แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ OV-10 แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ OV-10 แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2565

เครื่องบินขับไล่ Gripen กองทัพอากาศไทยแสดงสมรรถนะในวันสถาปนากองบิน๗ ครบรอบ ๔๐ปี































40 Yeras of Pride Wing 7 Speed Up Development to the Future
Royal Thai Air Force (RTAF) Saab Gripen C/D of 701st Squadron and Saab 340 Erieye AEW&C(Airborne Early Warning and Control) of 702nd Squdron show their performance at 40th anniversary of founding Wing 7 Surat Thani
alongside with static ground displayed of historic retired aircrafts North American Rockwell OV-10C Bronco and Northrop F-5E Tiger II on 15 September 2022. (Wing 7, Royal Thai Air Force)

กองบิน 7 จัดพิธีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 40 ปี
นาวาอากาศเอก พุทธพงศ์  ผลชีวิน ผู้บังคับการกองบิน 7 พร้อมด้วย คุณธนภร  ผลชีวิน ประธานชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 7, อดีตผู้บังคับการกองบิน 7, ข้าราชการ, ลูกจ้าง, พนักงานราชการ, ทหารกองประจำการ และสมาชิกชมรมแม่บ้านทหารอากาศ กองบิน 7 
ร่วมพิธีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 40 ปี กองบิน 7 โดยมีการบินแสดงสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่แบบที่ 20/ก (Gripen 39 C/D) และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือน แบบที่ 1 (Saab 340 AEW)  
พิธีสักการะพระบิดากองทัพอากาศไทย และพิธีสมโภชพระพุทธมหาเมตตา โดยมี นายสุทธิพงษ์  คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี 
พร้อมด้วย พลตำรวจตรี สาธิต  พลพินิจ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี, นายวิสูตร  อินทรกำเนิด นายอำเภอพุนพิน, หัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานรัฐวิสาหกิจและเอกชนภายในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ผู้นำชุมชนท้องถิ่น และคณะครู-นักเรียนในพื้นที่บริเวณใกล้เคียง กองบิน 7 
ร่วมเป็นเกียรติในพิธีฯ ณ กองบิน 7 ตำบลมะลวน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2565

แรกเริ่มกองบิน๗ ถูกจัดตั้ง ณ อ่าวจุดเสม็ด อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๔(1951) มีการปรับปรุงโครงสร้างกองทัพอากาศใหม่เป็น กองบินน้อยที่๗ เมื่อวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๔๙๔ ต่อมามีการยุบเลิกกองบินภาคและจัดตั้งกองบินยุทธการขึ้นโดยมีกองบินน้อยที่๗ เป็นหน่วยขึ้นตรง
ต่อมาปี พ.ศ.๒๕๐๖(1963) กองบินน้อยที่๗ เปลี่ยนชื่อเป็นกองบินที่๗ ต่อมามีการกำหนดให้สนามบินม่วงเรียงซึ่งเป็นสนามบินเก่าที่กองทัพญี่ปุ่นสร้างไว้ช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง พ.ศ.๒๔๘๖(1943) อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นที่ตั้งใหม่ของกองบิน๗๑ ที่ตั้งขึ้นใหม่ในชื่อสนามบินหัวเตย
กองบินที่๗ เปลี่ยนนามหน่วยเป็นกองบิน๗๑ และย้ายมาเมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๒๕(1982) ซึ่งเป็นที่ตั้งปัจจุบันจึงถือวันนี้เป็นวันสถาปนาหน่วย โดยมีประจำการด้วยเครื่องบินโจมตีแบบที่๕ บ.จ.๕ North American Rockwell OV-10C Bronco จำนวน ๑๑เครื่อง ในฝูงบิน๗๑๑ กองบิน๗๑

ในปี พ.ศ.๒๕๓๓(1990) กองทัพอากาศไทยได้ปรับภารกิจของกองบิน๗๑ จากกองบินสนับสนุนทางอากาศยุทธวิธีเป็นกองบินขับไล่ยุทธวิธี จึงมีการย้ายเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ข/ค บ.ข.๑๘ข/ค Northrop F-5E/F Tiger II จากฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช มายังฝูงบิน๗๑๑ 
โดยเครื่องบินโจมตี บ.จ.๕ OV-10C ในฝูงบิน๗๑๑ ทั้งหมดถูกโอนย้ายไปรวมที่ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ ในปี พ.ศ.๒๕๓๔(1991) ต่อมาเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘/ก F-5A/B ฝูงบิน๒๓๑ กองบิน๒๓ อุดรธานี ถูกโอนย้ายมารวมที่ฝูงบิน๗๑๑ เพิ่มเติมในปี พ.ศ.๒๕๔๑(1998)
วันที่ ๕ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๒(1999) ได้มีคำสั่งยกฐานะกองบิน๗๑ ที่มีฝูงบินเดียว เป็นกองบิน๗ ที่มีสองฝูงบิน และตั้งโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ ๑๒เครื่องในปี พ.ศ.๒๕๔๖(2003) ปลด บ.ข.๑๘/ก F-5A/B และโอนย้าย บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F ไปฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี
 
มีการนำเครื่องบินขับไล่แบบที่๒๐ บ.ข.๒๐/ก Saab Gripen C/D ประจำการในฝูงบิน๗๐๑ และเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศแบบที่๑ บ.ค.๑ Saab 340 Erieye AEW&C และเครื่องบินลำเลียงแบบที่๑๗ บ.ล.๑๗ Saab 340B ประจำการในฝูงบิน๗๐๒ ในปี พ.ศ.๒๕๕๔(2011) จนถึงปัจจุบัน
เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ ล่าสุดได้เข้าร่วมการฝึกผสมทางอากาศทวิภาคี Falcon Strike 2022 กับกองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAAF: People's Liberation Army Air Force) ระหว่างวันที่ ๑๔-๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๕(2022) ที่กองบิน๒๓ ที่ผ่านมา
พิธีวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ ๔๐ปี กองบิน๗ เมื่อวันที่ ๑๕ กันยายน ๒๕๖๕ เป็นเวลา ๖เดือนให้หลังจากวันคล้ายวันสถาปนาจริง ๑๕ กุมภาพันธ์ ที่น่าจะมีเหตุผลเรื่องความเหมาะสมด้านความพร้อม จึงเป็นการแสดงถึงประวัติความเป็นมาและขีดความสามารถของกองบิน๗ ในปัจจุบันได้อย่างดีครับ

วันศุกร์ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2564

สหรัฐฯวางแผนการบินสาธิตผู้แข่งขันโครงการเครื่องบินโจมตีปฏิบัติการพิเศษ Armed Overwatch

Update: SOFIC 2021: SOCOM plans four demo flights for each Armed Overwatch candidate



A concept drawing of the Paramount Group Bronco II, which is being pitched for the US SOCOM Armed Overwatch procurement. The Bronco II, offered by Leidos, is one of five finalists for the competition. (Bronco Combat Systems)



กองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ (SOCOM: Special Operations Command) จะมีอระบบที่เข้าแข่งขันสำหรับโครงการอากาศยานมีนักบินบังคับ Armed Overwatch ของตน
ซึ่งเครื่องบินที่เข้าแข่งขันแต่ละแบบจะมีการบินสาธิตจำนวน 4เที่ยวบิน ระหว่างวันที่ 14 มิถุนายน-23 กรกฎาคม 2021 ณ ฐานทัพอากาศ Eglin Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ Florida

ระหว่างงานสัมนาอุตสาหกรรมหน่วยปฏิบัติการพิเศษ(SOFIC: Special Operations Forces Industry Conference) ประจำปี 2021 เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม 2021
James Smith ผู้อำนวยการจัดซื้อจัดจ้าง SOCOM กล่าวว่า SOCOM จะประเมินว่าเครื่องบินที่เข้าแข่งขันจะมีขีดความสามารถตรงความต้องการการบินขึ้นและลงจอดที่เข้มงวดได้หรือไม่

SOCOM สหรัฐฯจะยังตัดสินผู้เสนอเข้าแข่งขันว่าเครื่องบินของพวกเขาตรงความต้องการด้านพิสัยทำการและระยะเวลาปฏิบัติการบินหรือไม่ ระบบอาวุธปล่อยไม่มีแรงขับในตัว(Inert weapon) จะถูกวางกำลังใช้ในระยะ
SOCOM จะมีเครื่องบินที่เข้าแข่งขันสาธิตขีดความสามารถการสื่อสารของพวกมัน ทั้งในระยะสายตาและนอกระยะยะสายตา(line of sight)

Smith กล่าวว่ากองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษสหรัฐฯ SOCOM จะประเมินขีดความสามารถววิดีทัศน์เต็มรูปแบบ(FMV: Full-Motion Video) ขีดความสามารถนักบินกล(Autopilot) และระบบ oxygen สำหรับนักบินตลอด 3เที่ยวบิน
เที่ยวบินที่4 และเที่ยวบินสุดท้ายจะมีเจ้าหน้าที่จากกองบัญชาการปฏิบัติการพิเศษกองทัพอากาศสหรัฐฯ(AFSOC: Air Force Special Operations Command) ปฏิบัติงานที่นั่งหลังของเครื่องบินที่จะเข้าถึงขีดความสามารถเช่นความคล่องแคล่องการเคลื่อนที่และการควบคุม

มันจะมีการเปิดโอกาสสำหรับการสร้างเที่ยวบินขึ้นมาสำหรับหุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรม SOCOM สหรัฐฯกำลังดำเนินการแข่งขันโครงการ Armed Overwatch ขณะที่เครื่องบินที่ถูกเลือกจะเข้าปะจำการใน AFSOC
ความต้องการเครื่องบินปีกตรึงจำนวนราว 75เครื่องจะถูกนำไปใช้ในภารกิจสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด, การโจมตีความแม่นยำสูง และข่าวกรอง, ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance)

ผู้เข้าแข่งขันในโครงการ Armed Overwatch ห้ารายคือเครื่องบินโจมตีใบพัด Bronco II จากทีม Leidos สหรัฐฯ-Paramount แอฟริกาใต้-Vertex Aerospace สหรัฐฯ, MC-208 Guardian จาก MAG Aerospace สหรัฐฯ, AT-802L Longsword จากทีม Air Tractor สหรัฐฯ-L3Harris สหรัฐฯ,
เครื่องบินโจมตีใบพัด Beechcraft AT-6 Wolverine สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/at-6e-wolverine.html) และเครื่องบินโจมตีใบพัด SNC/Embraer A-29 Super Tucano บราซิลครับ

วันเสาร์ที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2563

ฟิลิปปินส์นำเครื่องบินโจมตีเบา A-29B Super Tucano เข้าประจำการอย่างเป็นทางการ

Philippine Air Force formally inducts A-29B Super Tucano aircraft











The PAF’s six A-29B Super Tucanos at Clark Air Base. These aircraft were officially inducted in a ceremony held on 13 October.



กองทัพอากาศฟิลิปปินส์(PAF: Philippine Air Force) ได้ทำพิธีบรรจุเข้าประจำการอย่างเป็นทางการของเครื่องบินฝึก/โจมตีเบาใบพัด A-29B Super Tucano จำนวน 6เครื่อง
ที่ได้สั่งจัดหาจากผู้ผลิต บริษัท Embraer Defense & Security บราซิล ในปลายปี 2017 เป็นวงเงิน $99 million(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/super-tucano.html)

เครื่องบินโจมตีเบาใบพัด A-29B Super Tucano ทั้ง 6เครื่องได้ถูกนำเข้าประจำการในพิธีรับมอบและอำนวยพรที่จัดขึ้นในวันที่ 13 ตุลาคม 2020 ที่ผ่านมา
ณ ฐานทัพอากาศ Clark ในเมือง Angeles จังหวัด Pampanga โดยมีรัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์ Delfin Lorenzana เป็นประธานในพิธี

ในการกล่าวสุนทรพจน์ในพิธี รัฐมนตรีกลาโหมฟิลิปปินส์กล่าวว่าเขาเปิดทางที่จะจัดหาเครื่องบินฝึก/โจมตีเบา A-29B เพิ่มเติมอีก 6เครื่อง "ผมได้หารือกับผู้บัญชากองทัพอากาศฟิลิปินส์(พลอากาศโท Allen Paredes) เมื่อครู่ที่ผ่านมา(ว่า) 
การมี Super Tucanos จำนวน 6เครื่องเป็นเรื่องที่ดี แต่มีเพิ่มอีก 6เครื่องจะเป็นเรื่องที่ดีกว่า" คำกล่าวของ Lorenzana ถูกอ้างถึงโดยสำนักข่าว Philippine News Agency(PNA) ของรัฐบาลฟิลิปปินส์

เครื่องบินฝึก/โจมตีเบา A-29B ที่เพิ่งเข้าประจำการล่าสุด 4เครื่องแรกได้เดินทางมาถึงฐานทัพอากาศ Clark ฟิลิปปินส์เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2020 โดยอีก 2เครื่องเดินทางมาถึงเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2020
หลังที่ได้ถูกทำการบินโดยนักบินของบริษัท Embraer จาก Sao Paulo ในบราซิล และได้การหยุดลงจอดเพื่อเติมเชื้อเพลิงในหมู่เกาะ Canary, โปรตุเกส, มอลตา, อียิปต์, บังคลาเทศ, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, อินเดีย, ไทย และเวียดนาม

แรกเริ่มเครื่องบินฝึก/โจมตีเบา A-29B มีกำหนดการที่จะส่งมอบให้กองทัพอากาศฟิลิปปินส์ภายในสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2020 แต่การส่งมอบมีความล่าช้าจากผลกระทบการแพร่ระบาดของ coronavirus Covid-19
ขณะนี้ Embraer บราซิลจะทำการฝึกนักบินกองทัพอากาศฟิลิปปินส์ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเวลาสองเดือนในฐานะส่วนหนึ่งของข้อตกลงระหว่างตนกับกองทัพอากาศฟิลิปปินส์

เครื่องบินฝึก/โจมตีเบา A-29B ซึ่งตอนนี้เป็นส่วนหนึ่งของกองบินโจมตีที่15(15th Strike Wing) กองทัพอากาศฟิลิปปินส์จะถูกนำมาทดแทนเครื่องบินโจมตีใบพัด Boeing (Rockwell) OV-10 Bronco จำนวน 8เครื่องที่ส่วนหนึ่งได้รับการบริจาคจากกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) 
คาดว่าเครื่องจะถูกนำมาวางกำลังในหลายภารกิจรวมถึง การสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิด, การโจมตีเบา, การตรวจการณ์และลาดตระเวน, การสกัดกั้นทางอากาศสู่อากาศ และการต่อต้านการก่อความไม่สงบครับ

วันเสาร์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2561

ฟิลิปปินส์จะจัดหาเครื่องบินโจมตีใบพัด OV-10 เพิ่ม และอาจจัดหาเครื่องบินโจมตีลำเลียง BT-67

Philippines to bolster airborne COIN capabilities with Broncos, potentially Baslers
The Philippine Air Force is set to receive four additional OV-10 Bronco aircraft from the United States to help bolster its COIN capabilities. Source: US DoD
http://www.janes.com/article/81975/philippines-to-bolster-airborne-coin-capabilities-with-broncos-potentially-baslers

ฟิลิปปินส์กำลังจะเร่งเสริมขีดความสามารถทางอากาศในการต่อต้านการก่อความไม่สงบ(COIN: Counterinsurgency) ด้วยการจัดหาเครื่องบินโจมตีสองเครื่องยนต์ใบพัด Rockwell OV-10 Bronco ที่เป็นเครื่องส่วนเกินจำนวน 4เครื่องจากสหรัฐฯ
และอาจมีความเป็นไปได้ที่จะจัดหาเครื่องบินโจมตีและลำเลียงสองเครื่องยนต์ใบพัด Basler BT-67 ที่กำลังได้รับการเสนอโดยบริษัท Basler Turbo Conversions สหรัฐฯ

แหล่งข่าวในกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้พบการแจ้งเตือนสำหรับการส่งมอบเครื่องบินโจมตีใบพัด OV-10A จำนวน 2เครื่อง และเครื่องบินโจมตี OV-10G+ จำนวน 2เครื่อง
แก่ลูกค้าที่ไม่ระบุชื่อในการขายรูปแบบ Foreign Military Sales(FMS) ซึ่งพบเห็นครั้งแรกโดย Jane's เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา

ขณะที่ Basler Turbo Conversions สหรัฐฯบอกกับ Jane's เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมาว่าตนได้มีการเสนอเครื่องบินโจมตีลำเลียงใบพัด BT-67
ในฐานะส่วนหนึ่งของชุดข้อเสนอที่หลากหลายที่ยังรวมถึงรูปแบบเครื่องบินตรวจการณ์ทางทะเล BT-67 MPA(Maritime Patrol Aircraft) ด้วย

ในแง่ของ OV-10 กองทัพอากาศฟิลิปปินส์(PAF: Philippine Air Force) ปัจจุบันเป็นผู้ใช้งานทางทหารรายเดียวของเครื่องบินโจมตีใบพัด OV-10A 1เครื่อง และ OV-10C 4เครื่องที่ได้รับมอบจากกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force)
กองทัพอากาศสหรัฐฯไม่ได้ตอบรับการร้องขอข้อมูลจาก Jane's ในการส่งมอบ OV-10 เครื่องส่วนเกิน 4เครื่อง แต่แหล่งข่าวในภูมิภาคระบุว่ากองทัพอากาศฟิลิปปินส์เป็นลูกค้าต่อ Mike Yeo จาก Defense News

เนื่องจากกองทัพอากาศฟิลิปปินส์กำลังจะทดแทนเครื่องบินโจมตี OV-10 ที่มีอยู่ด้วยเครื่องบินโจมตีเบาใบพัด Embraer EMB-314 Super Tucano บราซิลตั้งแต่ปี 2019(http://aagth1.blogspot.com/2017/12/super-tucano.html)
แต่ด้วยการส่งมอบเครื่องบินโจมตี OV-10 เพิ่มเติมจะมีกำหนดในเวลาที่ใกล้เคียงกัน จึงเป็นไปได้ว่ากองทัพอากาศฟิลิปปินส์จะใช้งานทั้ง OV-10 และ Super Tucano ในช่วงเวลาดังกล่าว

เครื่องบินลำเลียงใบพัด BT-67 โดยหลักเป็นการเปลี่ยนเครื่องบินลำเลียงใบพัด Douglas DC-3 Dakota โดยติดตั้งเครื่องยนต์ใบพัด turboprop และปรับปรุงติดระบบอื่นๆ
เช่น ระบบ Digital Avionic, ห้องนักบินที่เข้ากันได้กับกล้องมองกลางคืน(NVG: Night-Vision Goggle), Radar ตรวจการณ์สภาพอากาศ และระบบตรวจจับกล้อง FLIR(Forward-Looking Infrared)

ก่อนหน้านี้ Basler Turbo Conversions สหรัฐฯได้เสนอ BT-67 แก่ฟิลิปปินส์เมื่อปลายปี 2016 แต่ข้อเสนอไม่ได้รับการตอบรับในเวลานั้น
ถ้าการจัดหา OV-10 เพิ่มเติม และ BT-67 มีขึ้น เครื่องทั้งสองแบบน่าจะปฏิบัติการร่วมกับเครื่องบินโจมตีใบพัด Super Tucano ที่จะมีการส่งมอบในปลายปี 2019

เช่นเดียวกับเครื่องบินลำเลียงใบพัดเครื่องยนต์เดียว Cessna 208B Grand Caravan EX ที่ถูกดัดแปลงให้ทำภารกิจข่าวกรอง ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance and Reconnaissance) และอาจจะทำภารกิจโจมตีภาคพื้นดินได้
และเครื่องบินขับไล่โจมตีเบา Korea Aerospace Industries (KAI) FA-50PH Fighting Eagle ที่ปัจจุบันกองทัพอากาศฟิลิปปินส์มี 12เครื่องครับ(http://aagth1.blogspot.com/2018/06/fa-50ph.html)

วันอังคารที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2559

กองทัพอากาศสหรัฐฯศึกษาการใช้เครื่องบินโจมตีใบพัด OV-10 สำหรับการสนับสนุนทางอากาศใกล้ชิดสงครามนอกแบบในสนามรบ

USAF studies OV-10 for CAS, IW roles in theater
The Pentagon deployed OV-10 turboprop aircraft to CENTCOM for a combat experiment last year. Source: Marsh Aviation
http://www.janes.com/article/58735/usaf-studies-ov-10-for-cas-iw-roles-in-theater

โฆษกของกองบัญชาการกลาง(CENTCOM: US Central Command) กองทัพสหรัฐฯซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ตะวันออกกลาง แอฟริกาเหนือ และเอเชียกลางกล่าวว่า
กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯหรือ Pentagon ได้วางกำลังเครื่องบินโจมตีใบพัดต่อต้านการก่อความไม่สงบ Boeing (Rockwell) OV-10 ในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ตั้งแต่ต้นปี 2015
โดยเป็นส่วนหนึ่งของการประเมินเพื่อว่าเครื่องบินโจมตีใบพัดสามารถปรับปรุงการประสานงานระหว่างนักบินกับผู้บัญชาการภาคพื้นดินได้หรือไม่

"OV-10 ถูกนำไปวางกำลังในเอเชียตะวันตกเฉียงใต้ในการสนับสนุนยุทธการ Inherent Resolve เป็นส่วนหนึ่งของการประเมินผลผู้ใช้ส่วนขยาย(EUE: Extended User Evaluation)
เป็นการทดสอบว่าเครื่องบินใบพัดเบาโดยมี OV-10 เป็นระบบทดสอบเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของกำลังทางอากาศในสภาพการต่อต้านการก่อความไม่สงบ(COIN: Counterinsurgency) หรือสงครามนอกแบบ(IW: Irregular Warfare)
ขณะที่ลดค่าใช้จ่ายในและรักษาทรัพยาการที่สงวนไว้สำหรับอากาศยานพิเศษระดับสูง" เรืออากาศเอก Bryant Davis กองทัพอากาศสหรัฐกล่าวกับ Jane's
OV-10 ประสบความสำเร็จเป็นเวลา 6-9เดือนในการทดสอบวัตถุประสงค์จำกัด(LOE: Limited Objective Experiment) ช่วงที่วางกำลังในพื้นที่รับผิดชอบของ US CENTCOM ในเดือนพฤษภาคม 2015 สำหรับขั้น EUE เครื่องได้ถูกส่งกลับไปสหรัฐฯเมื่อเดือนตุลาคม 2015
OV-10 ปฏิบัติการด้วยลูกเรือสองนายประกอบไปด้วยนักบินกองทัพเรือสหรัฐฯและเจ้าหน้าที่การบิน ทำการบิน 134เที่ยวบิน รวม 120ภารกิจ เป็นเวลาทั้งหมด 477.3ชั่วโมงบิน ในระยะเวลา 82วันที่วางกำลัง

CENTCOM ได้ส่งสรุปรายงานการปฏิบัติการวางกำลังแก่สภากำกับดูแลความต้องการร่วมของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯในคำสั่งเพื่อตรวจสอบอย่างเป็นทางการว่าการใช้เครื่องบินโจมตีใบพัดในปฏิบัติการ COIN และ IW จะมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลหรือไม่
"เนื่องจากรายงานยังเป็นเพียงแบบร่าง มันจะไม่เหมาะสมและยังไม่ถึงเวลาที่จะให้รายละเอียดเกี่ยวกับการค้นพบใดๆหรือคำแนะนำที่เป็นไปได้" เรืออากาศเอก Davis กล่าว
ปัจจุบันกองทัพอากาศสหรัฐฯและกองทัพเรือสหรัฐฯได้ใช้เครื่องบินขับไล่ไอพ่นเป็นกำลังหลักในการโจมตีกลุ่มก่อการร้ายติดอาวุธในตะวันออกกลางซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการสูงกว่าเครื่องบินโจมตีเบาใบพัดอย่าง OV-10 เมื่อเทียบกับระดับภัยคุกคามที่เผชิญครับ