วันศุกร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

จีนเปิดตัวอากาศยานรบไร้คนขับ CH-5 UAV และ Cloud Shadow UAV

Heavily armed CASC CH-5 UAV makes public debut
CASC showcased its latest CH-5 with four AR-1 and four AR-2 guided anti-armour weapons as underwing stores on each wing at Airshow China 2016, giving it an impressive 16-missile arsenal. Source: IHS/Kelvin Wong

CASC showcased the export variant CH-4 armed reconnaissance UAV at the 2014 iteration of Airshow China. The air vehicle is to complement its latest CH-5 in a combined operating environment. (IHS/Kelvin Wong)
CASC's CH-5 strike-capable UAV made its inaugural public appearance at Airshow China 2016.
The existence of the company's latest and most capable air vehicle was first revealed by Chinese broadcaster CCTV in an August 2015 news clip. (IHS/Kelvin Wong)
http://www.janes.com/article/65330/heavily-armed-casc-ch-5-uav-makes-public-debut

ในงานแสดงอากาศยานและอาวุธยุทโธปกรณ์ Airshow China 2016 ที่เมือง Zhuhai มณฑล Guangdong สาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 1-6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา
China Aerospace Science and Technology Corporation(CASC) รัฐวิสาหกิจด้านความมั่นคงของรัฐบาลจีนได้เปิดตัวต้นแบบอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) แบบ CH-5(Cai Hong 5 หรือ Rainbow 5) ต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
โดยอากาศยานรบไร้คนขับ CH-5 ซึ่งมีขีดความสามารถในการใช้อาวุธโจมตีนี้ทำการบินครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม 2015

ตามข้อมูลที่เจ้าหน้าที่อาวุโสของ CASC ให้กับ Jane's คุณสมบัติของ CH-5 เป็นอากาศยานไร้คนขับเพดานบินปานกลางระยะปฏิบัติการนาน(MALE: Medium Altitude Long Endurance) เครื่องยนต์ใบพัด
โครงสร้างอากาศยานทำจากวัสดุผสมล้วนน้ำหนักเบา มีความยาว 11m ปีกกว้าง 21m มีน้ำหนักบินขึ้นสูงสุด(MTOW: Maximum Take Off Weight) 3,300kg บรรทุกได้หนัก 1,200kg มีห้องบรรทุกภายในตัวเครื่องบรรทุกได้ 200kg และมีตำบลอาวุธใต้ปีก
CH-5 มีพิสัยทำการถึง 250km ผ่านการควบคุมด้วย line of Sight Datalink และเพิ่มเป็นถึง 2,000km ผ่านดาวเทียมสื่อสาร SATCOM(Satellite Communication) มีระบบการบินอัตโนมัติโดยการตั้งเส้นทางการบินล่วงหน้าทั้งการบินขึ้นและลงจอดรวมถึงบินอัตโนมัติเต็มตัว

ขณะที่เจ้าหน้าอาวุโส CASC ไม่สามารถระบุได้เนื่องจากนโยบายการควบคุมสื่อที่เข้มงวดของจีน แต่อย่างไรก็ตามเขาเปิดเผยว่า CH-5 ใช้เครื่องยนต์เชื้อเพลิงหนัก(HFE: Heavy Fuel Engine)กำลัง 330HP ซึ่งสามารถปฏิบัติการได้ 60ชั่วโมงโดยมีความน่าเชื่อถือสูง หรือจะใช้เครื่องยนต์เบนซินกำลัง 300HP ซึ่งสามารถปฏิบัติการได้ 39ชั่วโมง
เขากล่าวเพิ่มว่าเครื่องยนต์ HFE สามารถทำให้ CH-5 UAV ทำความเร็วเดินทางได้ 180-200km/h และมีความเร็วสูงสุดถึง 300km/h โดยมีเพดานบินสูงสุด 30,000ft(7,000m)
CH-5 UAV เครื่องต้นแบบที่แสดงในงาน Zhuhai Airshows 2016 ยังมีคานอาวุธใต้ปีกรวม 6ตำบล ซึ่งติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้นต่อสู้รถถัง AR-1 และ AR-2 รวม 16นัดครับ

AVIC's turbojet-powered Cloud Shadow UAV emerges
Unlike the other UAV platforms on display at Airshow China 2016, AVIC's Cloud Shadow is powered by an 'indigenous' WP11C turbojet engine. Source: IHS/Kelvin Wong

The Cloud Shadow UAV bears a striking resemblance to the General Atomics Predator C Avenger platform, although it does not appear to possess the same level of performance. (IHS/Kelvin Wong)
http://www.janes.com/article/65345/avic-s-turbojet-powered-cloud-shadow-uav-emerges

ในงานแสดง Airshow China 2016 เช่นกัน Aviation Industry Corporation of China(AVIC) รัฐวิสาหกิจอุตสาหกรรมอากาศยานจีนได้เปิดตัวอากาศยานไร้คนขับเครื่องยนต์ไอพ่น Turbojet เพดานบินปานกลางระยะปฏิบัติการนาน MALE แบบ Cloud Shadow
Cloud Shadow UAV พัฒนาโดย Chengdu Aircraft Corporation(CAC) ในเครือ AVIC โดยถูกออกแบบมาสำหรับส่งออก ติดตั้งเครื่องยนต์ไอพ่น WP11C ของจีน
มีสองรุ่นคือรุ่นลาดตระเวนติดอาวุธทำความเร็วได้สูงสุด 550km/h บรรทุกได้หนัก 400kg มีคานอาวุธภายนอก 6ตำบล และรุ่นรวบรวมข่าวกรอง, ตรวจการณ์ และลาดตระเวน(ISR: Intelligence, Surveillance, and Reconnaissance) ทำความเร็วได้สูงสุด 620km/h บรรทุกได้หนัก 200kg ติดตั้งระบบสื่อสารและ Radar ตรวจการณ์ หรือระบบลาดตระเวนถ่ายภาพความละเอียดสูง
Cloud Shadow UAV รุ่น ISR และรุ่นลาดตระเวนติดอาวุธน่าจะยังติดตั้ง Synthetic Aperture Radar(SAR) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจจับเป้าหมายเคลื่อนที่ แม้ว่าจะติดกล้องตรวจับ Electro Optical/Infrared(EO/IR) ทรงลูกบอลสำหรับชี้เป้าและสำรวจความเสียหายพื้นที่การรบหลังการโจมตี (BDA: Battle Damage Assessment) แล้วก็ตาม

Cloud Shadow UAV ทั้งสองรุ่นมีความยาว 9m และสูง 3.66m เหมือนกัน ซึ่งดูแล้วน่าจะได้รับแรงบันดาลในการออกแบบจาก UAV แบบ Avenger(Predator C) ของ General Atomics Aeronautical Systems สหรัฐฯ
ซึ่ง Cloud Shadow UAV มีปีกกลางลำตัวเครื่องกว้าง 17.8 แบบลู่หลัง ซึ่ง Cloud Shadow ปีกลู่หลังทำมุมเพียง 10องศา ขณะที่ Avenger UAV ปีกลู่หลังทำมุม 17องศา
Cloud Shadow UAV ยังไม่มีห้องบรรทุกภายในลำตัวเช่นเดียวกับที่ Avenger UAV มี แต่คานอาวุธใต้ปีกทั้ง 6ตำบลก็สามารถติดตั้งระเบิดนำวิถีและอาวุธปล่อยนำวิถีความแม่นยำสูงได้หลายแบบครับ