วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

กองทัพเรือสหรัฐฯอาจจะไม่มีกระสุนปืนใหญ่ใช้สำหรับเรือพิฆาตชั้น Zumwalt

New Warship’s Big Guns Have No Bullets
Washington – Barely two weeks after the US Navy commissioned its newest and most futuristic warship, armed with two huge guns that can hit targets 80 miles away,
the service is moving to cancel the projectiles for the guns, citing excessive costs that run up to $800,000 per round or more.
http://www.defensenews.com/articles/new-warships-big-guns-have-no-bullets

เป็นเวลากว่าสองสัปดาห์หลังจากกองทัพเรือสหรัฐฯทำพิธีขึ้นระวางประจำการเรือพิฆาต DDG-1000 USS Zumwalt ซึ่งเป็นเรือรบผิวน้ำยุคอนาคตชั้นใหม่ล่าสุดเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2016
แต่ข่าวร้ายสำหรับหนึ่งในอาวุธหลักประจำเรือพิฆาตชั้น Zumwalth คือปืนใหญ่เรือ Advanced Gun System(AGS) ขนาด 155mm/62caliber ทั้ง 2กระบอกที่มีระยะยิงเป้าหมายถึง 80miles นั้นอาจจะไม่มีกระสุนใช้
เนื่องจากหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯมีแผนจะยกเลิกการจัดหากระสุนสำหรับปืนชนิดนี้เนื่องจากราคาการผลิตที่พุ่งสูงขึ้นไปที่มากกว่า $800,000 ต่อนัด

กระสุนแบบ LRLAP(Long Range Land-Attack Projectile) เป็นกระสุนนำวิถีที่เป็นกุญแจสำคัญของเรือพิฆาตชั้น Zumwalt ในภารกิจโจมตีภาคพื้นดินในระยะไกลได้อย่างแม่นยำ
ตามคำกล่าวของ Lockheed Martin ผู้ผลิตกระสุนกล่าวว่าสามารถ "ทำลายเป้าหมายในชุมชนเมืองในหุบผาริมชายทะเลโดยมีความเสียหายข้างเคียงน้อยที่สุด"
LRLAP เป็นกระสุนชนิดเดียวที่ออกแบบมาสำหรับใช้ยิงกับปืนใหญ่เรือ AGS 155mm/62cal ด้วยระบบจัดเก็บและบรรจุกระสุนอันโนมัติ
เรือพิฆาตชั้น Zumwalt ทั้ง 3ลำจะมีปืนใหญ่เรือ AGS ลำละ 2กระบอก ซึ่งนับเป็นอาวุธที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ติดตั้งกับเรือรบผิวน้ำนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่2 เป็นต้นมา

แต่ราคาต่อหน่วยของกระสุน LRLAP ได้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องสวนทางกับจำนวนเรือพิฆาตชั้น Zumwalt ที่ถูกตัดจำนวนเรือลงจาก 28ลำ เหลือ 7ลำ และสุดท้าย 3ลำคือ DDG-1000 USS Zumwalt, DDG-1001 USS Michael Monsoor และ DDG-1002 USS Lyndon B. Johnson
"เราเคยกำลังจะซื้อกระสุนชนิดนี้เป็นพันๆนัด แต่จำนวนของเรือได้ฆ่ากระสุนที่ควรจะมีราคาไม่แพงนี้" เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯที่เกี่ยวข้องกับโครงการกล่าว
มีการเยาะเย้ยว่าทั้งกระสุน LRLAP และปืนใหญ่เรือ AGS นั้นเป็นหนึ่งในสิ่งที่มีชื่อเสียงดีในบรรดาระบบเทคโนโลยีหลัก 10อย่างที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับเรือพิฆาต DDG-1000 ซึ่งเจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯระบุว่าไม่มีปัญหาด้านประสิทธิภาพการทำงานที่สำคัญกับระบบ
"ไม่ผมไม่เคยได้ยินอย่างนั้น ทุกอย่างดูเหมือนจะได้รับการปฏิบัติอย่างถูกต้อง ผมไม่เคยเห็นผลการทดสอบใดๆที่แสดงว่าเรามีปัญหา เราไม่มีปัญหากับปืน และไม่มีปัญหากับการที่เรือติดปืนนี้ด้วย เรามีปัญหากับราคากระสุน
นั่นจะไม่มีการกล่าวโทษเป็นการเฉพาะ กระสุนดำเนินงานไปในเส้นทางมุ่งไปตามตรรกะ มันก็แค่นั้นที่ว่าราคากระสุนสำหรับเรือสามลำจึงเป็นราคาที่สูง" เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าว ซึ่งแม้แต่ที่ราคา $800,000 ก็นับว่าสูงเกินไป
"นั่นอาจจะต่ำ นั่นคือสิ่งที่คณะกรรมการจัดหาต้องการจะให้มันมีราคาต่ำลง" เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯเสริมด้วยว่าเขาไม่ได้รู้สึกด้วยว่าผู้รับสัญญา "ขูดรีดราคาหรืออะไร"

การตัดสินใจยอมรับการยกเลิกกระสุน LRLAP เป็นส่วนหนึ่งของบันทึกความเข้าใจจุดประสงค์โครงการ 2018(POM18: Program Objective Memorandum 2018) ซึ่งมีผลจากขั้นตอนการจัดทำงบประมาณของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ(Pentagon)
ตามที่กองทัพเรือสหรัฐฯได้นำเสนอให้ที่ทำงานรัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐฯเมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน แต่การตัดสินใจยังไม่ได้มีการลงนามในตอนนี้ ตามที่มีการบันทึกกองทัพเรือสหรัฐฯไม่ได้มีความเห็นโดยตรงในเรื่องการยกเลิกการจัดซื้อกระสุน LRLAP
"กองทัพเรือจะติดตามตัวปืนและขีดความสามารถและศักยภาพของอุตสาหกรรมกระสุน เพื่อตอบสนองภัยคุกคามที่พัฒนาขึ้นและความต้องการภารกิจ กองทัพเรือจะประเมินแนวทางของกระสุนในอุตสาหกรรม(ซึ่งรวมกระสุนธรรมดาและกระสุนความเร็วเหนือสียง)
ที่ตรงความต้องการกำหนดการวางกำลังของ DDG-1000 และอาจจะเป็นไปได้ที่จะใช้เป็นทางเลือกแทน LRLAP สำหรับ DDG-1000" นาวาเอก Thurraya Kent โฆษกของสำนักการจัดซื้อจัดจ้างกล่าวใน E-Mail เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน

ทาง Lockheed Martin ยังไม่ถึงเวลาที่จะสามารถเข้าถึงได้ในเรื่องนี้ ขณะที่กระสุน LRLAP อาจจะถูกยกเลิก กองทัพเรือสหรัฐฯมุ่งมั่นที่จะหากระสุนแบบอื่นสำหรับระบบปืนใหญ่เรือ AGS
"เรากำลังมองไปที่กระสุนที่แตกต่างกันหลายรูปแบบสำหรับปืนนี้ มีสามหรือสี่ชนิดกระสุนที่กำลังมอง ซึ่งรวมถึงกระสุน Excalibur ของกองทัพบกสหรัฐฯจาก Raytheon
และกระสุนความเร็วเหนือเสียง(HVP: Hyper Velocity Projectile) ที่เป็นโครงการพัฒนาภายใต้สำนักงานวิจัยกองทัพเรือและ BAE Systems ยังมีอีกหลายบริษัที่กำลังมองเป็นทางเลือกที่จะลดค่าใช้จ่ายลงและใช้เป็นระบบส่ง"
เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าว แต่นั่นดูเหมือนว่าจะทำให้ USS Zumwalt จะยังไม่มีกระสุนทดแทนกระสุน LRLAP เมื่อเรือมีความพร้อมปฏิบัติการรบ

หลังพิธีเมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ Baltimore มลรัฐ Maryland 18เดือนหลังจากนี้เรือจะเดินทางไป San Diego เพื่อติดตั้งระบบการรบ
หลังจากนั้นกองทัพเรือจะดำเนินชุดการทดลองเรือ(CSSQT: Combat Systems Ship Qualifications Trials)เพื่อพิสูจน์ระบบตรวจจับและอาวุธของเรืออย่างเต็มอัตราในปี 2018
ซึ่งในแผนการทดสอบระบบปืนใหญ่เรือจะมีการทดสอบยิงโดยใช้กระสุน LRLAP จำนวน 150นัด ที่จัดหามาในปีงบประมาณ 2015 วงเงิน $113 million แต่ไม่มีการจัดหากระสุน ในปีงบประมาณ 2016 และ 2017
ภายหลังมีรวมงบประมาณวงเงิน $51 million ในงบประมาณปี 2018 แต่ไม่เป็นชัดเจนว่าจะได้รับการอนุมัติตามการร้องขอหรือไม่
ขณะที่การเปลี่ยนชุดคำสั่งมีความจำเป็นที่จะให้ปืนใหญ่เรือ AGS ใช้กระสุนแบบอื่นได้ซึ่งการปรับเปลี่ยนนี้ยังมีความซับซ้อนในส่วนการติดตั้งและบรรจุที่ต่างกัน
โดยส่วนซองกระสุนของปืนใหญ่เรือ AGS นั้นถูกออกแบบมาสำหรับกระสุน LRLAP 300นัด ซึ่งจะเป็นอีกเรื่องหนึ่งในการนำกระสุนแบบอื่นที่มีขนาดต่างกันมาใช้แทน
หรืออย่างกระสุนขนาด 127mm ที่ใช้งานบนเรือพิฆาตและเรือลาดตระเวนที่กองทัพเรือสหรัฐฯก็สามารถนำมาใช้กับปืนใหญ่เรือ AGS 155mm ได้ แต่ต้องมีการดัดแปลงส่วนครอบกระสุน 127mm ที่เล็กกว่าให้ใช้กับปืน 155mm ได้

ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯเน้นย้ำว่าราคาที่สูงมีผลโดยตรงต่อเบื้องหลังการตัดสินใจยกเลิกกระสุน LRLAP  แต่มันยังไม่ชัดเจนถึงประเด็นปัญหาเบื้องหลังเรื่องนี้
ปืนใหญ่เรือ AGS และกระสุน LRLAP เป็นระบบผสมที่มีจุดประสงค์ดั้งเดิมที่พัฒนาเพื่อสนับสนุนกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯด้วย "ความแม่นยำในการยิงสนับสนุนถาวรต่อการโจมตีเป้าหมายลึกเข้าไปในแผ่นดินที่มีความแม่นยำสูง"
แต่เมื่อเรือ DDG-1000 USS Zumwalt ออกจากอู่ต่อเรือสู่ทะเลและเข้าร่วมกองทัพเรือสหรัฐนั้นไม่มีคุณสมบัตินี้  และขณะที่ความสำเร็จทางเทคเนินที่ล้ำสมัยของเรือถูกเผยแพร่ออกไปในปีนี้ แต่ขีดความสามารถในการสนับสนุนนาวิกโยธินที่ชายฝั่งโดยตรงกลับไม่มี
มันไม่มีความจำเป็นสำหรับปืนใหญ่เรือ AGS ที่จะโจมตีเป้าหมายในทะเล และระบบดังกล่าวไม่ได้ถูกตั้งค่ามาแบบนั้น แต่ปืนใหญ่เรือกระบอกโตนี้ก็สามารถนำไปใช้ยิงเรือได้ถ้าจำเป็น
"เราควรต้องทำการปรับแต่งชุดคำสั่งเพื่อให้มันทำงานเช่นนั้นได้" เจ้าหน้าที่กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าวครับ