แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาพประกอบนิยาย แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ ภาพประกอบนิยาย แสดงบทความทั้งหมด

วันอังคารที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2568

ศาลาโกหก: เครื่องบินโจมตีแบบที่๙ บ.จ.๙ A-10C ฝูงบิน๑๐๑ กองบิน๑ กองทัพอากาศไทย

เครื่องบินโจมตีแบบที่ ๙ บ.จ.๙ Fairchild Republic A-10C Thunderbolt II ฝูงบิน ๑๐๑ กองบิน ๑ กองทัพอากาศไทย

ประเภท: เครื่องบินโจมตี ๑ ที่นั่ง
บริษัทสร้าง: Fairchild Republic ประเทศสหรัฐอเมริกา
ปีกยาว: ๕๗ ฟุต ๖ นิ้ว
สูง: ๑๔ ฟุต ๘ นิ้ว
ลำตัวยาว: ๕๓ ฟุต ๔ นิ้ว
เครื่องยนต์: turbofan General Electric TF34-GE-100A สองเครื่อง
แรงขับ (สูงสุด): เครื่องละ ๙,๐๖๕ ปอนด์
ความเร็วสูงสุด: ๓๘๑ นอต (๗๐๖ กม./ชม.)
น้ำหนักวิ่งขึ้นสูงสุด: ๔๖,๐๐๐ ปอนด์
เพดานบิน: ๔๕,๐๐๐ ฟุต
พิสัยบิน: ๒,๒๔๐ ไมล์ทะเล
ระบบอาวุธ:
ปืนกลอากาศ GAU-8/A ขนาด 30 มม.
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9M 
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-65
ระเบิดอเนกประสงค์ Mk-82/Mk-84 ขนาด 500/2,000 ปอนด์
ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ GBU-12/GBU-10 ขนาด 500/2,000 ปอนด์
จรวดอากาศสู่พื้น Hydra 70 ขนาด 2.75 นิ้ว
อุปกรณ์ติดตั้งเพิ่มเติม: กระเปาะชี้เป้าหมาย AN/AAQ-33 Sniper Advanced Targeting Pod (ATP)

กองทัพอากาศไทยได้แสดงความสนใจเครื่องบินโจมตี A-10 Thunderbolt II ครั้งแรกในการส่งนายทหารไปประเมินค่าอากาศยานหลายแบบที่สหรัฐฯ ในปี พ.ศ.๒๕๒๖ ในการทดแทนเครื่องบินโจมตีและฝึกแบบที่ ๑๓ บ.จฝ.๑๓ T-28D Trojan เพื่อรับมือกับภัยคุกคามจากรถถังจำนวนมากของกองกำลังต่างชาติที่วางกำลังใกล้ชายแดนไทยในเวลานั้น ซึ่งจะทำให้ไทยเป็นลูกค้าส่งออกรายแรกสำหรับเครื่องบินโจมตี A-10A สหรัฐฯ
อย่างไรก็ตามกองทัพอากาศไทยได้ให้ความสำคัญการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Fighting Falcon มากกว่า โดยมีการอนุมัติการจัดหาชุดแรกจำนวน ๑๒ เครื่อง ภายใต้โครงการ Peace Naresuan I ในปี พ.ศ.๒๕๒๘ รับมอบบรรจุเข้าประจำการในปี พ.ศ.๒๕๓๑ ตามมาอีก ๖ เครื่อง ภายใต้โครงการ Peace Naresuan II ในปี พ.ศ.๒๕๓๐ และรับมอบในปี พ.ศ.๒๕๓๔ ในฝูงบิน ๑๐๓ กองบิน ๑ โคราช
ต่อมาในความต้องการทดแทนเครื่องฝึกแบบที่ ๑๑ บ.ฝ.๑๑ T-33A Shooting Star และเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๖ บ.จ.๖ A-37B Dragonfly กองทัพอากาศไทยได้เลือกจัดหา บ.ข.๑๙/ก F-16A/B เพิ่ม ๑๘ เครื่อง ภายใต้โครงการ Peace Naresuan III ในปี พ.ศ.๒๕๓๔ และรับมอบในปี พ.ศ.๒๕๓๘ และเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่ ๑ บ.ขฝ.๑ L-39ZA/ART จำนวน ๓๖เครื่อง ในปี พ.ศ.๒๔๓๔ รับมอบในปี พ.ศ.๒๕๓๗
เวลาล่วงมาถึงความต้องการทดแทนเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๕ บ.จ.๕ OV-10C Bronco เดิมกองทัพอากาศไทยมองที่จะจัดหาเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๗ บ.จ.๗ Alpha Jet จำนวน ๕๐ เครื่องจากเยอรมนี แต่คณะรัฐมนตรีรัฐบาลไทยในขณะนั้นได้อนุมัติเพียงครึ่งหนึ่งคือ ๒๕ เครื่อง (ใช้งาน ๒๐ เครื่อง อะไหล่ ๕ เครื่อง) ในปี พ.ศ.๒๕๔๒ และได้รับมอบในปี พ.ศ.๒๕๔๓ บรรจุเข้าประจำการในฝูงบิน ๒๓๑ กองบิน ๒๓ อุดรธานี

เมื่อกองทัพอากาศไทยปลดประจำการ บ.จ.๕ OV-10C ของฝูงบิน ๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ ในปี พ.ศ.๒๕๔๗ ได้มีการโอนย้าย บ.ขฝ.๑ L-39ZA/ART ที่ยังเหลืออยู่จากฝูงบิน ๑๐๑ และฝูงบิน ๑๐๒ กองบิน ๑ โคราช ที่ได้รับมอบ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ADF จำนวน ๑๖ เครื่อง ภายใต้โครงการ Peace Naresuan IV ในปี พ.ศ.๒๕๔๕ ไปยังที่ฝูงบิน ๔๐๑ กองบิน ๔ ตาคลี และฝูงบิน ๔๑๑ ที่ต่อมาปลดประจำการในปี พ.ศ.๒๕๖๔
กองทัพอากาศไทยจึงมีความต้องการที่จะจัดหาเครื่องบินโจมตีอีกหนึ่งฝูงบินเพื่อนำบรรจุเข้าประจำการในฝูงบิน ๑๐๑ กองบิน ๑ ที่ขณะนั้นไม่มีอากาศยานประจำการ โดยเลือกจัดหาเครื่องบินโจมตี A-10A ที่กองทัพอากาศสหรัฐฯ เก็บสำรองไว้ จำนวน ๑๔ เครื่อง (ใช้งาน ๑๒ เครื่อง อะไหล่ ๒ เครื่อง) ในปี พ.ศ.๒๕๔๙ ภายใต้ความช่วยเหลือทางทหารในการจัดซื้อรูปแบบ Excess Defense Article (EDA) จากรัฐบาลสหรัฐฯ
ต่อมากองทัพอากาศไทยได้รับคำแนะนำจากสหรัฐฯ ในการนำเครื่องบินโจมตี A-10A ที่จะจัดหาเข้ารับความปรับปรุงความทันสมัยเป็นมาตรฐานเครื่องบินโจมตี A-10C พร้อมกับการปรับปรุงความทันสมัย บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน ๔๐๓ กองบิน ๔ ซึ่งแล้วเสร็จในปี พ.ศ.๒๕๕๖ และส่งมอบบรรจุเข้าประจำการในฝูงบิน ๑๐๑ กองบิน ๑ ในปี พ.ศ.๒๕๕๗ โดยกำหนดแบบเป็น เครื่องบินโจมตีแบบที่ ๙ บ.จ.๙ A-10C
บ.จ.๙ A-10C เป็นเครื่องบินโจมตีที่มีประสิทธิภาพสูงมาก โดยสามารถใช้อาวุธและอุปกรณ์ส่วนใหญ่ที่มีใช้งานกับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16AM/BM EMLU ได้เช่น ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์ Paveway II และ LIZARD III และกระเปาะชี้เป้าหมาย Sniper ATP ยกเว้นปืนกลอากาศขนาด ๓๐ มม. (ไม่ได้จัดหากระสุนแกนยูเรเนียมไร้รังสี) การเปลี่ยนโครงสร้างปีกใหม่ยังจะทำให้ยืดอายุการใช้งานไปได้อีกไม่ต่ำกว่า ๒๐ปีด้วย

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2567

ศาลาโกหก: เฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ๖๔ ฮ.จ.๖๔ AH-64E Apache กองทัพบกไทย

เฮลิคอปเตอร์โจมตี แบบ ๖๔ (ฮ.จ.๖๔) AH-64E Apache กองพันบินที่๙ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก กองทัพบกไทย

ผู้สร้าง: บริษัท Boeing ประเทศ สหรัฐอเมริกา
ประเภท: เฮลิคอปเตอร์โจมตี จำนวน ๒ ที่นั่ง (เรียงกันหน้า-หลัง)
เครื่องยนต์: Turboshaft General Electric T700-GE-701D จำนวน ๒ เครื่องยนต์ ให้กำลังสูงสุดเครื่องละ ๒,๐๐๐ แรงม้า กำลังแรงม้าใช้งานเครื่องละ ๑,๙๐๒ แรงม้า
ติดตั้งอุปกรณ์พิเศษ: ปืนกลอากาศ (ปืนใหญ่ขนาด ๓๐ มม. M230) หนึ่งลำกล้อง, จรวดขนาด ๒.๗๕ นิ้ว (๗๐ มม.) กระเปาะจรวดติดตั้งที่ใต้ปีกทั้ง ๒ ข้าง สูงสุดข้างละ ๗๖ นัด, จรวดนำวิถี AGM-114 Hellfire, เรดาห์ควบคุมการยิง AN/APG-78 Longbow
สมรรถนะและขีดความสามารถ: ความเร็วสูงสุด ๑๕๘ นอต หรือ ๒๙๓ กม./ชม., ความเร็วเดินทาง ๑๔๓ นอต หรือ ๒๖๕ กม./ชม

เฮลิคอปเตอร์โจมตี ฮ.จ.๖๔ AH-64E Apache สหรัฐฯ ถูกจัดหาด้วยการจัดซื้อรูปแบบ Foreign Military Sale (FMS) สำหรับกองทัพบกไทย ในงบประมาณผูกพันสามปีสองระยะ ระยะที่ ๑  จำนวน ๔ เครื่อง และระยะที่ ๒ จำนวน ๔ เครื่อง  
เข้าประจำการใน หมวดบินโจมตี ของ กองพันบินที่ ๙ กรมบิน ศูนย์การบินทหารบก จำนวน ๘ เครื่อง (สหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1Z Viper จำนวน ๘ เครื่องแก่ไทยด้วย แต่กองทัพบกไทยเลือกจัดหา ฮ.จ.๖๔ AH-64E เท่านั้น)

วันเสาร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2566

ศาลาโกหก: รถถังหลัก M1A1 Abrams กองทัพบกไทย

รถถังหลัก M1A1 Abrams กองพันทหารม้าที่๒ กองพลทหารราบที่๒ รักษาพระองค์ฯ กองทัพบกไทย

อาวุธหลัก : ปืนใหญ่รถถัง M256A1 ขนาด ๑๒๐ มม. ๑ กระบอก ระยะหวังผล ๔,๐๐๐ เมตร
อาวุธรอง ๑ : ปืนต่อสู้อากาศยาน M2HB ขนาด ๑๒.๗ มม. ๑ กระบอก ระยะหวังผล ๑,๘๐๐๐ เมตร
อาวุธรอง ๒ : ปืนกล M240 ขนาด ๗.๖๒ มม. ๑ กระบอก ระยะหวังผล ๑,๘๐๐๐ เมตร
ปืนกลร่วมแกน : ปืนกล M240 ขนาด ๗.๖๒ มม. ๑ กระบอก ระยะหวังผล ๑,๘๐๐๐ เมตร
เครื่องยนต์ : แก๊สเทอร์ไบน์ Honeywell AGT1500 ๑ เครื่อง กำลัง ๑,๕๐๐๐ แรงม้า
ความจุถังเชื้อเพลิง : ๑,๙๐๙ ลิตร
ระยะปฏิบัติการ : ๔๒๖ กม. บนถนน , ๒๐๐ กม. ในภูมิประเทศ
ความเร็วสูงสุด : บนถนน ๗๐ กม. ต่อ ชั่วโมง , ในภูมิประเทศ ๔๐ กม. ต่อ ชั่วโมง
น้ำหนักพร้อมรบ : ๖๒ ตัน
พลประจำรถ : ผู้บังคับรถ , พลยิง, พลขับ , พลบรรจุ

รถถังหลัก M1A1 SA (Situational Awareness) Abrams สหรัฐฯ ถูกจัดหาด้วยการจัดซื้อรูปแบบ Excess Defense Article (EDA) ในปี พ.ศ.๒๕๕๔ จำนวน ๕๔ คัน สำหรับกองทัพบกไทย
เข้าประจำการ พ.ศ.๒๕๖๒ ใน กองพันทหารม้าที่ ๒ กองพลทหารราบที่ ๒ รักษาพระองค์ฯ จำนวน ๔๙ คัน และ ศูนย์การทหารม้า เพื่อการฝึกศึกษา จำนวน ๕ คัน
(เดิมสหรัฐฯ เสนอรถถังหลัก M1IP (Improved Performance) ติดปืนใหญ่รถถัง M68A1 ขนาด ๑๐๕ มม. ต่อมามีการเจรจาใหม่เป็นรถถังหลัก M1A1 SA)

วันศุกร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2565

ศาลาโกหก: เครื่องบินขับไล่แบบที่๑ บ.ขล.๑ค AV-8B Plus กองทัพเรือไทย

เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๑ (บ.ขล.๑ ค) แบบเครื่อง AV-8B "HARRIER II PLUS"

บริษัทผู้ผลิต MCDONNELL DOUGLAS ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้งานครั้งแรกในโลก เมื่อ พ.ศ.๒๕๒๘ โดยนาวิกโยธินสหรัฐอเมริกา
เป็นเครื่องบินขับไล่ขึ้น - ลง ทางดิ่ง ความเร็วเข้าใกล้เสียง  ปฏิบัติการจากเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ (ร.ล.จักรีนฤเบศร) เคยปฏิบัติการรบในสงครามอ่าวเปอร์เซีย ฯ สงครามโคโซโว สงครามอัฟกานิสถาน และสงครามอิรัก
ประจำการในกองทัพเรือไทย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๔๕ จำนวน ๖ เครื่อง สังกัด ฝูงบิน ๑ หน่วยบินเรือหลวงจักรีนฤเบศร กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ

ภารกิจ - การบินสกัดกั้น การบินคุ้มกันกองเรือ การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด การโจมตีภาคพื้น การโจมตีเรือผิวน้ำ

หมายเลข    รุ่น                   ประจำการ
3110          AV-8B Plus       ก.ย.๒๕๔๕
3111          AV-8B Plus       ก.ย.๒๕๔๕
3112          AV-8B Plus       เม.ย.๒๕๔๖
3114          AV-8B Plus       เม.ย.๒๕๔๖
3115          AV-8B Plus       ก.ย.๒๕๔๖
3116          AV-8B Plus       ก.ย.๒๕๔๖

คุณลักษณะทั่วไป
ขนาด (ก x ย x ส) : ๙.๒๕ x ๑๔.๑๒ x ๓.๕๕ ม.
น้ำหนักตัวเปล่า : ๑๓,๙๖๘ ปอนด์
น้ำหนักบรรทุกวิ่งขึ้นสูงสุด : ๓๑,๐๐๐ ปอนด์ เมื่อบินขึ้นจากทางวิ่งปกติ, ๒๐,๗๕๕ ปอนด์ เมื่อบินขึ้น - ลง ทางดิ่ง
เครื่องยนต์ : Rolls-Royce Pegasus F402-RR-408 Mk 107 หนึ่งเครื่อง
ความเร็ว : ๕๘๕ ไมล์ทะเล ต่อ ชั่วโมง (๐.๙ เท่าความเร็วเสียง)
ระยะบิน : ไกลสุด ๑๒,๐๐๐ ไมล์ทะเล รัศมีปฏิบัติการ ๓๐๐ ไมล์ทะเล
เพดานบิน : ๔๕,๐๐๐ ฟุต

ระบบอาวุธ
จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9L และ AIM-120A
จรวดอากาศสู่พื้น ๗๐ มม. Hydra 70
จรวดนำวิถีอากาศสู่พื้น AGM-65
ลูกระเบิด Mk 82 ๕๐๐ ปอนด์, Mk 83 ๑,๐๐๐ ปอนด์ และ และ Mk 20 Rockeye II
ลูกระเบิดนำวิถี Paveway II (GBU-12 ๕๐๐ ปอนด์ และ GBU-16 ๑,๐๐๐ ปอนด์)
กระเปาะปืนกลอากาศ ๒๕ มม.
กระเปาะชี้เป้าหมาย LITENING

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

วันทหารผ่านศึก ๒๕๖๔

"หน่วยรบพิเศษจะไม่ตามไปในที่มีเส้นทางนำ ในทางตรงข้าม เราจะไปในที่ที่ไม่มีเส้นทางและจะทิ้งรอยให้หน่วยอื่นได้ตาม"

หน่วยเฉพาะกิจ ฉก.๗๑๗ (Task Force 717) จาก "คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด"

นวนิยาย และนิยายภาพในชุด 'รัฐไกลา'
ตำนานเจ้าคีรี
คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด
ไกลา ดินแดนแห่งความสุข

วันพฤหัสบดีที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2563

Cavalry of The Little Tiger-ทหารม้าไทยไปเกาหลี (๗๐ปีสงครามเกาหลี)





70th years anniversary Korean War began on 25 June 1950, M24 Chaffee light tank crews from Cavalry branch of Royal Thai Army (part of 1st Cavalry Division, US Army), Royal Thai Expeditionary Force was there. 

วันที่ ๒๕ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๓(1950) เป็นวันเริ่มต้นสงครามเกาหลีเมื่อกองทัพประชาชนเกาหลี Korean People's Army แห่งสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีบุกข้ามเส้นขนาดที่๓๘องศาเหนือรุกเข้าสาธารณรัฐเกาหลี
เป็นที่ทราบกันดีว่ากองทัพไทยในพระราชการสงครามเกาหลีได้เข้าร่วมกับกองกำลังสหประชาชาติทำการรบเพื่อปกป้องเกาหลีใต้จากเกาหลีเหนือและกองทัพอาสาสมัครประชาชนจีน People's Volunteer Army
ทหารไทยมีวีรกรรมากมายในสงครามเกาหลี ไม่ว่าจะสมรภูมิ Pork Chop Hill กองพันพยัคฆ์น้อย กรมผสมที่๒๑ กองทัพบกไทย, วีรกรรมเรือหลวงประแส กองทัพเรือไทย, หน่วยบินเครื่องบินลำเลียง C-47 กองทัพอากาศไทย แม้แต่อาสาสมัครพยาบาลสุภาพสตรีไทยในแนวหลังที่ญี่ปุ่น-เกาหลีใต้

แต่ดูเหมือนว่าจาก ๕ปีก่อนหน้า(https://aagth1.blogspot.com/2015/01/cavalry-of-little-tiger.html) ผู้เขียนยังหาข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับปฏิบัติการของเหล่าทหารม้าไทยในสงครามเกาหลีไม่ได้มากขึ้นนัก
นอกจากบทบาทของ พลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ก็เป็นนายทหารม้าซึ่งเคยได้ทราบมาว่าในช่วงสงครามเกาหลีมีบทบาทอยู่ร่วมสังเกตุการณ์ในคณะการเจรจาหยุดยิงที่หมู่บ้าน Panmunjom ช่วงท้ายๆของสงครามในปี 1953
ที่จบการศึกษาหลักสูตรโรงเรียนยานเกราะกองทัพบกสหรัฐฯ(US Army Armor School) ที่ Fort Knox(ปัจจุบันย้ายไป Fort Benning) ในปี ๒๔๙๑(1948) ปี ๒๔๙๓(1950) ขณะมียศพันตรีได้ดำรงแหน่งผู้บังคับ ผู้บังคับกองพันทหารม้าที่๑ กรมทหารม้าที่๑ รักษาพระองค์(ในเวลานั้น)

โดยที่กำลังกองทัพบกไทยในสงครามเกาหลีประกอบด้วยเหล่าราบเป็นหลัก แต่ก็เคยถูกจัดกำลังขึ้นสายบัญคับบัญชากับ กองพลทหารม้าที่1 กองทัพบกสหรัฐฯ ก่อนที่ต่อมาจะย้ายมาขึ้นการบัญชาการกับ กองพลทหารราบที่2(2nd Infantry Division) กองทัพบกสหรัฐฯ 
ในช่วงสงครามเกาหลีเป็นช่วงเดียวกับที่กองทัพบกไทยได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหรัฐฯในการปรับปรุงความทันสมัย ซึ่งก็รวมถึงการจัดตั้งกำลังทหารม้ายานเกราะสมัยใหม่ที่เป็นพื้นฐานอัตราจัดกำลังและนิยมมาจนถึงปัจจุบัน
อาวุธยุทโธกรณ์เหล่าทหารม้าในยุคนั้นก็มีเช่น รถเกราะล้อยาง M8 Greyhound, รถกึ่งสายพานลำเลียง M3 half-track และรถถังเบา M24 Chaffee เป็นต้น ก็น่าสงสัยว่าในช่วงสงครามทหารม้ากองทัพบกไทยมีบทบาทการปฏิบัติการรบอย่างไรในสงครามเกาหลีครับ?

วันจันทร์ที่ 2 ธันวาคม พ.ศ. 2562

ภาพประกอบนิยายสงคราม สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD แนะนำตัวละคร-๕

คาสุมิ เทนริว(天龍 霞)

'สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD' ติดอันดับ Top 12 หมวดนิยายสงคราม ใน Dek-D.com
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1961825

นิยายสงครามชุด 'สารวัตรนักเรียนเดนนรก' ในภาคล่าสุดที่ลงมาตลอดปี 2019 นี้ก็ได้จบภาคลงไปตั้งแต่สิ้นเดือนตุลาคมที่แล้ว ล่าสุดมียอดผู้ชมรวม ๙๘๒ครั้ง
แต่ก็เนื่องจากช่วงเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาผู้เขียนติดธุระหลายอย่างก็เพิ่งมีเวลาว่างมาวาดรูปประกอบ
ซึ่ง คาสุมิ เทนริว ลูกเสี้ยวไทย-ญี่ปุ่นสมาชิกห้อง /๑๓ ก็เป็นตัวละครหญิงเก่าแก่ดั้งเดิมในจักรวาลสงครามบ้าๆบอๆนี้
ผู้เขียนยังบอกไม่ได้ว่าจะมีผลงานนิยายเรื่องใหม่มาลงอีกเมื่อไร ซึ่งอาจจะไม่ใช่นิยายในชุดสารวัตรนักเรียนเดนนรกก็ได้ อย่างไรก็โปรดติดตามกันต่อไปด้วยครับ

วันจันทร์ที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2562

ภาพประกอบนิยายสงคราม สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD แนะนำตัวละคร-๔


ทองขาว ศิศาลวงศ์




'สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD' ติดอันดับ Top 6, Top 10 และ Top 11 หมวดนิยายสงคราม ใน Dek-D.com
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1961825

นาง ทองขาว ศิศาลวงศ์ หรือ ย่าขาว ของ จ่าสิบเอก อรันต ซาราฮาณี ที่ปรากฎตัวพร้อมๆกับครอบครัวซาราฮาณีนั้น ก็ไม่เชิงว่าตัวละครใหม่แต่อย่างใด
เพราะตัวละครนี้ก็เคยปรากฎตัวในนิยายเรื่องอื่นที่ได้เขียนไปแล้ว ซึ่งเป็นจักรวาลเดียวกันทั้งหมด แม้ว่าจะมีแนวเรื่องที่ต่างกันอยู่ก็ตาม
ไม่ว่าจะ 'ตำนานเจ้าคีรี' ที่เป็นเรื่องสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ 1944-1945
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1308077
หรือ 'คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด' ที่เป็นเรื่องในสมัยปี 2005-2006
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1434167
ท่านผู้อ่านที่สนับสนุนกันมาตลอดจนยอดผู้เข้าชมล่าสุดตอนนี้ ๗๕๐ครั้งแล้ว ก็ลองค้นดูได้ครับว่า 'ย่าขาว' เธอเคยปรากฎตัวในเรื่องก่อนหน้าในชื่อใด เพราะก็ได้มีการใบ้โดยนัยๆแล้วครับ

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2562

ภาพประกอบนิยายสงคราม สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD แนะนำตัวละคร-๓


ฮิคาริ ฟูริว(風龍 光)

'สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD' ติดอันดับ Top 4 หมวดนิยายสงคราม ใน Dek-D.com
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1961825

นิยายเรื่องนี้เกิดขึ้นในโรงเรียน เขียนๆไปนอกจากปฏิบัติการทางทหารและการเมืองภายในคณะกรรมการสภานักเรียน ตัวละครที่เป็นผู้หญิงในเรื่องก็เริ่มมีบทบาทสำคัญมากขึ้น
เดิมทีเคยลงสีด้วย Adobe Photoshop แต่ตอนนี้ไม่มีเงินค่าเช่า ก็เลยต้องหันไปลงสีไม้แทน แถมเครื่องมือตกแต่งภาพ GIMP ขีดความสามารถจำกัดมาก(ภาพจริงสวยกว่าที่ Scan นี้เยอะ)
ล่าสุดนี้ยอดผู้เข้าชมนิยายล่าสุดก็เกิน ๔๘๕ครั้งแล้ว ก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม Blog นี่รวมถึงท่านผู้อ่านนิยายที่ Dek-D ที่ได้กรุณาเข้าเยี่ยมชมนิยายสงครามบ้าๆบอๆเรื่องนี้ครับ

วันอาทิตย์ที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2562

ภาพประกอบนิยายสงคราม สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD แนะนำตัวละคร-๒

จากซ้ายไปขวา สิบโท ชัยวุฒิ บุญสุขเจริญ, สิบโท ประพน โนนหิน, สิบตรี ชินกร นาสะอาด และนาย ฮิเดกิ เทนริว
'สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD' ติดอันดับ Top 4 หมวดนิยายสงคราม ใน Dek-D.com
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1961825
ล่าสุดนี้ยอดผู้เข้าชมนิยายล่าสุดก็เกิน ๒๕๐ครั้งแล้ว แม้ว่าจะน้อยแต่ก็นับว่ายังพอมีคนอ่านอยู่บ้าง สำหรับเรื่องราวในจักรวาลสงครามเพี้ยนๆนี้
ก็ต้องขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตาม Blog นี่รวมถึงท่านผู้อ่านนิยายที่ Dek-D ที่ได้กรุณาเข้าเยี่ยมชมนิยายสงครามบ้าๆบอๆเรื่องนี้ครับ

วันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2562

ภาพประกอบนิยายสงคราม สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD แนะนำตัวละคร-๑

จากซ้ายไปขวา จ่าสิบเอก อรันต ซาราฮาณี, จ่าสิบเอก บัญชา กาจกุญชร, สิบเอก สุเทพ โภชณาหารนุกูล และ สิบเอก นิพนธ์ แซ่ฉี

สารวัตรนักเรียนเดนนรก ภาคประวัติโครงการจัดหารถถังหลัก T-80UD (เพื่อทดลองใช้งาน)
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1961825

นิยายสงครามในชุด "สารวัตรนักเรียนเดนนรก" ก็ยังคงเป็นจักรวาลที่เกี่ยวข้องกับสงครามกลางเมืองระหว่างหมู่ลาดตระเวนรบพิเศษยุวชนทหารที่ปกป้องโรงเรียนจากภัยคุกคามของผู้ก่อการร้ายโอตาคุ ผกอ.อยู่
แต่ในภาคล่าสุดนี้จะเป็นการเล่าเรื่องการใช้ชีวิตในโรงเรียนมากขึ้น ซึ่งเขียนไปเขียนมาก็ชักจะค่อยๆเกี่ยวกับปฏิบัติการทางทหารน้อยลง แต่เหมือนจะเป็นการมาเล่าความหลังถึงปัญหาของโรงเรียนในอดีตเสียมากกว่า
ท่านที่ติดตาม Blog นี้ถ้าว่างๆก็เข้าไปอ่านหน่อยเถิด เขียนเรื่องนี้มาตั้งแต่ปี พ.ศ.๒๕๔๖(2003) ในรูปแบบนิยายภาพแล้ว และคิดว่าจะพยายามเขียนจนจบถึงตอนอวสานครับ

วันจันทร์ที่ 1 เมษายน พ.ศ. 2562

ศาลาโกหก: เครื่องบินขับไล่แบบที่๒ บ.ขล.๒ข F-14D กองทัพเรือไทย

เครื่องบินขับไล่แบบที่ ๒ (บ.ขล.๒ ก/ข) แบบเครื่อง F-14B "TOMCAT", F-14D "SUPER TOMCAT"

บริษัทผู้ผลิต GRUMMAN AEROSPACE CORPORATION ประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้งานครั้งแรกในโลก เมื่อ พ.ศ.๒๕๓๔ โดยกองทัพเรือสหรัฐอเมริกา
เป็นเครื่องบินขับไล่สกัดกั้นความเร็วเหนือเสียง ๒ ที่นั่ง เคยปฏิบัติการรบในสงครามอ่าวเปอร์เซีย ฯ สงครามโคโซโว สงครามอัฟกานิสถาน และสงครามอิรัก
ประจำการในกองทัพเรือไทย ตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๕๐ จำนวน ๖ เครื่อง สังกัด ฝูงบิน ๑๐๔ กองบิน ๑ กองการบินทหารเรือ กองเรือยุทธการ

ภารกิจ - การบินสกัดกั้น การบินคุ้มกันกองเรือ การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด การโจมตีภาคพื้น การโจมตีเรือผิวน้ำ

หมายเลข  รุ่น          ประจำการ
1419        F-14B พ.ย.๒๕๕๐
1420        F-14B พ.ย.๒๕๕๐
1421        F-14D  เม.ย.๒๕๕๑
1422        F-14D  เม.ย.๒๕๕๑
1423        F-14D  ก.ย.๒๕๕๑
1424        F-14D ก.ย.๒๕๕๑

คุณลักษณะทั่วไป
ขนาด (ก x ย x ส): ๑๑.๕๘ (มุมปีกลู่สุด)- ๑๙.๕๕ (มุมปีกกางสุด)x ๑๙.๑x ๔.๘๘ ม.
น้ำหนักตัวเปล่า : ๔๓,๗๕๓ ปอนด์
น้ำหนักบรรทุกวิ่งขึ้นสูงสุด : ๗๔,๓๕๐ ปอนด์
เครื่องยนต์ : General Electric F110-GE-400 สองเครื่อง
ความจุ : นม.ชพ. JP-8 ๑๖,๒๐๐ ปอนด์ (ภายใน) ๒๐,๐๐๐ ปอนด์ (รวมสองถังเชื้อเพลิงภายนอกขนาด ๒๖๗ แกลลอน)
ความเร็ว : ๑,๕๖๐ ไมล์ทะเล ต่อ ชั่วโมง (๒.๓๔ เท่าความเร็วเสียง)
ระยะบิน : ไกลสุด ๑๖,๐๐๐ ไมล์ทะเล รัศมีปฏิบัติการ ๕๐๐ ไมล์ทะเล
เพดานบิน : ๕๐,๐๐๐ ฟุต

ระบบอาวุธ
จรวดนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-9 และ AIM-7
จรวดอากาศสู่พื้น ๕นิ้ว Zuni และ ๒.๗๕ นิ้ว FFAR
ลูกระเบิด Mk 81 ๒๕๐ ปอนด์, Mk 82 ๕๐๐ ปอนด์, Mk 83 ๑,๐๐๐ ปอนด์, Mk 84 ๒,๐๐๐ ปอนด์ และ Mk 20 Rockeye II
ลูกระเบิดนำวิถี Paveway II (GBU-12 ๕๐๐ ปอนด์, GBU-16 ๑,๐๐๐ ปอนด์ และ GBU-10 ๒,๐๐๐ ปอนด์)
ปืนกลอากาศ ๒๐ มม.
กระเปาะชี้เป้าหมาย LANTIRN

วันศุกร์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2562

วันทหารม้า ๒๕๖๒ (V-150 ติดปืนใหญ่รถถัง 90mm)

ม้าคะนอง
  พวกเราทหารม้าชาญสงคราม มีนามกระเดื่องเลื่องลือไพศาล 
ม้ารุ่นก่อนสอนมาแต่โบราณ ให้กล้าหาญเหิมฮึกใจกลมเกลียว

  หมู่คณะเรานั้นรักกันทุกคน มีความอดทนร่วมกันแน่นเหนี่ยว
ม้าคนใดคิดแยกแต่ผู้เดียว จะเปลี่ยวใจไปใยไม่น่าอยู่

  ทหารม้า ทหารม้า จงมีชัย บุกเข้าไปทุกแห่งแหล่งศัตรู
วิ่งโขยกโผกโผนโจนเข้าสู้ ให้โลกรู้ว่าเรานี้ไม่กลัวใคร

  พวกเราทหารม้ากล้าสาบาน ทำงานสละเลือดเนื้อเพื่อไทย
เกียรติศักดิ์ของเราคือดวงใจ เทิดทูนไว้เหนือหัวทุกเวลา

วันพุธที่ 5 ธันวาคม พ.ศ. 2561

กว่าจะเปลี่ยนเศษเหล็กให้กลายเป็นดาบเล่มงาม คำสอนของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ

ภาพวาดประกอบที่คัดนำมาจากข้อคิดของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ที่ทรงประทานคำแนะนำแก่ ท่าน ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล ในข้างต้น
ได้วาดขึ้นในสมัยที่ผู้เขียนยังเป็นสมาชิกของ Webboard สำนักพิมพ์การ์ตูนไทยแห่งหนึ่งนั้น ในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๕๔ ซึ่งเป็นวันมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชฯ ณ ขณะนั้นครับ

วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

ภาพประกอบแนะนำนวนิยายเรื่องยาว "คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด"



ขอบขอบคุณทุกท่านที่ติดตามนวนิยายเรื่องยาว "คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด"
จนมียอดผู้ชมเกิน ๕๐๐ท่าน และติดอันดับที่ ๑๖ ในหมวดนิยายสงคราม Dek-D.com ครับ
ท่านสามารถอ่านนวนิยายเรื่องนี้ ซึ่งเป็นฉบับปรับปรุงใหม่(Rewrite) โดยเพิ่มบทส่งท้ายและตอนพิเศษได้ที่
http://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1434167
ขอขอบคุณที่ติดตามกันมาตลอดครับ

วันพุธที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

วันทหารผ่านศึก ๒๕๕๙


หน่วยเฉพาะกิจ ฉก.๗๑๗ (Task Force 717) จากนวนิยายเรื่อง "คีตะคีรีมิรู้จบ แนวรบตะวันตกไม่เคยสิ้นสุด"
https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/view.php?id=1434167

วันอังคารที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2558

เราเหล่านักศึกษาวิชาทหาร หน่วยบัญชาการรักษาดินแดน



มาร์ชนักศึกษาวิชาทหาร

เราเหล่านักศึกษาวิชาทหาร
กรมการรักษาดินแดน
ฝึกฝนทุกคนรู้จัก
ให้รักแผ่นดินถิ่นแคว้น
เป็นปึกแผ่นแดนไทย

ยามศึกเราร่วมรบพร้อมพลีชีวัน
เคียงกันทุกคนร่วมใจ
ต้องเตรียมพร้อมความเกรียงไกร
เลือดไทยยอมพลีทุกคน
เราพร้อมผจญผู้รุกราน

ไทยมี ชาติ ศาสนา มหากษัตริย์
เกียรติประวัติเลือดไทยห้าวหาญ
ชื่อไทยอยู่คู่ฟ้าทั่วกาล
เรานักศึกษาวิชาทหารจะรักษาสถาบัน

เราเหล่านักศึกษาวิชาทหาร
รวมใจสามัคคีกัน
เลือดไทยมิใด้ไหวหวั่น
รวมกันรักษาดินแดน
เราหวงแหนแผ่นดินไทย

วันจันทร์ที่ 31 สิงหาคม พ.ศ. 2558

ภาพประกอบนวนิยายตำนานเจ้าคีรี นางปิศาจหิมะ


นี่ก็เป็นปิศาจญี่ปุ่นอีกตนปรากฏในเรื่อง "นางปิศาจหิมะ" (雪女 Yuki Onna) ยูกิโกะ(雪子 Yukiko)
ตามตำนานแล้วปิศาจหิมะมักจะปรากฏกายในชุดกิโมโนสีขาว
แต่ในเรื่องออกแบบให้เธอใส่กิโมโนสีชมพูอ่อนและสวมเสื้อคลุมทับเพื่อให้ดูเป็นแม่บ้านญี่ปุ่น


ก็ต้องขอบคุณท่านผู้อ่านที่ไม่เปิดเผยนามทุกท่านที่ติดตามนวนิยายสงครามเรื่องยาวเรื่องนี้มาต่อเนื่องตลอดถึงตอนจบครับ
หวังว่าในอนาคตคงจะมีโอกาสได้เขียนผลงานใหม่ให้ได้อ่านอีกครับ ขอบคุณมากครับ

ติดตามอ่านนวนิยาย "ตำนานเจ้าคีรี" ได้ที่
http://writer.dek-d.com/aagth1/writer/view.php?id=1308077

วันจันทร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

ภาพประกอบนวนิยายตำนานเจ้าคีรี ปิศาจจิ้งจอกขาว


ปกติไม่เคยวาดตัวละครในลักษณะ Fantasy อย่างปิศาจญี่ปุ่น เช่น "นางปิศาจจิ้งจอกขาวห้าหาง" (白の五尾狐 Shiro no Gobi Kitsune) นี่มาก่อน
เพราะโดยมากทั้ง Comics การ์ตูนเรื่องสั้น การ์ตูนเรื่องยาว หรือนิยายที่เคยแต่งมาจะเป็นแนวสมจริง
แต่ก็พอมีประสบการณ์มาบ้างช่วงที่เคยเข้าร่วมกิจกรรม TCM CF(Thai Comic Magazine Comic Fighting)
ซึ่งมักต้องเจอตัวละครที่เป็นแนว Fantasy ในการวาดแข่งขันต่อสู้ หรือดำเนินเรื่องราวในเมือง CF City อยู่ตลอด
(ตอนนี้ติดตามกิจกรรม CF ต่อไม่ได้แล้วหลัง tcmcfx.bth.cc ยกเลิกการใช้ แล้วย้ายไปอยู่ใน Group บน Facebook)

สำหรับนวนิยายเรื่อง "ตำนานเจ้าคีรี" นี่ในฐานะผู้แต่งแล้ว พอลองกลับมาย้อนอ่านดูอีกทีนี่นับว่าตลกมาก
คือเนื้อหาในบทครึ่งแรกของเรื่องเป็นแนวสงครามและการเมืองช่วงสงครามโลกครั้งที่๒ แบบสมจริง
แต่พอมาถึงเนื้อหาช่วงครึ่งหลังของเรื่องนี่กลายเป็นแนวเหนือธรรมชาติโม้หลุดโลกไปแล้ว
ก็ไม่ทราบเหมือนว่า Manga ญี่ปุ่นเองเคยมีเรื่องไหนมีเนื้อเรื่องประมาณเดียวกันนี้ว่า
มีนักพรตนักเวทองเมียวและปิศาจญี่ปุ่นรบให้กองทัพจักรวรรดิญี่ปุ่นสมัยสงครามโลกครั้งที่๒ รึเปล่า
(ส่วนตัวคิดว่ามีนะ แต่แค่ไม่ทราบไม่เคยอ่าน แนวสงคราม Tech vs Magic นี่ไม่ใช่แนวที่อ่าน)

หมายเหตุ: เพิ่งสังเกตุว่าตัวละครในเรื่องยาวนี้ส่วนใหญ่เครื่องแต่งกายยืนสีแดงเป็นพื้น

อย่างไรก็ช่วยติดตามนวนิยาย "ตำนานเจ้าคีรี" ตอนใหม่ได้ทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ด้วยครับที่
http://writer.dek-d.com/aagth1/writer/view.php?id=1308077

วันจันทร์ที่ 1 มิถุนายน พ.ศ. 2558

นวนิยายตำนานเจ้าคีรี ฉลองเนื่องในโอกาสยอดชมเกิน๑๐๐ท่าน



ตอนเข้าไปหน้าจัดการนิยายของ Dek-D.com แบบใหม่พบตัวเลขยอดผู้ชมเป็น ๑๐๑ ซึ่งตรงกับ กองพลส่งทางอากาศที่๑๐๑ (101st Airborne Division) ทหารพลร่มกองทัพบกสหรัฐฯอันโด่งดังสมัยสงครามโลกครั้งที่๒นั่นเอง
เลยวาดภาพประกอบฉลองยอดผู้ชมเสียหน่อยครับ (สาวๆในเรื่อง เจ้านางมิโอ่ซา ท่านหญิงอ่าซา และท่านหญิงมาซ่ากะ กับพระเอก(กระมัง) ผู้กองอาลียะ)
สำหรับเรื่องนี้ลงมาห้าเดือนยอดคนอ่าน ๑๐๑ท่าน และมีผู้ติดตาม ๖ท่าน นับว่ายังดีที่ว่ายังพอมีคนอ่านบ้างถึงจะน้อยก็เถอะ (นิยายเรื่องอื่นที่อยู่ในอันดับต้นๆยอดคนอ่านเป็นพันเป็นหมื่นทั้งนั้น)

โปรดติดตามนวนิยาย "ตำนานเจ้าคีรี" ตอนใหม่ได้ทุกวันจันทร์ของสัปดาห์ครับที่
http://writer.dek-d.com/aagth1/writer/view.php?id=1308077