The Royal Thai Navy (RTN) individual and tactical training of Royal Thai Fleet
(RTF) for Fiscal Year 2025 at Sattahip Bay, Chonburi Province, Gulf of
Thailand on 10-12 December 2024, involved weapons live firing exercise of
joint task group include CVH-911 HTMS Chakri Naruebet helicopter
carrier, FFG-471 HTMS Bhumibol Adulyadej guided-missile frigate, FFG-421
HTMS Naresuan and FFG-422 HTMS Taksin the Naresuan-class guided-missile
frigates; FFG-456 HTMS Bangpakong and FFG-457 HTMS Kraburi the Chao
Phraya-class frigates, FSG-441 HTMS Ratanakosin corvette, and PF-432
HTMS Khirirat the Tapi-class patrol frigate. (Royal Thai Navy/NUTTAPUMIN
PARNLAK)
”เรือหลวงจักรีนฤเบศร“กับ การฝึกยุทธวิธีร่วมกองเรือ
ซึ่งการฝึกยุทธวิธีร่วมกองเรือในครั้งนี้เป็นการฝึกระดับกองเรือยุทธการเพื่อให้องค์บุคคลประจำเรือ
อากาศยานและ ศปก.กร.
มีความรู้ความเข้าใจและวิธีการที่ต้องใช้ในการปฏิบัติการร่วมเพื่อให้พร้อมที่จะปฏิบัติการร่วมกัน
ซึ่งการฝึกในครั้งนี้ประกอบด้วยอาทิ เรือหลวงจักรีนฤเบศร
เรือหลวงภูมิพลเดช เรือหลวงนเรศวร พร้อมทั้งอากาศยาน
การออกเรือในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อมกัน
"แสนยานุภาพ กองเรือพิฆาตทัพเรือไทย"
กองเรือยุทธการ ฝึกยิงอาวุธทางเรือ กองเรือรบฟริเกต ดำรงความพร้อมรบ
ตามแผนป้องกันประเทศ
***กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ
ในฐานะผู้นำหน่วยกำลังรบทางเรือ อันทรงแสนยานุภาพของกองทัพเรือไทย
ได้เปิดปฏิบัติการฝึกยุทธวิธีกองเรือร่วม กองเรือยุทธการ เพื่อดำรงความพร้อมรบ
ตามแผนป้องกันประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ พื้นที่อ่าวไทย อ.สัตหีบ
จ.ชลบุรี
***โดยกองเรือรบ เรือฟรีเกต ซึ่งเป็นเรือพิฆาตที่สามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3
มิติ สามารถต่อต้านภัยคุกคาม และทำลายเป้าหมาย บนฟ้า ผิวน้ำ และใต้น้ำ
โดยมีเรือรบฟริเกต ที่เข้าร่วมในภารกิจยิงอาวุธในทะเล ประกอบด้วย
เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงคีรีรัฐ
เรือหลวงบางประกง และมีเรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือบัญชาการรบ
ซึ่งภารกิจจะมีการระดมยิงปืนประจำเรือ เข้าสู่เป้าหมายกลางทะเล
***และในวันนี้ เรือหลวงตากสิน หมายเลข 422 (ในภาพ)
ซึ่งเป็นหนึ่งในกองเรือฟริเกต อันทรงแสนยานุภาพ จะเปิดฉากระดมยิงปืนหัวเรือ
ปืนใหญ่เรือเอ็มเค-45 มอด 2 ขนาด 5 นิ้ว หรือ 127 มิลลิเมตร
โดยมีการบรรจุกระสุน จำนวน 21 นัด ระดมยิงใส่เป้าหมาย
เพื่อทดสอบความแม่นยำ
นอกจากนี้ ยังมีการยิงเอ็มเอสไอ - ดีเอสแอล ดีเอส 30 เอ็มอาร์
ซึ่งเป็นปืนลำกล้องเล็ก อัตโนมัติ ขนาด 30 มิลลิเมตร ที่มีประจำการอยู่บนเรือ
ทั้งกาบซ้าย และกาบขวา จำนวน 2 กระบอก และปืนกล
***เรือหลวงตากสิน ยังได้มีระบบควบคุมการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแนวดิ่ง เอ็มเค
.41 จำนวน 8 ท่อยิง สำหรับอาร์ไอเอ็ม-162 อีเอสเอสเอ็ม 32 ลูก
เครื่องยิงขีปนาวุธพื้นสู่พื้นอาร์จีเอ็ม-84 ฮาร์พูน 8 เครื่อง และ
แท่นยิงเอ็มเค-32 มอด.5 แฝดสาม ขนาด 324 มิลลิเมตร จำนวน 2 ท่อยิง
ล้วนเป็นอาวุธที่ทันสมัยทรงพลังในการทำลายล้าง
***พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า
กองเรือยุทธการ ถือเป็นหน่วยกำลังรบหลักทางเรือของกองทัพเรือ
มีภารกิจในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และรักษาอธิปไตยของชาติ
การฝึกกำลังรบทางเรือ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเสริมสร้างความรู้
ความชำนาญ และประสบการณ์ ตลอดจน เท่าทันต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งด้านอาวุธ
และการรับมือต่อภัยคุกคามทุกรูปแบ
บ เมื่อกำลังพลเกิดความเข้มแข็ง เป็นกำลังรบที่มีประสิทธภาพ
ย่อมส่งผลให้หน่วยกำลังรบของกองทัพเรือไทย จะดำรงไว้ซึ่งแสนยานุภาพ
พร้อมที่จะปกป้องประเทศยามศึกสงคราม ที่สำคัญ นอกจากการฝึกด้านการรบแล้ว
กำลังพลทุกนายยังพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ
และการบรรเทาสาธารณภัย ได้อย่างทันท่วงที
เพื่อให้กองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ เป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่น
และภาคภูมิใจ
***ณัฐภูมินทร์-พัชรพล ปานรักษ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0649893235
การฝึกยิงอาวุธทางเรือ การฝึกยุทธวิธีกองเรือร่วม กองเรือยุทธการ กร.(RTF: Royal
Thai Fleet) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือ กองบิน
และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘(2025)
ของของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่อ่าวไทย
อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๐-๑๒ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) นั้น
นอกจากการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/awav-8x8.html) กองเรือยุทธการ กร.ได้จัดกำลังกองเรือร่วมประกอบด้วยเช่น
เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงจักรีนฤเบศร กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กบฮ.(HCS:
Helicopter Carrier Squadron ) เป็นเรือธงและเรือบัญชาการรบ,
เรือฟริเกตเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช, เรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์
ร.ล.รัตนโกสินทร์ และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงตาปี เรือหลวงคีรีรัฐ
กองเรือฟริเกตที่๑ กฟก.๑(1st FS: 1st Frigate Squadron) และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางประกง และเรือหลวงกระบุรี และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร ร.ล.นเรศวร และเรือหลวงตากสิน
กองเรือฟริเกตที่๒ กฟก.๒(2nd FS: 2nd Frigate Squadron) เป็นต้น
กำลังเรือรบจากกองทัพเรือภาคที่๑ ทรภ.๑(1st NAC: First Naval Area Command)
จากฐานทัพเรือสัตหีบ
ได้ทำการฝึกยิงอาวุธประจำเรือต่างๆต่อเป้าหมายซ้อมยิงปืนเรือบนเกาะสันฉลาม
ในอ่าวแสมสาร จังหวัดชลบุรี รวมถึงปืนเรือ Mk 45 Mod2 5"/54caliber และปืนกล
DS30MR 30mm รวมถึงปืนกลหนัก ปก.๙๓ M2 .50cal ของ ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ตากสิน
เป็นต้น การฝึกกองเรือร่วมล่าสุดเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่า
ร.ล.จักรีนฤเบศร
ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ได้ทำการฝึกเป็นเรือบัญชาการและเป็นเป็นเรือฝึกการปฏิบัติการร่วมระหว่างกองเรือและเฮลิคอปเตอร์ของกองการบินทหารเรือ
กบร.(RTNAD: Royal Thai Naval Air Division) เช่น เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๕
ฮ.ลล.๕ Sikorsky MH-60S Knighthawk
ยังมีความพร้อมปฏิบัติการตลอดเวลา
ไม่ได้จอดที่ท่าเรือเป็นจุดท่องเที่ยวให้เปลืองภาษีประชาชนอย่างที่มีผู้ไม่หวังดีกล่าวหา
เช่นเดียวกับ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ที่มีข่าวลือหลังกลับจากการฝึก Kakadu 2024
ที่ออสเตรเลียว่าเครื่องจักรใหญ่เครื่องยนต์ดีเซล MTU เยอรมนีพังต้องจอดรอซ่อม
ก็เห็นชัดว่าเรือยังคงเดินเรือทำการฝึกต่างๆได้ รวมถึง ร.ล.คีรีรัฐ
ที่เกิดอุบัติเหตุถูกปืนเรือ 76/62 ของเรือเร็วโจมตีปืน เรือหลวงชลบุรี
ลั่นใส่ท้ายเรือในเดือนมีนาคม ๒๕๖๗
ก็เห็นได้ว่าเรือซ่อมเสร็จและออกเรือปฏิบัติการได้แล้ว
แม้จะมีอายุการใช้งานมานานและใกล้จะปลดประจำการตาม ร.ล.ตาปี
ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/blog-post.html)