แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Singapore แสดงบทความทั้งหมด
แสดงบทความที่มีป้ายกำกับ Military Industry of Singapore แสดงบทความทั้งหมด

วันพฤหัสบดีที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2568

สิงคโปร์ทำพิธีปล่อยเรือรบอเนกประสงค์ MRCV ลำแรก RSS Victory

Singapore launches first multirole combat vessel





Singapore's first MRCV, the future RSS Victory , seen here at its launch ceremony on 21 October 2025. (Janes/Ridzwan Rahmat, Singapore Ministry of Defence)





สิงคโปร์ได้ทำพิธีปล่อยเรือและตั้งชื่อเรือของเรือรบอเนกประสงค์(MRCV:  Multirole Combat Vessel) ลำแรกสำหรับกองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) เมื่อวันที่ 21 ตุลาคมคม 2025
พิธีปล่อยเรือของเรือรบอเนกประสงค์ MRCV ที่มีลักษณะคล้ายเรือฟริเกตลำแรก RSS Victory หมายเลขเรือ 88 ถูกจัดขึ้น ณ อู่เรือ Benoi ของบริษัท ST Engineering สิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2024/10/mrcv.html

RSS Victory เป็นเรือรบอเนกประสงค์ MRCV ลำแรกจากจำนวน 6ลำที่อยู่ภายใต้การทำสัญญาสั่งจัดหากับบริษัท ST Engineering ในปี 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/mrcv.html)
และเรือรบอเนกประสงค์ MRCV ใหม่จำนวน 6ลำเหล่านี้จะทดแทนเรือคอร์เวตชั้น Victory ของกองทัพเรือสิงคโปร์ที่มีอายุการใช้งานมานานซึ่งได้ถูกนำเข้าประจำการตั้งแต่ปี 1990(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/mrcv.html)

เรือรบอเนกประสงค์ MRCV ถูกออกแบบเพื่อปฏิบัติการในฐานะเรือแม่สำหรับระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAS: Unmanned Aircraft System), ยานผิวน้ำไร้คนขับ(USV: Unmanned Surface Vehicle), และยานใต้น้ำไร้คนขับ(UUV: Unmanned Underwater Vehicle) ต่างๆ
และคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขยายขีดความสามารถของกองทัพเรือสิงคโปร์อย่างมีนัยสำคัญที่จะดำเนินการปฏิบัติการตลอดทั่วทั้งหลากหลายมิติ(https://aagth1.blogspot.com/2024/09/saab-mrcv.html)

เรือรบอเนกประสงค์ MRCV เป็นเรือรบที่มีขนาดใหญ่ที่สุดและมีความซับซ้อนมากที่สุดที่เคยสร้างในสิงคโปร์ เรือมีความยาวเรือที่ 150m มีความกว้างรวมที่ 21m และมีระวางขับน้ำที่ 8,000tonnes
เรือรบอเนกประสงค์ MRCV สามารถทำความเร็วได้เกิน 22knots และมีระยะปฏิบัติการที่มากกว่า 7,000nmi ซึ่งเป็นสองเท่าของเรือฟริเกตชั้น Formidable ของกองทัพเรือสิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/formidable-rss-stalwart-aster.html)

เรือรบอเนกประสงค์ MRCV สามารถคงอยู่ในทะเลได้เป็นเวลามากกว่า 21วัน และจะมีคุณลักษณะกำลังพลประจำเรือพื้นฐานที่น้อยกว่า 100นาย(https://aagth1.blogspot.com/2025/10/saab-st-engineering-lmv.html)
ชุดระบบอาวุธต่างๆของเรือรบอเนกประสงค์ MRCV รวมถึงปืนเรือ Leonardo 76mm/62 Super Rapid Strales(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/7662-strales-drone.html) และระบบแท่นยิงอาวุธปืนกล RCWS(Remotely Controlled Weapon System) แบบ Typhoon Mk 30-C ขนาด 30mm 

การป้องกันต่อต้านอากาศยานข้าศึกถูกมอบให้โดยระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ MICA และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Aster ในแท่นยิงแนวดิ่ง VLS(vertical launching system) แบบ Sylver จำนวน 16ท่อยิง 
และระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นที่ยังไม่ได้รับการเปิดเผยโดยกองทัพเรือสิงคโปร์ แต่น่าจะเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Blue Spear ที่พัฒนาร่วมโดย ST Engineering สิงคโปร์ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/blue-spear-formidable.html)

วันอาทิตย์ที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2568

Saab สวีเดนและ ST Engineering สิงคโปร์เสนอเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง LMV สำหรับกองทัพเรือเอสโตเนีย

Saab and ST Engineering propose Littoral Mission Vessel for Estonian Navy





Saab and ST Engineering are offering the Estonian Navy a variant of the LMV operated by the RSN. (Saab/Republic of Singapore Navy)

บริษัท Saab สวีเดนได้จัดแสดงแบบจำลองของเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง(LMV: Littoral Mission Vessel) ณ งานแสดง Estonian Defence Week Expo 2025 ที่จัดขึ้นในนครหลวง Tallinn ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2025
Saab สวีเดนและบริษัท ST Engineering สิงคโปร์กำลังเสนอเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง LMV สำหรับกองทัพเรือเอสโตเนีย(Estonian Navy, Merevägi)(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/singsiam-2024-open.html)

ตัวแทนของบริษัท Saab ที่ส่วนจัดแสดงในงาน Estonian Defence Week Expo 2025 กล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2025 ว่า เอสโตเนียจะได้รับการเสนอการแบ่งการทำงานร้อยละ30-50
ในโครงการเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง Littoral Mission Vessel รวมถึงการสร้างตัวเรือของตน ณ อู่ต่อเรือของเอสโตเนีย โดย Saab สวีเดนจะส่งมอบส่วนดาดฟ้ายก(superstructure) ของเรือ

โฆษกบริษัท Saab กล่าวกับ Janes เมื่อวันที่ 29 กันยายน 2025 ว่า "Saab สวีเดน และ ST Engineering จากสิงคโปร์จัดตั้งการร่วมทีมขึ้นอีกครั้งในการเสนอเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง LMV รุ่นสำหรับกองทัพเรือเอสโตเนีย
เรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่ง LMV ความยาวเรือ 80m ถูกใช้งานในประจำการโดยกองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) ในชื่อเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่งชั้น Independence"

"เรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่งชั้น Independence ทั้ง 8ลำซึ่งอยู่ท่ามกลางเรือหลักต่างๆของกองทัพเรือสิงคโปร์ ที่ซึ่งการออกแบบพื้นฐานและดาดฟ้ายกผสมถูกส่งมอบให้โดยบริษัท Saab Kockums ใน Karlskrona สวีเดน
และบริษัท ST Engineering Marine สิงคโปร์ดำเนินการออกแบบรายละเอียดและสร้างเรือในอู่ต่อเรือของตนในสิงคโปร์ ขณะที่กำลังรอสำหรับแผนระยะ 10ปีข้างหน้าที่จะมาถึงสำหรับการพัฒนากองทัพเรือเอสโตเนีย"

"Saab สวีเดนและ ST Engineering สิงคโปร์ปัจจุบันกำลังทำงานอย่างหนักที่กำลังมองหาหุ้นส่วนต่างๆภายในเอสโตเนียผู้ที่สามารถเสนอได้ทั้งมูลค่าเพิ่มต่อการผลิต ที่เป็นไปได้ในการรวมการสร้างตัวเรือในเอสโตเนีย 
และสร้างความมั่นใจได้ว่าในท้ายที่สุดข้อเสนอจะตรงต่อทุกความต้องการสำหรับเนื้อหาภายในในเอสโตเนียที่สามารถคาดการณ์ไว้ได้" โฆษกบริษัท Saab กล่าวกับ Janes

กองทัพเรือสิงคโปร์มีประจำการด้วยเรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่งชั้น Independence LMV ที่มีรูปแบบคล้ายเรือคอร์เวตจำนวน 8ลำคือ RSS Independence(15), RSS Sovereignty(16), RSS Unity(17), RSS Justice(18), RSS Indomitable(19), 
RSS Fortitude(20), RSS Dauntless(21), และ RSS Fearless(22) ซึ่งขึ้นระวางประจำการระหว่างเดือนพฤษภาคม 2017 และเดือนมกราคม 2020 เพื่อทดแทนเรือตรวจการณ์ชั้น Fearless ของกองทัพเรือสิงคโปร์

เรือปฏิบัติภารกิจชายฝั่งชั้น Independence LMV มีระวางขับน้ำเต็มที่ที่ 1,250tonnes กำลังพลประจำเรือ 23นายรวมนายทหารสัญญาบัตร 5นาย แต่ละลำติดตั้งด้วยปืนเรือ Oto Melara 76/62 Super Rapid หนึ่งแท่นยิงที่ตำแหน่งหลักส่วนหัวเรือ,
แท่นยิง Rafael Typhoon สำหรับปืนกล M242 25mm/87 Bushmaster ที่ท้ายเรือ, แท่นยิง remote Leonardo Hitrole สำหรับปืนกลหนัก 12.7mm สองแท่น, และแท่นยิงแนวดิ่ง VLS(vertical launching system) 12ท่อยิงที่หน้าเรือสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ MBDA VL MICA ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2568

สิงคโปร์จะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon สหรัฐฯ 4เครื่อง

Singapore announces intent to procure P-8A aircraft



Singapore aims to procure four Boeing P-8A Poseidon aircraft as part of the first phase of the Singapore Armed Forces' refresh of its maritime security capabilities. (Boeing)




The P-8A aircraft will replace the RSAF's ageing fleet of five Fokker 50 maritime patrol aircraft. (Singapore Ministry of Defence)

สิงคโปร์ได้ประกาศว่าตนจะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Boeing P-8A Poseidon เพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force)
การประกาศได้มีขึ้นโดยรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan Chun Sing ตามการเข้าพบกับรัฐมนตรีกระทรวงการสงครามสหรัฐฯ Pete Hegseth ที่ Pentagon สหรัฐฯเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A Poseidon จำนวน 4เครื่องจะถูกจัดหา "ในระยะที่1 ของการปรับเปลี่ยนใหม่ขีดความสามารถการลาดตระเวนทางทะเลของกองทัพสิงคโปร์(SAF: Singapore Armed Forces)
ตามที่เพื่อจะเสริมความแข็งแกร่งการหยั่งรู้สถานการณ์ทางทะเลและความสามารถที่ต่อต้านภัยคุกคามใต้ผิวน้ำต่างๆของกองทัพสิงคโปร์" กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์กล่าวในแถลงการณ์เมื่อวันที่ 10 กันยายน 2025

กระทรวงกลาโหมสิงคโปร์เสริมว่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล P-8A จะทดแทนเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA(Maritime Patrol Aircraft) จำนวน 5เครื่องที่มีอายุการใช้งานมานานซึ่งเข้าประจำการในกองทัพอากาศสิงคโปร์ตั้งแต่ปี 1993

กองทัพสิงคโปร์ยังได้ประเมินค่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Airbus C295 MPA ยุโรป(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/c295-mpa-c295-msa-16.html, https://aagth1.blogspot.com/2023/01/airbus-c295-mpa-2023.html
ในฐานะการทดแทนที่เป็นได้สำหรับฝูงบินเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA ตามการเปิดเผยโดยอดีตรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Ng Eng Hen ในเดือนมีนาคม 2025(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/invincible-2.html)

ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan การสั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A/B Lightning II ของสิงคโปร์กำลังมีความคืบหน้า ในเดือนมีนาคม 2024 สิงคโปร์ได้ประกาศว่า
ตนจะจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A Lightning II รุ่นบินขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing) จำนวน 8เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f-35a-8-f-35b-12.html)

ในการเพิ่มเติมต่อเครื่องบินขับไล่ F-35B Lightning II รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off Vertical Landing) จำนวน 12เครื่องที่มีสัญญาจัดหาแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/f-35b-stovl.html)
ตามข้อมูลจากรัฐมนตรีกลาโหมสิงคโปร์ Chan การผลิตของเครื่องบินขับไล่ F-35A/B จำนวน 20เครื่องได้รับการดำเนินการแล้ว โดยโครงการ "เป็นไปตามกำหนดการ" สำหรับการส่งมอบในปลายปี 2026 เป็นต้นไป

Janes ได้รายงานก่อนหน้านี้ว่าสิงค์โปร์มองที่จะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลใหม่ที่มีสมรรถนะเหนือกว่าเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Fokker 50 MPA ที่จะทำให้กองทัพสิงคโปร์เสริมความแข็งแกร่งมาตรการรักษาความปลอดภัยทางทะเลของตน
ที่ยังรวมถึงการลงนามสัญญาจัดหาเรือดำน้ำชั้น Invincible(Type 218SG) เพิ่มเติม 2ลำสำหรับกองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) จากที่สั่งจัดหาแล้ว 4ลำ รวมเป็น 6ลำด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/type-218sg-invincible-2.html)

วันจันทร์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2568

เรือหลวงกระบี่กองทัพเรือไทยเข้าร่วมการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 และการฝึก AMNEX 2025 ที่มาเลเซีย




















The exercise ASEAN Multilateral Naval Exercise (AMNEX) 2025 on 15-22 August 2025 and ASEAN Fleet Review 2025 on 21 August 2025 at Penang, Malaysia, involved with Royal Thai Navy (RTN) OPV-551 HTMS Krabi the Krabi-class offshore patrol vessels (OPV). (Royal Thai Navy/Royal Malaysian Navy)



The ASEAN Fleet Review was held today at the Swettenham Pier Cruise Terminal, featuring 10 ships. The event was graced by Yang Di-Pertua Negeri of Penang, TYT Tun Dato' Seri Utama Hj Ramli bin Ngah Talib, as the guest of honour.
The arrival of the Yang Di-Pertua Negeri and distinguished guests were met by the Chief of Navy, Admiral Tan Sri (Dr.) Zulhelmy bin Ithnain and ASEAN naval leaders.
Tun Dato' Seri Utama Hj Ramli received salutations from each participating ship. Three vessels from the Royal Malaysian Navy (RMN) are KD LEKIU, KD LEKIR and KD KEDAH. Other participating ships are KDB DARULAMAN from the Royal Brunei Navy, 
KRI BUNG TOMO (Indonesian Navy), UMS KING SIN PHYU SHIN (Myanmar Navy), BRP ANTONIO LUNA (Philippine Navy), RSS VIGOUR (Republic of Singapore Navy), HTMS KRABI (Royal Thai Navy) and VPNS QUANG TRUNG (Viet Nam People’s Navy).
The dignitaries also witnessed a helicopter fly-past, which featured one AW139, one Super Lynx Mk 100, and two AS555 Fennec from the RMN.

The 3RD AMNEX PHOTEX: A testament to maritime camaraderie and coaction, where trust forms the wake and unity charts the course.

พิธีเปิดการฝึกผสม AMNEX 2025
เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2568 นาวาเอก สถาพร วาจรัตน์ รองเสนาธิการทัพเรือภาคที่ 3 ในฐานะผู้บังคับหน่วยเรือฝึกผสม AMNEX 2025 ทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมด้วย นาวาโท สุทธิพงศ์ ม่วงเรือง ผู้บังคับการเรือหลวงกระบี่ เข้าร่วมพิธีเปิดการฝึกผสม AMNEX 2025 โดยมี 
VICE ADMIRAL DATO' BAHARUDIN BIN WAN MD NOR Western Fleet Commander เป็นประธานในพิธีฯ ณ ห้อง Royale Ballroom, Royale Chulan Penang  ประเทศมาเลเซีย
สำหรับการฝึกผสม AMNEX 2025 ครั้งนี้มีเรือจากประเทศในอาเซียนเข้าร่วมการฝึก จำนวน 8 ประเทศ ประกอบด้วย มาเลเซีย เมียนมา ไทย เวียดนาม ฟิลิปปินส์ บรูไน สิงคโปร์ และ อินโดนีเซีย

“Asean Fleet Review 2025”
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2568 เรือหลวงกระบี่ พร้อมด้วยกำลังหน่วยเรือฝึกผสม และกำลังพลเรือหลวงกระบี่ ที่เข้าร่วมการฝึกผสม AMNEX 2025 เข้าร่วมในพิธีสวนสนามทางเรืออาเซียน 2025 (Asean Fleet Review 2025) โดยมี Dato’ Seri Utama Ramli Ngah Talib ตำแหน่ง Governor of Penang, Federation of Malaysia เป็นประธานในพิธี 
ณ บริเวนอ่าวหน้าท่าเทียบเรือ Swettenham Pier Cruise Terminal รัฐปีนัง ประเทศมาเลเซีย เพื่อแสดงออกถึงความพร้อมเพรียงและความสามัคคีของกองทัพเรือมิตรประเทศในอาเซียน

เรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงกระบี่ กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ได้เสร็จสิ้นการเข้าร่วมการฝึกผสมทางเรือนานาชาติ ASEAN Multilateral Naval Exercise (AMNEX) 2025 และพิธีการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 ณ Penang มาเลเซียระหว่างวันที่ ๑๕-๒๒ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ที่ผ่านมา
หน่วยเรือฝึกผสม เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง เรือหลวงกระบี่ ได้ออกเดินเรือจากฐานทัพเรือพังงา กองทัพเรือภาคที่๓ ทรภ.๓(3rd NAC: Third Naval Area Command) ฝั่งทะเลอันดามันของไทย ในวันที่ ๑๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ และมาถึงท่าเทียบเรือ Swettenham Pier Cruise Terminal  รัฐ Penang มาเลเซียเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ สบทบกับเรือรบจากกองทัพเรือกลุ่มชาติ ASEAN รวม ๘ชาติ

การสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 และการฝึกผสม AMNEX 2025 ระหว่างกองทัพเรือกลุ่มชาติ ASEAN นี้เป็นการจัดขึ้นครั้งที่๓ แล้วนับจากครั้งแรกที่มีไทยเป็นเจ้าภาพในพิธีการสวนสนามทางเรือนานาชาติ International Fleet Review 2017 เมื่อวันที่ ๒๐ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๐(2017) ณ พัทยา จังหวัดชลบุรี ประเทศไทย(https://aagth1.blogspot.com/2017/12/blog-post.html)
และครั้งที่สองที่มีฟิลิปปินส์เป็นเจ้าภาพในพิธีการสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2023 เมื่อวันที่ ๑๑ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ณ อ่าว Subic ร่วมกับการฝึกผสม AMNEX 2023 ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๖ พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๖ ซึ่งกองทัพเรือไทยส่งเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงปัตตานี เรือหลวงปัตตานี เข้าร่วม(https://aagth1.blogspot.com/2023/05/asean-fleet-review-2023.html)

การสวนสนามทางเรือ ASEAN Fleet Review 2025 นอกอ่าวนคร George Town เมืองหลวงของรัฐ Penang มาเลเซีย ที่มีขึ้นเมื่อวันที่ ๒๑ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๖๘ ร.ล.กระบี่ ได้เข้าร่วมกับเจ้าภาพกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut DiRaja Malaysia) ที่นำเรือรบของตนเข้าร่วมประกอบด้วย
เรือฟริเกตชั้น Lekiu เรือฟริเกต FFG30 KD Lekiu(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/nsm-lekiu.html), เรือคอร์เวตชั้น Kasturi ลำที่สอง เรือคอร์เวต FSG26 KD Lekir(https://aagth1.blogspot.com/2025/08/scorpene-torpedo.html), และเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Kedah เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง F171 KD Kedah(https://aagth1.blogspot.com/2022/08/kedah-nsm.html),

กองทัพเรือบรูไน(RBN: Royal Brunei Navy, TLDB: Tentera Laut Diraja Brunei) นำเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น Darussalam เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง KDB Darulaman(08), กองทัพเรืออินโดนีเซีย(Indonesian Navy, TNI-AL: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Laut) นำเรือคอร์เวคชั้น Bung Tomo เรือคอร์เวต KRI Bung Tomo(357)(https://aagth1.blogspot.com/2023/08/pt-pal-mbda-bung-tomo.html),
กองทัพเรือพม่า(Myanmar Navy) นำเรือฟริเกต F14 UMS Sin Phyu Shin(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/f14-ums-sin-phyu-shin-radar-revathi.html), กองทัพเรือฟิลิปปินส์(PN: Philippine Navy) นำรือฟริเกตชั้น Jose Rizal เรือฟริเกต FF-151 BRP Antonio Luna(https://aagth1.blogspot.com/2025/05/mistral-brp-jose-rizal.html, https://aagth1.blogspot.com/2021/03/jose-rizal-ff-151-brp-antonio-luna.html),

กองทัพเรือสิงคโปร์(RSN: Republic of Singapore Navy) นำเรือคอร์เวตชั้น Victory เรือคอร์เวต RSS Vigour(92)(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/carat-2024-open.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/singsiam-2024-open.html), และกองทัพเรือประชาชนเวียดนาม(VPN: Vietnam People's Navy) นำเรือฟริเกตชั้น Gepard เรือฟริเกต VPNS HQ-016 Quang Trung
ยังรวมถึงเฮลิคอปเตอร์ AW139 ๑เครื่อง, เฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Super Lynx Mk 100 ๑เครื่อง และเฮลิคอปเตอร์ AS555 Fennec ๒เครื่องของกองทัพเรือมาเลเซียร่วมประกอบกำลังหมู่เรือสวนสนามและหมู่เรือฝึกผสม เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งและความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นของกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือชาติ ASEAN ครับ

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

กองทัพอากาศไทยนำเครื่องบินโจมตี บ.จ.๘ AT-6TH ร่วมฝึกกับสิงคโปร์เป็นครั้งแรกในการฝึกผสม AIR THAISING 2025
















The Royal Thai Air Force (RTAF) Beechcraft AT-6TH Wolverine light attack aircrafts of 411th Squadron, Wing 41 Chiang Mai RTAF base involved with the Republic of Singapore Air Force (RSAF) Lockheed Martin F-16C/D/D+ Fighting Falcon for first time in the exercise AIR THAISING 2025 at Wing 1 Korat RTAF base, Thailand on 14-25 July 2025. (Royal Thai Air Force)



พิธีเปิดการฝึกผสม AIR THAISING 2025
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 นาวาอากาศเอก ณัฎฐ์  คำอินทร์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ ในฐานะผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม AIR THAISING 2025 ฝ่ายกองทัพอากาศ พร้อมด้วย COL Ng Han Lin ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสม AIR THAISING 2025 ฝ่ายกองทัพอากาศสิงคโปร์ 
เป็นประธานร่วมในพิธีเปิดการฝึกผสม AIR THAISING 2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
การฝึกผสม AIR THAISING เป็นการฝึกผสมร่วมกันระหว่างกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศสิงคโปร์ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้กำลังพลของกองทัพอากาศทั้งสองประเทศได้พัฒนาขีดความสามารถของหน่วยบินและหน่วยที่เข้าร่วมการฝึก ตลอดจนพัฒนาขีดความสามารถในการปฏิบัติทางอากาศผสมของหน่วยบิน ที่มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของภาษา แนวคิด รวมถึงวัฒนธรรม 
อีกทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์อันดีระหว่างกองทัพอากาศไทยและกองทัพอากาศสิงคโปร์ ให้สามารถปฏิบัติการร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ และก่อให้เกิดประโยชน์สุงสุดกับทั้งสองประเทศ
การฝึกผสมในครั้งนี้กองทัพอากาศได้นำเครื่องบินแบบ บ.จ.8 (AT-6TH) จากฝูงบิน 411 กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ จัดกำลังเข้าร่วมการฝึกด้วย ถือเป็นการฝึกผสม “ครั้งแรก“ ของเครื่อง AT-6 ที่เข้าร่วมฝึกการปฏิบัติการทางอากาศร่วมกับอากาศยานต่างชาติ
โดยในช่วงเช้าของพิธีเปิด ผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันเปิดแพนหางของเครื่องบินแบบ F-16D ของกองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ได้จัดทำลวดลายพิเศษเป็นตราสัญลักษณ์เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 60 ปี การสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-สิงคโปร์ เพื่อเป็นการแสดงถึงมิตรภาพและความสัมพันธ์อันดีของทั้งสองประเทศที่มีมาอย่างยาวนาน 
ซึ่งผู้อำนวยการกองอำนวยการฝึกผสมทั้งสองชาติยังได้ร่วมกันเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่จะสานต่อมิตรภาพที่ยาวนานนี้ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้นไปในระหว่างร่วมกันปลูกต้น “Friendship Tree” เพื่อเป็นสื่อสัญลักษณ์ของความเจริญเติบโต ความยั่งยืน และความสัมพันธ์ที่งอกงามของทั้งไทยและสิงคโปร์
ทั้งนี้ กองทัพอากาศไทยเริ่มต้นเข้าร่วมการฝึกกับกองทัพอากาศสิงคโปร์ครั้งแรก เมื่อปี 2526 ภายใต้รหัสการฝึก “AIR THAISING 1/83” ซึ่งครั้งนั้นได้ทำการฝึกภาคบังคับการ (Command Post Exercise – CPX) ณ ฐานทัพอากาศ PAYA LEBAR ประเทศสิงคโปร์ เมื่อวันที่ 10-26 สิงหาคม 2526 
และทำการฝึกปฏิบัติภาคอากาศ (Air Maneuvering Exercise – AMX) ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา เมื่อวันที่ 19-23 กันยายน 2526 โดยกองทัพอากาศสิงคโปร์ได้ส่งเครื่องบินขับไล่โจมตีแบบ HUNTER เข้าร่วมการฝึกกับเครื่องบินแบบ F-5 ของกองทัพอากาศไทย จากนั้นได้ทำการฝึกร่วมกันรวมทั้งสิ้น 12 ครั้ง โดยผลัดกันเป็นเจ้าภาพ 
คือ การฝึกที่บังคับการ (Command Post Exercise – CPX) จะทำการฝึก ณ ประเทศสิงคโปร์ ส่วนการฝึกภาคปฏิบัติ (Air Maneuvering Exercise – AMX) จะทำการฝึกที่ประเทศไทย ต่อมากองทัพอากาศทั้งสองประเทศก็ได้เข้าร่วมการฝึกอื่น ๆ มาอย่างต่อเนื่อง อาทิ การฝึกผสม Cope Thunder และการฝึกผสม Cope Tiger 
ทำให้กำลังพลของทั้งสองประเทศ ทั้งในส่วนของผู้ทำการบินและฝ่ายสนับสนุน ได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ซึ่งกันและกัน และสร้างความสัมพันธ์อันดีมาจนถึงปัจจุบัน
สำหรับการฝึก AIR THAISING 2025 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-25 กรกฎาคม 2568 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา และสนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี

AT-6TH (Wolverine) กับการฝึกผสมครั้งแรกใน AIR THAISING 2025
เมื่อวันจันทร์ที่ 14 กรกฎาคม 2568 นาวาอากาศโท ฤทธวรรณ อมรินทร์รัตน์ ผู้บังคับฝูงบิน 411 กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ ได้นำนักบินพร้อมรบ พร้อมทั้งเครื่องบินโจมตีเบาแบบ AT-6TH  จากฝูงบิน 411 กองบิน 41 จังหวัดเชียงใหม่ เข้าร่วมการฝึก AIR THAISING 2025 ณ กองบิน 1 จังหวัดนครราชสีมา
ซึ่งการฝึกในครั้งนี้นับเป็นการฝึกผสมครั้งแรกของเครื่องบินแบบ AT-6 ที่ได้เข้าร่วมการฝึกปฏิบัติการทางอากาศร่วมกับอากาศยานต่างชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักบินพร้อมรบที่เพิ่งสำเร็จหลักสูตรมานั้นได้ดำรงขีดความสามารถในการปฏิบัติการทางอากาศ ทั้งยังเป็นการเพิ่มพูนศักยภาพเพื่อให้พร้อมในการปฏิบัติภารกิจได้อย่างเต็มประสิทธิภาพในการปกป้องอธิปไตยของชาติ และการรักษาความมั่นคงของประเทศ
เครื่อง AT-6TH  ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับภารกิจ ได้แก่ 
- การบินสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด (Close Air Support)
- ผู้ควบคุมอากาศยานหน้า(Forward Air Control-Airborne)
- การลาดตระเวนรบติดอาวุธ (Armed Reconnaissance)
- การโจมตีทางอากาศ (Air Strike)
- การเฝ้าระวัง การข่าวกรองและการลาดตระเวน (Surveillance and Reconnaissance : ISR)
- การบินค้นหาช่วยชีวิตในพื้นที่การรบ (Combat Search and Rescue)
- การสนับสนุนการบรรเทาสาธารณภัย (Disaster Area Imagery)
- การถ่ายภาพภัยพิบัติ (Disaster Area Imagery)
- การสนับสนุนปฏิบัติการบินควบคุมไฟป่า
รวมทั้งการบูรณาการความร่วมมือสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในภารกิจด้านความมั่งคง การรักษาผลประโยชน์แห่งชาติ และการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน

กองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) และกองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ได้ทำพิธีเปิดการฝึกผสมทางอากาศ AIR THAISING 2025 เมื่อ ๑๔ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘(2025) ณ กองบิน๑ โคราช จังหวัดนครราชสีมา ประเทศไทย โดยการฝึกผสม AIR THAISING 2025 ที่ดำเนินในระหว่างวันที่ ๑๔-๒๕ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘ 
เป็นการฝึกระดับทวิภาคีระหว่างกองทัพอากาศไทยและและกองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ได้กลับมาจัดการฝึกอีกครั้งหลังยุติไปเมื่อเริ่มการฝึกผสมไตรภาคี Cope Tiger ครั้งแรกระหว่างไทย, สิงคโปร์ และกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) ในปี พ.ศ.๒๕๓๙(1996) ซึ่งหลังการฝึกผสม Cope Tiger 2025 ล่าสุดระหว่างวันที่ ๑๖-๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/cope-tiger-2025.html)

กองบิน๑ โคราช ได้เป็นเจ้าภาพในอีกหลายการฝึกรวมถึงการฝึกผสมทางอากาศ ELANG THAINESIA XX/2025 ระหว่างกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศอินโดนีเซีย(Indonesian Air Force, TNI-AU: Tentara Nasional Indonesia-Angkatan Udara) ระหว่างวันที่ ๙-๑๙ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/06/elang-thainesia-2025.html)
และการฝึกผสมทางอากาศ AIR THAMAL 33/2025 ระหว่างกองทัพอากาศไทย และกองทัพอากาศมาเลเซีย(RMAF: Royal Malaysian Air Force, TUDM: Tentera Udara Diraja Malaysia) ระหว่างวันที่ ๓๐ มิถุนายน-๑๐ กรกฎาคม พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/07/air-thamal-2025.html) ซึ่งทั้งสองการฝึกอินโดนีเซียและมาเลเซียได้นำอากาศยานของตนมาวางกำลังฝึกในไทย

ขณะที่กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้นำเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16C/D Block 52 Fighting Falcon ฝูงบิน143(143 Squadron) และเครื่องบินขับไล่ F-16D Block 52+ ฝูงบิน145(145 Squadron)(https://aagth1.blogspot.com/2025/02/lockheed-martin-f-16cdd.html) สนับสนุนโดยเครื่องบินลำเลียง C-130H Hercules ฝูงบิน122(122 Squadron) เข้าร่วมการฝึก AIR THAISING 2025 ที่กองบิน๑ โคราช
ซึ่งมีเครื่องบินขับไล่สองที่นั่ง F-16D Block 52 ที่ทำลวดลายพิเศษที่แพนหางของเครื่องในโอกาสครบรอบ ๖๐ปีความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสิงคโปร์และไทยแแล้ว ยังเป็นครั้งแรกที่กองทัพอากาศไทยได้นำเครื่องบินโจมตีแบบที่๘ บ.จ.๘ Beechcraft AT-6TH Wolverine ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ เชียงใหม่ เข้าร่วมการฝึกผสมกับอากาศยานของมิตรประเทศด้วย

กองทัพอากาศไทยได้รับมอบเครื่องบินโจมตี บ.จ.๘ AT-6TH Wolverine ที่ตนสั่งจัดหาเข้าประจำการ ณ ฝูงบิน๔๑๑ กองบิน๔๑ ครบทั้ง ๘เครื่องในเดือนมิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๘(https://aagth1.blogspot.com/2025/01/at-6th-8.html) ซึ่งได้มีการฝึกนักบินพร้อมรบและการฝึกการปฏิบัติการภารกิจต่างๆมาอย่างต่อเนื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2025/03/at-6th.html)
ในการฝึกผสม AIR THAISING 2025 ครั้งล่าสุดนี้(https://aagth1.blogspot.com/2024/07/air-thaising-2024-close.html, https://aagth1.blogspot.com/2024/07/air-thaising-2024-open.html) ยังจะรวมถึงการฝึกใช้อาวุธของเครื่องบินโจมตี บ.จ.๘ AT-6TH Wolverine ณ สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรีด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2024/12/at-6th.html)