Challenger 3 - the British Army's new main battle tank is coming
A major upgrade of the British Army’s main battle tank featuring extra
firepower and cutting-edge protection systems will ensure the UK remains at
the forefront of tank design, poised to respond to future global threats and
challenges.
การปรับปรุงหลักรถถังหลัก Challenger 3 ของกองทัพบกสหราชอาณาจักร(British Army)
มีคุณสมบัติการเพิ่มอำนาจการยิงและระบบป้องกันที่ล้ำสมัย
ที่จะทำให้มั่นใจว่าสหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ในแนวหน้าของการออกแบบรถถัง
พร้อมที่จะตอบสนองต่อภัยคุกคามและความท้าทายต่างๆทั่วโลกในอนาคต(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/bae-systems-challenger-2-lep-black-night.html,
https://aagth1.blogspot.com/2018/02/challenger-2.html)
สัญญาที่มีขึ้นกับบริษัท Rheinmetall BAE Systems Land(RBSL)
สหราชอาณาจักร-เยอรมนีเพื่อส่งมอบรถถังหลัก Challenger 3 จำนวน 148คัน
จะยืดอายุการประจำการของรถถังหลักรุ่นนี้ไปจนถึงปี 2040
สัญญาจะมีงานที่ต้องการทักษะ 200ตำแหน่งที่ RBSL รวมถึงวิศวกร
130ตำแหน่งและช่างเทคนิค 70ตำแหน่ง งานเพิ่มเติม
450ตำแหน่งจะถูกตั้งขึ้นตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานที่กว้างขว้างทั้งที่ West
Midlands, Glasgow, Newcastle จนถึง Tyne และ Isle of Wight
รถถังหลัก Challenger 3 ยังเสนอโอกาสความเป็นไปได้สำหรับการส่งออก
และจะสนับสนุนการแสดงตัวอย่างสำหรับการมีส่วนร่วมของสหราชอาณาจักรในโครงการรถถังนานาชาติใดๆในอนาคต
การปรับปรุงยกเครื่องความทันสมัยรถถังหลัก Challenger 3 จะรวมถึง:
-ปืนใหญ่รถถังลำกล้องเรียบขนาด 120mm
ซึ่งสามารถใช้กระสุนมีอยู่ทั่วโลกที่ก้าวหน้าที่สุดส่วนใหญ่ได้
-ชุดกล้องเล็งใหม่ที่ทำให้ผู้บังคับรถได้รับการเพิ่มขยายขีดความสามารถการชี้เป้าหมายทั้งกลางวันและกลางคืน
-เกราะป้องกันแบบ modular ใหม่
-ระบบป้องกันเชิงรุก(APS: Active Protection System)
-ป้อมปืนที่สามารถติดตั้งกับรถถังของชาติพันธมิตรและหุ้นส่วนทั่วโลก
รองหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารกองทัพสหราชอาณาจักร พลโท Chris Tickell CBE กล่าวว่า
"การทบทวนการบูรณาการอธิบายการเปลี่ยนแปลงกองทัพบกที่มีจะมีอำนาจการสังหารมากขึ้น,
การป้องกันดีขึ้น และการเชื่อมโยงที่ดีกว่าคู่แข่งเปรียบเทียบใดๆของมัน
รถถังหลัก Challenger 3
เป็นการแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงนั้นอย่างแท้จริงและจะนั่งอยู่ในหัวใจขีดความสามารถการทำสงครามของเรา
ระบบสถาปัตยกรรมเปิด digital
ของมันจะทำให้มั่นใจว่ามันจะได้รับการบูรณาการตลอดทั้งสนามรบ
ระบบอาวุธหลักของมันจะเหนือกว่าฝ่ายตรงข้ามของมัน
และกำลังพลประจำรถจะได้รับระดับการป้องกันที่เป็นเอกลักษณ์
มันเป็นผู้ชนะในสนามรบ"
ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกลาโหมสหราชอาณาจักร(Dstl: Defence Science and
Technology Laboratory) James McGeary กล่าวว่า "การออกแบบสำคัญที่เปลี่ยนแปลงใน
Challenger 3
มอบเส้นทางการเติบโตที่จะเพิ่มการเสนออำนาจการสังหารที่ได้รับการเพิ่มขยายพร้อม
ทางเลือกการเติบโตเหล่านี้จะทำให้มั่นใจว่า
สหราชอาณาจักรจะยังคงอยู่ในแนวหน้าของการออกแบบรถถังหลัก
และสามารถที่จะปรับตัวและตอบสนองต่อภัยคุกคามและความท้าทายต่างๆในอนาคต"
ปัจจุบันรถถังหลักได้ถูกคุกคามโดยระบบต่างๆมากขึ้นกว่าก่อนหน้า
และนี่ทำให้สหราชอาณาจักรทำการพัฒนาสิ่งใหม่ เกราะ modular
ที่จะเอาชนะแม้แต่ภัยคุกคามที่มีสมรรถนะมากที่สุด
ตามที่ส่วนประกอบของการป้องกันเป็นชั้นของ ถ.หลัก Challenger 3
จะยังเป็นกำลังรบแรกที่ได้รับระบบป้องกันเชิงรุก APS ที่ดีที่สุด
ทำให้สามารถจำแนกภัยคุกคามที่เข้ามาและทำลายมัน
รถถังหลัก Challenger 3 จะได้รับการเข้าสู่การทดสอบแม่เหล็กไฟฟ้าเต็มรูปแบบ
เพื่อให้มั่นใจว่ามันจะอยู่รอดในสนามรบที่เต็มไปด้วยระบบตรวจจับที่มีขีดความสามารถมากที่สุด
เกราะ modular
ใหม่ชั้นนำของโลกได้รับการพัฒนาผ่านวิทยาการเกราะชั้นที่มอบโดยหัวหน้าที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์(CSA:
Chief Scientific Advisor) ที่ได้รับทุนความเชี่ยวชาญด้านเกราะภายใน Dstl
Dstl เป็นเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา(IP: Intellectual Property)
ได้สร้างความสนใจอย่างมากและถูกใช้ประโยชน์ผ่านการเชื่อมโยงปิดที่ Dstl
มีกับกระทรงกลาโหมสหราชอาณาจักรและภาคอุตสาหกรรม
รถถังหลัก Challenger 3 จะนำกองกำลังยานเกราะ NATO
ด้วยอำนาจการสังหารและความอยู่รอดระดับสูงสุดในสนามรบของปัจจุบันและถึงปี 2040
ความสำเร็จนี้ไม่เพียงมาจากเฉพาะการใช้ปืนใหญ่รถถังใหม่
แต่ยังมาจากการใช้กระสุนขั้นก้าวหน้าที่ที่มีอยู่แล้วจากพันธมิตรทั่วโลกของเรา
ชุดกล้องเล็งใหม่ทำให้ผู้บังคับรถมีขีดความสามารถการล่าสังหาร(hunter killer)
อย่างอิสระทั้งกลางวัน/กลางคืนทุกกาลอากาศ
ทำให้พวกเขาจะตรวจจับและโจมตีเป้าหมายได้เร็วกว่าฝ่ายตรงข้ามที่เป็นไปได้
รถถังหลัก Challenger 3 ยังได้รับการออกแบบให้มีส่วนร่วมในสงครามหลายภาคส่วน
ขณะที่ยังคงขีดความสามารถที่จะปฏิบัติการการในสภาพแวดล้อมชายฝั่ง(ระหว่างแผ่นดินและทะเล)
ในการสนับสนุนกองกำลังคอมมานโดอนาคต(Future Commando Force)
รถถังหลัก Challenger 3 จะได้รับการติดตั้งด้วยแกนหลัก digital
เชื่อมโยงกับรถรบอื่นๆที่รวมกันเป็นกองพลน้อยสู่รบ
สามารถแบ่งปันข้อมูลทั่วทั้งภาคส่วนและส่งมอบข้อมูลความคืบหน้าและสร้างการบูรณาการหลายภาคส่วนและขอบเขตเหนือกว่าฝ่ายตรงข้าม
ด้วยการออกแบบ modular
มอบความสามาถชุดความอยู่รอดที่ได้รับการเพิ่มขยายแก่ผู้บัญชาการปฏฺบัติการของการดำเนินการใดๆต่อภัยคุกคามในสนามรบที่จะต้องเผชิญทั่วโลก
สรุปแล้ว รถถังหลัก Challenger 3
ใหม่ที่ได้รับการปรับปรุงของกองทัพบกสหราชอาณาจักรจะเต็มไปหมัดที่แท้จริงและแสดงให้เห็นถึงขีดความสามารถการปรับปรุงทั่วไปหลัก
มันจะเป็นขีดความสามารถตลอด 24ชั่วโมง, ทุกกาลอากาศ, เคลื่อนที่, เกราะป้องกัน,
แม่นยำ, ยิงตรง, กลยุทธต่อต้านยานเกราะ อย่างเดียวของกลาโหมสหราชอาณาจักร
และจะเป็นขีดความสามารถกลาโหมที่สำคัญที่จะมอบพลังอันหนักหน่วง,
ปักหมุดความน่าเชื่อถือของเราในภาคพื้นดิน
และเน้นย้ำความมุ่งมั่นของเราต่อพันธมิตรของเราครับ
