U.S., Thailand expand maritime partnership with CARAT exercise
Royal Thai Navy frigates included the Naresuan-class frigates HTMS Naresuan (FFG 421), HTMS Taksin (FFG 422) and HTMS Bhumibol Adulyadej (FFG 471) sail with USS Green Bay (LPD 20) during CARAT Thailand exercise, Sept. 6-10.
กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) และกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ทำการฝึกทางทะเลร่วมกันระหว่างการฝึกผสม CARAT 2021(Cooperation Afloat Readiness and Training) เมื่อวันที่ ๖-๑๐ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๔(2021)
การฝึกไร้สัมผัสที่เกิดขึ้นจริงและในอ่าวไทยมีเนื้อหาวิวัฒนาการความร่วมมือที่เน้นหนักขีดความสามารถของสหรัฐฯและไทยที่จะทำงานร่วมกันมุ่งสู่เป้าหมายร่วมกันของการดำรงอิสระและเปิดกว้างสภาพแวดล้อมความมั่นคงทางทะเลในอินโด-แปซิฟิก
การฝึก CARAT Thailand ครั้งที่๒๗ เป็นตัวแทนความเป็นหุ้นส่วนและความเป็นพันธมิตรที่ยาวนานระหว่างประชาชนไทยและสหรัฐฯ และพันธมิตรและหุ้นส่วนที่ใจตรงกัน ขณะที่การฝึกนี้เป็นแบบไร้สัมผัสกับกองทัพเรือไทย โอกาสที่จะเดินเรือและปฏิบัติการอากาศยานของเราร่วมกัน
ในฐานะกำลังหนึ่งเดียวกันมีผลกระทบและพัฒนาความไว้วางใจกันและกัน และขีดความสามารถการปฏิบัติการเพิ่มเติมของทั้งสองชาติของเรา" นาวาเอก Tom Ogden ผู้บัญชาการกองเรือพิฆาตที่7(DESRON 7, Destroyer Squadron 7) กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าว
สหรัฐฯและไทยได้แสดงความสามารถของพวกตนที่จะทำงานร่วมกันผ่านเหตุการณ์จำนวนมาก รวมถึงกลยุทธระดับภาค(divisional tactic) ที่ออกแบบเพื่อเพิ่มขยายการสื่อสารตามที่เดินเรือรวมกันในการดำเนินกลยุทธที่ซับซ้อน
การฝึกติดตามการหยั่งรู้ภาคทางทะเล(MDA: Maritime Domain Awareness) กับเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Boeing P-8A Peseidon มุ่งเป้าที่การเพิ่มขีดความสามารถทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯและกองทัพเรือไทยที่จะติดตามและไล่ตามเป้าหมายนอกระยะสายตา
ผ่านการวางกำลังประสานของเรือผิวน้ำและเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล, การฝึกลงจอดบนดาดฟ้าบินเรือของเฮลิคอปเตอร์ต่อต้านเรือผิวน้ำ ฮ.ตผ.๑ Leonardo Super Lynx 300 กองการบินทหารเรือ กอทัพเรือไทย และการฝึกค้นหาและกู้ภัย
เป็นครั้งแรกที่บุคลากรหน่วยงานระหว่างรัฐบาลจากความริเริ่มเส้นทางทางทะเลสำคัญอินโด-แปซิฟิกของสหภาพยุโรป(EU-CRIMARIO: European Union-Critical Maritime Routes Indo-Pacific) ได้มอบประเด็นที่มีความเชี่ยวชาญ
EU-CRIMARIO เป็นเจ้าภาพการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญเสมือนจริงเกี่ยวกับปฏิบัติการตรวจค้นเรือในทะเลหลวง และการบรรยายสรุปสั้นเกี่ยวกับการหยั่งรู้ภาคทางทะเล
การรวมหน่วยงานที่ไม่ได้อยู่ในเครื่องแบบในชุดการฝึกผสม CARAT ได้ช่วยในการทำความเข้าใจสภาพแวดล้อมการปฏิบัติการและกองเรือที่7(7th Fleet) กองทัพเรือสหรัฐฯปรารถนาที่จะเดินหน้าการเข้าถึงนี้ในการฝึกครั้งต่อไปในอนาคต
ระยะขั้นการฝึกในทะเลเกิดขึ้นในน่าน้ำอาณาเขตของไทยและน่านน้ำสากลใกล้สัตหีบและเกาะสมุย ซึ่งเรืออู่ยกพลขึ้นบกชั้น San Antonio เรือ LPD-20 USS Green Bay และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A
สังกัดกองกำลังเฉพาะกิจที่72(CTF 72: Commander, Task Force 72) กองทัพเรือสหรัฐฯ เข้าร่วมกับเรือและอากาศยานจากกองทัพเรือไทยสำหรับการฝึกพันธมิตร ที่มุ่งเน้นการสร้างการทำงานร่วมกันและเสริมความแข็งแกร่งความสัมพันธ์
เรือของกองทัพเรือไทยในการฝึกภาคทะเลรวมถึงเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้นนเรศวร ๒ลำคือ เรือหลวงนเรศวร และเรือหลวงตากสิน และเรือฟริเกตติดอาวุธปล่อยนำวิถีเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช
"การแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ปี 2021 เป็นปีที่ท้าทาย เนื่องจากข้อจำกัดด้านสาธารณสุขที่กำหนดเพื่อควบคุมการแพร่กระจายของไวรัส แม้จะมีการต้านทาน เรายังจัดการที่จะประสบความสำเร็จเสร็จสิ้นแผนซึ่งแสดงการทำงานหนักและความเป็นมืออาชีพที่เราทุ่มเทเพื่อการฝึกนี้"
นาวาเอก อนุรักษ์ พรหมงาม เสนาธิการกองเรือฟริเกตที่๒ กองเรือยุทธการ กองทัพเรือไทยกล่าวในพิธีปิดการฝึกเสมือนจริง กำลังพลสหรัฐฯที่มีส่วนร่วมการการฝึก CARAT Thailand รวมถึง
คณะเสนาธิการจากกองกำลังเฉพาะกิจ CTF 72, CTF 73, CTF 74, CTF 76, คณะผู้บัญชาการ, กองเรือพิฆาตที่7, กองเรือที่7 กองทัพเรือสหรัฐฯ และคณะที่ปรึกษาทางการทหารสหรัฐฯประจำประเทศไทย(JUSMAGTHAI: Joint U.S. Military Assistance Group Thailand)
การฝึกผสม CARAT Thailand ที่เริ่มต้นในปี 1995 ต่อยอดจากการมีส่วนร่วมอื่นๆในภูมิภาคเอเชียใต้, เอเชียตะวันออกเฉียงใต้, และแปซิฟิก แต่ละการฝึก CARAT ประกอบด้วยการประชุมสัมมนามืออาชีพ และการฝึกภาคทะเลที่แข็งแกร่งที่รวมวิวัฒนาการอันซับซ้อนซึ่งเพิ่มการปฏิบัติการร่วมกัน
ที่เนื้อหาที่หลากหลายรูปแบบของขีดความสามารถทางเรือที่หลากหลาย ตั้งแต่การเก็บกู้วัตถุระเบิด(EOD: Explosive Ordnance Disposal) และการฝึกยิงอาวุธด้วยกระสุนจริง ไปยังการค้นหาและกู้ภัยและการตอบสนองการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและภัยพิบัติ
ตามที่เป็นกองเรือพิฆาตกองทัพเรือสหรัฐฯที่วางกำลังส่วนหน้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ กองเรือพิฆาตที่7 ทำหน้าที่ในฐานะผู้บัญชาการทางยุทธวิธีและปฏิบัติการหลักของการวางกำลังหมุนเวียนเรือรบ Littoral Combat Ship(LCS) ที่สิงคโปร์,
ผู้บัญชาการการรบทางทะเล(Sea Combat Commander) กองเรือยกพลขึ้นบกโพ้นทะเลโจมตีที่7(ESG7: Expeditionary Strike Group 7) และสร้างความเป็นหุ้นส่วนผ่านการฝึกซ้อมรบ และการมีส่วนร่วมระดับทางทหารต่อทหาร
ในฐานะส่วนหนึ่งของ CFT 76/ESG7 เรืออู่ยกพลขึ้นบก LPD-20 USS Green Bay วางกำลังส่วนหน้าที่ฐานทัพเรือ Sasebo ญี่ปุ่น CTF 76 อยู่ในสังกัดกองเรือที่7 และปฏิบัติการในการสนับสนุนความมั่นคงและเสถียรภาพในภูมิภาค
และทำงานควบคู่ไปกับกองทัพเรือพันธมิตรและหุ้นส่วน เพื่อมอบความมั่นคงและเสถียรภาพทางทะเล เสาหลักสำคัญของนโยบาย Free and Open Indo-Pacific ของสหรัฐฯ
ภายใต้การบัญชาการของกองเรือแปซิฟิก(Pacific Fleet) กองเรือที่7 เป็นกองเรือวางกำลังส่วนหน้าที่มีขนาดกำลังทางเรือใหญ่ที่สุดของกองทัพเรือสหรัฐฯ และมีวงรอบการติดต่อและปฏิบัติการเป็นประจำกับ ๓๕ชาติทางทะเล ในการสงวนให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกมีเสรีและเปิดกว้างครับ
