แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tejas แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Tejas แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2568

อินเดียอนุมัติการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A เพิ่ม 97เครื่อง

India approves additional Tejas fighter procurement





The Tejas Mk 1A LCA is an improved version of the baseline Tejas Mk 1. (HAL)



กรรมาธิการความมั่นคงคณะรัฐมนตรีอินเดีย(CCS: Cabinet Committee on Security) ของรัฐบาลอินเดียได้อนุมัติข้อเสนอที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A LCA(Light Combat Aircraft) เพิ่มเติมจำนวน 97เครื่อง
ที่ผลิตโดย Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอากาศยานของอินเดียสำหรับกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/hal-tejas-mk-1a-2025.html)

กรรมาธิการความมั่นคงคณะรัฐมนตรีอินเดีย CCS ได้อนุมัติข้อเสนอซึ่งถูกยื่นเรื่องโดยกระทรวงกลาโหมอินเดียและครอบคลุมสิ่งอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องสำหรับกองทัพอากาศอินเดียเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2025
HAL อินเดียกล่าวในการยื่นเอกสารต่อตลาดหลักทรัพย์(NSE: National Stock Exchange) ของอินเดียเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/tejas.html)

การอนุมัติสำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A จำนวน 97เครื่องเป็นการเพิ่มเติมต่อเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A จำนวน 73เครื่องและเครื่องบินขับไล่ Tejas Trainer รุ่นฝึกสองที่นั่งจำนวน 10เครื่อง
ที่ได้มีการลงนามสัญญาจัดหาโดยกองทัพอากาศอินเดียในปี 2021(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tejas.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/04/tejas-python-5.html)

การอนุมัติสำหรับเครื่องบินขับไล่เครื่องยนต์ไอพ่นเดี่ยว Tejas Mk 1A ชุดใหม่มีขึ้นตามมาเป็นเวลามากกว่าหนึ่งปีหลังจากกระทรวงกลาโหมอินเดียได้ออกผู้เข้าเสนอต่อ HAL สำหรับข้อเสนอการจัดซื้อจัดจ้าง
ในปี 2024 มูลค่าของการจัดซื้อจัดจ้างที่ถูกเสนออยู่ที่วงเงินประมาณ 650 billion Indian Rupee($7.42 billion) HAL อินเดียไม่ได้ตอบสนองต่อการตั้งคำถามจาก Janes ในเวลาที่บทความนี้เผยแพร่

Janes ได้รายงานเป็นครั้งแรกถึงความสนใจของกองทัพอากาศอินเดียที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A เพิ่มเติมในเดือนสิงหาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/tejas-mk2.html)
การจัดหาเป็นส่วนหนึ่งของแผนโดยกระทรวงกลาโหมอินเดียที่สร้างความแข็งกำลังรบของกองทัพอากาศอินเดียขึ้นมาใหม่ด้วยระบบเครื่องบินขับไล่ที่พัฒนาเองภายในอินเดีย

ความแข็งแกร่งด้านกำลังรบของกองทัพอากาศอินเดียได้ลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมาล่าสุด และคาดว่าจะลดลงมากขึ้นอีกในเดือนกันยายน 2025 เมื่อจะมีการปลดประจำการอย่างเป็นทางการของเครื่องบินขับไล่ Mikoyan-Gurevich MiG-21 Bison
การปลดประจำการของฝูงบินเครื่องบินขับไล่ MiG-21 Bison จะลดความแข็งแกร่งของจำนวนฝูงบินเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอินเดียลงจาก 31ฝูงบินเหลือเป็น 29ฝูงบิน ตามข้อมูลจาก Janes Military Intelligence ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2568

HAL อินเดียจะเร่งการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A รุ่นใหม่ในปี 2025

Aero India 2025: HAL says it will accelerate Tejas Mk 1A deliveries in 2025





HAL has said it has produced three LCA Tejas Mk 1As and that it will produce 12 to be delivered to the Indian Air Force by the end of 2025. (HAL, Vayu Aerospace Review)



Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอากาศยานของอินเดียกล่าวว่าตนจะปรับปรุงการเพิ่มความเร็วการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A LCA(Light Combat Aircraft) 
แก่กองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) ตั้งแต่ปี 2025 นี้ หลังการแก้ไขปัญหาต่างๆกับสายส่ง(supply line) ของเครื่องบิน(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/tejas.html)

การส่งมอบของเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A ซึ่งเป็นรุ่นที่ปรับปรุงจากรุ่นพื้นฐานเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 เดิมมีกำหนดที่จะเริ่มต้นในปี 2024(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/tejas-mk2.html)
อย่างไรก็ตาม Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า HAL อินเดียไม่สามารถที่จะส่งมอบเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A แก่กองทัพอากาศอินเดียได้เนื่อจาก "การหยุดชะงักในห่วงโซ่อุปทาน" ของเครื่องบิน

การพูดคุย ณ การประชุมสื่อเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2024 ระหว่างานแสดงการบินนานาชาติ Aero India 2025 ที่จัดขึ้นทุกสองปีใน Bangalore อินเดียระหว่างวันที่ 10-14 กุมภาพันธ์ 2025(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/tejas-lca-mig-29k-ins-vikrant.html)
D K Sunil ประธานและกรรมการผู้จัดการ(CMD: Chairperson and Managing Director) ของ HAL อินเดียกล่าวว่า บริษัทได้ทำการผลิตเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A จำนวน 3เครื่องและได้ติดตั้งเครื่องยนต์รูปแบบ Category B(Cat B)

แหล่งข่าวของ HAL กล่าวกับ Janes ว่าเครื่องยนต์รูปแบบ Cat B ที่เป็นเครื่องยนต์ที่ "ผ่านการใช้งานแล้ว" คือเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric (GE) F404-IN20 สหรัฐฯที่ถูกนำมาจากโครงการอื่นๆของกองทัพอากาศอินเดีย 
เครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ GE F404-IN20 เป็นเครื่องยนต์รุ่นมีอัตราแรงขับที่สูงที่สุดในเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan ตระกูล F404 ที่ 85.08kN(19,250lbst)(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tejas.html)

HAL อินเดียทำการบินเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A ทั้งสามเครื่องเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2025 ณ งานแสดงการบิน Aero India 2025 โดยเครื่องบินได้ทำการแสดงท่าทางการบินหลายหลายรูปแบบ
ตามข้อมูลจาก ประธานและกรรมการผู้จัดการ CMD บริษัท HAL อินเดีย เครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A จำนวน 2เครื่องเพิ่มเติมกำลังอยู่ในขั้นระยะสุดท้ายของการผลิต(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/tejas-python-5.html)

นี่เป็นผลมาจากการรับประกันจากบริษัท General Electric(GE) สหรัฐฯว่าตนจะจัดส่งเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ F404-IN20 ชุดแรกจำนวน 12เครื่องแก่อินเดีย Sunil กล่าว(https://aagth1.blogspot.com/2021/02/hal-cats.html)
ทำให้ HAL อินเดียสามารถที่จะผลิตเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1A จำนวน 12เครื่องที่จะถูกส่งมอบให้กับกองทัพอากาศอินเดียได้ภายในสิ้นปี 2025 ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/tejas.html)

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2567

เครื่องบินขับไล่ Tejas อินเดียตกเป็นครั้งแรก

Update: First crash for India's LCA Tejas



The Indian Air Force's HAL Tejas Mk 1 aircraft at the Dubai Airshow 2023. This is a representative photo of the Tejas FOC Mk 1. (HAL)


The Indian Air Force has reported its first loss of a LCA Tejas Mk 1 on 12 March 2024. (Indian Air Force)



กองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) ได้รายงานการสูญเสียครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 LCA(Light Combat Aircraft) ของตนจากอุบัติเหตุตกทางอากาศเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2024
กองทัพอากาศอินเดียกล่าวในแถลงการณ์ว่าเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 ได้ตกขณะ "เที่ยวบินการฝึกการปฏิบัติการ" ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศอินเดีย นักบิน "ดีดตัวออกมาได้อย่างปลอดภัย"

กองทัพอากาศอินเดียเสริมว่า "ศาลไต่สวน(court of inquiry)ได้รับการจัดตั้งขึ้นเพื่อที่จะค้นหาสาเหตุของอุบัติเหตุ" วีดิทัศน์ความยาว 7วินาทีของอุบัติเหตุซึ่งถูกเผยแพร่วนเวียนใน X(Twitter เดิม)
แสดงให้เห็นว่านักบินดีดตัวที่ความสูงประมาณ 1,500-2,000feet ชุดภาพในวีดิทัศน์แสดงถึงเครื่องบินขับไล่ Tejas ยังคงที่จะร่อนต่อไปโดยปราศจากการควบคุมก่อนจะผ่านออกไปจากกรอบวีดิทัศน์

Janes ประเมินว่า วีดิทัศน์ได้เป็นที่แน่ชัดแล้วว่าน่าจะเป็นเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว Tejas FOC(Final Operational Capability) Mk 1 รุ่นขีดความสามารถความพร้อมการปฏิบัติการเต็มอัตรา
ตามที่จะระบุได้ชัดเจนโดยที่เครื่องบินมีท่อรับเชื้อเพลิงกลางอากาศ(IFR: In-Flight Refuelling)(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/tejas-mk2.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tejas.html)

ตามข้อมูลจากกองทัพอากาศอินเดีย เครื่องบินขับไล่ Tejas FOC Mk 1 จากฝูงบินที่18(No.18 Squadron) "Flying Bullets" ได้ตกใกล้เมือง Jaisalmer ในรัฐ Rajasthan ทางตะวันตกของอินเดีย
กองทัพอากาศอินเดียกล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2024 ว่าการตกของเครื่องบินขับไล่ Tejas FOC Mk 1 ได้เกิดขึ้นในเวลา 1415h ตามเวลาท้องถิ่น

ชุดภาพวีดิทัศน์เปิดเผยว่าเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 ไม่ได้ติดตั้งอาวุธ แต่ติดตั้งถังเชื้อเพลิงสำรองภายนอกสามถัง(หนึ่งถังในตำแหน่งจุดเข็งกลางลำตัว และหนึ่งถังในจุดแข็งบนปีกแต่ละข้าง)
ชุดภาพเคลื่อนไหววีดิทัศน์แสดงถึงนักบินได้ดีดตัวออกจากเครื่องบินขับไล่ Tejas ตามที่บินอยู่เหนือกลุ่มอาคารบ้านเรือนโดยที่กางฐานล้อลง Pratap Singh เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง(magistrate) เขตเมือง Jaisalmer กล่าวกับ Janes ว่า

เขาและเจ้าหน้าที่รัฐได้เข้าไปดูพื้นที่ที่เครื่องบินขับไล่ Tejas ตกและพบกับนักบินซึ่ง "แข็งแรงและสุขภาพดี" หน่วยดับเพลิงในพื้นที่ได้เข้าไปดับไฟที่จุดตก ซึ่งเครื่องบินได้ตกใส่หอพักนักเรียนซึ่งขณะนั้นมีนักเรียนอยู่สามคนแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต 
นี่เป็นอุบัติเหตุตกครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ Tejas ที่พัฒนาและผลิตโดย Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอากาศยานอินเดีย นับตั้งแต่เครื่องต้นแบบเครื่องแรกทำการบินครั้งแรกในปี 2001 ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2566

โครงการเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk2 อินเดียช้าลงท่ามกลางการขาดเงินทุน

Tejas Mk 2 languishes amid lack of funds



India's Tejas Mk 2 fighter aircraft is intended to replace a range of combat aircraft in the Indian Air Force, including the Mirage 2000. The Tejas Mk 2 is also intended to compete with the Saab Gripen internationally. (Janes/Kuntal Biswas/Vayu Aerospace Review)

โครงการเครื่องบินขับไล่ขนาดเบา Tejas Mk 2 LCA(Light Combat Aircraft) ของอินเดียได้เชื่องช้าลงโดยปราศจากเงินทุน หลายเดือนหลังจากโครงการได้รับการอนุมัติโดยรัฐบาลอินเดียในนครหลวง New Delhi
โครงการเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 2 มีวัตถุประสงค์ที่จะส่งมอบเครื่องขับไล่น้ำหนักขนาดกลางยุคที่4.5 แก่กองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tejas.html)

เครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 2 ได้รับการออกแบบที่ปรับปรุงเพิ่มขึ้นเหนือกว่าเครื่องบินขับไล่ยุคที่4 Tejas Mk 1 ที่ปัจจุบันประจำการในกองทัพอากาศอินเดีย(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/tejas.html)
กรรมาธิการความมั่นคงคณะรัฐมนตรีอินเดีย(CCS: Cabinet Committee on Security) ได้อนุมัติโครงการ Tejas Mk 2 เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2022 สำหรับการพัฒนา, การทดสอบการบิน, และการรับรอง

Janes รายงานก่อนหน้านี้ว่างบประมาณวงเงิน 66.17 billion Indian Rupee($809.17 million) ได้รับการอนุมัติแล้ว อย่างไรก็ตาม Janes ได้ทราบว่า รัฐบาลอินเดียได้รวมบทบัญญัติในการกำหนดการอนุมัติเงินทุนว่า
วงเงินนี้จะถูกออกให้ต่อเมื่อหลังจากรัฐบาลสหรัฐฯอนุมัติการถ่ายทอดวิทยาการเครื่องยนต์แบบร้อยละ100 แก่อินเดียแล้วเท่านั้น(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/tejas-lca.html)

ข้อกำหนดเกี่ยวข้องกับการเลือกของอินเดียในปี 2010 ของเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric(GE) F414-INS6 เพื่อเป็นระบบขับเคลื่อนเครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 2 ตามการเปิดเผยของบริษัท General Electric(GE) สหรัฐฯ
และสำนักงานพัฒนาทางการบิน(ADA: Aeronautical Development Agency) หน่วยงานภายใต้องค์การวิจัยและพัฒนากลาโหมอินเดีย(DRDO: Defence Research and Development Organisation) ของรัฐบาลอินเดีย

"บทบัญญัติระบุว่าวงเงินจะถูกออกให้ถ้ารัฐบาลสหรัฐฯเห็นชอบการอนุมัติการถ่ายทอดวิทยาการของเครื่องยนต์ไอพ่น F414-INS6" แหล่งข่าวกล่าวกับ Janes
เครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 1 ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F404-GE-IN20 หนึ่งเครื่อง มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด(MTOW: Maximum Take-Off Weight) ที่ 13,500kg สามารถบรรทุกได้หนักสุดที่ 3,500kg และมีพิสัยทำการ 459nmi 

ด้วยการติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น F414-INS6 ที่มีกำลังขับมากขึ้น เครื่องบินขับไล่ Tejas Mk 2 มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุดที่ 17,500kg สามารถบรรทุกได้หนักสุดที่ 6,500 kg และมีพิสัยทำการ 650nmi และตำบลอาวุธ 11จุดแข็ง เพิ่มจาก Tejas Mk 1 ที่มีตำบลอาวุธ 7+1จุดแข็ง
กองทัพอากาศอินเดียมองจะนำ Tejas Mk 2 ทดแทนเครื่องบินรบหลายแบบของตนในอนาคตรวมถึงเครื่องบินขับไล่ Dassault Mirage 2000 จากฝรั่งเศส อินเดียยังตั้งใจที่จะนำ Tejas Mk 2 แข่งขันกับเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen สวีเดนในระดับนานาชาติด้วยครับ

วันพุธที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

อินเดียนำเครื่องบินขับไล่ Tejas LCA และ MiG-29K ขึ้นลงบนเรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ครั้งแรก

India marks first landing of naval light combat aircraft, MiG-29K, on INS Vikrant







India's naval LCA and MiG-29K conducting its maiden landing on INS Vikrant . (Ministry of Defence, India)





อินเดียได้แสดงอีกเหตุการณ์สำคัญในความพยายามที่จะทำการปฏิบัติการเรือบรรทุกเครื่องบิน R11 INS Vikrant ด้วยการลงจอดครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน Tejas LCA(Light Combat Aircraft) และเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน MiG-29K บนเรือ
เหตุการณ์สำคัญได้บรรลุผลโดยกองทัพเรืออินเดีย(IN: Indian Navy) เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2023 ในฐานะส่วนหนึ่งของการทดสอบทางการบินของเรือ กระทรวงกลาโหมอินเดียประกาศในการเผยแพร่ต่อสื่อในวันเดียวกัน

เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่ออกแบบและสร้างในอินเดีย และถูกนำเข้าประจำการโดยกองทัพเรืออินเดียในเดือนกันยายน 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/ins-vikrant.html)
เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant เข้าร่วมกับเรือบรรทุกเครื่องบินอีกลำ เรือบรรทุกเครื่องบิน R33 INS Vikramaditya ซึ่งเข้าประจำการในกองทัพเรืออินเดียในปี 2013(https://aagth1.blogspot.com/2020/01/tejas-mk1-lca-navy-ins-vikramaditya.html)

ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2022 เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant ได้รับการดำเนินการปฏิบัติการกับอากาศยานปีกหมุนและอากาศยานปีกตรึงหลายแบบในฐานะส่วนหนึ่งของกระบวนการรับรองทางอากาศบูรณาการการบิน กระทรวงกลาโหมอินเดียกล่าวในการเผยแพร่
เครื่องบินขับไล่ Tejas Naval LCA ซึ่งถูกเรียกในอินเดียว่าเครื่องบินขับไล่ Tejas Navy เป็นรุ่นใช้งานบนเรือบรรทุกเครื่องบินของเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาพหุภารกิจปีกสามเหลี่ยมเครื่องยนต์เดี่ยว Tejas ของอินเดีย

เครื่องบินขับไล่ Tejas Mark 1 Navy ที่ลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant เป็นเครื่องต้นแบบที่สร้างโดย Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตอากาศยานอินเดีย
ภายใต้การผลักดันของอินเดียสำหรับเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินที่พัฒนาในประเทศ เครื่องบินขับไล่ Tejas Navy ยังไม่ได้รับการรับรองแบบสำหรับการวางกำลังบนเรือบรรทุกเครื่องบิน

เครื่องบินขับไล่ MiG-29K เป็นเครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบินที่สร้างโดยรัสเซียที่เริ่มนำเข้าประจำการในกองทัพเรืออินเดียในปี 2012(https://aagth1.blogspot.com/2017/08/pak-fa-su-57-mig-29k.html)
กองทัพเรืออินเดียจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยว MiG-29K จำนวน 37เครื่อง และเครื่องบินขับไล่และฝึกสองที่นั่ง MiG-29KUB จำนวน 8เครื่องระหว่างปี 2004-2010 แต่หลังจากนั้นมีหลายเครื่องที่สูญเสียไปจากอุบัติเหตุ

เรือบรรทุกเครื่องบิน INS Vikrant มีความยาวเรือรวม 262m โดยมีระวางขับน้ำปกติที่ราว 40,000tonnes และสามารถทำความเร็วได้สูงสุดที่ 28knots มีระยะการปฏิบัติการปกติได้ที่ 7,500nmi ที่ความเร็วมัธยัสถ์ที่ 18knots 
ได้รับการออกแบบโดยมีระบบส่งอากาศยานขึ้นบินและทางวิ่ง ski-jump และถูกติดตั้งสำหรับการปฏิบัติการรับส่งอากาศยานแบบ STOBAR(Short Takeoff But Arrested Recovery) รองรับกองบินอากาศนาวีที่ประกอบด้วยอากาศยานถึง 30เครื่องครับ

วันศุกร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565

อินเดียวางตัวเครื่องบินขับไล่ Tejas เป็นเครื่องบินรบเบาที่ราคาแข่งขันได้มากที่สุดในตลาด

Singapore Airshow 2022: India positions Tejas as most competitively priced light combat aircraft in market







The Tejas Mk1 at the Singapore Airshow 2022. (Janes/Ridzwan Rahmat)



กองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) กำลังจัดแสดงเครื่องบินขับไล่เบา Tejas LCA(Light Combat Aircraft) ของตนในสิงคโปร์เป็นครั้งแรก ในฐานะส่วนหนึ่งของความพยายามที่วางตำแหน่งระบบสำหรับความต้องการในภูมิภาค
กองทัพอากาศอินเดียได้วางกำลังเครื่องบินขับไล่ Tejas สามเครื่องที่สิงคโปร์ในฐานะการเปิดตัวของเครื่องที่งานแสดงการบินนานาชาติ Singapore Airshow 2022 ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 15-18 กุมภาพันธ์ 2022
หนึ่งในเครื่องบินขับไล่ Tejas อินเดียถูกนำมาเป็นส่วนหนึ่งของการจัดแสดงภาคพื้นดิน ควบคู่กับคณะตัวแทนทางการรัฐบาลอินเดียผู้ซึ่งอยู่ในงานเพื่อจะอธิบายคุณสมบัติต่างๆของเครื่องบินขับไล่ Tejas LCA

การพูดคุยกับ Janes ในงาน นักบินเครื่องบินขับไล่ Tejas LCA นาวาอากาศเอก Manish Tolani อธิบายเครื่องบินขับไล่ Tejas ในฐานะ "เครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4.5" ด้วยขีดความสามารถต่างๆที่ได้รับการพิสูจน์แล้วทุกสภาพอากาศที่หลากหลาย รวมถึงสภาพอากาศร้อนชื้นทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
"อินเดียเป็นหนึ่งในประเทศที่สภาพอากาศที่หลากหลายมากที่สุดในโลก จากที่ Tejas สามารถทำงานได้ในสภาพอากาศเหล่านี้พิสูจน์ว่ามันยังที่จะสามารถดำเนินภารกิจในส่วนนี้ของโลกได้" นาวาอากาศ Tolani กล่าวเสริม
ในการอ้างถึงความแตกต่างระหว่างสภาพอากาศที่ค่อนข้างแห้งแล้งทางภูมิภาคตอนเหนือ กับสภาพอากาศแบบเขตร้อนทางตอนใต้ของของอนุทวีปอินเดีย

ตามข้อมูลที่ได้รับจากกองทัพอากาศอินเดีย ณ งาน Singapore Airshow 2022 เครื่องบินขับไล่ Tejas LCA ได้เริ่มต้นเข้าประจำการปฏิบัติการครั้งแรกในปี 2016(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/tejas.html
เครื่องบินขับไล่ Tejas มีความยาว 13.4m มีปีกกว้าง 8.2m และสูง 4.4m มีน้ำหนักรวมทั้งสิ้น  13,300 kg และมีเพดานบินสูงสุดที่ 50,000 feet
เครื่องบินขับไล่ Tejas LCA ติดตั้งระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ไอพ่น turbofan แบบ General Electric F404-GE-IN20 หนึ่งเครื่อง และสามารถบรรทุกได้หนักสุดที่ 3,500 kg

ระบบของเครื่องบินขับไล่ Tejas ที่ได้รับการติดตั้งในตัวเครื่องรวมถึง ระบบ Avionic, radar ควบคุมการยิง(FCR: Fire-Control Radar), ระบบส่งอาวุธปล่อยนำวิถี และระบบควบคุมการบิน(FCS: Flight Control System)
อาวุธที่สามารถติดตั้งได้มีเช่นอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ Python-5(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/tejas-python-5.html) ที่สร้างโดยบริษัท Rafael Advanced Defense Systems อิสราเอล
และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ I-Derby ER(Extended Range) โดย Rafael อิสราเอลเช่นกันครับ

วันศุกร์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2564

เครื่องบินขับไล่ Tejas อินเดียทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Python-5 อิสราเอล

India test-fires Python 5 AAM from Tejas LCA



India test-fired the Python 5 AAM from a Tejas LCA for the first time on 27 April, according to the PIB. (Via PIB)




I-Derby ER BVRAAM was also test-fired from a Tejas LCA. (Via PIB)







องค์การวิจัยและพัฒนากลาโหมอินเดีย(DRDO: Defence Research and Development Organisation) ของรัฐบาลอินเดีย ได้ดำเนินการทดสอบยิงเป็นครั้งแรก
ของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ(AAM: Air-to-Air Missile) นำวิถีด้วย infrared(IIR: Imaging Infrared) แบบ Python-5 อิสราเอลจากเครื่องบินขับไล่เบา Tejas LCA(Light Combat Aircraft)(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/tejas.html)

แถลงการณ์เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2021 โดยสำนักงานสื่อสารสนเทศ(PIB: Press Information Bureau) ของรัฐบาลอินเดียกล่าวว่าการทดสอบนี้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2021 เหนือ Goa ทางตะวันตกเฉียงใต้ของอินเดีย
ได้มุ่งเป้าที่การเพิ่มขีดความสามารถการใช้อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ยุคที่5 แบบ Python-5 ที่สร้างโดยบริษัท Rafael Advanced Defense Systems อิสราเอลแก่เครื่องบินขับไล่ Tejas LCA

การทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Python-5 เป็นชุดการทดสอบอาวุธปล่อยนำวิถีล่าสุดที่ออกแบบเพื่อรับรองสมรรถนะของเครื่องบินขับไล่ Tejas ภายใต้ "สถานการณ์ต่างๆที่มีความท้าทายถึงขีดสุด" ตามการเน้นโดย PIB อินเดีย
โดยเสริมว่าการทดสอบยิงอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) แบบ I-Derby ER(Extended Range) ที่สร้างโดย Rafael อิสราเอลเช่นเดียวกันยังได้รับการทดสอบยิงแล้ว

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Derby "บรรลุผลการยิงถูกโดยตรงต่อเป้าบินที่มีความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ที่ความเร็วสูง และอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Python ยังบรรลุผลการยิงถูกเป้าหมายร้อยละ100
ดั้งนั้นขีดความสามารถของพวกมันได้รับการยืนยันพิสูจน์เสร็จสิ้นแล้ว" PIB อินเดียเน้น โดยเสริมว่าการทดสอบต่าง "ตรงตามวัตถุประสงค์ที่วางแผนไว้ของพวกมันทั้งหมด"

เครื่องบินขับไล่ Tejas LCA ที่ถูกใช้สำหรับการทดสอบอาวุธปล่อยนำวิถีเป็นขององค์การพัฒนาการบินอินเดีย(ADA: Aeronautical Development Agency) และทำการบินโดยนักบินทดสอบกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) PIB อินเดียกล่าว
PIB อินเดียย้ำว่าการบินทดสอบการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีต่างๆที่เข้มงวดเหล่านี้ได้รับการดำเนินการที่ Bengaluru ที่จะประเมินค่าการบูรณาการ Python-5 ระบบอื่นๆบนเครื่องบินขับไล่ Tejas

ระบบบนเครื่องบินขับไล่ Tejas เหล่านี้รวมถึง ระบบ Avionic, radar ควบคุมการยิง(FCR: Fire-Control Radar), ระบบส่งอาวุธปล่อยนำวิถี และระบบควบคุมการบิน(FCS: Flight Control System)
ตามข้อมูลจาก Janes Weapons: Air-Launched อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ Python-5 มีความยาว 3.1m, ปีกกว้าง 0.64m, เส้นผ่าศูนย์กลาง 0.16m และหนัก 105kg และมีพิสัยยิงไกลสุดที่มากกว่า 20km ครับ

วันอาทิตย์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

HAL อินเดียเปิดตัวแนวคิดระบบอากาศยานไร้คนขับคู่บินภักดีตระกูล CATS

Aero India 2021: HAL's loyal wingmen break cover







HAL’s CATS loyal wingmen concept was showcased at Aero India 2021. (Janes/Akshara Parakala)

Hindustan Aeronautics Limited(HAL) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานอินเดียได้เปิดตัวระบบอากาศยานรบไร้คนขับตระกูล CATS(Combat Air Teaming System) ในรูปแบบ'คู่บินภักดี'(loyal wingmen) หรือ 'นักรบมีคนขับ-ไร้คนขับ'(manned-unmanned warriors)
โดยแบบจำลองขนาดเท่าของจริง Mock-up ได้ถูกจัดแสดงในงานแสดงการบินนานาชาติ Aero India 2021 ระหว่างวันที่ 3-5 กุมภาพันธ์ 2021 ใน Bangalore อินเดีย

ตามที่จัดแสดงในงานระบบอากาศรบไร้คนขับ CATS ประกอบด้วย 'ยานแม่'(mother ship) คือเครื่องบินขับไล่ขนาดเบา Tejas Mk1 LCA(Light Combat Aircraft)(https://aagth1.blogspot.com/2021/01/tejas.html, https://aagth1.blogspot.com/2020/05/tejas-lca.html)
และชุดระบบอากาศยานไร้คนขับที่มีชื่อว่า CATS Warrior, CATS Hunter และ CATS-ALFA(Air Launched Flexible Asset) ต้นแบบอากาศยานไร้คนขับตระกูล CATS ทั้งหมดอยู่ในการพัฒนาตั้งแต่กลางปี 2018 ในการถูกบูรณาการได้รับการเปิดเผยพร้อมกับขีดความสามารถต่างๆ

CATS Warrior เป็นอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) อัตโนมัติ ซึ่งมีจุดประสงค์เพื่อที่จะปฏิบัติการควบคู่/ล่วงหน้าเครื่องบินขับไล่ Tejas LCA เพื่อเพิ่มการหยั่งรู้สถานการณ์และความอยู่รอดในสภาพแวดล้อมที่มีการแข่งขัน
อากาศยานไร้คนขับ CATS Warrior สามารถบินขึ้นและลงจอดอัตโนมัติบนทางวิ่งบนภาพพื้นดินหรือจากดาดฟ้าเรือ มีถูกมองสำหรับใช้งานโดยกองทัพอากาศอินเดีย(IAF: Indian Air Force) เป็นหลัก เช่นเดียวกับรุ่นที่มีขนาดเล็กกว่าจะถูกออกแบบสำหรับกองทัพเรืออินเดีย(IN: Indian Navy)

"Warrior จะถูกใช้งานในฐานะ 'เครื่องขยายระบบตรวจับ' สำหรับเครื่องบินขับไล่ LCA ทำการบินออพไปล่วงหน้าอากาศยานแบบมีคนขับและใช้ระบบตรวจจับของมันเพื่อส่งข้อมูลกลับมายัง LCA" นาวาอากาศเอก(เกษียณ) H V Thakur นักบินทดสอบของ HAL อินเดียกล่าวกับ Janes
เขาเสริมว่าพื้นที่ภาคตัดขวาง Radar(RCS: Radar Cross-Section), ขีดความสามารถการบบรทุกภายในลำตัว และโครงสร้างวัสดุผสม ทำให้ UAV จะสามารถปฏิบัติการในรูปแบบตรวจจับได้ยาก(Stealth) ได้

CATS Warrior UAV ได้รับการติดตั้งระบบตัวจับ EO/IR(Electro-Optic/Infrared), Radar แบบ AESA(Active Electronically Scanned Array), ระบบนำร่อง inertial navigational unit 
และระบบก่อกวนสัญญาณ(Jammer) สำหรับปฏิบัติการข่าวกรอง, ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance and Reconnaissance) และการรบ

CATS Warrior สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้ยุคหน้าหรืออาวุธปล่อยนำวิถีอากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตาที่ภายนอกลำตัวได้สองนัด และอาวุธต่อต้านสนามบินความแม่นยำสูง SAAW(Smart Anti-Airfield Weapon) ภายในลำตัว
แบบจำลองเครื่องบินขับไล่ Tejas LCA ที่ HAL จัดแสดงในงานยังเห็นถึงการติดตั้งระบบอากาศยานไร้คนขับ CATS Hunter และ CATS-ALFA ที่ตำบลอาวุธใต้ปีกและกลางลำตัว ซึ่งภายในสามารถบรรทุกอาวุธและอุปกรณ์ได้ตามความต้องการภารกิจครับ