Thailand company's CHAISERI was displayed its First Win Armoured Fighting Vehicle (AFV)
4x4 at Bangkok International Motor Show 2021 during 24 March to 4 April 2021.
(unknow photos source)
V-150 4x4 of 34th Border Patrol Police Division on border security patrol at
Mae Sot District, Tak Province in 25 December 2021. (Royal Thai Police)
Thai Government's Fiscal Year 2023 Budget Expenditure Document show Border
Patrol Police Bureau (BPP), Royal Thai Police (RTP) to procurement for 46 of
Chaiseri's First Win AFV 4x4 from FY2023-FY-2025 total value 920,000,000 Baht
($26,704,904)
CHAISERI First Win AFV 4x4 was registered as Thai Innovation Account for
Defense Materials in June 2021.
จากเอกสารงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ในส่วน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(RTP: Royal Thai Police) หัวข้อ
การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงภายในประเทศ การลงทุนในส่วน
ครุภัณฑ์นวัตกรรมไทย-ด้านยุทโธปกรณ์ความมั่นคง
สำหรับ กองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน บช.ตชด.(Border Patrol Police Bureau)
ได้ระบุถึงแผนการจัดซื้อ รถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี(Armoured Fighting
Vehicle) จำนวน ๔๖คัน เป็นวงเงินรวมทั้งสิ้น ๙๒๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($26,704,904)
โดยผูกพันงบประมาณปี พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๖๘(2023-2025) แบ่งเป็นปีงบประมาณ ๒๕๖๖ วงเงิน
๑๘๔,๐๐๐,๐๐๐บาท($5,340,980), ปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๗(2024) และปีงบประมาณ
พ.ศ.๒๕๖๘(2025) วงเงินปีละ ๓๖๘,๐๐๐,๐๐๐บาท($10,681,962) ไม่มีรายละเอียดเพิ่มเติม
จากการระบุว่ารถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี AFV จำนวน ๔๖คันที่
ตํารวจตระเวนชายแดนไทยจะจัดหามีราคาที่คันละ ๒๐,๐๐๐,๐๐๐บาท() พอดี
และเป็นครุภัณฑ์ด้านยุทโธปกรณ์ความมั่นคงที่ถูกขึ้นทะเบียนอยู่ในรายชื่อบัญชีนวัตกรรมไทย
ทำให้น่าจะเป็นที่ชัดเจนว่า
เป็นการจัดหา รถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี รุ่น First Win AFV(Armoured
Fighting Vehicle) 4x4 ในตระกูลรถหุ้มเกราะล้อยาง First Win 4x4
ที่ออกแบบและผลิตโดย บริษัท ชัยเสรี เม็ททอล แอนด์ รับเบอร์ จำกัด(Chaiseri
metal & rubber Co. Ltd.) ไทย
ซึ่งรถเกราะล้อยาง First Win AFV 4x4
ได้รับการขึ้นทะเบียนในรายการนวัตกรรมไทยในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๔(2021)
หลังผ่านการทดสอบเพื่อการรับรองมาตรฐานยุทโธปกรณ์ของกระทรวงกลาโหมไทย(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/chaiseri-first-win-ii-4x4.html)
ด้านยุทโธปกรณ์ความมั่นคง: ครุภัณฑ์ยุทโธปกรณ์ความมั่นคง รหัส :
13020012
ชื่อสามัญของผลงานนวัตกรรมไทย : รถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี
(Armoured Fighting Vehicle)
ชื่อทางการค้าของผลงานนวัตกรรมไทย : ชัยเสรี (CHAISERI)
หน่วยงานที่พัฒนา : บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
ผู้จำหน่าย : บริษัท ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
หน่วยงาน บริษัท หรือผู้ขึ้นบัญชีนวัตกรรมไทย : บริษัท
ชัยเสรีเม็ททอลแอนด์รับเบอร์ จำกัด
ช่วงเวลาที่ขึ้นทะเบียน : มิถุนายน ๒๕๖๔ - มิถุนายน ๒๕๗๒ (๘ ปี
2021-2029)
คุณสมบัตินวัตกรรม :
รถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี รุ่น First Win AFV แบบ 4x4
สามารถแก้ไขปัญหาโดยการออกแบบห้องเครื่องด้านหลัง
สามารถระบายความร้อนที่เกิดจากชุดกำเนิดกำลัง และสามารถป้องกันกระสุน
และสะเก็ดหัวกระสุนไม่ให้เข้าไปทำลายรังผึ้งหม้อน้ำ
และให้ความปลอดภัยจากฝุ่นละอองไม่ให้เข้าไปทำให้แผงระบายความร้อนของหม้อน้ำอุดตัน
และได้ทำการปรับปรุงโดยการออกแบบช่องดูดอากาศด้านบน
และช่องระบายความร้อนด้านหลัง
มีลักษณะเป็นช่องทางอากาศผ่านเข้าจากด้านบนและออกด้านหลังผ่านช่องระบายความร้อนขนาดใหญ่
ด้วยแรงพัดออกของพัดลมห้องเครื่อง
สามารถแก้ไขปัญหาความร้อนที่เกิดจากสันดาปของเครื่องยนต์ได้ดีกว่าห้องเครื่องแบบเดิมได้
และได้พัฒนาตัวกระดองรถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี รุ่น First Win AFV
4x4 ด้านใต้ท้องรถเป็นรูปตัวอักษรวี (V - SHAPE)
เพื่อให้แรงระเบิดสามารถกระจายออกทางด้านข้าง
เป็นแบบที่เหมาะสมกับการใช้งานในทางยุทธการ
คุณลักษณะเฉพาะ
๑. คุณลักษณะเฉพาะในการใช้งาน
เป็นรถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี 4x4 สามารถใช้บรรทุกกำลังพล
พร้อมสัมภาระได้ ๙ (๘+๑) นาย และ/หรือภารกิจอื่น ๆ
มีความแข็งแรงทนทานต่อสภาพการใช้งานในพื้นที่ ที่มีการโจมตี
และวางระเบิดแสวงเครื่อง สามารถปฏิบัติงานในพื้นที่ได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
ตามภารกิจที่กองทัพบกมอบให้อย่างมีประสิทธิภาพ
๒. คุณลักษณะเฉพาะในทางเทคนิค
๒.๑ เครื่องยนต์ (ENGINE)
๒.๑.๑ เครื่องยนต์ดีเซล ยี่ห้อ Caterpillar
๒.๑.๒ แรงม้าสูงสุด 246 kW (330 HP) ที่ ๒,๔๐๐ รอบ/นาที
๒.๑.๓ แรงบิดสูงสุด 1,166 N-m ที่ ๑,๔๔๐ รอบ/นาที
๒.๒ เครื่องเปลี่ยนความเร็ว (TRANSMISSION) ยี่ห้อ ALLISON
๒.๒.๑ แบบอัตโนมัติ
๒.๒.๒ ความเร็วเดินหน้า ไม่น้อยกว่า ๖ ระดับความเร็ว
๒.๒.๓ ความเร็วถอยหลัง ไม่น้อยกว่า ๑ ระดับความเร็ว
๒.๓ เครื่องเพิ่มเพลาขับ (TRANFER CASE)
๒.๓.๑ มีอัตราทด ๒ ความเร็ว คือ ย่านความเร็วสูง (HIGH) และย่านความเร็วต่า
(LOW)
๒.๓.๒ สามารถส่งกำลังขับเคลื่อนทุกล้อ (4x4) แบบตลอดเวลา (FULL TIME)
หรือระบบขับเคลื่อนแบบ 4x4 Lock
๒.๔ เพลาล้อ (AXLE)
๒.๔.๑ มีเพลาล้อหน้า (FRONT AXLE) จำนวน ๑ เพลา พร้อมชุดเฟืองทดที่ปลายเพลาและ
มีระบบล็อกเฟืองท้าย (Differential lock)
๒.๔.๒ มีเพลาล้อหลัง (REAR AXLE) จำนวน ๑ เพลา
พร้อมชุดเฟืองทดที่ปลายเพลาและมีระบบ ล็อกเฟืองท้าย (Differential lock)
๒.๔.๓ พลขับสามารถควบคุมทางานของระบบล็อกเฟืองท้าย (Differential lock)
ตามสภาพการขับดังนี้
๑) ระบบล็อกเฟืองท้าย (Differential lock)
เฉพาะเพลาหลังเพื่อให้ระบบบังคับเลี้ยวทำงานได้
๒) ระบบล็อกเฟืองท้าย (Differential lock) เฉพาะเพลาหน้าและหลัง
๒.๕ ยางและกงล้อ
๒.๕.๑ ใช้ยางเดี่ยวแบบไม่มียางในขนาด 395/85 R 20 พร้อมวงยางในแบบตัน (RUN
FLAT) จำนวน ๔ ล้อ
เมื่อยางปราศจากความดันลมยังสามารถรับน้ำหนักรถและเคลื่อนที่ต่อไปได้ไม่น้อยกว่า
50 km ตามมาตรฐาน FINABEL 20.A.5
๒.๕.๒ ดอกยางสามารถใช้งานบนถนนและในภูมิประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ
๒.๕.๒ กงล้อ ขนาด 20"
๒.๕.๔ มีระบบเติมลมและปล่อยลมยางล้อจากภายในรถ
เพื่อวิ่งใช้งานบนถนนและเข้าพื้นที่ดินอ่อนลุ่ม หรือดินทราย
๒.๖ ระบบบังคับเลี้ยว
๒.๖.๑ พวงมาลัยติดตั้งทางด้านขวาของตัวรถ
๒.๖.๒ มีเครื่องช่วยผ่อนแรงการบังคับเลี้ยวแบบไฮดรอลิค (POWER STEERING)
๒.๖.๓ รัศมีวงเลี้ยว ซ้าย/ขวา ไม่เกิน 8.50 m
๒.๗ ระบบช่วงล่าง
๒.๗.๑ ระบบช่วงล่างคอยล์สปริงปีกนกอิสระ (Double wishbone coil spring
independent suspension) ทั้งเพลาหน้า และเพลาหลัง
๒.๗.๒ มีระบบกันสะเทือน (shock absorber)
๒.๘ ระบบไฟฟ้า (ELECTRICAL SYSTEM)
๒.๘.๑ แรงเคลื่อนไฟฟ้ามีขนาด 24 V
๒.๘.๒ มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้ากระแสสลับ (ALTERNATOR) ขนาดไม่น้อยกว่า 24 V 200
A
๒.๘.๓ มีแบตเตอรี่ตามมาตรฐานทางทหาร (MIL – PRF - 32143)
ที่มีแรงเคลื่อนไฟฟ้าขนาด 12 V ความจุ 120 A - ชั่วโมง จำนวน ๒ หม้อ
๒.๘.๔ ระบบไฟฟ้าสามารถรองรับการใช้งานกับเครื่องมือสื่อสารทางทหารได้
๒.๘.๕ ระบบไฟฟ้าป้องกันคลื่นรบกวน (EMI/EMC) ตามมาตรฐานทางทหาร MIL- STD - 461
F
๒.๙ ระบบห้ามล้อ (BRAKE SYSTEM) เป็นแบบแรงดันลมร่วมกับน้ามัน
และมีระบบป้องกันล้อล็อค (ANTI-LOCK BRAKE SYSTEM (ABS)) ทั้ง 4 ล้อ
และมีระบบห้ามล้อมือ (Parking brake)
๒.๑๐ ตัวกระดองรถ (HULL) เป็นเหล็กเกราะเชื่อมขึ้นรูป (MONOCOQUE)
ทำด้วยแผ่นเหล็กเกราะป้องกันกระสุน และระเบิด ดังนี้
2.10.1 หลังคารถทาด้วยเหล็กเกราะป้องกันกระสุน (ARMORED STEEL)
มีช่องทางออกบนหลังคา ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่เล็กกว่า 600 มิลลิเมตร
พร้อมฝาครอบและขาตั้งปืนกล ขนาด 5.56 หรือ 7.62 หรือ 12.7 มิลลิเมตร
หรือปืนกลหลายลากล้อง M134 แบบใดแบบหนึ่ง
ป้อมปืนหมุนเคลื่อนที่ได้ 360 องศา โดยใช้เฟืองเกียร์ทดช่วยผ่อนแรงในการหมุน
(สามารถติดตั้งปืนกลอัตโนมัติ (RCWS) เป็นรายการเผื่อเลือก)
๒.๑๐.๒ กระดองรถด้านหน้า ด้านหลัง ด้านข้าง
ทั้งห้องเครื่องยนต์และห้องโดยสารทาด้วยเหล็ก
เกราะป้องกันกระสุน (ARMORED STEEL) ป้องกันกระสุนได้ระดับ STANAG 4569 LEVEL
2 มีช่องยิงสาหรับสอดลากล้องปืนออกนอกกระดองรถ สามารถเปิด - ปิด
ช่องยิงได้อย่างรวดเร็ว 7 ช่อง
๒.๑๐.๓ กระดองรถด้านใต้ท้องรถทำด้วยเหล็กเกราะป้องกันระเบิด (ARMORED STEEL)
อัดขึ้นรูปเป็นตัวอักษรวี (V)
สามารถต้านแรงระเบิดจากการถูกระเบิดให้กระจายออกด้านข้าง ทนแรงระเบิดได้ระดับ
STANAG 4569 Lv 2
๒.๑๐.๔ กระจกด้านหน้า ด้านข้าง
และด้านหลังเป็นกระจกใสพิเศษมองผ่านได้อย่างปกติ
กระจกทุกบานใส่อยู่ในกรอบเหล็กเกราะยึดติดกับตัวกระดอง กรณีกระจก แตก ร้าว
หรือเป็นฝ้า สามารถยกถอดเปลี่ยนได้ทั้งกรอบ ด้วยการถอดสกรูออก
กระจกป้องกันกระสุนระดับ STANAG 4569 Lv 2
(ยกเว้นกรณีที่ถูกยิงซ้ำที่มีระยะห่างน้อยกว่า 10 cm)
๒.๑๐.๕ มีที่นั่ง ๙ (๘+๑) นาย รวมพลขับ
เป็นเบาะฟองน้ำหุ้มด้วยหนังสีดำพร้อมเข็มขัดนิรภัยมีจุดยึด ๕ ตำแหน่ง
ที่นั่งทั้งหมดมีชุดสปริงลดแรงกระแทกจากการถูกระเบิด
๒.๑๐.๖ มีประตูทาง เข้า - ออก ๓ บาน ด้านซ้าย, ด้านขวา, ด้านหลัง
และทางออกบนหลังคา
๒.๑๐.๗ มีบันไดขึ้น - ลง ๒ ระดับ บันไดตัวล่าง สามารถพับขึ้นได้
กรณีใช้งานในภูมิประเทศที่เป็นหลุมบ่อ
๒.๑๑ สมรรถนะ (ไม่มีน้าหนักบรรทุก)
๒.๑๑.๑ ความเร็วสูงสุดบนถนน ไม่น้อยกว่า 100 km/h
๒.๑๑.๒ ไต่ลาดชันได้ ไม่น้อยกว่า 60%
๒.๑๑.๓ ไต่ลาดเอียงได้ ไม่น้อยกว่า 30%
๒.๑๑.๔ ข้ามเครื่องกีดขวางได้สูง ไม่น้อยกว่า 500 mm
๒.๑๑.๕ ระยะปฏิบัติการบนถนน ไม่น้อยกว่า 600 km
๒.๑๑.๖ บรรทุกน้ำหนักได้ ไม่น้อยกว่า 1,500 kg
๒.๑๒ มีระบบปรับอากาศ สามารถปรับระดับแรงลม และความเย็นได้ จำนวน ๑ ชุด
๒.๑๓ มีกล้องสำหรับมองภาพด้านหลัง พร้อมจอภาพ จำนวน ๑ ชุด
๒.๑๔ มีพัดลมดูดควันปืนออกจากภายในห้องโดยสารของรถได้อย่างรวดเร็ว
ติดตั้งบนหลังคา จำนวน ๑ ชุด
๒.๑๕ มีถังน้ำมันเชื้อเพลิง ติดตั้งภายในกระดองรถ บรรจุได้ไม่น้อยกว่า ถังละ
100 litre จำนวน ๒ ถัง
๒.๑๖ มีถังเก็บลมและแม่ปั้มเบรค ติดตั้งอยู่ภายในกระดองรถ จำนวน ๑ ชุด
๒.๑๗ มีหม้อแบตเตอรี่แบบมาตรฐานทางทหาร (MIL - PRF - 32143)
สำหรับใช้กับยานยนต์รบ ขนาด 12 V ความจุ 120 Ah จำนวน ๒ หม้อ
๒.๑๘ ระบบไฟฟ้า 24 V สามารถใช้กับเครื่องมือสื่อสารทางทหารได้
มีเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดกระแสสลับ (ALTERNATER) แรงเคลื่อน 24 V ขนาด 200
A
๒.๑๙ สีตัวรถ เป็นสีกากีแกมเขียว หรือตามราชการกำหนด
๒.๒๐ มีหนังสือคู่มือ ชื่อ และหมายเลขชิ้นส่วนต่างๆ ของทุกระบบ
รวมทั้งคู่มือซ่อม (ภาษาอังกฤษ) ๔ คัน ต่อชุด
และคู่มือการใช้งานภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ คันละ ๑ เล่ม
๓. คุณลักษณะในการออกแบบ
๓.๑ ขนาดต่าง ๆ ของรถ
๓.๑.๑ ความยาวของตัวรถ ประมาณ 6,090 mm
๓.๑.๒ ความกว้างของตัวรถ ประมาณ 2,596 mm
๓.๑.๓ ความสูงของตัวรถ ประมาณ 2,560 mm
๓.๑.๔ ระยะต่ำสุดสูงจากพื้น ประมาณ 480 mm
๓.๑.๕ ความยาวช่วงล้อ ประมาณ 3,420 mm
๓.๑.๖ มุมถึงลาด (หน้า) ประมาณ 38 degree
๓.๑.๗ มุมถึงลาด (หลัง) ประมาณ 38 degree
๔. ข้อกำหนดอื่นๆ
๔.๑ เป็นของผลิตใหม่ไม่เคยใช้งานมาก่อน ยกเว้นการทดสอบจากโรงงานผู้ผลิต
อยู่ในสภาพเรียบร้อยและสามารถใช้งานในราชการได้ทันที
๔.๒ มีหูหิ้วยึดโยงสาหรับเคลื่อนย้ายทางอากาศ ทางเรือ ทางรถไฟ
และรถเทเลอร์
๔.๓ กว้านประจำรถ ติดตั้งอยู่หลังกันชนหน้า มีคุณลักษณะเฉพาะดังนี้
๔.๓.๑ ให้กำลังฉุดลาก 18,000 lbs
๔.๓.๒ ความยาวลวดสลิงกว้าน ไม่น้อยกว่า 20 m ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง ไม่น้อยกว่า
12.7 mm
๔.๔ ชุดเครื่องมือประจำรถ
๔.๔.๑ มีชุดเครื่องมือประจำรถ จำนวน ๑ ชุด
๔.๔.๒ มีแม่แรงขนาด 10 ton พร้อมด้าม จำนวน ๑ ชุด
๔.๔.๓ มีประแจถอดล้อ จำนวน ๑ ชุด
๔.๔.๔ มีหัวเติมลมยางพร้อมมาตรวัดแรงดันลมและสายยาง จำนวน ๑ ชุด
๔.๔.๕ มีอุปกรณ์ใช้ลากจูง (Tow Bar) แบบ ๒ ก้าน รูปตัววี (V) จำนวน ๑
ชุด
๔.๔.๖ มีถังน้ำมันอะไหล่ ขนาดบรรจุ 20 litre จำนวน ๒ ถัง
๔.๔.๗ มีเครื่องมือโยธาสนามพร้อมกล่องเหล็ก ติดตั้งอยู่ด้านข้างของตัวรถ จำนวน
๑ ชุด
๔.๔.๘ มียางอะไหล่พร้อมกะทะล้อ และวงยางในแบบตัน (Run Flat)
(ไม่ติดตั้งกับตัวรถ) จำนวน ๑ วง
๔.๔.๙ มีเหล็กหนุนล้อกันรถไหล (Wheel Choke) จำนวน ๒ อัน
๔.๕ ฐานสำหรับติดตั้งวิทยุสนาม และฐานเสาอากาศ จำนวน ๑ ชุด
ราคา: ๒๐,๐๐๐,๐๐๐.๐๐ บาท/คัน ($580,541.40 per Vehicle)
เป็นที่เข้าใจว่ารถเกราะล้อยางใช้ต่อสู้ทางยุทธวิธี Chaiseri First Win AFV 4x4
จะถูกนำมาทดแทนรถเกราะล้อยาง 4x4 แบบ Cadillac Gage V-150 Commando
ที่มีประจำการในหลายๆ กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน บก.ตชด.(Border Patrol
Police Region) ภาค๑, ๒,๓ และ๔
ซึ่งรถเกราะล้อยาง V-150 4x4 ที่มีประจำการใน กองกำกับการตํารวจตระเวนชายแดน
กก.ตชด.(Border Patrol Police Division)
ในพื้นที่จังหวัดตามแนวชายแดนทั่วประเทศไทยนั้น
เป็นรถที่มีอายุการใช้งานมานานและเริ่มล้าสมัยแล้ว
จึงจำเป็นต้องมีการทยอยทดแทนด้วยรถใหม่ซึ่งผลิตภายในไทย
ขณะที่รถเกราะ V-150 4x4 ติดป้อมปืนแบบมีพลบังคับภายพร้อมปืนกลหนัก M2 .50cal
และปืนกลร่วมแกน MG3 7.62mm NATO รถเกราะ First Win AFV 4x4
ที่จัดแสดงจะติดป้อมปืน Remote Weapon Station ตระกูล IMI WAVE อิสราเอลพร้อม M2
.50cal และปืนกล FN MAG 7.62mm ครับ
