วันศุกร์ที่ 20 ธันวาคม พ.ศ. 2567

การฝึกยุทธวิธีร่วม กองเรือยุทธการ กองทัพเรือไทย ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘




















The Royal Thai Navy (RTN) individual and tactical training of Royal Thai Fleet (RTF) for Fiscal Year 2025 at Sattahip Bay, Chonburi Province, Gulf of Thailand on 10-12 December 2024, involved weapons live firing exercise of joint task group include CVH-911 HTMS Chakri Naruebet helicopter carrier,  FFG-471 HTMS Bhumibol Adulyadej guided-missile frigate, FFG-421 HTMS Naresuan and FFG-422 HTMS Taksin the Naresuan-class guided-missile frigates; FFG-456 HTMS Bangpakong and FFG-457 HTMS Kraburi the Chao Phraya-class frigates, FSG-441 HTMS Ratanakosin corvette,  and PF-432 HTMS Khirirat the Tapi-class patrol frigate. (Royal Thai Navy/NUTTAPUMIN PARNLAK) 





”เรือหลวงจักรีนฤเบศร“กับ การฝึกยุทธวิธีร่วมกองเรือ ซึ่งการฝึกยุทธวิธีร่วมกองเรือในครั้งนี้เป็นการฝึกระดับกองเรือยุทธการเพื่อให้องค์บุคคลประจำเรือ อากาศยานและ ศปก.กร. มีความรู้ความเข้าใจและวิธีการที่ต้องใช้ในการปฏิบัติการร่วมเพื่อให้พร้อมที่จะปฏิบัติการร่วมกัน 
ซึ่งการฝึกในครั้งนี้ประกอบด้วยอาทิ เรือหลวงจักรีนฤเบศร เรือหลวงภูมิพลเดช  เรือหลวงนเรศวร  พร้อมทั้งอากาศยาน การออกเรือในครั้งนี้จะเป็นอย่างไร ไปติดตามพร้อมกัน

"แสนยานุภาพ กองเรือพิฆาตทัพเรือไทย"​
กองเรือยุทธการ ฝึกยิงอาวุธทางเรือ กองเรือรบฟริเกต ดำรงความพร้อมรบ ตามแผนป้องกันประเทศ
***กองทัพเรือ โดย พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการ กองเรือยุทธการ ในฐานะผู้นำหน่วยกำลังรบทางเรือ อันทรงแสนยานุภาพของกองทัพเรือไทย ได้เปิดปฏิบัติการฝึกยุทธวิธีกองเรือร่วม กองเรือยุทธการ เพื่อดำรงความพร้อมรบ ตามแผนป้องกันประเทศ ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ พื้นที่อ่าวไทย อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี
***โดยกองเรือรบ เรือฟรีเกต ซึ่งเป็นเรือพิฆาตที่สามารถปฏิบัติการรบได้ทั้ง 3 มิติ สามารถต่อต้านภัยคุกคาม และทำลายเป้าหมาย บนฟ้า ผิวน้ำ และใต้น้ำ โดยมีเรือรบฟริเกต ที่เข้าร่วมในภารกิจยิงอาวุธในทะเล ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน เรือหลวงนเรศวร เรือหลวงกระบุรี เรือหลวงคีรีรัฐ เรือหลวงบางประกง และมีเรือหลวงจักรีนฤเบศร เป็นเรือบัญชาการรบ ซึ่งภารกิจจะมีการระดมยิงปืนประจำเรือ เข้าสู่เป้าหมายกลางทะเล
***และในวันนี้ เรือหลวงตากสิน หมายเลข 422 (ในภาพ) ซึ่งเป็นหนึ่งในกองเรือฟริเกต อันทรงแสนยานุภาพ จะเปิดฉากระดมยิงปืนหัวเรือ ปืนใหญ่เรือเอ็มเค-45 มอด 2 ขนาด 5 นิ้ว หรือ 127 มิลลิเมตร โดยมีการบรรจุกระสุน จำนวน 21 นัด ระดมยิงใส่เป้าหมาย เพื่อทดสอบความแม่นยำ 
นอกจากนี้ ยังมีการยิงเอ็มเอสไอ - ดีเอสแอล ดีเอส 30 เอ็มอาร์ ซึ่งเป็นปืนลำกล้องเล็ก อัตโนมัติ ขนาด 30 มิลลิเมตร ที่มีประจำการอยู่บนเรือ ทั้งกาบซ้าย และกาบขวา จำนวน 2 กระบอก และปืนกล
***เรือหลวงตากสิน ยังได้มีระบบควบคุมการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีแนวดิ่ง เอ็มเค .41 จำนวน 8 ท่อยิง สำหรับอาร์ไอเอ็ม-162 อีเอสเอสเอ็ม 32 ลูก เครื่องยิงขีปนาวุธพื้นสู่พื้นอาร์จีเอ็ม-84 ฮาร์พูน 8 เครื่อง และ แท่นยิงเอ็มเค-32 มอด.5 แฝดสาม ขนาด 324 มิลลิเมตร จำนวน 2 ท่อยิง ล้วนเป็นอาวุธที่ทันสมัยทรงพลังในการทำลายล้าง
***พลเรือเอก ณัฏฐพล เดี่ยววานิช ผู้บัญชาการกองเรือยุทธการ กล่าวว่า กองเรือยุทธการ ถือเป็นหน่วยกำลังรบหลักทางเรือของกองทัพเรือ มีภารกิจในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล และรักษาอธิปไตยของชาติ การฝึกกำลังรบทางเรือ ได้จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความชำนาญ และประสบการณ์ ตลอดจน เท่าทันต่อเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทั้งด้านอาวุธ และการรับมือต่อภัยคุกคามทุกรูปแบ
บ เมื่อกำลังพลเกิดความเข้มแข็ง เป็นกำลังรบที่มีประสิทธภาพ ย่อมส่งผลให้หน่วยกำลังรบของกองทัพเรือไทย จะดำรงไว้ซึ่งแสนยานุภาพ พร้อมที่จะปกป้องประเทศยามศึกสงคราม ที่สำคัญ นอกจากการฝึกด้านการรบแล้ว กำลังพลทุกนายยังพร้อมที่จะให้การช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากภัยพิบัติ และการบรรเทาสาธารณภัย ได้อย่างทันท่วงที 
เพื่อให้กองเรือยุทธการ และกองทัพเรือ เป็นกองทัพที่ประชาชนเชื่อมั่น และภาคภูมิใจ
***ณัฐภูมินทร์-พัชรพล ปานรักษ์ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี 0649893235

การฝึกยิงอาวุธทางเรือ การฝึกยุทธวิธีกองเรือร่วม กองเรือยุทธการ กร.(RTF: Royal Thai Fleet) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการฝึกองค์บุคคลและยุทธวิธีกองเรือ กองบิน และหน่วยสงครามพิเศษทางเรือ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ของของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ซึ่งจัดขึ้นในพื้นที่อ่าวไทย อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๐-๑๒ เดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗(2024) นั้น
นอกจากการฝึกปฏิบัติการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบกเมื่อวันที่ ๑๓ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๗(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/awav-8x8.html) กองเรือยุทธการ กร.ได้จัดกำลังกองเรือร่วมประกอบด้วยเช่น เรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ เรือหลวงจักรีนฤเบศร กองเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ กบฮ.(HCS: Helicopter Carrier Squadron ) เป็นเรือธงและเรือบัญชาการรบ, 
เรือฟริเกตเรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช, เรือคอร์เวตชุดเรือหลวงรัตนโกสินทร์ ร.ล.รัตนโกสินทร์ และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงตาปี เรือหลวงคีรีรัฐ กองเรือฟริเกตที่๑ กฟก.๑(1st FS: 1st Frigate Squadron) และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา เรือหลวงบางประกง และเรือหลวงกระบุรี และเรือฟริเกตชุดเรือหลวงนเรศวร ร.ล.นเรศวร และเรือหลวงตากสิน กองเรือฟริเกตที่๒ กฟก.๒(2nd FS: 2nd Frigate Squadron) เป็นต้น

กำลังเรือรบจากกองทัพเรือภาคที่๑ ทรภ.๑(1st NAC: First Naval Area Command) จากฐานทัพเรือสัตหีบ ได้ทำการฝึกยิงอาวุธประจำเรือต่างๆต่อเป้าหมายซ้อมยิงปืนเรือบนเกาะสันฉลาม ในอ่าวแสมสาร จังหวัดชลบุรี รวมถึงปืนเรือ Mk 45 Mod2 5"/54caliber และปืนกล DS30MR 30mm รวมถึงปืนกลหนัก ปก.๙๓ M2 .50cal ของ ร.ล.นเรศวร และ ร.ล.ตากสิน เป็นต้น การฝึกกองเรือร่วมล่าสุดเป็นเครื่องยืนยันได้ดีว่า 
ร.ล.จักรีนฤเบศร ซึ่งเป็นเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ที่ได้ทำการฝึกเป็นเรือบัญชาการและเป็นเป็นเรือฝึกการปฏิบัติการร่วมระหว่างกองเรือและเฮลิคอปเตอร์ของกองการบินทหารเรือ กบร.(RTNAD: Royal Thai Naval Air Division) เช่น เฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่๕ ฮ.ลล.๕ Sikorsky MH-60S Knighthawk ยังมีความพร้อมปฏิบัติการตลอดเวลา ไม่ได้จอดที่ท่าเรือเป็นจุดท่องเที่ยวให้เปลืองภาษีประชาชนอย่างที่มีผู้ไม่หวังดีกล่าวหา
เช่นเดียวกับ ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช ที่มีข่าวลือหลังกลับจากการฝึก Kakadu 2024 ที่ออสเตรเลียว่าเครื่องจักรใหญ่เครื่องยนต์ดีเซล MTU เยอรมนีพังต้องจอดรอซ่อม ก็เห็นชัดว่าเรือยังคงเดินเรือทำการฝึกต่างๆได้ รวมถึง ร.ล.คีรีรัฐ ที่เกิดอุบัติเหตุถูกปืนเรือ 76/62 ของเรือเร็วโจมตีปืน เรือหลวงชลบุรี ลั่นใส่ท้ายเรือในเดือนมีนาคม ๒๕๖๗ ก็เห็นได้ว่าเรือซ่อมเสร็จและออกเรือปฏิบัติการได้แล้ว แม้จะมีอายุการใช้งานมานานและใกล้จะปลดประจำการตาม ร.ล.ตาปี ในอนาคตอันใกล้นี้ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/blog-post.html)