แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Pakistan แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Pakistan แสดงบทความทั้งหมด

วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ปากีสถานทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สาม PNS Mangro ที่จีน

Pakistan Navy’s third Hangor-class submarine launched in China



Pakistan Navy picture from the launching ceremony of the 3rd Hangor-class submarine



เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2025 กองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ได้ประกาศการทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สาม เรือดำน้ำ PNS Mangro ที่เข้าประจำการในอนาคต
พิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำ PNS/M Mangro (Desig) ถูกจัดขึ้น ณ อู่เรือ Wuchang Shipbuilding Industry Group Company Ltd(WSIG) ใน Shuangliu นคร Wuhan สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2025

รองหัวหน้าคณะเสนาธิการโครงการ-2 กองทัพเรือปากีสถาน พลเรือโท Abdul Samad ได้รับเกียรติเป็นประธานแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมงาน ขณะกล่าวสุนทรพจน์ในพิธีเขาเน้นย้ำความสำคัญของความมั่นคงทางทะเลท่ามกลางพลวัตเชิงภูมิยุทธศาสตร์ในปัจจุบันของภูมิภาคเอเชียใต้
เขายืนยันอีกครั้งว่ากองทัพเรือปากีสถานยังคงมุ่งมั่นอย่างเต็มที่ที่จะปกป้องผลประโยชน์ของชาติขณะที่ส่งเสริมความมั่นคงและความร่วมมือสภาพแวดล้อมทางทะเล การอ้างอิงถึงเรือดำน้ำชั้น Hangor เขาเน้นย้ำว่าด้วยอาวุธอันล้ำยุคและระบบตรวจจับขั้นก้าวหน้าของเรือเหล่านี้จะเป็นเครื่องมือในการดำรงสมดุลอำนาจในภูมิภาคแลสร้างความมั่นใจความมีเสถียรภาพทางทะเล

ขอชื่นชมต่อการอุทิศการทำงานของ China Shipbuilding & Offshore International Company Ltd(CSOC) กิจการการค้าและส่งออกของ China State Shipbuilding Corporation(CSSC)  กลุ่มรัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีน 
พลเรือโท Abdul Samad แสดงความพอใจต่อความคืบหน้าอย่างมั่นคงของโครงการ และได้แสดงความเห็นว่าโครงการเรือดำน้ำชั้น Hangor จะนำมาซึ่งมิติใหม่เพื่อสร้างความั่นใจต่อความเป็นหุ้นส่วนที่สืบเนื่องกันมายาวนานระหว่างปากีสถานและจีน

รัฐบาลปากีสถานได้ลงนามข้อตกลงกับ CSOC จีนที่จะจัดหาเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำ ภายใต้สัญญาเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 4ลำแรกกำลังได้รับการสร้างในจีน(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/s26t-type-052d.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/s26t.html)
ขณะที่เรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 4ลำหลังจะถูกสร้างในปากีสถาน ณ อู่เรือ Karachi Shipyard & Engineering Works Ltd(KS&EW) ภายใต้การถ่ายทอดวิทยาการ(ToT: Transfer of Technology)(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/hangor.html

พิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สาม เรือดำน้ำ PNS Mangro ได้เชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงต่างๆจากปากีสถานและจีนรวมถึงตัวแทนจากอู่เรือ Wuchang จีน และ CSOC จีน(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/type-039a-3.html)
เรือดำน้ำชั้น Hangor กองทัพเรือปากีสถานเป็นรุ่นส่งออกของเรือดำน้ำชั้น Type 039B(NATO กำหนดรหัสชั้น Yuan) ที่ประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People’s Liberation Army Navy) ปากีสถานยอมรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ 8ลำจากจีนในเดือนเมษายน 2015 

ตามข้อตกลงเรือดำน้ำ 4ลำหลังจะถูกสร้างในอู่เรือ KS&EW ปากีสถาน ในเวลาเดียวกับที่เรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกสร้างในจีน แผนเริ่มแรกจะมีการส่งมอบเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำระหว่างปี 2022-2028 หัวหน้าผู้อำนวยการของโครงการเปิดเผยในเดือนสิงหาคม 2016 ว่าเรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกส่งมอบในช่วงปี 2022-2023 โดยเรือ 4ลำสุดท้ายจะส่งมอบตามมาในปี 2028 
แต่ดูเหมือนว่าโครงการจะดำเนินการล่าช้าไปสักเล็กน้อยตามที่เรือดำน้ำชั้น Hangor ลำแรก เรือดำน้ำ PNS Hangor ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนเมษายน 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/hangor.html) และลำที่สอง เรือดำน้ำ PNS Shushuk ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/hangor-pns-shushuk.html)

กองทัพเรือปากีสถานไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับระบบย่อยหรือระบบอาวุธเฉพาะของเรือดำน้ำชั้น Hangor ระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) แบบวัฏจักร Stirling ถูกใช้ในแบบเรือดำน้ำ S26T ของ CSOC จีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายรายสันนิษฐานว่าเรือดำน้ำชั้น Hangor มีพื้นฐานมา 
แต่ทางการปากีสถานไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของเรือดำน้ำชั้น Hangor ตามข้อมูลจาก blog ด้านความมั่นคงของปากีสถาน Quwa เรือดำน้ำชั้น Hangor มีความยาวเรือ 76m และมีระวางขับน้ำที่ 2800tons ทำให้เรือมีขนาดสั้นกว่าเล็กน้อย และมีระวางขับน้ำหนักกว่าแบบเรือดำน้ำ S26T เดิม(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/chd620-s26t.html)

ปัจจุบันกองทัพเรือปากีสถานมีประจำการด้วยเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Khalid(Agosta 90B) ทีมีระบบ AIP จำนวน 3ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/khalid.html) และเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Hashmat(Agosta 70) จำนวน 2ลำ เรือดำน้ำแบบ Agosta 90B 3ลำได้รับการปรับปรุงครึ่งอายุภายใต้สัญญาที่ลงนามในปี 2016 กับบริษัท STM ตุรกี
ในฐานะผู้รับสัญญาหลัก STM ได้ส่งมอบเรือลำแรกที่ได้รับการปรับปรุงแล้วเรือดำน้ำ S139 PNS Hamza ในปี 2020 ขอบเขตของการปรับปรุงความทันสมัยของเรือดำน้ำคือการเปลี่ยนระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire Control System), ชุด Sonar, ระบบสงคราม electronic(EWS: Electronic Warfare System), Radar และระบบกล้องตาเรือ(นำร่องและโจมตี)

เรือดำน้ำชั้น Hangor ทั้ง 8ลำจะสร้างความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญแก่กองทัพเรือปากีสถาน ปากีสถานน่าจะที่จะเพิ่มขีดความสามารถต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธการใช้พื้นที่(A2/AD: Anti-Access/Area Denial) ในภูมิภาคหลังโครงการเสร็จสมบูรณ์
ตามที่ยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการว่าเรือมีระบบอาวุธอะไรบ้าง เป็นที่ชัดเจนว่าปากีสถานจะได้รับขีดความสามารถการโจมตีทางลึกถ้าเรือดำน้ำชั้น Hangor ได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นร่อนยิงจากเรือดำน้ำ Babur-3 (SLCM: Submarine-Launched Cruise Missile) ครับ

วันจันทร์ที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2568

คณะรัฐมนตรีไทยอนุมัติการแก้ไขสัญญาเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD620 สำหรับเรือดำน้ำ S26T กองทัพเรือไทย
















Thailand's Cabinet approved to amend government-to-government (G-to-G) contract on CHD620V16H6 diesel generator engine for Royal Thai Navy (RTN) S26T Submarine programme on 5 August 2025.
The presentation video realesed on RTN's official social media account also seen new photos of testing Chinese Henan Diesel Engine Co., Ltd (HND) CHD620V16H6 diesel generator engine for 8 of Pakistan Navy (PN) Hangor-class and one RTN S26T Submarine. (Royal Thai Navy)



กองทัพเรือ เดินหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลของประเทศ
กองทัพเรือ ขอขอบคุณคณะรัฐมนตรีที่ได้มีมติเห็นชอบ ให้แก้ไขข้อตกลงฯเปลี่ยนเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าและขยายระยะเวลาการส่งมอบเรือดำน้ำ ซึ่งทำให้กองทัพเรือสามารถเดินหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำได้ และจะทำให้กองทัพเรือมีขีดความสามารถของกำลังทางเรือที่ครบสมบูรณ์ทั้งมิติผิวน้ำ มิติเหนือน้ำ และมิติใต้น้ำ 
รวมทั้งจะเป็นการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านความมั่นคงและรักษาผลประโยชน์ทางทะเลของประเทศเพิ่มมากขึ้นด้วย ทั้งนี้การดำเนินการแก้ไขข้อตกลงฯ เป็นไปด้วยความรอบคอบ โปร่งใส ภายใต้กรอบกฎหมายโดยผ่านการพิจารณาจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอน จนสามารถเสนอขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
กองทัพเรือขอยืนยันว่า นโยบายควบคุมการส่งออกอาวุธยุทโธปกรณ์ (Embargo Policy)ของสหภาพยุโรป ที่ได้ประกาศนั้นเกิดขึ้น ในปี พ.ศ.2562 ซึ่งเกิดขึ้นภายหลังจากการลงนามในข้อตกลงจ้างสร้างเรือดำน้ำ ซึ่งมีผลเมื่อปี 2560 ดังนั้น จึงมีความจำเป็นต้องแก้ไขข้อตกลงฯ และการแก้ไขข้อตกลงฯ ครั้งนี้ ยังได้รับการสนับสนุนเพิ่มเติมต่าง ๆ 
ได้แก่ การขยายระยะเวลาการรับประกันและอะไหล่ การฝึกอบรมกำลังพล และสนับสนุนอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงการสนับสนุนเครื่องฝึกจำลองควบคุมเรือดำน้ำ (Simulator) เพื่อเป็นการเสริมสร้างประสิทธิภาพและความพร้อมของเรือดำน้ำอย่างยั่งยืน รวมทั้งประหยัดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุงเรือดำน้ำในอนาคต
​สำหรับเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้าที่จะใช้กับเรือดำน้ำ ได้รับการตรวจทดสอบทดลองคุณภาพแล้ว มีขีดสมรรถนะและความปลอดภัยเทียบเท่าหรือดีกว่ารุ่นเดิม และได้รับการรับรองจากสถาบันจัดชั้นเรือระดับโลก คือ Lloyd’s Register สหราชอาณาจักร รวมทั้งได้มีการใช้งานจริงในเรือดำน้ำของประเทศคู่สัญญารายอื่นซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่กองทัพเรือจัดหา  
ขอให้พี่น้องประชาชนจงเชื่อมั่นว่า กองทัพเรือพร้อมที่จะใช้งานอาวุธ ยุทโธปกรณ์ ให้คุ้มค่ามากที่สุด เพื่อปกป้องเอกราช อธิปไตยและผลประโยชน์ของชาติทางทะเล รวมทั้งช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในทุกสถานการณ์

การประชุมคณะรัฐมนตรีไทยที่มีขึ้นทุกวันอังคารของสัปดาห์เมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ได้มีการเห็นชอบการอนุมัติโครงการทางกลาโหมหลายโครงการ ในส่วนของกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) รวมถึงการอนุมัติงบประมาณวงเงินราว ๑๗,๕๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($533,617,930) สำหรับโครงการจัดหาเรือฟริเกตใหม่ระยะที่๑ จำนวน ๑ลำจาก ๒ลำที่จะสร้างในไทยในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๙(2026)
และการเห็นชอบการแก้ไขสัญญาแบบรัฐบาลต่อรัฐบาล(G-to-G: government-to-government) สำหรับโครงการเรือดำน้ำ S26T จีน หลังจากที่กระทรวงกลาโหมไทยได้ให้ความเห็นชอบในการแก้ไขสัญญาก่อนหน้าในปลายเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘ ก่อนจะมีการปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ในเดือนกรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ซึ่งเป็นความคืบหน้าที่สำคัญของโครงการที่ล่าช้าและยืดเยื้อมายาวนาน

กองทัพเรือไทยได้เผยแพร่วีดิทัศน์ประชาสัมพันธ์การชี้แจงรายละเอียดการแก้ไขสัญญาแบบรัฐต่อรัฐเพื่อเดินหน้าโครงการจัดหาเรือดำน้ำ S26T จีนตามมาทางช่องทางสื่อสังคม online ของตน โดยสาระสำคัญคือการแก้ไขข้อตกลงในการเปลี่ยนไปใช้เครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD620V16H6 ที่พัฒนาโดยบริษัท Henan Diesel Engine Co., Ltd(HND) ผู้พัฒนาผลิตเครื่องยนต์ดีเซลสำหรับใช้งานทางเรือของจีน
ทดแทนเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า MTU 16V396SE84-GB31L สำหรับเรือดำน้ำจากเยอรมนี ซึ่งเยอรมนีได้ปฏิเสธที่จะส่งออกให้จีนตามการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการคว่ำบาตรทางทหารต่อจีนของสหภาพยุโรป(EU: European Union) ในปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019) และบริษัท MTU เยอรมนีได้ปิดสายการผลิตเครื่องยนต์ตระกูล MTU 396 ในปี พ.ศ.๒๕๖๓(2020)(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/chd620v16h6.html

วีดิทัศน์ยังได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใหม่ๆเกี่ยวกับความคืบหน้าของโครงการจัดหาเรือดำน้ำ S26T ระยะที่๑ หนึ่งลำแรกที่ลงนามสัญญาเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๐(2017) และทำพิธีวางกระดูกงูเรือลำแรกเมื่อวันที่ ๕ กันยายน พ.ศ.๒๕๖๒(2019)(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/s26t.html) ณ อู่เรือ Wuchang Shipbuilding Industry Group Company Ltd(WSIG) ในนคร Wuhan สาธารณรัฐประชาชนจีน
ว่าขณะนี้เรือดำน้ำ S26T สำหรับกองทัพเรือไทยมีสถานะการสร้างตัวเรือล่าสุดอยู่ที่ร้อยละ๖๔ ซึ่งจนถึงขณะนี้ได้มีการชำระเงินไปแล้วประมาณ ๗,๗๒๔,๑๔๐,๕๒๒บาท($238,915,622) หรือร้อยละ๖๓ เหลือที่ต้องชำระอีก ๕,๕๔๐,๘๕๙,๔๗๘บาท($171,384,490) หรือร้อยละ๓๗ การแก้ไขสัญญายังจะยืดระยะเวลาการส่งมอบเรือออกไปอีก ๑,๒๑๗วัน ซึ่งในทางปฏิบัติอาจจะสามารถร่นระยะเวลาในสั้นกว่านี้ได้

ภาพประกอบในวีดิทัศน์ยังได้แสดงให้เห็นถึงการตรวจทดสอบทดลองคุณภาพของเครื่องยนต์ขับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า CHD620V16H6 ที่จีนเป็นเวลามากกว่า ๖,๐๐๐ชั่วโมงภายใต้มาตรฐานทางทหารแห่งชาติ(National Military Standard) หรือมาตรฐาน GJB(Guo-jia Jun-yong) ของจีน และได้รับการรับรองจากสถาบันจัดชั้นเรือ Lloyd’s Register สหราชอาณาจักรในปี 2020-2025 
เรือดำน้ำ S26T ของไทยจะติดตั้งเครื่องยนต์ CHD620 จำนวน ๓เครื่องในแต่ละลำเช่นเดียวกับเรือดำน้ำชั้น Hangor ทั้ง ๘ลำของกองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ที่ ๔ลำแรกต่อในจีน และ ๔ลำหลังที่อู่เรือ Karachi ในปากีสถานและมีการทดสอบเครื่องยนต์เพิ่มเป็นเวลา ๑,๑๐๐ชั่วโมงหรือ ๕ปีรวมใช้เครื่องยนต์ ๒๔เครื่อง โดยติดตั้งเครื่องยนต์ในเรือดำน้ำไปแล้ว ๓ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/hangor-pns-shushuk.html)

วีดิทัศน์ยังกล่าวว่ากองทัพเรือไทยได้รับข้อเสนอจาก China Shipbuilding & Offshore International Company(CSOC) กิจการการค้าและส่งออกของ China State Shipbuilding Corporation(CSSC)  กลุ่มรัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรือจีน และกระทรวงกลาโหมจีนในการให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติมในกรอบวงเงินรวมประมาณ ๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($24,744,824) เพื่อชดเชยความล่าช้าที่รวมถึง
๑.การขยายระยะเวลาการรับประกันเครื่อง อะไหล่ และการสนับสนุนด้านเจ้าหน้าที่ซ่อมบำรุงจาก ๒ปีเป็น ๘ปี พร้อมการฝึกอบรมด้านการซ่อมบำรุงเป็นวงเงินราว ๗๕,๐๐๐,๐๐๐บาท($2,319,827) ๒.การมอบยุทโธปกรณ์ที่กองทัพเรือไทยต้องจัดหาในอนาคตรวมวงเงินราว ๑๒๕,๐๐๐,๐๐๐บาท($3,866,379) ๓.สนับสนุนเครื่องฝึกจำลองการควบคุมเรือดำน้ำ(simulator) พร้อมยุทโธปกรณ์อื่นๆรวมวงเงินราว ๖๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($18,558,618)

กองทัพเรือไทยไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับระบบอาวุธยุทโธปกรณ์ที่จะได้รับการจัดหาผ่านข้อเสนอความช่วยเหลือนี้ แต่มีการพูดคุยในสื่อสังคม online ของจีนว่าน่าจะรวมถึง Torpedo หนักขนาด 533mm ยิงจากเรือดำน้ำรุ่นส่งออกแบบ ET-39 หรือ ET-40 หรือรุ่นส่งออกของ Torpedo หนักแบบ Yu-10 แบบล่าสุดของกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy) ที่เข้าประจำการในปี 2015
โดยเพิ่งจะมีการทดสอบยิงจริงของ torpedo แบบ Yu-10 จากเรือดำน้ำชั้น Type 039B(NATO กำหนดรหัสชั้น Yuan) ที่เป็นพื้นฐานของเรือดำน้ำ S26T ไทยและเรือดำน้ำชั้น Hangor ปากีสถานเมื่อวันที่ ๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘ แต่ข้อมูลอีกด้านเชื่อว่าจะเป็น torpedo หนักแบบ ET38 ซึ่งเป็นรุ่นส่งออกที่มีพื้นฐานจาก torpedo หนักแบบ Yu-6 รุ่นเก่ากว่า ในจำนวนอย่างน้อยมากกว่า ๔นัด

โดย Torpedo หนักรุ่นส่งออกที่จะยิงจากเรือดำน้ำเหล่ามีคุณสมบัติเบื้องต้นนำวิถีผ่านเส้นลวด(wire guided), เสียงเชิงรับและเชิงรุก และพลิ้วคลื่น(wake homing) ทำความเร็วได้มากกว่า 50knots และมีระยะยิงไม่น้อยกว่า 50km ซึ่งสามารถโจมตีได้เป้าหมายเรือผิวน้ำและเรือดำน้ำที่กำลังเคลื่อนที่ ระบบอาวุธอื่นๆยังน่าจะรวมถึงทุ่นระเบิดทะเลแบบ Smart Sea Mine ที่ปล่อยจากท่อยิง torpedo ของเรือดำน้ำ
และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นยิงจากท่อยิง torpedo ของเรือดำน้ำขณะดำใต้น้ำแบบ CM-708UNB จำนวนมากกว่า ๖นัด ที่เป็นรุ่นส่งออกของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำตระกูล YJ-82/YJ-83 ซึ่งมีระยะยิงไกลถึง 290km และโจมตีได้ทั้งเป้าหมายเรือผิวน้ำและเป้านิ่งบนชายฝั่ง อย่างไรก็ตามมีข้อสังเกตว่าวงเงินที่ระบุในข้างต้นน้อยเกินไปที่จะจัดหา Torpedo และอาวุธปล่อยนำวิถีได้ในจำนวนที่กล่าวมานี้ครับ

วันศุกร์ที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2568

ปากีสถานนำเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME จีนเครื่องแรกเข้าประจำการ

Pakistan inducts first Z-10ME helicopter into service





The Changhe Z-10ME attack helicopter can be armed with a variety of air-launched munitions. The Pakistan Army has inducted its first Z-10ME attack helicopter. (Directorate of the Inter-Services Public Relations)



กองทัพบกปากีสถาน(PA: Pakistan Army) ได้นำเฮลิคอปเตอร์โจมตี Changhe Z-10ME จีนเครื่องแรกของตนเข้าประจำการแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/z-10.html
เพื่อเสริมกำลัง "การตอบสนองสนามรบบูรณาการ" ของตน กรมการประชาสัมพันธ์ระหว่างเหล่าทัพ(ISPR: Directorate of the Inter-Services Public Relations) กองทัพปากีสถาน(Pakistan Armed Forces) ได้ประกาศ

เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME ได้ถูกนำเข้าประจำการในกองทัพบกปากีสถานระหว่างการเยือนของผู้บัญชาการกองทัพบกปากีสถาน(COAS: Chief of Army Staff) จอมพล Syed Asim Munir
ณ ค่าย Multan Garrison ทางตอนกลางของปากีสถาน กรมการประชาสัมพันธ์ระหว่างเหล่าทัพ ISPR กองทัพปากีสถานกล่าวเมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/z-10me.html)

ค่าย Multan เป็นที่ตั้งของกองพลน้อยยานเกราะและกองพันบินเฮลิคอปเตอร์โจมตีหลายหน่วยของกองทัพบกปากีสถาน ตามข้อมูลจากกรมการประชาสัมพันธ์ระหว่างเหล่าทัพ ISPR กองทัพปากีสถาน
สื่อของปากีสถาน และฝ่ายประชาสัมพันธ์ของกองทัพปากีสถาน เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME จะปรับปรุงความทันสมัยของกองการบินกองทัพบกปากีสถาน(AVN: Pakistan Army Corps of Aviation)

ขณะที่เพิ่มขยายขีดความสามารถของกองทัพบกปากีสถานที่จะดำเนินการตอบโต้แบบบูรณาการในสนามรบ เฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME จะเสริมกำลังกองทัพบกปากีสถานด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/z-10.html)
"ขีดความสามารถที่จะส่งมอบการทำลายอย่างเด็ดขาดต่อศัตรูที่มีศักยภาพต่างๆ...Z-10ME เป็นระบบเฮลิคอปเตอร์โจมตีทุกาลอากาศ(ที่)สามารถปฏิบัติการโจมตีได้อย่างแม่นยำทั้งกลางวันและกลางคืน" ISPR กล่าวเสริม

ISPR ไม่ได้ระบุว่ามีเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME จำนวนกี่เครื่องในชุดแรกที่ถูกนำเข้าประจำการในกองการบินกองทัพบกปากีสถาน ภาพวีดิทัศน์ที่เผยแพร่โดย ISPR ปากีสถานในสื่อสังคม online ทางการของตน
ปรากฏภาพแสดงถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME หนึ่งเครื่องที่มีหมายเลขแพนหาง 786-301 อยู่ในพิธีเข้าประจำการ ISPR ปากีสถานได้ตั้งข้อสังเกตว่ามี ฮ.โจมตี Z-10ME มากกว่า 1เครื่องที่ถูกนำเข้าประจำการ

ตามข้อมูลจาก ISPR ปากีสถาน จอมพล Munir "ได้เป็นสักขีพยานในการรับชมการสาธิตอำนาจการยิงโดยเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME ที่นำเข้าประจำการใหม่" ณ สนามฝึกการใช้อาวุธ Muzaffargarh(MFFR: Muzaffargarh Field Firing Ranges)
อย่างไรก็ตามวีดิทัศน์การสาธิตอำนาจการยิงของ ISPR แสดงถึงเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME เครื่องเดียวในการปฏิบัติการ ซึ่งที่วีดิทัศน์อื่นๆของการสาธิตซึ่งปรากฎในสื่อสังคม online แสดงเพียง ฮ.โจมตี Z-10ME หมายเลข 786-301 ในการปฏิบัติการเหนือสนามฝึก MFFR เท่านั้น

กองทัพบกปากีสถานมีความจำเป็นที่จะต้องแทนที่เฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1 Cobra จำนวน 32เครื่องของตนที่มีอายุการใช้งานมานานเกือบ 40ปี ซึ่งเดิมตั้งใจจะทดแทนด้วยเฮลิคอปเตอร์โจมตี Bell AH-1Z Viper จำนวน 12เครื่องที่สั่งจัดหาจากสหรัฐในปี 2016
อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะถูกสร้างเสร็จครบแล้วแต่รัฐบาลสหรัฐฯได้ปฏิเสธที่จะส่งมอบเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-1Z ทั้ง 12เครื่องเหล่านี้แก่ปากีสถาน ซึ่งเป็นที่เข้าใจกันว่านี่เป็นผลจากความตึงเครียดด้านความสัมพันธ์ระหว่างปากีสถาน-สหรัฐฯ

เช่นเดียวกับที่ปากีสถานได้ลงนามสัญญาจัดหาเฮลิคอปเตอร์โจมตี Turkish Aerospace T129 ATAK จำนวน 30เครื่องจากตุรกี ที่ไม่สามารถดำเนินต่อไปได้เนื่องจากสหรัฐฯระงับการส่งออกเครื่องยนต์ Turboshaft แบบ LHTEC T800 แก่ตุรกีที่เป็นระบบขับเคลื่อนของเฮลิคอปเตอร์โจมตี T129 
จากผลจากความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างตุรกี-สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/t129b-atak.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/05/t129b-2021.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/05/t129b-atak.html)

โดยที่มีปากีสถานเป็นลูกค้าส่งออกรายแรกที่ได้ถูกยืนยันแล้ว Aviation Industry Corporation of China(AVIC) กลุ่มรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการบินของสาธารณรัฐประชาชนจีนกำลังทำการตลาดของเฮลิคอปเตอร์โจมตี Z-10ME รุ่นส่งออกของตน
ที่มีการเปิดตัวนอกประเทศเป็นครั้งแรก ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Singapore Airshow 2024 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 20-25 กุมภาพันธ์ 2024 ที่สิงคโปร์ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/z-10-t129-ah-1z.html)

วันพุธที่ 11 มิถุนายน พ.ศ. 2568

ปากีสถานประกาศจีนเสนอเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า J-35A รุ่นใหม่ล่าสุด 40เครื่อง

Pakistan announces Chinese J-35 aircraft offer





A Shenyang J-35A fifth-generation fighter aircraft conducts a flight over Zhuhai during Air Show China 2024 in November. (China Military)

จีนได้เสนอที่จะขายยุทโธปกรณ์ทางทหารใหม่แก่ปากีสถานรวมถึงเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า Shenyang J-35 ตรวจจับได้ยาก stealth จำนวน 40เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/j-35a.html
การประกาศของรัฐบาลปากีสถานในนครหลวง Islamabad ของความเป็นไปได้ในการจัดหามีขึ้นตามความขัดแย้งทางทหารระยะสั้นของปากีสถานกับอินเดียระหว่างวันที่ 7-10 พฤษภาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/jf-17-block-iii-pl-15.html)

ในการเขียน post บนบัญชีทางการ X(Twitter เดิม) ของรัฐบาลปากีสถานเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน 2025 กล่าวว่านอกเหนือจากเครื่องบินขับไล่ J-35 จำนวน 40เครื่อง
รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในนครหลวง Beijing ยังได้เสนอที่จะมอบแก่ปากีสถานด้วยเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ Shaanxi KJ-500 AEW&C(Airborne Early Warning and Control)

และระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ(SAM: Surface-to-Air Missile) แบบ HQ-19(Hong Qi-19) ใหม่ซึ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรก ณ งานแสดงการบินนานาชาติ Airshow China 2024 ใน Zhuhai จีนระหว่างวันที่ 12-17 พฤศจิกายน 2024 
เครื่องบินขับไล่ J-35 เป็นการพัฒนาจากต้นแบบเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า Shenyang FC-31 Gyrfalcon ที่ทำการบินครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2012(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/fc-31.html)

รุ่นสายการผลิตของเครื่องบินขับไล่ J-35 ได้ถูกเปิดตัวเป็นครั้งแรกระหว่างงาน Airshow China 2024(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/j-20s-c2.html) ในเวลานั้น
กองทัพอากาศปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAAF: People's Liberation Army Air Force) อธิบายเครื่องบินขับไล่ J-35 ในฐานะ "เครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์ขนาดกลางตรวจจับได้ยาก(stealth)"

แถลงการณ์ของปากีสถานไม่ได้ระบุว่าเครื่องบินขับไล่ J-35 รุ่นใดที่จีนเสนอขาย Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่า Aviation Industry Corporation of China(AVIC) กลุ่มรัฐวิสหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานจีนได้พัฒนา J-35 สองรุ่น
รุ่นหนึ่งคือเครื่องบินขับไล่ J-35 ได้รับการติดตั้งด้วยตะขอเกี่ยวลวดลงจอดบนดาดฟ้าบินของเรือบรรทุกเครื่องบิน(arrestor hook) และก้านยึด(launch bar)กับรางดีดส่งอากาศยานขึ้นบิน(catapult) 

สำหรับการปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ CATOBAR(Catapult-Assisted Take-Off But Arrested Recovery) เครื่องบินขับไล่ประจำเรือบรรทุกเครื่องบิน J-35 นี้ยังมีน้ำหนักมากกว่าและมีฐานล้อลงจอดส่วนหัวเครื่องแบบสองล้อ
อีกรุ่นคือเครื่องบินขับไล่ J-35A ซึ่งมีปีกขนาดเล็กกว่า, มีฐานล้อลงจอดส่วนหัวเครื่องแบบล้อเดียว, และไม่มีคุณสมบัติต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินแบบ CATOBAR

เจ้าหน้าที่ระดับสูงในรัฐบาลปากีสถานได้กล่าวกับ Janes ในต้นเดือนมิถุนายน 2025ว่า จีนมีกำหนดที่จะเริ่มต้นการส่งมอบเครื่องบินขับไล่ J-35 แก่กองทัพอากาศปากีสถาน(PAF: Pakistan Air Force) ที่ "จะมาถึงภายในไม่กี่เดือนข้างหน้า"
ขณะที่ยังยืนยันว่านักบินของกองทัพอากาศปากีสถานหลายนายได้อยู่ที่จีนกำลังได้รับการฝึกเพื่อทำการบินกับเครื่องบินขับไล่ J-35 เจ้าหน้าที่ระดับสูงของปากีสถานไม่ได้เปิดเผยถึงเงื่อนไขข้อตกลงใดๆ รวมถึงวันที่มีการลงนามข้อตกลง

ก่อนหน้านี้ในเดือนพฤษภาคม 2025 เจ้าหน้าที่รัฐบาลปากีสถานอีกรายได้กล่าวกับ Janes ว่าเครื่องบินขับไล่ J-35 ที่จัดหาจะได้รับการติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-17 (AAM: Air-to-Air Missile) ซึ่งมีระยะยิงที่ราว 400km
Janes เข้าใจว่า J-35 รุ่นที่จะได้รับการจัดหาน่าจะเป็น J-35A ซึ่งจะเป็นเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ล่าสุดของจีนที่ประจำการในกองทัพอากาศปากีสถานต่อจากเครื่องบินขับไล่ JF-17 ที่ปากีสถานผลิตในประเทศ และเครื่องบินขับไล่ J-10C ที่ปากีสถานเป็นลูกค้าส่งออกรายแรกครับ

วันพุธที่ 28 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

Turkish Aerospace ตุรกีกล่าวการขายเครื่องบินขับไล่ Kaan ทั่วโลกขึ้นอยู่กับการจัดหาในประเทศ

LIMA 2025: Turkish Aerospace says global sales of Kaan dependent on domestic acquisition





Türkiye flew its Kaan combat aircraft for the first time in February 2024. This is a representative model of the aircraft. (Turkish Aerospace)



ขณะที่เครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า Kaan โครงการเครื่องบินขับไล่แห่งชาติ(National Combat Aircraft, MMU: Milli Muharip Uçak) ของบริษัท Turkish Aerospace(TA) ตุรกีได้ดึงดูดความสนใจจากหลายประเทศ รวมถึงบางประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
เครื่องบินขับไล่ Kaan อาจจะไม่บรรลุผลการขายทั่วโลกที่เป็นรูปธรรมมากนักจนกว่าที่เครื่องจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศตุรกี(Turkish Air Force, THK: Türk Hava Kuvvetleri)

Mehmet Demiroğlu ผู้อำนวยการบริหารและประธานของบริษัท Turkish Aerospace กล่าวกับ Janes ในการพูดคุย ณ นิทรรศการทางเรือและการบินนานาชาติ Langkawi International Maritime and Aerospace 2025(LIMA 2025) ในมาเลเซียเมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2025
Demiroğlu กล่าวว่าหลายประเทศในเอเชีย-แปซิฟิกได้แสดงความสนใจในเครื่องบินขับไล่ Kaan แม้ว่าเครื่องบินกำลังอยู่ในการพัฒนาก็ตาม(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/kaan.html)

อย่างไรก็ตามโดยที่เครื่องบินขับไล่ Kaan กำลังได้รับการพัฒนาในตุรกี การจัดซื้อจัดจ้างของกองทัพอากาศตุรกีเป็น "เหตุการณ์ก้าวย่างหลัก" ที่สำคัญเพื่อส่งสัญญาณต่อประเทศอื่นๆว่าระบบมีความสมบูรณ์สำหรับการเข้าประจำการใช้งาน 
Demiroğlu เสริม "เป้าหมายของเราคือพยายามที่จะมอบแก่กองทัพอากาศตุรกีด้วยเครื่องบินขับไล่ Kaan ชุดแรกภายในปี 2028" เขาเสริม(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/kaan.html)

โครงการเครื่องบินขับไล่แห่งชาติ Kaan เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ที่หลากหลายของตุรกีที่จะบรรลุผลการพึ่งพาตนเองในอำนาจการรบทางอากาศเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้าขณะที่เพิ่มการกระจายความเป็นหุ้นส่วนนานาชาติต่างๆ
ในการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ Kaan ตุรกีได้สร้างความพยายามที่จะมีส่วนร่วมกับบางประเทศในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกในโครงการ(https://aagth1.blogspot.com/2022/11/tf-x-2023.html)

ในปี 2024 ประธานสำนักงานอุตสาหกรรมกลาโหมตุรกี(Secretariat of Defence Industries, SSB: Savunma Sanayii Başkanlığı) Haluk Görgün กล่าวกับสำนักข่าว Bernama ของรัฐบาลมาเลเซียว่า
ตุรกีกำลัง "เปิด" ความร่วมมือการทำงานร่วมกันกับมาเลเซียเกี่ยวกับโครงการเครื่องบินขับไล่แห่งชาติ Kaan MMU(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/tf-x.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/01/tf-xmmu.html)

สองปีก่อนหน้าคือปี 2022 บริษัท Turkish Aerospace ตุรกียังได้เสนอสถานะความเป็นหุ้นส่วนแก่มาเลเซียในระบบเดียวกันที่ขณะนั้นรู้จักในชื่อโครงการเครื่องบินขับไล่แห่งชาติ TF-X(Turkish Fighter Experimental)
ปากีสถานได้แสดงความสนใจเข้าร่วมการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ Kaan ภายใต้โครงการพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้าสำหรับกองทัพอากาศปากีสถาน(PAF: Pakistan Air Force) ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2022/02/5-tf-x.html)

เครื่องบินขับไล่ Kaan เครื่องต้นแบบเครื่องแรกได้ทำการบินครั้งแรกในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 คุณลักษณะมีความยาวที่ 21m มีปีกกว้างที่ 14m และมีความสูงที่ 6m ติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan สองเครื่องที่ให้กำลังขับเครื่องละ 27,000lbs
ขณะที่เครื่องต้นแบบได้รับการติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบ General Electric F110 สหรัฐฯ เครื่องในสายการผลิตจะติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบ TF35000 ที่พัฒนาในประเทศโดยบริษัท TEI ตุรกีครับ 

วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2568

ภาพเปิดเผยเครื่องบินขับไล่ JF-17 Block III ปากีสถานติดอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 เป็นครั้งแรก

Update: Pakistan shows JF-17 Block III fitted with PL-15 missiles for first time





A rendering of a Pakistan Aeronautical Complex/Chengdu Aircraft Company JF-17 Block III recently seen equipped with PL-15 missiles. (Janes)





กองทัพอากาศปากีสถาน(PAF: Pakistan Air Force) ได้เผยแพร่ภาพวีดิทัศน์เป็นครั้งแรกแสดงเครื่องบินขับไล่ JF-17 Block III(https://aagth1.blogspot.com/2024/11/jf-17-pfx.html) ติดตั้งด้วย
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา(BVRAAM: Beyond-Visual-Range Air-to-Air Missile) พิสัยไกลแบบ PL-15 จีน(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/jf-17c-block-iii.html)

ภาพของเครื่องบินขับไล่ Pakistan Aeronautical Complex(PAC)/Chengdu Aircraft Corporation(CAC) JF-17 Block III Thunder ติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยไกล PL-15
ได้ปรากฏในวีดิทัศน์ทางการของกองทัพอากาศปากีสถานในการประชาสัมพันธ์แสดงความพร้อมกำลังรบทางอากาศที่ได้เผยแพร่บนช่อง Youtube ทางการของตนเมื่อวันที่ 29 เมษายน 2025

ขณะที่ปากีสถานได้รับมอบอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 ชุดแรกของตนในปี 2021 ตามข้อมูลของ Janes วีดิทัศน์ใหม่เผยแพร่โดยทางการกองทัพอากาศปากีสถานเป็นหลักฐานว่า
อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 ได้ถูกบูรณาการกับเครื่องบินขับไล่ JF-17 Block III โดย Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าเครื่องรุ่น Block III ได้เข้าประจำการในกองทัพอากาศปากีสถานในปี 2023

ในวีดิทัศน์เดียวกันและวีดิทัศน์ใหม่ที่เผยแพร่ตามมาในวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 กองทัพอากาศปากีสถานยังแสดงเครื่องบินขับไล่ J-10C ในลวดลายพรางเขียว-เทาติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 ในรางยิงอาวุธแบบคู่บนจุดแข็งใต้ปีก
ก่อนหน้านี้ Janes ได้รายงานว่าเครื่องบินขับไล่ J-10C ในลวดลายสีพรางนี้ถูกใช้สำหรับภารกิจโจมตีทางทะเล(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/j-10c.html, https://aagth1.blogspot.com/2022/01/j-10.html)

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 ได้รับการพัฒนาโดย Aviation Industry Corporation of China(AVIC) กลุ่มรัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมการบินจีน ได้เข้าประจำการในกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน(PLA: People's Liberation Army) ในปี 2016
ถูกออกแบบในฐานะรุ่นเพิ่มขยายของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยยิงนอกระยะสายตา PL-12 รุ่นก่อนหน้า PL-15 ติดตั้งด้วยระบบ AESA(Active Electronically Scanned array) radar และมีความสามารถทำความเร็วได้ที่ Mach 4

Janes ประเมินว่าอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ PL-15 มีระยะยิงไกลสุดที่ 300km ตรงกันข้ามกับอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง PL-12(ส่งออกในชื่ออาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ SD-10/SD-10A) ซึ่งปากีสถานมีใช้งานเช่นกัน ถูกประเมินว่ามีระยะยิงไกลสุดที่ 70-100km
ในวีดิทัศน์ของกองทัพอากาศปากีสถานได้แสดงเครื่องบินขับไล่ JF-17 Block III หมายเลข 22-311 และยังติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยใกล้นำวิถีด้วยภาพความร้อน(IIR: Imaging Infrared) แบบ PL-10 ด้วย แต่ไม่ได้แสดงเครื่องหมายตราฝูงบินที่เครื่องบินสังกัดครับ

วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2568

ปากีสถานทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สอง PNS Shushuk ที่จีน

Pakistan Navy Launches Second Hangor-class Submarine in China
Pakistan Navy officials in front of the second Hangor-class submarine at the launching ceremony (Pakistan Navy photo)




Launching ceremony of the second Hangor-class submarine (Pakistan Navy picture)



กองทัพเรือปากีสถาน(PN: Pakistan Navy) ได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สอง เรือดำน้ำ PNS/M SHUSHUK (Desig) ในอนาคตเมื่อเข้าประจำการ กองทัพเรือปากีสถานประกาศทางช่องทางสื่อสังคม online ทางการของตนเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2025
พิธีปล่อยเรือลงน้ำเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สอง เรือดำน้ำ PNS Shushuk มีขึ้น ณ อู่เรือ Wuchang Shipbuilding Industry Group Company Ltd(WSIG) ใน Shuangliu นคร Wuhan สาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ 13 มีนาคม 2025

รองหัวหน้าคณะเสนาธิการทหารเรือรองผู้บัญชาการกองทัพเรือปากีสถาน พลเรือโท Ovais Ahmed Bilgrami ได้ให้เกียรติเป็นประธานแขกผู้มีเกียรติที่ร่วมงาน ขณะกล่าวปราศรัยในพิธีเขาได้เน้นย้ำความสำคัญของความมั่นคงทางทะเลในสภาพแวดล้อมทางภูมิยุทธศาสตร์ที่เหนือชั้นกว่าของภูมิภาค
เช่นเดียวกับความมุ่งมั่นของกองทัพเรือปากีสถานที่จะรักษาผลประโนชน์ของชาติและดำรงความปลอดภัยและสภาพแวดล้อมทางทะเลที่เอื้ออำนวยต่อทุกฝ่าย เขาเน้นย้ำว่าเรือดำน้ำชั้น Hangor ได้รับการติดตั้งด้วยระบบอาวุธและระบบตรวจจับอันล้ำยุค ที่จะมีบทบาทสำคัญในการรักษาสมดุลของอำนาจและระเบียบทางทะเลในภูมิภาค

เป็นที่ยอมรับถึงความพยายามอย่างไม่รู็จักเหน็ดเหนื่อยของ China Shipbuilding & Offshore International Company Ltd(CSOC) ฝ่ายกิจการการค้าและส่งออกของ China State Shipbuilding Corporation(CSSC) กลุ่มรัฐวิสาหกิจผู้สร้างเรือของสาธารณรัฐประชาชนจีน 
พลเรือโท Ovais Ahmed Bilgrami แสดงความพึงพอใจกับความคืบหน้าของโครงการและเน้นย้ำว่าโครงการเรือดำน้ำชั้น Hangor จะเพิ่มมิติใหม่ต่อมิตรภาพที่เวลาได้เป็นเครื่องพิสูจน์การทดสอบแล้วของปากีสถานและจีน

รัฐบาลปากีสถานได้ลงนามข้อตกลงกับ CSOC จีนที่จะจัดหาเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำระหว่างการเดินทางเยือนปากีสถานของประธานาธิบดีจีน Xi Jinping ภายใต้สัญญาเรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกสร้างในจีน(https://aagth1.blogspot.com/2024/04/hangor.html
ขณะที่เรือดำน้ำ 4ลำหลังจะถูกสร้างในปากีสถาน ณ อู่เรือ Karachi Shipyard & Engineering Works Ltd(KS&EW) ภายใต้การถ่ายทอดวิทยาการ(ToT: Transfer of Technology)(https://aagth1.blogspot.com/2024/02/hangor.html)

เรือดำน้ำชั้น Hangor ทั้ง 8ลำเหล่านี้จะได้รับการติดตั้งด้วยระบบอาวุธและระบบตรวจจับต่างๆอันล้ำสมัยที่จะโจมตีเป้าหมายต่างๆที่พิสัยไกลเกินการตอบโต้ของข้าศึก(standoff) พิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำชั้น Hangor ลำที่สองได้เชิญเจ้าหน้าที่ระดับสูงจากปากีสถานและจีนรวมถึงตัวแทนจากอู่เรือ Wuchang Shipbuilding และ CSOC จีน
เรือดำน้ำชั้น Hangor กองทัพเรือปากีสถานเป็นรุ่นส่งออกของเรือดำน้ำชั้น Type 039B(NATO กำหนดรหัสชั้น Yuan) ที่ประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People’s Liberation Army Navy)

ปากีสถานยอมรับการจัดซื้อเรือดำน้ำ 8ลำจากจีนในเดือนเมษายน 2015 ตามข้อตกลงเรือดำน้ำ 4ลำหลังจะถูกสร้างในอู่เรือ KS&EW ปากีสถาน ในเวลาเดียวกับที่เรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกสร้างในจีน แผนเริ่มแรกจะมีการส่งมอบเรือดำน้ำชั้น Hangor จำนวน 8ลำระหว่างปี 2022-2028 
หัวหน้าผู้อำนวยการของโครงการเปิดเผยในเดือนสิงหาคม 2016 ว่าเรือดำน้ำ 4ลำแรกจะถูกส่งมอบในช่วงปี 2022-2023 โดยเรือ 4ลำสุดท้ายจะส่งมอบตามมาในปี 2028 แต่ดูเหมือนว่าโครงการจะดำเนินการล่าช้าไปสักเล็กน้อยตามที่เรือดำน้ำชั้น Hangor ลำแรก เรือดำน้ำ PNS Hangor ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนเมษายน 2024

กองทัพเรือปากีสถานไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆเกี่ยวกับระบบย่อยหรือระบบอาวุธเฉพาะของเรือดำน้ำชั้น Hangor ระบบขับเคลื่อนแบบไม่ใช้อากาศ(AIP: Air Independent Propulsion) แบบวัฏจักร Stirling ถูกใช้ในแบบเรือดำน้ำ S26T ของ CSOC จีน ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายรายสันนิษฐานว่าเรือดำน้ำชั้น Hangor มีพื้นฐานมา 
แต่ทางการปากีสถานไม่ได้เปิดเผยต่อสาธารณะเกี่ยวกับระบบขับเคลื่อนของเรือดำน้ำชั้น Hangor(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/2024-s26t.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/s26t-type-052d.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/s26t.html)

ตามข้อมูลจาก blog ด้านความมั่นคงของปากีสถาน Quwa เรือดำน้ำชั้น Hangor มีความยาวเรือ 76m และมีระวางขับน้ำที่ 2800tons ทำให้เรือมีขนาดสั้นกว่าเล็กน้อย และมีระวางขับน้ำหนักกว่าแบบเรือดำน้ำ S26T เดิม
ปัจจุบันกองทัพเรือปากีสถานมีประจำการด้วยเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Khalid(Agosta 90B) ทีมีระบบ AIP จำนวน 3ลำ(https://aagth1.blogspot.com/2023/01/khalid.html) และเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้าชั้น Hashmat(Agosta 70) จำนวน 2ลำ

เรือดำน้ำแบบ Agosta 90B 3ลำได้รับการปรับปรุงครึ่งอายุภายใต้สัญญาที่ลงนามในปี 2016 กับบริษัท STM ตุรกีในฐานะผู้รับสัญญาหลัก STM ได้ส่งมอบเรือลำแรกที่ได้รับการปรับปรุงแล้วเรือดำน้ำ S139 PNS Hamza ในปี 2020 
ขอบเขตของการปรับปรุงความทันสมัยของเรือดำน้ำคือการเปลี่ยนระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire Control System), ชุด Sonar, ระบบสงคราม electronic(EWS: Electronic Warfare System), Radar และระบบกล้องตาเรือ(นำร่องและโจมตี)

เรือดำน้ำชั้น Hangor ทั้ง 8ลำจะสร้างความแข็งแกร่งอย่างมีนัยสำคัญแก่กองทัพเรือปากีสถาน ปากีสถานน่าจะที่จะเพิ่มขีดความสามารถต่อต้านการเข้าถึง/ปฏิเสธการใช้พื้นที่(A2/AD: Anti-Access/Area Denial) ในภูมิภาคหลังโครงการเสร็จสมบูรณ์
ตามที่ยังไม่มีการยืนยันเป็นทางการว่าเรือมีระบบอาวุธอะไรบ้าง เป็นที่ชัดเจนว่าปากีสถานจะได้รับขีดความสามารถการโจมตีทางลึกถ้าเรือดำน้ำชั้น Hangor ได้รับการติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นร่อนยิงจากเรือดำน้ำ Babur-3 (SLCM: Submarine-Launched Cruise Missile) ครับ