วันพุธที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เรือดำน้ำ SS-711 Hai Kun ไต้หวันเสร็จสิ้นการทดลองเรือในทะเลครั้งแรก

Taiwan indigenous submarine complete first sea trial



Hai Kun (SS-711) during sea trials on June 17. CSBC picture.



เรือดำน้ำลำแรกของไต้หวันที่สร้างเองในประเทศโครงการเรือดำน้ำกลาโหมภายในประเทศ(IDS: Indigenous Defence Submarine) เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun สำหรับกองทัพเรือไต้หวัน(RoCN: Republic of China Navy)
ได้เสร็จสิ้นการประสบความสำเร็จการทดลองเรือในทะเลครั้งแรกของตนเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 ตามข้อมูลจากบริษัท CSBC Corporation ไต้หวันผู้สร้างเรือ(https://aagth1.blogspot.com/2023/09/ss-711-hai-kun.html)

เรือดำน้ำลำแรกในโครงการเรือดำน้ำ IDS เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun(海鯤) ที่ยังรู้จักในชื่อ Narwhal ได้ถูกพบเห็นกำลังปฏิบัติงานภายใต้กำลังขับเคลื่อนของตนเองในท่าเรือ Kaohsiung(高雄) ในสัปดาห์ที่สามของเดือนมิถุนายน 2025
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 เรือดำน้ำ Hai Kun ได้ถูกพบว่ากำลังออกเดินเรือจากอู่เรือบริษัท CSBC ผ่านใกล้กับเกาะ Cijin(旗津) ที่เจ้าหน้าที่ที่เป็นกำลังพลทางทหารหรือเจ้าหน้าที่ทางเทคนิคมากกว่า 10คนยืนบนดาดฟ้าเรือนอกเหนือจากลูกเรือที่เห็นได้จากด้านบนของหอเรือ(sail)

แหล่งข่าวทางทหารนิรนามกล่าวกับสำนักข่าว CNA ของรัฐบาลไต้หวันว่า กองทัพเรือไต้หวันได้วางกำลังทรัพยากรหลายหลายแบบเพื่อควบคุมพื้นที่ระหว่างที่เรือดำน้ำ Hai Kun ทำการทดลองเรือในทะเล
ทรัพยากรต่างๆเหล่านี้รวมถึง เรือเร็วจู่โจม, เรือเร็วโจมตีติดอาวุธปล่อยนำวิถี, เรือฟริเกต และอากาศยานต่างๆเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและรักษาความลับของปฏิบัติการทดสอบต่างๆ

ตามข้อมูลจากผู้สร้างเรือบริษัท CSBC Corporation เรือดำน้ำ Hai Kun ได้เข้าสู่ชุดการทดสอบเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 ที่รวมถึงระบบขับเคลื่อน, การควบคุมทิศทางเดินเรือ, ระบบไฟฟ้า, การหมุนเวียนอากาศ(ventilation), การสื่อสาร และการนำร่อง
CSBC ไต้หวันระบุว่าการทดลองเรือในทะเลจะได้ถูกดำเนินการในสามระยะคือ การนำร่องที่ผิวน้ำ, การทดสอบดำลงใต้น้ำในระดับน้ำตื้น และการเพิ่มการดำที่ลึกขึ้น การปรับแต่งระบบจะมีขึ้นหลังจากผลการประเมินของแต่ละระยะการทดสอบก่อนเดินหน้าสู่ระยะต่อไป

ในการตอบสนองต่อการคาดเดาในสื่อสังคม online เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่ตัวเรือเกิดการผิดรูปที่ถูกพบระหว่างการทดลองเรือขั้นต้น บริษัท CSBC ได้ออกแถลงการณ์ชี้แจงว่า ส่วนที่ยืนออกมาทางกราบซ้ายของหัวเรือของเรือดำน้ำ Hai Kun 
ไม่ใช่ข้อบกพร่องทางโครงสร้างแต่เป็นส่วนสำหรับติดตั้งระบบ sonar วัดระยะเชิงรับของเรือดำน้ำ บริษัท CSBC ได้เชิญชวนให้สาธารณชนที่จะสนับสนุนและภาคภูมิใจในความคืบหน้าของโครงการเรือดำน้ำกลาโหมภายในประเทศ IDS ของไต้หวัน

แม้ว่าจะมีความคืบหน้า แต่งบประมาณสำหรับเรือดำน้ำในโครงการ IDS ที่จะตามมาอีก 7ลำจากทั้งหมด 8ลำยังคงถูกระงับไว้บางส่วนประมาณร้อยละ50 เนื่องจากพรรคฝ่ายค้านต่างๆในสภาไต้หวันที่โน้มเอียงไปทางที่สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่
การให้ผ่านงบประมาณขึ้นอยู่กับการประสบความสำเร็จในการเสร็จสิ้นการทดลองเรือในทะเล(SAT: Sea Acceptance Test) ของเรือดำน้ำ Hai Kun และรายงานพิเศษกำลังถูกยื่นไปยังสภานิติบัญญัติไต้หวันเพื่อการอนุมัติ

แม้ว่าการทดลองเรือในทะเลได้ถูกดำเนินขึ้นล่าช้าหลังจากกำหนดการขั้นต้น หัวหน้าคณะเสนาธิการกองทัพเรือไต้หวัน พลเรือโท Chiu Chun-jung(邱俊榮) กล่าวกับสำนักข่าว CNA ไต้หวันว่า
กำหนดระยะเวลาการส่งมอบของ เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง โดยเรือดำน้ำยังคงถูกกำหนดที่จะส่งมอบให้แก่กองเรือไต้หวันในเดือนพฤศจิกายน 2025 ตามสัญญาเดิม

เรือดำน้ำ SS-711 ROCS Hai Kun เรือดำน้ำลำแรกภายใต้โครงการ IDS ถูกเปิดตัวครั้งแรกในเดือนกันยายน 2023 และถูกปล่อยเรือลงน้ำในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 นอกเหนือจากเรือดำน้ำ Hai Kun ที่ยังไม่ได้มีการส่งมอบ ปัจจุบันกองทัพเรือไต้หวันมีประจำการด้วยเรือดำน้ำ 4ลำ
เรือดำน้ำที่มีอายุการใช้งานนานที่สุด 2ลำจาก 4ลำคือ เรือดำน้ำ SS-791 ROCS Hai Shih(Sea Lion 'สิงโตทะเล') และเรือดำน้ำ SS-792 ROCS Hai Pao(Seal 'แมวน้ำ') ที่เดิมเป็นเรือดำน้ำชั้น Tench ยุคสงครามโลกครั้งที่สองที่สหรัฐฯมอบให้ในปี 1970s

เรือดำน้ำ ROCS Hai Shih และเรือดำน้ำ ROCS Hai Pao ทั้งสองลำได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแบบภายใต้โครงการ GUPPY(Greater Underwater Propulsion Power Program) และถูกเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่าเรือดำน้ำชั้น Guppy ในไต้หวัน พวกเธอยังคงประจำการอยู่และถูกกล่าวว่ามีขีดความสามารถในการรบ
เรือดำน้ำชั้น Hai Lung(หรือเรือดำน้ำชั้น Chien Lung) สองลำคือ เรือดำน้ำ SS-793 ROCS Hai Lung(Sea Dragon 'มังกรทะเล') และเรือดำน้ำ SS-794 ROCS Hai Hu(Sea Tiger 'เสือโคร่งทะเล') เป็นเรือที่ค่อนข้างใหม่และก้าวหน้ากว่า

เรือดำน้ำชั้น Hai Lung ทั้ง 2ลำเหล่านี้ถูกจัดซื้อจากเนเธอร์แลนด์ในปี 1980s และได้รับการติดตั้งด้วย Torpedo หนักแบบ AEG SUT 264 เยอรมนีที่จัดหาภายใต้สิทธิบัตรจากอินโดนีเซียในปี 1980s
อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำยิงจากเรือดำน้ำใต้น้ำ Boeing UGM-84 Harpoon ถูกจัดซื้อจากสหรัฐฯในปี 2008 และ Torpedo หนักแบบ MK 48 Mod6 Advanced Technology(AT) ถูกจัดหาจากสหรัฐฯในปี 2017 ครับ

วันอังคารที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2568

อังกฤษ อิตาลี ญี่ปุ่นร่วมจัดตั้งบริษัท Edgewing เพื่อพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต GCAP

Edgewing joint venture company launched to develop GCAP





Edgewing brings together BAE Systems, Leonardo, and Japan Aircraft Industrial Enhancement Co Ltd to design and develop the Global Combat Air Programme (GCAP) next-generation combat aircraft. (BAE Systems)

หุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรมโครงการการรบทางอากาศทั่วโลก(GCAP: Global Combat Air Programme) ได้เปิดตัวกิจการร่วมค้า(JV: Joint Venture) ใหม่ที่มีชื่อว่าบริษัท Edgewing
เพื่อที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตแบบมีนักบินบังคับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/loyal-wingman-uav-gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/01/ai-loyal-wingman-uav.html)

บริษัท Edgewing จะนำ "บริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักร, บริษัท Leonardo อิตาลี, และบริษัท Japan Aircraft Industrial Enhancement Co Ltd(JAIEC) ญี่ปุ่น" รวมเข้าด้วยกัน
เพื่อที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตโครงการ GCAP ทั้งสามบริษัทกล่าวในแถลงการณ์ร่วมเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2025(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/gcap.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/01/gcap.html)

"กิจการที่จัดตั้งขึ้นมาใหม่จะมีบทบาทสำคัญ" ในการบรรลุผลวัตถุประสงค์หลักต่างๆของโครงการ "นี่รวมถึงกำหนดการนำเข้าประจำการในปี 2035 สำหรับเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคตแบบใหม่
ขณะที่ตั้งค่ามาตรฐานใหม่สำหรับความเป็นหุ้นส่วนด้านอุตสาหกรรมไตรภาคีตลอดทั่วทั้งยุโรปและเอเชีย" แถลงการณ์ของทั้งสามบริษัทเสริม(https://aagth1.blogspot.com/2022/12/gcap.html)

การเปิดตัวบริษัท Edgewing มีขึ้นตามมาหกเดือนให้หลังจากสามหุ้นส่วนภาคอุตสาหกรรม BAE Systems สหราชอาณาจักร, Leonardo อิตาลี, และ JAIEC ญี่ปุ่น
ได้บรรลุข้อตกลงในเดือนธันวาคม 2024 ที่จะจัดตั้งบริษัทใหม่ภายใต้รูปแบบธุรกิจกิจการร่วมค้า JV สำหรับโครงการ GCAP(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/gcap-jv.html)

ในแถลงการณ์ร่วมล่าสุด สามหุ้นส่วนกล่าวว่า บริษัท Edgewing "จะรับผิดชอบสำหรับการออกแบบและพัฒนา" ของโครงการ GCAP และ "จะยังคงเป็นตัวแทนผู้มีอำนาจการออกแบบสำหรับโครงการ GCAP เป็นเวลาตลอดอายุการใช้งานของผลิตภัณฑ์ 
ซึ่งคาดว่าจะดำเนินไปจนถึงเกินปี 2070" Marco Zoff จะเป็นผู้อำนวยการบริหารคนแรกของบริษัท Edgewing ซึ่งเดิมเขาเป็นผู้อำนวยการการจัดการของแผนกอากาศยาน Leonardo Aircraft Division อิตาลี

Zoff นำ "ประสบการณ์การเป็นผู้นำที่เข้มข้นในความร่วมมือการทำงานร่วมกันและนวัตกรรมการบินนานาชาติ" แถลงการณ์ร่วมกล่าว ตามข้อมูลจาก Zoff บริษัท Edgewing จะทำให้โครงการอากาศยานจะเป็นการรวมเอกภาพ "ที่แข็งแกร่ง"
ของบุคลากรที่เกี่ยวข้องในโครงการทั่วทั้งสหราชอาณาจักร, อิตาลี และญี่ปุ่น "ร่วมไปด้วยกัน เราจะผลักดันการขยายขอบเขต, เปิดรับความคล่องแคล่ว, และเพิ่มขยายห่วงโซ่อุปทานของชาติเรา" เขากล่าวครับ

วันจันทร์ที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2568

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon จะเพิ่มการผลิตในการตอบสนองความบ้าคลั่งอย่างที่สุดของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์

Paris Air Show 2025: Eurofighter to increase production in response to ‘total madness' of geopolitical situation





A mock-up of the Eurofighter Typhoon at the Paris Air Show 2025. The consortium is to ramp up production to meet an expected surge in demand. (Eurofighter, Janes/Gareth Jennings, Adem Metan)

กลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter ยุโรปจะเพิ่มอัตราการผลิตของเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนเพื่อให้รองรับคำสั่งซื้อใหม่ต่างๆที่ขณะที่กำลังมีมาจนถึงการขายในอนาคต
ที่คาดว่าจะมีขึ้นในการปะทุของ "ความบ้าคลั่งอย่างที่สุด"(total madness) ของสถานการณ์ภูมิรัฐศาสตร์ปัจจุบัน หัวหน้าของกลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter กล่าวเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025

ในการพูดคุยกับ Janes และสื่อกลาโหมอื่นๆ ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้นระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025 ผู้อำนวยการบริหาร Eurofighter ที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ Jorge Tamarit Degenhardt กล่าวว่า
การผลิตของเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ตลอดทั่วทั้งโรงงานอากาศยานของสี่ชาติหุ้นส่วนจะถูกเร่งความเร็วขึ้น "เพื่อเพิ่มอัตราการผลิตและลดระยะเวลาดำเนินการ(lead time)"

"เรากำลังจะดำเนินการเพิ่มอัตราการผลิตจากปัจจุบันที่ 12เครื่อง(ต่อปี) ขั้นแรกที่ 20เครื่องต่อปี และจากนั้นขึ้นอยู่กับการขายในอนาคตเป็นที่ 30เครื่องต่อปี" Degenhardt กล่าวโดยเสริมว่า
ก้าวแรกที่จะเพิ่มอัตราการผลิตเป็น 20เครื่องต่อปี จะมีขึ้นในอีก 36เดือนข้างหน้า "ขณะนี้มันใช้เวลาราว 50เดือน(ตั้งแต่ลงนามสัญญาจนถึงส่งมอบ) และเราจำเป็นต้องลดมัน" เขาอธิบาย

กลุ่มกิจการค้าร่วม Eurofighter ของเยอรมนี, อิตาลี, สเปน และสหราชอาณาจักรมีโรงงานอากาศยานการผลิตและประกอบเครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ของตนคือ
ของบริษัท Airbus Defence and Space(DS) ยุโรปที่ Manching เยอรมนี, บริษัท Leonardo อิตาลีที่ Caselle ในอิตาลี, บริษัท Airbus DS ที่ Getafe ในสเปน และบริษัท BAE Systems สหราชอาณาจักรใน Warton สหราชอาณาจักร

เครื่องบินขับไล่ Eurofighter Typhoon ได้ถูกนำเข้าประจำการในสี่ชาติหุ้นส่วนคือกองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/eurofighter-typhoon-tranche-1.html),
กองทัพอากาศอิตาลี(Italian Air Force, AMI: Aeronautica Militaire Italiana) โดยกำลังมีการสั่งจัดหาใหม่เพิ่มเติมจำนวน 24เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-24.html)

กองทัพอากาศและอวกาศสเปน(Spanish Air and Space Force, EdAE: Ejército del Aire y del Espacio) ที่กำลังมีการสั่งจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 20 เครื่องและ 25เครื่องภายใต้โครงการ Halcon I และ Halcon II ตามลำดับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/eurofighter-typhoon-halcon-ii-25.html)
และ กองทัพอากาศเยอรมนี(Luftwaffe) ที่กำลังจัดหาเพิ่มเติมจำนวน 20เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/eurofighter-typhoon-20.html) เช่นเดียวกับรุ่นเครื่องบินขับไล่โจมตีสงคราม electronic(EA: Electronic Attack) แบบ Eurofighter EK(Elektronischer Kampf: Electronic Combat) จำนวน 15เครื่องครับ

วันอาทิตย์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ฝรั่งเศสเลือกจะจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye สวีเดน 2เครื่อง

Paris Air Show 2025: France selects GlobalEye as AWACS replacement





France is to acquire two GlobalEye aircraft, with the option for a further two. (Saab, Janes/Gareth Jennings, Xavier Vavasseur, Martin M.)

ฝรั่งเศสได้เลือกเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye สวีเดนเพื่อทดแทนเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Boeing E-3F AWACS(Airborne Warning and Control System) ที่มีอายุการใช้งานมานานของตน
สำนักงานจัดหากลาโหมฝรั่งเศส(DGA: Direction Générale de l'Armement) ประกาศเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/saab-globaleye-5.html)

การลงนามโดยบริษัท Saab สวีเดนและสำนักงานจัดหากลาโหมฝรั่งเศส DGA ฝรั่งเศส ของการประกาศในความตั้งใจที่จะจัดหาเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye จำนวน 2เครื่องโดยมีตัวเลือกเพิ่มอีก 2เครื่องรวม 4เครื่อง
มีขึ้นในเวลาสอดคล้องกับงานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025

ตามข้อมูลจาก DGA ฝรั่งเศส ข้อตกลงมีกำหนดจะบรรลุผลเสร็จสิ้น "ในอีกหลายเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง" เป็นการเตรียมเส้นทางที่ชัดเจนสำหรับกองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace) 
ที่จะปลดประจำการเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ E-3F จำนวน 4เครื่องของตนที่ได้รับมอบมาตั้งแต่ปี 1991(https://aagth1.blogspot.com/2024/06/saab-globaleye-2.html)

ระบบควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ GlobalEye ถูกสร้างจากพื้นฐาน radar แบบ Saab Erieye ER(Extended Range) ที่ยังคงใช้จานสัญญาณ Radar ทรง 'แท่งแผ่นกระดาน' หนอกบนหลังภายนอกเครื่องเช่นเดียวกับระบบ Erieye ดั้งเดิมของบริษัท Saab
ติดตั้งด้วย Gallium Nitride(GaN) และวิทยาการต่างๆอื่นๆ Erieye ER เป็นระบบ AESA(Active Electronically Scanned Array) radar ที่มีประสิทธิภาพพลังงานเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับ Erieye radar รุ่นก่อน

Erieye ER มีระยะการทำงานของ radar ที่มากกว่า 650km ซึ่งสามารถเพิ่มขยายโดยการเน้นในจุดสนใจของพลังงานของ AESA radar(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/globaleye.html)
สมรรถนะที่เปิดเผยโดยการให้ข้อมูลจาก Saab สวีเดน เครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ GlobalEye มีระยะเวลาการบินปฏิบัติการมากกว่า 13ชั่วโมง และมีความเร็วสูงสุดที่ 450knots

กองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAEAF&D: United Arab Emirates Air Force and Defence) เป็นลูกค้าส่งออกรายแรกสำหรับเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye
โดยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้รับมอบเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab GlobalEye AEW&C(Airborne Early Warning and Control) จำนวน 5เครื่องที่ตนสั่งจัดหาครบแล้วในเดือนกันยายน 2024

กองทัพอากาศสวีเดน(SwAF: Swedish Air Force, Svenska flygvapnet) ยังได้สั่งจัดหา Saab GlobalEye จำนวน 3เครื่องโดยกำหนดแบบเป็นเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab S 106 GlobalEye AEW&C
เพื่อทดแทนเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Saab ASC 890 AEW&C(Saab 340 ERIEYE) จำนวน 1เครื่องจากทั้งหมด 2เครื่องของตนที่บริจาคให้ยูเครน ซึ่งสองเครื่องแรกจะส่งมอบได้ก่อนกำหนดเดิมในปี 2027 และเครื่องสามในปี 2029 ครับ

วันเสาร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศไทยและอินโดนีเซียเสร็จสิ้นการฝึกผสม ELANG THAINESIA 2025








Royal Thai Air Foce (RTAF) and Indonesian Air Force concluded the exercise ELANG THAINESIA XX/2025 at Wing 1 Korat RTAF Base, Thailand on 9-19 June 2025.
20th iteration of the bilateral exercise ELANG THAINESIA participated with RTAF Korea Aerospace Industries (KAI) T-50TH Golden Eagle of 401st Squadron, Wing 4 Takhli and Lockheed Matin F-16A/B Block 15 OCU/ADF of 103st Squdron Wing 1 Korat;
and Indonesian Air Force KAI T-50i of 15th Air Squadron (Skadron Udara 15), Iswahyudi Air Force Base, Madiun with support from Lockheed Matin C-130H Hercules. (Royal Thai Air Foce)

ความร่วมมืออันแข็งแกร่ง ในการฝึกผสม ElangThaiNesia XX/25
ภาพบรรยากาศการฝึกผสมทางอากาศที่เข้มข้นระหว่างประเทศไทย และอินโดนีเซียครั้งนี้ นับเป็นความร่วมมือทางทหารของเราที่มีกันมาอย่างยาวนานเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านปฏิบัติการร่วมทางอากาศของทั้งสองประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด  รวมทั้งจะนำแนวคิดที่ได้จากการฝึกฯ มาประยุกต์ใช้ในการรักษาความมั่นคง และอธิปไตยของชาติไทยต่อไป

กองทัพอากาศอินโดนีเซียวางกำลังเข้าร่วมการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1
วันจันทร์ที่ 9 มิถุนายน 2568 กองทัพอากาศอินโดนีเซียได้วางกำลังเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 กับกองทัพอากาศ โดยได้นำเครื่องบินขับไล่ฝึกแบบ T-50i จาก ฝูงบินที่ 15 (Skadron Udara 15) ประจำการ ณ ฐานทัพอากาศอิซวาฮยูดี เดินทางถึง กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เป็นที่เรียบร้อย
ในโอกาสนี้ นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ฝ่ายกองทัพอากาศ ได้ให้การต้อนรับ Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซีย พร้อมด้วยคณะนักบินและเจ้าหน้าที่จากอินโดนีเซียอย่างอบอุ่น
การฝึกผสมในครั้งนี้มีเป้าหมายในการพัฒนาขีดความสามารถในการฝึกความพร้อมรบและการปฏิบัติการทางอากาศผสมในระดับทวิภาคี รวมทั้งการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในเรื่องหลักนิยม แนวความคิด เทคนิคการบินประกอบกำลังของทั้งสองชาติและนับเป็น “ครั้งแรก” ที่อากาศยานแบบ T-50 จากทั้งสองประเทศ 
ได้แก่ T-50i จากฝูงบินที่ 15 กองทัพอากาศอินโดนีเซีย และ T-50TH จากฝูงบิน 401 กองทัพอากาศไทย จะได้ร่วมปฏิบัติการบินในลักษณะ การฝึกปฏิบัติการทางอากาศร่วมกัน ระหว่างวันที่ 9-19 มิถุนายน 2568
ทั้งนี้ เครื่องบินแบบ T-50 ซึ่งเป็นเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่โจมตีขั้นต้น (Lead-In Fighter Trainer) และยังสามารถปฏิบัติภารกิจด้าน การโจมตีทางอากาศ, การบินค้นหาและช่วยชีวิตในพื้นที่การรบได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นก้าวสำคัญในการเสริมสร้างศักยภาพ ความพร้อมรบ และความร่วมมือด้านการบินระหว่างสองกองทัพอย่างใกล้ชิด

พิธีเปิดการฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA XX/2025
เมื่อวันอังคารที่ 10 มิถุนายน 2568 ณ อาคาร STARFIRE กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา นาวาอากาศเอก กฤษณะ  เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ฝ่ายกองทัพอากาศ 
พร้อมด้วย Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ร่วมเป็นประธานในพิธีเปิดการฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA XX/2025 อย่างเป็นทางการ
การฝึกผสมครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้ความร่วมมือระหว่างกองทัพอากาศและกองทัพอากาศอินโดนีเซีย โดยมี ฝูงบิน 103 และฝูงบิน 401 ของกองทัพอากาศ ร่วมกับ ฝูงบินที่ 15 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ซึ่งได้ร่วมกันจัดกำลังพลและอากาศยานทั้งแบบ T-50 จากทั้ง 2 ประเทศและ F-16 จากกองทัพอากาศเข้าร่วมฝึกในครั้งนี้ 
เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ ยกระดับขีดความสามารถ และความพร้อมรบในการปฏิบัติการร่วมกันของกำลังทางอากาศทั้งสองประเทศ 
นอกจากนี้ ยังได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่เข้าร่วมสนับสนุนการฝึกครั้งนี้ เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจและความปลอดภัยด้านการบินร่วมกันระหว่างภาครัฐและพลเรือน
สำหรับการฝึก ELANG THAINESIA XX/2025 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 9 - 19 มิถุนายน 2568 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา

พิธีปิดการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน 2568 พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี รองเสนาธิการทหารอากาศ ในฐานะผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศพร้อมด้วย Air Commodore Suliono ผู้ช่วยเสนาธิการทหารอากาศ กองทัพอากาศอินโดนีเซีย ฝ่ายยุทธการ ร่วมเป็นประธานในพิธีปิดการฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
โดย พลอากาศโท ประภาส สอนใจดี กล่าวเน้นย้ำในพิธีว่า “การฝึกครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึง จิตวิญญาณแห่งความร่วมมือ ความไว้วางใจ และความเป็นพันธมิตรที่ยั่งยืน ระหว่างกองทัพอากาศของทั้งสองชาติ โดยตลอดระยะเวลาการฝึก กำลังพลได้ร่วมกันดำเนินการอย่างเต็มศักยภาพ ทั้งในด้านการวางแผนภารกิจ การฝึกการรบทางอากาศ และการประสานยุทธวิธี ซึ่งไม่เพียงแต่ยกระดับขีดความสามารถในการปฏิบัติการร่วมเท่านั้น หากยังถือเป็นการวางรากฐานที่มั่นคงต่อสันติภาพ เสถียรภาพ และความพร้อมรบร่วมของภูมิภาคอาเซียนในระยะยาว”
การฝึกผสม ELANG THAINESIA ในปีนี้ ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวแห่งความร่วมมืออันยาวนานและมั่นคง โดยรองเสนาธิการทหารอากาศได้กล่าวขอบคุณมิตรประเทศอินโดนีเซียอย่างจริงใจ พร้อมแสดงความหวังว่าความร่วมมือทางการทหารจะเติบโตและแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นในอนาคต
พิธีปิดครั้งนี้จัดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศแห่งมิตรภาพ ความเชื่อมั่น และความภาคภูมิใจของกำลังพลทั้งสองชาติ ซึ่งร่วมฝึกอย่างเข้มข้นภายใต้เป้าหมายเดียวกัน คือ การสร้างอาเซียนที่มั่นคง ปลอดภัย และยั่งยืน
“เราไม่ได้เป็นเพียงพันธมิตรในอากาศ แต่เป็นมิตรแท้บนผืนดิน ที่พร้อมเคียงข้างกันเสมอ”
การฝึกผสมทางอากาศในครั้งนี้จัดขึ้นโดยมี นาวาอากาศเอก กฤษณะ เปี่ยมศรี ผู้อำนวยการ กองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศไทย และ Colonel Marcellinus Ardha Kilat D. ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมฯ ฝ่ายกองทัพอากาศอินโดนีเซียเป็นผู้ควบคุมการฝึกตลอดระยะเวลาการฝึก ELANG THAINESIA XX/2025 มุ่งเน้นวัตถุประสงค์สำคัญ ได้แก่
- การเสริมสร้างและแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ด้านยุทธวิธีการบินและการปฏิบัติการทางอากาศ
- การยกระดับขีดความสามารถและความพร้อมรบของกำลังพลทั้งสองประเทศ
- การสร้างความเข้าใจและพัฒนามาตรฐานความร่วมมือในระดับทวิภาคี
-  การส่งเสริมมิตรภาพและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นระหว่างกองทัพอากาศไทยและอินโดนีเซีย
ตลอดระยะเวลาการฝึกระหว่างวันที่ 9–19 มิถุนายน 2568 กำลังพลจากทั้งสองประเทศได้ร่วมวางแผนยุทธวิธี ฝึกปฏิบัติภารกิจทางอากาศและภารกิจสนับสนุนอื่น ๆ ร่วมกัน โดยเฉพาะการปฏิบัติการร่วมกับอากาศยาน T-50TH จากฝูงบิน 401 ของกองทัพอากาศ อากาศยาน T-50i จากฝูงบินที่ 15 (Skadron Udara 15) ของกองทัพอากาศอินโดนีเซีย ร่วมกับอากาศยาน F-16 จากฝูงบิน 103 กองทัพอากาศ
นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานภาคพลเรือน ได้แก่ บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) และสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) ที่ร่วมยกระดับความปลอดภัยด้านการบินระหว่างภาครัฐและพลเรือน การฝึกผสม ELANG THAINESIA XX/2025 ครั้งนี้ นับเป็นโอกาสสำคัญในการพัฒนาศักยภาพทางทหารและเสริมสร้างมิตรภาพในหมู่กำลังพลทั้งสองชาติ 
อีกทั้งยังสะท้อนให้เห็นถึงเจตนารมณ์ร่วมในการเสริมสร้างศักยภาพทางอากาศและความมั่นคงในภูมิภาค ตลอดจนยกระดับความสัมพันธ์ ไทย–อินโดนีเซียให้แน่นแฟ้นและยั่งยืนยิ่งขึ้น

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Foce) และกองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) ได้เสร็จสิ้นการฝึกผสมทางอากาศรหัส ELANG THAINESIA XX/2025 ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ กองบิน๑ โคราช จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย โดยมีพิธีปิดการฝึกเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘
การฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA 2025 ปีนี้เป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศอินโดนีเซียส่งเครื่องบินฝึกไอพ่นและโจมตีเบา T-50i จากฝูงบินที่15(15th Air Squadron, Skadron Udara 15) ฐานทัพอากาศ Iswahyudi(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/t-50i-6.html) มาฝึกที่ไทยกับเครื่องบินขับไล่และฝึกแบบที่๒ บ.ขฝ.๒ T-50TH ฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี และเครื่องขับไล่แบบที่๑๙/ก บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช

การฝึก ELANG THAINESIA 2025 ล่าสุดนี้เป็นการฝึกครั้งที่๒๐ แล้ว และเป็นกลับมานำอากาศยานรบมาร่วมฝึกอีกครั้งหลังจากที่ไม่การนำอากาศยานเข้าร่วมการฝึกมาหลายปี โดยการฝึกครั้งก่อนหน้าเคยมีการนำเครื่องบินโจมตีแบบที่๕ บ.จ.๕ OV-10C Bronco, เครื่องบินขับไล่แบบที่๑๘ บ.ข.๑๘ F-5, เครื่องขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B, และเครื่องบินโจมตีแบบที่ ๗ บ.จ.๗ Alpha Jet ของกองทัพอากาศไทย
เคยฝึกร่วมกับเครื่องบินโจมตี OV-10F, เครื่องบินขับไล่ F-5E/F, เครื่องบินขับไล่ F-16A/B และเครื่องบินฝึกไอพ่น Hawk 109 และเครื่องบินโจมตี Hawk 209 ของกองทัพอากาศอินโดนีเซียในอดีต การฝึกทวิภาคีระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศอินโดนีเซียล่าสุดนี้เป็นเครื่องหมายถึงความสัมพันธ์ทางทหารอันแข็งแกร่งของทั้งสองชาติใน ASEAN ครับ

วันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ลิทัวเนียเลือกจัดหาเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium บราซิล 3เครื่อง

Paris Air Show 2025: Lithuania selects Millennium airlifter to become latest European customer





The Millennium was showcased at the Paris Air Show, during which Lithuania announced that it has selected the type. (Janes/Gareth Jennings, Embraer)







ลิทัวเนียได้กลายเป็นลูกค้าในยุโรปรายล่าสุดของเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ Embraer KC-390 Millennium โดยบริษัท Embraer บราซิลได้ประกาศการเลือกแบบ
ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025

ตามที่ถูกประกาศเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2025 การคัดเลือกได้มีขึ้นโดยลิทัวเนียประเทศในกลุ่ม Baltic ก่อนหน้าการลงนามสัญญาที่วางแผนไว้สำหรับเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium จำนวน 3เครื่อง
ตามที่ถูกระบุการกำหนดแบบเป็น C-390 ในการประกาศ ลิทัวเนียจะได้ได้รับมอบเครื่องในฐานะเครื่องบินลำเลียงและไม่ได้ถูกจัดเตรียมสำหรับใช้เป็นเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศตามที่กรณีนี้จะถูกกำหนดแบบเป็น KC-390

"เราได้ศึกษาอย่างระมัดระวังของเครื่องบินลำเลียงทางทหารหลากหลายแบบที่มีพร้อมขายในตลาด และการประเมินของเราได้แสดงชัดเจนว่าเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium เป็นระบบที่เหมาะสมที่สุดที่ตรงความต้องการการปฏิบัติการทางทหารต่างๆของชาติเรา" 
Loreta Maskaliovienė รองรัฐมนตรีกลาโหมลิทัวเนียกล่าว โดยเสริมว่าสัญญาจะบรรลุผลเสร็จสิ้น "ในหลายเดือนข้างหน้าที่จะมาถึง" ในการเลือกเครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium ลิทัวเนียจะกลายเป็นประเทศยุโรปชาติล่าสุดที่จะมีประจำการด้วยเครื่องบินแบบนี้ต่อจาก


บริษัท Embraer ได้รับสัญญาการผลิตสำหรับเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC/C-390 Millennium จำนวน 17เครื่องของตนสำหรับลูกค้าต่างๆของชาติยุโรปและ/หรือ NATO ด้วยสองสัญญาที่ลงนามในงาน Paris Air Show 2025
ข้อตกลงที่ได้รับการประกาศสำหรับโปรตุเกสเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 และสำหรับเนเธอร์แลนด์เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 รวมถึงด้วยเลือกสำหรับ KC/C-390 Millennium จำนวน 10 และ 7เครื่องตามลำดับที่สามารถจะจัดหาโดยกลุ่มชาติพันธมิตรในพื้นฐานข้อตกลงรัฐบาลต่อรัฐบาล

ตามการอธิบายโดย Embraer บราซิล รูปแบบการจัดซื้อจัดจ้างซึ่งได้ถูกนำมาใช้แล้วสำหรับการจัดซื้อผสมผสานกันของออสเตรียและเนเธอร์แลนด์ได้จองสายการผลิตไปจนถึงราวปี 2035(https://aagth1.blogspot.com/2025/04/embraer-c-390.html)
ข้อตกลงของโปรตุเกสที่ประกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 2025 ยังครอบคลุมการจัดหาเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-390 เพิ่มเติม 1เครื่องจากที่สั่งจัดหาแล้ว 5เครื่องรวมเป็นจำนวน 6เครื่อง

ขณะที่ข้อตกลงของเนเธอร์แลนด์ที่ประกาศเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025 รวมการจัดหาส่วน modular การส่งกลับทางสายแพทย์ทางอากาศ(aeromedical evacuation) ติดตั้งแบบ roll-on/roll-off สำหรับเครื่องบินลำเลียง C-390 จำนวน 9เครื่อง
กำหนดแบบเป็น C-390 ในบทบาทเครื่องบินลำเลียง และ KC-390 ในบทบาทเครื่องบินลำเลียงและเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ เครื่องบินลำเลียง Millennium สามารถบรรทุกภารกรรมได้มากกว่าเครื่องบินลำเลียง C-130 ที่ความเร็วสูงกว่าและระยะทางที่ไกลมากกว่า

เครื่องบินลำเลียง C-390 Millennium มีพื้นที่ห้องบรรทุกภายในตัวเครื่องขนาดความจุ 170m³(รวมประตูท้ายเครื่อง ramp) และมีน้ำหนักภารกรรมบรรทุกสูงสุดที่ 23tonnes(หรือน้ำหนักภารกรรมบรรทุกที่รวบรวมที่จุดศูนย์ถ่วงของเครื่องที่สูงสุด 26tonnes) คุณลักษณะสมมรถนะที่เผยแพร่โดยบริษัท Embraer 
เครื่องบินลำเลียง C-390 มีความเร็วเดินทางสูงสุดที่ 470knots(870km/h) เพดานบินสูงสุดที่ 36,000feet และพิสัยการบินไกลที่ 1,380nmi(2,556kkm)(ด้วยน้ำหนักบรรทุก 23tonnes) หรือบินเดินทางด้วยถังเชื้อเพลิงภายในตัวเครื่องที่ 4,640nmi ระยะทำการบินสามารถเพิ่มขยายได้ด้วยการเติมเชื้อพลิงทางอากาศครับ

วันพฤหัสบดีที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2568

Airbus กล่าวโครงการเครื่องบินขับไล่ยุคอนาคต FCAS/SCAF ยังคงเป็นไปได้ท่ามกลางความตึงเครียดกับ Dassault ฝรั่งเศส

Paris Air Show 2025: Airbus says FCAS/SCAF ‘still possible' despite Dassault tensions





An NGF scale model was tucked away at the rear corner of the Dassault stand at the Paris Air Show 2025, mirroring a seeming malaise that hung over the wider FCAS/SCAF programme at the event. (Janes/Gareth Jennings//Tim Robinson)

บริษัท Airbus ยุโรปกล่าวว่าโครงการระบบการรบทางอากาศอนาคต FCAS/SCAF(Future Combat Air System/Système de Combat Aérien du Futur) สามชาติฝรั่งเศส, เยอรมนี และสเปน รวมถึงเบลเยียมในอนาคต
โครงการยังสามารถที่จะเดินหน้าสู่การประสบผลสำเร็จได้ ท่ามกลางความตึงเครียดที่กำลังดำเนินอยู่กับผู้รับสัญญาร่วมบริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศส(https://aagth1.blogspot.com/2024/05/fcasscaf.html)

หัวหน้าฝ่ายกำลังทางอากาศ(Air Power) ของบริษัท Airbus Defence and Space(DS) ยุโรป Jean-Brice Dumont ได้สร้างการยืนยัน ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025
ในวันเดียวกับที่ผู้อำนวยการบริหารบริษัท Dassault ฝรั่งเศส Éric Trappier เพิ่มถ่านลงในกองไฟเกี่ยวกับความตึงเครียดที่กำลังคุกกรุ่นระหว่างผู้รับสัญญาโครงการทั้งสองรายสำหรับเยอรมนีและฝรั่งเศส

โดย Trappier ได้ยืนยันอีกครั้งว่าบริษัท Dassault ของเขาเท่านั้นที่มีทักษะที่จะพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF(New Generation Fighter)(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/fcasscaf.html)
ที่เป็นแกนกลางหลักของระบบอาวุธยุคหน้า NGWS(Next-Generation Weapon System) ที่ยังรวมถึงระบบอากาศยานไร้คนขับ 'คู่บินภักดี'(loyal wingman) และระบบเครือข่าย cloud การรบ CC(Combat Cloud)

"ผมไม่อยากจะให้ความเห็นเกี่ยวกับสิ่งที่(คุณ Trappier) กล่าว(ในการให้สัมภาษณ์ของเขากับสำนักข่าว Bloomberg) แต่การทำงานร่วมกันใดๆไม่ใช่เรื่อง่าย" Dumont กล่าวเมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2025
"เราไม่ได้ท้าทายว่า Dassault เป็นผู้นำสำหรับเสาหลักที่1(Pillar 1) ระบบเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF ของระบบอาวุธยุคหน้า NGWS(Next-Generation Weapon System)" Dumont กล่าวต่อ

"แต่นั่นก็มีการจัดสรรการแบ่งปันงาน(สำหรับแต่ละบริษัทหุ้นส่วนต่างๆ) ที่ได้มีการให้รายละเอียดโดยรัฐบาลแต่และประเทศ ผมเชื่อว่าด้วยการแบ่งปันงานที่ฉลาดและกฎการมีส่วนร่วม มันเป็นไปได้(สำหรับโครงการที่จะเดินหน้า) แต่จะต้องมีความประสงค์นั้นอยู่"
Dumont เสริม Janes ได้ร้องขอการเข้าพบกับ บริษัท Dassault ณ งาน Paris Air Show 2025 เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับโครงการ FCAS/SCAF และปัญหาอื่นๆต่างๆ แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ที่มีขึ้น ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025 ที่ส่วนจัดแสดงประจำที่ของ Dassault ฝรั่งเศส
แบบจำลองย่อขนาดของเครื่องบินขับไล่ยุคหน้า NGF ถูกซุกไว้ที่มุมด้านหลังของส่วนจัดแสดง สะท้อนถึงความรู้สึกที่ง่อนแง่นที่ปกคลุมอย่างหลากหลายในโครงการ FCAS/SCAF ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/rafale-f5.html)

วันพุธที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ฝรั่งเศสจัดแสดงเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 รุ่นล่าสุดแห่งอนาคต

Paris Air Show 2025: France showcases future Rafale







Standout features of the F5 version of the Rafale displayed at the Paris Air Show 2025 included CFTs and an ESJ jammer pod. (Janes/Gareth Jennings/Tim Robinson/French Air and Space Force/Dassault Aviation)

Rafale Demonstration - Paris Air Show 2025 - Dassault Aviation

ฝรั่งเศสได้จัดแสดงรุ่นแห่งอนาคตของเครื่องบินขับไล่ Dassault Rafale ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Paris Air Show 2025 ณ ท่าอากาศยาน Paris-Le Bourget ในนครหลวง Paris ฝรั่งเศส ระหว่างวันที่ 16-22 มิถุนายน 2025
การจัดแสดงมีขึ้นควบคู่ไปกับขีดความสามารถต่างๆที่อยู่บนรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 ใหม่ล่าสุด(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/rafale-f5.html)

การแสดงคุณลักษณะในกลุ่มส่วนจัดแสดงประจำที่ของกระทรวงกองทัพฝรั่งเศส(Ministry of Armed Forces of France, Ministère des Armées) เครื่องบินขับไล่ Rafale ของกองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศส(French Air and Space Force, AAE: Armée de l'Air et de l'Espace)
ได้เห็นการติดตั้งด้วยหลายชุดของการติดตั้งและภาระกรรมบรรทุกภารกิจที่มีศักยภาพความเป็นไปได้ที่กำลังจะถูกนำเสนอมาใช้สำหรับกรอบระยะเวลาปี 2030-2040(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/thales-ai-talios-rafale.html)

คุณลักษณะเฉพาะต่างๆรวมถึงถังเชื้อเพลิงแนบลำตัว CTF(Conformal Fuel Tank) บนส่วนด้านข้างของส่วนบนของเครื่องที่ไม่เคยเห็นในเครื่องบินขับไล่ Rafale มาก่อนตั้งแต่ที่ถูกถกประเด็นครั้งแรกในต้นปี 2000s
และกระเปาะสงคราม electronic(EW: Electronic Warfare) แบบ stand-in jammer ที่ถูกเรียกว่ากระเปาะสงคราม electronic แบบ ESJ(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/rafale-80.html)

นอกเหนือจากตัวเครื่องบินขับไล่ Rafale ระบบอากาศยานไร้คนขับ UAS(Unmanned Aircraft System) แบบปีกบิน(flying-wing) ที่ถูกเพิ่มเติมเข้ามานั้นจะถูกใช้งานในฐานะ 'คู่บินภักดี'(loyal wingman) ได้ถูกจัดแสดงในกลุ่มส่วนจัดแสดงด้วย
Janes ได้เข้าหาบริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศสก่อนหน้างานแสดง Paris Air Show 2025 เพื่อร้องขอข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโครงการเครื่องบินขับไล่ Rafale ในปัจจุบันและอนาคต แต่ไม่ได้รับการตอบสนอง

การจัดแสดงของคุณลักษณะต่างๆที่ได้รับการวางแผนไว้ของรุ่นมาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F4 มีขึ้นตามมาราว 3ปี 6เดือนหลังจากที่กองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศสเปิดเผยเป็นครั้งแรกต่อ Janes และผู้เข้าร่วมงานอื่นๆ
ณ งานสัมมนาเครื่องบินขับไล่นานาชาติ IQPC International Fighter Conference 2022(IFC 2022) ที่จัดขึ้นในนครหลวง Berlin เยอรมนี ระหว่างวันที่ 16-18 พฤศจิกายน 2022 ว่า

กองทัพอากาศและอวกาศฝรั่งเศสกำลังมองที่จะติดตั้งเครื่องบินขับไล่ Rafale ของตนสำหรับภารกิจการกดดันระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(SEAD: Suppression of Enemy Air Defences)/การทำลายระบบป้องกันภัยทางอากาศข้าศึก(DEAD: Destruction of Enemy Air Defences) ตั้งแต่ปี 2030
ต่อมารัฐมนตรีกระทรวงกองทัพฝรั่งเศส Sébastien Lecornu ได้ประกาศการเริ่มต้นการพัฒนามาตรฐานเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 ในเดือนตุลาคม 2024 โดยเครื่องบินขับไล่ Rafale F5 มาตรฐานใหม่เครื่องแรกจะถูกส่งมอบภายในปี 2027 ครับ