำถึงความร่วมมืออันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศไทยและสหรัฐอเมริกา
กองทัพอากาศให้ความสำคัญของทุกการฝึกเพื่อสร้างความพร้อมของกำลังทางอากาศ เพราะประสบการณ์ที่ได้เหล่านี้จะเป็นเครื่องรับประกันว่าภารกิจในการปกป้องความมั่นคงของชาติจะสำเร็จลุล่วงได้เป็นอย่างดี
ภาพโดย : Noppasin Poompo / RTAF Team

คุ้มกันเข้ม Pilot View F-16 Lightning  และ C-130H Lucky ส่งด่วน ยุทธภัณฑ์ ให้ทหารแนวหน้า ในการฝึกผสม Enduring Partners 2025
กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบิน F-16 ฝูงบิน 103 กองบิน 1 พร้อมด้วย C-130H  ฝูงบิน 601 กองบิน 6 ฝึก LOW INTERCEPT พร้อม ฝึกการบินเดินทางต่ำ/การทิ้งบริภัณฑ์ทางอากาศ (Low-Level Airdrop) เพื่อสนับสนุนกำลังส่วนหน้าของไทย และหน่วย Tactical Air Control Party (TACP) จาก Washington Air National Guard สหรัฐอเมริกา  
 การฝึกร่วมกันครั้งนี้ เกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือในโครงการ State Partnership Program ซึ่งเน้นย้ำถึงความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างสองชาติที่ได้ขยายขอบเขตความร่วมมือครอบคลุมหลายมิติ - จากยุทธวิธีการรบ ไปสู่ภารกิจเพื่อมนุษยธรรม และการพัฒนาศักยภาพกำลังพลในทุกระดับ 
โดย หน่วยปฏิบัติการจากทั้งสองประเทศได้ร่วมกัน ออกแบบสถานการณ์ฝึก ซักซ้อม และแลกเปลี่ยนความรู้  เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านความมั่นคงของทั้ง 2 ชาติ ได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ภาพโดย : RTAF / Noppasin poompo

กองทัพอากาศจัดพิธีปิดการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 28 สิงหาคม 2568 นาวาอากาศเอก ณัฎฐ์  คำอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ/ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ฝ่ายไทย 
พร้อมด้วย Brigadier General Kenneth A.Borchers, Assistant Adjutant General and Commander, Washington Air National Guard (WA ANG) ในฐานะ Head of Delegation กองอำนวยการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ฝ่ายสหรัฐอเมริกา ร่วมเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025  ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
การฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 นี้ กองกำลังพลของทั้งสองประเทศได้ทำการฝึกเคียงข้างกัน แบ่งปันความรู้ และเสริมสร้างการทำงานเป็นทีม ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความพร้อมทางยุทธวิธีและการปฏิบัติของกองทัพอากาศเท่านั้น แต่ยังเป็นการตอกย้ำความสัมพันธ์ของมิตรภาพและความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศและกองกำลังของสหรัฐอเมริกาที่เข้าร่วมการฝึกผสมฯ ในครั้งนี้ 
ประกอบกับความเป็นมืออาชีพ และการอุทิศตน กองทัพอากาศจึงมั่นใจได้ว่าจะสามารถเผชิญกับความท้าทายในอนาคตร่วมกันด้วยความไว้วางใจและมั่นใจ สานต่อจิตวิญญาณแห่งความร่วมมือที่ได้สร้างไว้ที่นี่นำไปสู่การมีส่วนร่วมในอนาคต เพื่อความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังของทั้งสองประเทศจะยังคงแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
ในครั้งนี้ Washington Air National Guard (WA ANG) ได้นำอากาศยานและเจ้าหน้าที่ทั้งจาก Air National Guard จากรัฐต่าง ๆ และจาก Headquarters National Guard Bureau นอกจากนั้นยังได้เชิญ Washington Army National Guard (WA ARNG) และ Utah Air National Guard (UT ANG) เข้าร่วมการฝึกผสมฯ ในครั้งนี้ด้วย 
ซึ่งถือได้ว่าเป็นการฝึกผสมฯ ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในบรรดาการฝึกผสมฯ อื่นๆ ภายใต้ State Partnership Program ของทางสหรัฐอเมริกา ซึ่งการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ในปีนี้ได้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 29 สิงหาคม 2568 
ครอบคลุมพื้นที่การฝึกทั้งในพื้นที่ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา กองบิน 2 จังหวัดลพบุรี กองบิน 4 จังหวัดนครสวรรค์ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี และที่ตั้งฐานทัพอากาศดอนเมือง 
นอกจากนี้ กองทัพอากาศยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ในการร่วมวางแผนและบริหารจัดการห้วงอากาศเพื่อให้เกิดประโยขน์ต่อการฝึกโดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาคส่วนอื่นๆ ของประเทศไทย
การฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 นับเป็นอีกก้าวสำคัญของความร่วมมือด้านความมั่นคงและยกระดับขีดความสามารถทางทหารแล้ว ยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศ และกองกำลังพิทักษ์มาตุภูมิทางอากาศ รัฐวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา อันจะนำไปสู่การพัฒนาศักยภาพด้านความมั่นคง และความร่วมมือระหว่างประเทศอย่างยั่งยืน

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) และกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้เสร็จสิ้นการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๙ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) โดยมีพิธีเปิดการฝึกเมื่อวันที่ ๑๗ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ และพิธีปิดเมื่อวันที่ ๒๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ณ กองบิน๑ โคราช ในจังหวัดนครราชสีมาประเทศไทย
การฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2025 เป็นการฝึกครั้งที่๓ แล้วนับจากครั้งแรกการฝึกผสม ENDURING PARTNERS 2023 ระหว่างวันที่ ๑๑-๒๑ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๖(2023)(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/enduring-partners-2023.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/09/enduring-partners-engagement-2023.html)

และครั้งที่สองการฝึกผสม Enduring Partners 2024 ระหว่างวันที่ ๒๙ เมษายน-๑๐ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024)(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/enduring-partners-2024.html) โดยมีส่วนร่วมจากกองกำลังรักษาดินแดนทางอากาศ Washington(WA ANG: Washington Air National Guard) และกองกำลังรักษาดินแดนทางอากาศ Utah(UT ANG: Utah Air National Guard)
ที่ได้นำเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Boeing KC-135R Stratotanker จำนวน ๒เครื่องจากกองบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศที่๑๔๑(141st Air Refueling Wing) ฐานทัพอากาศ Fairchild Air Force Base(AFB) มลรัฐ Washington และกองบินที่๑๕๑(151st Wing) ฐานทัพรักษาดินแดนทางอากาศ Roland R. Wright Air National Guard Base มลรัฐ Utah

การฝึกผสม Enduring Partners 2025 ยังเป็นครั้งแรกที่ได้มีส่วนร่วมจากกองกำลังรักษาดินแดน Washington National Guard กองทัพบกสหรัฐฯ(US Army) ที่ได้นำเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป Sikorsky UH-60M Black Hawk จำนวน ๒เครื่องจาก กองพันที่๑(1st Battalion), กรมบินสนับสนุนทั่วไปที่๑๖๘(168th General Support Aviation), ฐานทัพร่วม Joint Base Lewis-McChord มลรัฐ Washington เข้าร่วม
กองทัพอากาศไทยได้เครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ Beechcraft AT-6TH Wolverine ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ เข้าร่วมเป็นครั้งที่สองต่อจากครั้งแรกในการฝึกผสมทางอากาศ AIR THAISING 2025 กับกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/at-6th-air-thaising-2025.html)

อากาศยานของกองทัพอากาศที่มีส่วนรวมในการฝึกยังรวมถึงเครื่องขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU/ADF ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช และเครื่องขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี ที่ได้รวมถึงการฝึกเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศกับเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-135R กองทัพอากาศสหรัฐฯ
และเครื่องบินลำเลียงแบบที่๘ บ.ล.๘ Lockheed Martin C-130H Hercules ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ดอนเมือง ที่ฝึกร่วมกับชุดควบคุมการรบ(CCT: Combat Control Team) จาก กรมปฏิบัติการพิเศษ อากาศโยธิน ปพ.อย.(SOR: Special Operations Regiment, SFC: Security Force Command) กองทัพอากาศไทย ร่วมกับหน่วย Tactical Air Control Party(TACP) จาก WA ANG ด้วยครับ