วันจันทร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2568

Navantia สเปนเป็นผู้ชนะโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี OPV ทั้ง ๒ลำ








The Royal Thai Navy's Pattani-class Offshore Patrol Vessel (OPV), OPV-511 HTMS Pattani and OPV-512 HTMS Naratiwat. (Royal Thai Navy)
Naval Acquisition Management Office (NAMO), Royal Thai Navy (RTN) issued announcement on winner of bidding for enhanced capabilities to its two Pattani-class OPVs with new Combat Management System (CMS) and related systems for 2,770,790,000 Baht ($85,362,765) on 21 July 2025, is Navantia S.A., S.M.E., a Spanish state-owned shipbuilding company. 

เรื่อง ประกาศผู้ชนะการเสนอราคา ซื้อระบบการรบและระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สําหรับปรับปรุงขีดความสามารถ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ชุด ร.ล.ปัตตานี จํานวน ๒ ลํา โดยวิธีคัดเลือก
ตามที่ กองทัพเรือ ได้มีหนังสือเชิญชวนสําหรับ ซื้อระบบการรบและระบบอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สําหรับปรับปรุงขีดความสามารถ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ชุด ร.ล.ปัตตานี จํานวน ๒ ลํา โดยวิธีคัดเลือก นั้น
อุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนและอาวุธยุทธภัณฑ์ จํานวน ๑ ระบบ ผู้ได้รับการคัดเลือก ได้แก่ บริษัท Navantia S.A. S.M.E. โดยเสนอราคา เป็นเงินทั้งสิ้น ๒,๗๗๐,๗๙๐,๐๐๐.๐๐ บาท (สองพันเจ็ดร้อยเจ็ดสิบล้านเจ็ดแสนเก้าหมื่นบาทถ้วน) รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและภาษีอื่น ค่าขนส่ง ค่าจดทะเบียน และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ทั้งปวง
ประกาศ ณ วันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๖๘

Website ทางการของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ในส่วนการเผยแพร่โครงการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานได้ออกเอกสารเมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) เรื่องการประกาศผู้ชนะการเสนอราคาโครงการซื้อระบบการรบและระบบอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สําหรับปรับปรุงขีดความสามารถเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี จํานวน ๒ลํา โดยวิธีคัดเลือก
เป็นวงเงิน ๒,๗๗๐,๗๙๐,๐๐๐บาท($85,362,765) สำหรับอุปกรณ์เกี่ยวกับอาวุธปืนและอาวุธยุทธภัณฑ์ จํานวน ๑ระบบ ผู้ได้รับการคัดเลือกคือ บริษัท Navantia S.A., S.M.E รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการสร้างเรือของสเปน เอกสารประกาศได้ถูกพบในช่วงต้นเดือนสิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ถูกระบุว่าถูกนำขึ้นสู่ระบบเมื่อวันที่ ๒๓ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘

นี่เป็นความสำเร็จล่าสุดของบริษัท Navantia สเปนกับกองทัพเรือไทย ต่อจากที่ได้รับการประกาศว่าเป็นผู้ชนะในโครงการซื้อระบบอำนวยการรบ ระบบตรวจการณ์ ระบบควบคุมการยิง ระบบอาวุธ และระบบไยโร พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนที่เกี่ยวข้องสำหรับโครงการเพิ่มขีดความสามารถระบบการรบสำหรับการปฏิบัติการทางเรือของเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย เรือหลวงช้าง(ลำที่๓)
โดยวิธีคัดเลือก วงเงิน ๙๐๙,๕๐๐,๐๐๐บาท($27,100,718)(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/navantia-type-071et-lpd.html) ซึ่งกองทัพเรือไทยและบริษัท Navantia ได้มีการลงนามสัญญาซื้อขายอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/navantia-type-071et-lpd.html)

Navantia สเปนเป็นผู้ชนะเหนือ ๕บริษัทที่ถูกระบุในเอกสารโครงการที่ออกเมื่อวันที่ ๘ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๗ ที่กำหนดราคากลาง(ราคาอ้างอิง) จากแหล่งที่มาของราคากลาง(ราคาอ้างอิง) โดยใช้ราคาที่ได้มาจากการสืบราคาจากท้องตลาด จำนวน ๖บริษัท ดังนี้(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/opv.html)
๑.บริษัท Leonardo S.p.A อิตาลี, ๒.บริษัท Thales Nedeland B.V. เนเธอร์แลนด์, ๓.บริษัท Navantia S.A. S.M.E. สเปน, ๔.บริษัท ASELSAN ELEKTRONIK SANAYI TICARET A.S. ตุรกี, ๕.บริษัท SAAB AB สวีเดน และ๖.บริษัท Elbit Naval Systems อิสราเอล

เป็นที่เข้าใจว่าระบบอำนวยการรบ(CMS: Combat Management System) ใหม่ที่จะได้รับการติดตั้งบนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานีทั้ง ๒ลำคือ ร.ล.ปัตตานี และเรือหลวงนราธิวาส นั้นจะเป็นระบบอำนวยการรบ(CMS: Combat Management System) แบบ CATIZ และระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire Control System) แบบ DORNA เช่นเดียวกับการปรับปรุงเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย รล.ช้าง(ลำที่๓)
โดยระบบอำนวยการรบ CATIZ CMS และระบบควบคุมการยิง DORNA FCS ของ Navantia สเปนจะถูกนำมาแทนที่ระบบอำนวยการรบ Atlas Elektronik COSYS และระบบควบคุมการยิง Rheinmetall TMX/EO เยอรมนีที่ เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุด ร.ล.ปัตตานี ทั้งสองลำติดตั้งไว้อยู่เดิม

นี่ยังอาจจะรวมถึงแท่นยิงปืนเรือ Naval Remote Controlled Weapon Station(RCWS) แบบ SENTINEL 30 ขนาด 30mm จำนวน ๒แท่นยิง ของบริษัท EM&E Group สเปนเช่นเดียวกับที่จะติดตั้งบนเรือตรวจการณ์ใกล้ฝั่งชุดเรือ ต.997 สองลำคือ เรือ ต.997 และเรือ ต.998 และเรือยกพลขึ้นบกอู่ลอย รล.ช้าง(ลำที่๓)(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/em-sentinel-30-997.html)
ซึ่งจะแทนที่ปืนกล Denel Land Systems GI-2 ขนาด 20mm จำนวน ๒แท่นยิงแบบควบคุมด้วยมือ manual ที่ติดตั้งบนเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุด ร.ล.ปัตตานี ทั้งสองลำไว้อยู่เดิม โดยระบบอาวุธอื่นๆที่มีบนเรืออยู่แล้วยังรวมถึงปืนเรือ Oto Melara 76/62 จำนวน ๑แท่นยิง แต่ยังไม่ชัดเช่นในขณะนี้ว่าการปรับปรุงขีดความสามารถจะรวมการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ(ASM: Anti-Ship Missile) ด้วยหรือไม่

กองทัพเรือไทยได้สั่งจัดหาเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี จำนวน ๒ลำซึ่งเป็นเรือประเภทเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งแบบแรกของกองทัพเรือไทย สร้างโดยอู่เรือ Hudong-Zhonghua Shipbuilding Group(HZ) ในมหานคร Shanghai สาธารณรัฐประชาชนจีน ร.ล.ปัตตานี และ ร.ล.นราธิวาส ถูกวางกระดูกงูเรือในปี พ.ศ.๒๕๔๖(2003) และ พ.ศ.๒๕๔๗(2004) ตามลำดับ
ร.ล.ปัตตานี และ ร.ล.นราธิวาส ถูกขึ้นระวางประจำการใน กองเรือตรวจอ่าว กตอ.(PS: Patrol Squadron) กองเรือยุทธการ กร.(RTF: Royal Thai Fleet) เมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๔๘(2005) และเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน พ.ศ.๒๕๔๙(2006) ตามลำดับ โดยจีนได้ส่งมอบเรือเดินทางมาถึงไทยโดยที่ไม่ติดตั้งระบบการรบและอาวุธใดๆ ซึ่งกองทัพเรือไทยได้ทำการติดตั้งระบบจากตะวันตกต่างๆแก่เรือในไทย

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานีมีระวางขับน้ำเต็มที่ประมาณ 1,400tonnes และมีความยาวเรือรวมที่ 95.5m ความกว้างเรือรวมที่ 11.6m และกินน้ำลึกที่ 3.3m ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซลแบบ MAN RUSTON 16 RK270 สองเครื่องขับเพลาใบจักรแบบปรับมุมได้ สามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 25knots และมีระยะปฏิบัติการปกติที่ราว 3,500nmi ที่ความเร็วมัธยัสถ์ 15knots 
มีลานจอดและโรงเก็บอากาศยานรองรับเฮลิคอปเตอร์ขนาดเบาเช่น เฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือผิวน้ำแบบที่๑ ฮ.ตผ.๑ Super Lynx 300, เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๔ ฮ.ลล.๔ Sikorsky S-76B หรือ เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๖ ฮ.ลล.๖ Airbus Helicopters H145M ขณะนี้ ร.ล.ปัตตานี และ ร.ล.นราธิวาส ถูกวางกำลังในอ่าวไทยในกองทัพเรือภาคที่๑ ทรภ.๑(1st NAC: First Naval Area Command) และกองทัพเรือภาคที่๒ ทรภ.๒(2nd NAC: Second Naval Area Command) ครับ