วันเสาร์ที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

ความคืบหน้าโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในปี ๒๕๖๔-๔




Royal Thai Navy's Sikorsky SH-60B Seahawk anti-submarine helicopter of 2 HTMS Chakri Naruebet Flying Squadron, HTMS Chakri Naruebet Flying Unit, was take-off from CVH-911 HTMS Chakri Naruebet helicopter carrier and first firing Mk 46 Mod 5 (with live warhead) anti-submarine torpedo to underwater target at depth 25 meters near Koh Phangan island, Surat Thani Province during Royal Thai Navy (RTN) Annual Exercise 2021 in 2 April 2021.

ภาพการฝึกทิ้งตอร์ปิโด MK 46ในการปฏิบัติการร่วมกันของ เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงรัตนโกสินทร์และอากาศยานเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำ Seahawk

การยิง Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำแบบ Mk 46 Mod 5 จากเฮลิคอปเตอร์ปราบเรือดำน้ำแบบที่๑ ฮ.ปด.๑ Sikorsky SH-60B Seahawk ฝูงบินที่๒ หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/sh-60b-torpedo-mk-46.html) เมื่อวันที่ ๒ เมษายน พ.ศ๒๕๖๔(2021)
เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๔ เป็นครั้งแรกที่ได้มีการยิง Torpedo แบบ Mk 46 พร้อมหัวรบจริงใส่เป้าหมายใต้น้ำ รวมถึงเป็นการแสดงการบูรณาการกำลังอากาศยานของเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ ร.ล.จักรีนฤเบศร และเรือคอร์เวต ร.ล.รัตนโกสินทร์ ที่เป็นเรือควบคุมด้วย
โดยที่สงครามปราบเรือดำน้ำนั้น เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์หรือเรือฟริเกตที่มีลานจอด ฮ.ท้ายเรือจะทำหน้าที่เป็นฐานบินเพื่อรับ-ส่ง ฮ.ปราบเรือดำน้ำ โดยมีเรือควบคุมจะทำหน้าที่ตรวจจับเป้าใต้น้ำจากระยะไกล และสั่งการให้ ฮ.ปด.บินเข้าหาเป้าหมายเพื่อเป็นระบบยิง Torpedo ทำลายเป้าหมายครับ



Royal Thai Army receives three more Mi-17V-5 helicopters from Russia
The Russian Embassy in Thailand announced on 1 April that the RTA received three additional Mi-17V-5s that will supplement seven other similar rotorcraft operated by the service.

การส่งมอบเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๑๗ Mil Mi-17V-5 ชุดล่าสุด  ๓เครื่องจากรัสเซียแก่กองทัพบกไทยเมื่อวันที่ ๒๖ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๔(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/mi-17v-5.html) ตามสัญญาที่สั่งจัดหาหาในปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019) 
ทำให้จำนวนเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๑๗ Mi-17V-5 ที่ประจำการใน กองพันบินที่๔๑ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก รวมเป็น ๑๐เครื่อง ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่ากองทัพบกไทยน่าจะมีความต้องการ ฮ.ท.๑๗ Mi-17V-5 รวมทั้งหมด ๑๒เครื่อง ทำให้น่าจะมีการสั่งจัดหาเพิ่มเติมราว ๒เครื่องในอนาคต
นอกจาก ฮ.ท.๑๗ Mi-17V-5 ที่ปัจจุบันมี ๑๐เครื่อง กองพันบินที่๔๑ กรม บ. ศบบ. ยังมีประจำการด้วยเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๗๒ Airbus Helicopters UH-72A Lakota จำนวน ๔เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไป ฮ.ท.๑๔๕ Airbus Helicopters H145 จำนวน ๖เครื่องครับ




Thailand company's Panus Assembly Co.,Ltd newest R600 8x8 wheeled Infantry Fighting Vehicle (IFV) prototype was certificated by Armament Standard Committee of Ministry of Defense of Thailand in 25 March 2021.

รถเกราะล้อยาง 8X8 คันแรกของไทยที่ผ่านมาตรฐาน กมย.กห.! 
…R 600 นับเป็นรถเกราะล้อยาง 8X8 คันแรกของไทยที่ผ่านคณะกรรมการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์กระทรวงกลาโหม (กมย.กห.) เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา 
ออกแบบสร้างโดยคนไทยโดยบริษัทพนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด โดยในการทดสอบสมรรถนะภาคสนามมีดังนี้ 
... R 600 มีน้ำหนักเปล่า 25 ตัน น้ำหนักบรรทุกสูงสุด 1.5 ตัน มีการวิ่งทดสอบทั้งบนถนนและในภูมิประเทศเช่น วิ่งบนถนนความเร็วสูงสุด 126 กม./ชม. วิ่งบนถนนระยะทาง 507 กม. ใช้น้ำมันไป 314.50 ลิตร (ถังน้ำมันบรรจุ 320 ลิตร) วิ่งในภูมิประเทศ 250 กม. ใช้น้ำมันไป 283 ลิตร 
ระยะเบรก 14.40 เมตรที่ความเร็ว 60 กม./ชม. ระยะเบรก 5.45 เมตร ที่ความเร็ว 40 กม./ชม. วิ่งบนถนนผิวลูกคลื่น 90 เมตร วิ่งข้ามหินใหญ่ละกรวด 90 เมตร ทดสอบข้ามขอนไม้ใหญ่ ระยะทาง 90 เมตร 
ข้ามคอนกรีตสูง 500 มม. ข้ามคูกว้าง 800 มม. ไต่ทางลาดชัน 45 % (ดับเครื่องยนต์ 5 นาที) ไต่ทางลาดชัน 60 % (ดับเครื่องยนต์ 5 นาที) ไต่ลาดเอียง 30 % ลุยบ่อโคลนระยะทาง 90 เมตร ลุยน้ำลึก 1.20 เมตร ระยะทาง 90 เมตร 
ทดสอบยางรันแฟล็ต ที่ความเร็ว 90 กม./ชม.วิ่งได้ 3 กม. ที่ความเร็ว 50 กม./ชม.วิ่งได้ 10 กม. ที่ความเร็ว 25 กม./ชม.วิ่งได้ 37 กม. 
...การทดสอบภาคนามเหล่านี้เป็นไปตามข้อกำหนดของ กมย.กห. และ R 600 สามารถผ่านด่านต่างๆได้โดยดี ทำให้ R 600 สามารถสร้าง-ผลิตเพื่อขายให้กับกองทัพไทยได้ เพื่อร่วมพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ส่งเสริมความมั่นคงยั่งยืนแก่ประเทศชาติ 
นอกจากนี้ยังส่งออกขายให้กับต่างประเทศได้อีกด้วย

ยานเกราะล้อยาง R600 8x8 รถต้นแบบที่พัฒนาโดย บริษัทพนัส แอสเซมบลีย์ จำกัด(Panus Assembly Co Ltd.) ประเทศไทย นั้นมีเปิดตัวและทดสอบสมรรถนะไปตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๖๒(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/defense-security-2019-panus-r600-8x8.html)
โดยได้ผ่านสนามทดสอบยานพาหนะของกองทัพบกไทย(https://aagth1.blogspot.com/2019/08/panus-r600-8x8.html) และถูกนำมาสาธิตให้กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก กองพลนาวิกโยธินชมแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/panus-r600-8x8.html)
R600 8x8 มีราคาเฉพาะตัวรถที่ ๖๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($1,969,800) ถ้าติดตั้งป้อมปืน Remote แบบ NEFER 30mm ของ ASELSAN ตุรกี(https://aagth1.blogspot.com/2019/06/panus-r600-8x8-aselsan-nefer-30mm.html) จะมีราคารวมทั้งคันเป็น ๑๒๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($3,939,540) ครับ








Royal Thai Marine Corps's Paratroopers and Snipers of Marine Reconnaissance Battalion, HMMWV with TOW 2A RF of anti-tank company and BTR-3E1 of armored company of Marine Tank Battalion and Royal Thai Army Oplot-T main battle tank of 2nd Cavalry Battalion, 2nd Infantry Division Royal Guard during Royal Thai Navy Annual Exercise 2021 at Ban Chan Krem, Chanthaburi Province in 9 April 2021. 



การฝึกดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง ในการฝึกกองทัพเรือ ประจำปีงบประมาณ 2564 ณ สนามฝึกกองทัพเรือ บ้านจันทเขลม วันนี้ 9 เมษายน 2564 สารคดีกองทัพเรือ

การฝึกสนธิกำลังดำเนินกลยุทธ์ด้วยกระสุนจริง การฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๔ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข๑๖ บ้านจันทเขลม อำเภอเขาคิชฌกูฏ จังหวัดจันทบุรี เมื่อวันที่ ๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๔(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/blog-post_11.html)
กำลังในการฝึกหลักของกองทัพเรือไทยจากกองพลนาวิกโยธิน ประกอบด้วย กองพันลาดตระเวน พัน.ลว.นย., ยานเกราะล้อยาง BTR-3E1  8x8 กองร้อยยานเกราะ และรถยนต์บรรทุก HMMWV ติดอาวุธปล่อยนำวิถีต่อสู้รถถังTOW 2A RF กองร้อยต่อสู้รถถัง กองพันรถถังนาวิกโยธิน
รวมถึงจากกองทัพบกไทยคือรถถังหลัก Oplot-T กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ และชุดควบคุมการรบ(CCT: Combat Control Team) กรมปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการอากาศโยธิน กองทัพอากาศไทย เป็นการแสดงถึงขีดความสามารถปฏิบัติการร่วมกันเป็นอย่างดีครับ



Gibka-S Mobile Short-Range Surface-to-Air Missile system based on Tigr-M 4x4 vehicle with Igla-S or Verba Man-portable air-defence system (MANPADS)

Igla-S MANPADS missiles of Royal Thai Army.

สอ.รฝ. เล็งจัดหา IGLA-S แทน QW-18! …หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง มีแนวความคิดที่จะจัดหาอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานระยะใกล้เพื่อมาทดแทน QW-18 ที่ซื้อมาจากจีน โดยคาดว่าจะเลือก IGLA-S จากรัสเซีย ซึ่งปัจจุบันมีประจำการและใช้งานอยู่ในกองทัพบก ... 
IGLA-S เป็นอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานระยะใกล้แบบประทับบ่ายิง ที่มีความมุ่งหมายในการยิงทำลายเป้าหมายในรูปแบบต่างๆทั้งในกึ่งเข้าและกึ่งออก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องบินไอพ่น เครื่องบินใบพัด เฮลิคอปเตอร์ รวมถึงเป้าหมายขนาดเล็กเช่น UAV และ Cruise missile 
ภายใต้สภาพแวดล้อมที่ประกอบด้วยสิ่งรบกวนและมาตรการต่อต้านจากฝ่ายตรงข้าม สามารถทำการยิงจากการประทับบ่าทั้งในลักษณะยืนและคุกเข่ายิง สามารถทำการยิงได้จากคูติดต่อ ยานพาหนะทางน้ำ หนองน้ำ ยานยนต์อยู่กับที่หรือเคลื่อนที่ด้วยความเร็วไม่เกิน 20 กม./ชม.  
IGLA-S มีน้ำหนักพร้อมยิง 16.7 กก. ความเร็วเฉลี่ยคงที่ของจรวด 600 เมตร/วินาที มีระยะทำการ 500 - 6,000 เมตร ระดับความสูงของเป้าหมายสูงสุด 3,500 เมตร ต่ำสุด 10 เมตร ระยะเวลาทำลายตัวเอง 13-14.3 วินาที ท่อยิงสามารถรองรับการยิงสูงสุดได้ 5 ครั้ง 
…Photo Sompong Nondhasa

เป็นที่เข้าใจว่า หน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สอ.รฝ.กองทัพเรือไทย มีแนวคิดจะจัดหาอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัย IGLA-S รัสเซีย โดยมีบริษัท Datagate ไทยจะเป็นตัวแทนจำหน่าย แข่งขันกับบริษัท CVIC จีนที่เป็นตัวแทนหน่ายอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ QW-18 เดิม
ภายใต้โครงการจัดหาอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานระยะใกล้แบบเคลื่อนที่( Mobile Short-Range Surface-to-Air Missile on 4x4 vehicles) จำนวน ๕ ชุดยิง วงเงิน ๒๔๖,๐๐๐,๐๐๐บาท($8,205,470)(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/manpads-4x4.html)
ถ้า Igla-S จะถูกจัดหามาทดแทน QW-18 ภายใต้โครงการนี้จริง ยังไม่เป็นที่ทราบถึงแบบรถยนต์เฉพาะการ 4x4 ที่จะเป็นรถแคร่ฐานระบบอัตตราจรว่าอาจะเป็น Dzhigit ที่เป็นไปตามกำหนดร่างขอบเขตของงาน(TOR: Terms of Reference) หรือ Gibka-S บนรถหุ้มเกราะ Tigr 4x4 ที่ทันสมัยกว่าครับ



Royal Thai Air Force's T-50TH of 401st Squadron, Wing 4 Takhli.(https://www.facebook.com/people/Tanapol-Arunwong/100002183542138)

Korea Aerospace Industries (KAI) is reportedly finalizing negotiations with Thailand for two additional T-50TH aircraft.

สื่อเกาหลีใต้ได้รายงานข่าวความคืบหน้าในการเจรจาระหว่างไทยกับบริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลี สำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH Golden Eagle ระยะที่๔ จำนวน ๒เครื่องของกองทัพอากาศไทย
ปัจจุบัน บ.ขฝ.๒ T-50TH จำนวน ๑๒เครื่องเข้าประจำการในฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี และมีแผนที่จะปรับปรุงความทันสมัย อย่างไรก็ตามการระบาดของ Covid-19 ทำให้กองทัพอากาศไทยตัดสินใจยกเลิกโครงการในปี ๒๕๖๓(https://aagth1.blogspot.com/2020/04/t-50th.html)
การเจรจาครั้งนี้ถ้าประสบความสำเร็จจะทำให้ฝูงบิน๔๐๑ มี บ.ขฝ.๒ T-50TH รวม ๑๔เครื่องตามความต้องการโครงการเดิมพร้อมการปรับปรุงความทันสมัย แต่การระบาดของ Covid-19 ระลอกล่าสุดรวมถึงการโจมตีจากผู้ไม่หวังดีต่อชาติน่าจะทำให้มีการตัดสินใจยกเลิกโครงการไปอีกปีก็ได้ครับ