US approves proposed F-16 sale to Peru
The Lockheed Martin-built F-16C fighter aircraft. (Lockheed Martin/US Air Force)
กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯได้ให้การอนุมัติสำหรับข้อเสนอการขายรูปแบบ Foreign Military Sale(FMS) ของเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 70 จำนวน 12เครื่องแก่เปรูเป็นวงเงินทั้งหมด $3.4 billion
เอกสารแจ้งอย่างเป็นทางการของสำนักงานความร่วมมือความมั่นคงกลาโหมสหรัฐฯ(DSCA: Defense Security Cooperation Agency) ของกระทรวงการสงครามสหรัฐฯใน Pentagon ต่อสมาชิกสภา Congress สหรัฐฯ
ถึงการอนุมัติข้อตกลงข้อเสนอการขายเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 แก่เปรู ซึ่ง DSCA สหรัฐฯให้เหตุผลพิจารณาว่า "จะไม่เปลี่ยนแปลงพื้นฐานสมดุลทางทหารในภูมิภาค" ตามแถลงการณ์เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2025
"ข้อเสนอการขายจะเพิ่มขยายขีดความสามารถของกองทัพอากาศเปรู(Peruvian Air Force, FAP: Fuerza Aérea del Perú) เพื่อควบคุมอธิปไตยทางน่านฟ้าของตน, ป้องกันชายแดนของตน"
"และดำเนินการปฏิบัติการโจมตีอากาศสู่พื้นความแม่นยำสูงในการสนับสนุนกองกำลังภาคพื้นดินในการปฏิบัติการต่อต้านยาเสพติด(counter-narcotics) และการต่อต้านการก่อการร้าย(counter-terrorism)"
ขณะที่เพิ่มขยายความร่วมมือแบบทางทหารต่อทางทหารระหว่างรัฐบาลสหรัฐฯใน Washington และรัฐบาลเปรูในนครหลวง Lima สำหรับ "หลักพื้นฐานระยะยาวที่ยั่งยืน" DSCA สหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์
ส่วนใหญ่ของข้อเสนอการขายรูปแบบ FMS แก่เปรูมีพื้นฐานอยู่ที่การขายเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว F-16C Block 70 จำนวน 10เครื่องและเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 70 จำนวน 2เครื่อง
ถ้าได้รับการเห็นชอบโดยทางการเปรู ข้อตกลงจะยังรวมเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F110-GE-129 จำนวน 14เครื่อง ซึ่งรวมเครื่องยนต์อะไหล่ 2เครื่องสำหรับการซ่อมและบำรุงรักษา แถลงการณ์ระบุ
ในแง่ของระบบอาวุธต่างๆ ชุดข้อเสนอระบบอาวุธยังรวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง RTX AIM-120C-8 AMRAAM(Advanced Medium-Range Air-to-Air Missile) จำนวน 12นัด
และชุดนำวิถีอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศฝึก CATM(Captive Air Training Missile) ที่เกี่ยวข้อง(https://aagth1.blogspot.com/2025/09/aim-120c-8-amraam.html)
ชุดข้อเสนอระบบอาวุธยังรวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Raytheon AIM-9X Block II Sidewinder จำนวน 12นัด คู่กับลูกฝึก CATM และ "ชุดนำวิถีทางยุทธวิธี" ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงด้วย
ควบคู่ไปกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง AIM-120C-8 AMRAAM และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ AIM-9X Block II Sidewinder เอกสารทางการของ DSCA ยัวรวมรางติดอาวุธนำวิถีแบบ LAU-129 จำนวน 52ราง
ในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลง รางติดอาวุธ LAU-129 จำนวน 48รางจะติดตั้งมาในเครื่องบินขับไล่ F-16C/D Block 70 จำนวน 12เครื่องได้โดยมีรางติดอาวุธอะไหล่ 4ราง แถลงการณ์ระบุ สิ่งที่ไม่ใช่ยุทโธปกรณ์หลัก(Non-MDE: Major Defense Equipment)
ยังรวมถึง กระเปาะชี้เป้าหมายแบบ AN/AAQ-28 Litening, ระบบค้นหาและติดตามเป้าหมาย Infrared Search and Track(IRST) และระบบสงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) แบบ AN/ALQ-254 Viper Shield หรือเทียบเท่าด้วย
ตามข้อมูลจาก Janes World Air Forces กองทัพอากาศเปรูมีประจำการด้วยเครื่องบินขับไล่ MiG-29S(NATO กำหนดรหัส 'Fulcrum-C') จำนวน 6เครื่องจากเดิม 24เครื่อง ที่จัดหาจากเบลารุสและรัสเซียในปี 1997
และเครื่องบินขับไล่ Dassault Mirage 2000 ฝรั่งเศสจำนวน 11เครื่องที่จัดหามาตั้งแต่ปี 1984 รวมถึงเครื่องบินโจมตี Su-25(NATO กำหนดรหัส 'Frogfoot') จำนวน 5เครื่องจากเดิม 18เครื่อง และเครื่องบินโจมตี A-37 Dragonfly จำนวน 20เครื่องครับ