USAF chief of staff teases Boeing F-47 performance, fleet size
A graphical representation of the Boeing F-47, announced as winner of the USAF's NGAD contest in March 2025. The aircraft will have a range of over 1,000 n miles, according to USAF Chief of Staff General David Allvin. (USAF)
Anduril's YFQ-44A prototype in the hangar. Both CCA competitors are scheduled to conduct first flights in boreal summer 2025. (Anduril)
พลอากาศเอก David Allvin หัวหน้าคณะเสนาธิการกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ได้เผยแพร่ภาพวาดด้วย computer graphic บนสื่อสังคม online เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025 อ้างว่า
เครื่องบินขับไล่ Boeing F-47 ที่ได้รับเลือกใหม่(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/boeing-f-47-ngad.html) อ้างว่าจะมีรัศมีการรบที่เกิน 1,000nmi และความเร็วสูงสุดที่มากกว่า Mach 2
ภาพวาด computer graphic ยังได้เปิดเผยบางส่วนว่า กองทัพอากาศสหรัฐฯมีความตั้งใจที่จะนำเครื่องบินขับไล่ F-47 เข้าประจำการในฝูงบินรวมขนาดอย่างน้อยจำนวน 185เครื่อง
ภาพวาด computer graphic ยังอ้างว่าเครื่องบินขับไล่ F-47 จะเข้าประจำการในช่วงระหว่างปี 2025-2029(https://aagth1.blogspot.com/2024/08/ngad.html) บริษัท Boeing สหรัฐฯได้กล่าวกับ Janes ก่อนหน้านี้ว่า
การทำการบินครั้งแรกของเครื่องบินขับไล่ F-47 จะถูกดำเนินการขึ้นก่อนปี 2029 ซึ่งเป็นปีที่สิ้นสุดวาระการบริหารงานของรัฐบาลประธานาธิบดีสหรัฐฯ Donald Trump กองทัพอากาศสหรัฐฯยืนยันกับ Janes เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2025
ภาพวาด graphic แสดงความแตกต่างของเครื่องบินขับไล่ยุคที่สี่, เครื่องบินขับไล่ยุคที่ห้า และเครื่องบินขับไล่ยุคที่หก ขนาดจำนวนเครื่องในประจำการ, ความเร็วสูงสุดโดยประมาณ และคุณลักษณะการตรวจจับได้ยาก stealth แบบคราวๆ
ตัวอย่างเช่น เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II ถูกอธิบายว่าเป็นเครื่องบินขับไล่พหุภารกิจที่สามารถทำความเร็วได้ถึง Mach 1.6 ด้วยรัศมีการรบที่ 670nmi และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก' stealth
ขณะที่เครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-22 Raptor ถูกอธิบายว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ครองอากาศที่สามารถทำความเร็วได้ถึง Mach 2+ ด้วยรัศมีการรบที่ 590nmi และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก+' stealth+
อากาศยานรบไร้คนขับ General Atomics Aeronautical Systems(GA-ASI) YFQ-42A และอากาศยานรบไร้คนขับ Anduril YFQ-44A ยังมีรายชื่อในฐานะเครื่องบินขับไล่ครองอากาศยุคที่หก
ด้วยรัศมีการรบที่ 700+nmi ความเร็วสูงสุดเป็นข้อมูลปกปิด และมีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก' stealth+ เหนือค่าสถิติอื่นเครื่องบินขับไล่ F-47 มีคุณลักษณะ 'ตรวจจับได้ยาก++' stealth++
อากาศยานรบไร้คนขับ YFQ-42A และอากาศยานรบไร้คนขับ YFQ-44A ถูกวางแผนที่จะจัดหาเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯเป็นจำนวนราวมากกว่า 1,000เครื่อง ในระหว่างปี 2025-2029 ตามข้อมูลใน infographic
กองทัพอากาศสหรัฐฯได้ประกาศเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2025 ว่าต้นแบบอากาศยานรบทำงานร่วมกัน(CCA: Collaborative Combat Aircraft) ทั้งสองแบบจะทำการบินครั้งแรกในฤดูร้อนปี 2025 นี้
และจะเข้าประจำการ ณ ฐานทัพอากาศ Beale Air Force Base(AFB) ในมลรัฐ California เป็นฐานบินปฏิบัติการแรกของอากาศยานรบทำงานร่วมกัน CCA บริษัท Anduril สหรัฐฯ และบริษัท GA-ASI สหรัฐฯได้ถูกเลือกสำหรับการสร้างต้นแบบในเดือนเมษายน 2024
และทั้งสองแบบผ่านการทบทวนการออกแบบที่สำคัญ(CDR: Critical Design Review) ในเดือนพฤศจิกายน 2024 โดยเครื่องต้นแบบได้ถูกเริ่มสร้างหลังจากนั้น การคัดเลือกแบบที่เป็นผู้ชนะมีกำหนดการในปีงบประมาณ 2026 ครับ