Iran's Bavar 373 Anti-Aircraft Missile Defense Systems.
http://president.ir/fa/94806
Iran's first national Turbojet Engine Owj.
http://www.irna.ir/fa/Photo/3323504/
Iran plans negotiations with Russia on purchase of Sukhoi fighters
Vadim Savitsky/Russian Defense Ministry's Press Office/TASS
Iran's Ministry of Defense the country needs to strengthen its air force
http://tass.com/defense/895279
อิหร่านไม่ต้องการที่จะจัดหาระบบป้องกันภัยทางอากาศเพิ่มเติมอีก หลังจากการจัดหาระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศแบบ S-300 จากรัสเซียซึ่งส่งมอบแล้ว
และการนำระบบอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศป้องกันภัยทางอากาศแบบ Bavar 373(Bavar ภาษาเปอร์เซีย-ฟาร์ซี แปลว่า "ศรัทธา") ที่พัฒนาเองในประเทศเข้าประจำการ
ดังนั้นกระทรวงกลาโหมอิหร่านจะให้ความสำคัญกับการเจรจากับรัสเซียในการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่ของ Sukhoi ตามการให้สัมภาษณ์ของรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่าน พลจัตวา Hossein Dehghan ต่อสื่อโทรทัศน์อิหร่านเมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา
"เราไม่ต้องการระบบป้องกันภัยทางอากาศพิสัยไกลอื่นอีก(เพิ่มเติมจาก S-300 และ Bavar-373) เราไม่มีแผนที่จะจัดหาระบบพวกนี้อีกต่อไป
ดังนั้นวาระการประชุมของกระทรวงกลาโหมอิหร่านจึงได้รวมการหารือร่วมกับรัสเซียในการจัดซื้อเครื่องบิน Sukhoi เราจำเป็นต้องเสริมความแข็งแกร่งให้กองทัพอากาศของเรา" นายพล Hossein กล่าว
ตามข้อมูลของรัฐมนตรีกลาโหมอิหร่านการทดสอบระบบอาวุธปล่อยนำวิถีป้องกันภัยทางอากาศ Bavar-373 จะมีขึ้นในอนาคตอันใกล้
"ตามการร้องขอของประธานาธิบดีอิหร่าน (Hassan Rouhani) การทดสอบแรกจะเป็นการสกัดกั้นขีปนาวุธ ถ้าการทดสอบพิจน์ว่าประสบความสำเร็จ ระบบจะเข้าสู่สายการผลิต และการนำเข้าประจำการวางกำลังรบจะเริ่มขึ้นก่อนสิ้นปีนี้" นายพล Hossein กล่าว
เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมาที่ Tehran ได้มีงานจัดการแสดงความสำเร็จของอุตสาหกรรมความมั่นคงอิหร่าน ซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการเปิดตัวระบบป้องกันภัยทางอากาศ Bavar 373 ต่อสาธารณชน
จากแหล่งข้อมูลของอิหร่านระบบป้องกันภัยทางอากาศ Bavar 373 เป็นระบบมีมีขีดความสามารถระดับเดียวกับระบบป้องกันภัยทางอากาศ S-300 รัสเซีย
ซึ่งในงานดังกล่าวอิหร่านยังได้เปิดตัวเครื่องยนต์ไอพ่น Turbojet แบบ Owj(ภาษาเปอร์เซีย-ฟาร์ซี แปลว่า "จุดจอมฟ้า") ซึ่งอิหร่านพัฒนาสร้างเองในประเทศเป็นครั้งแรกอีกด้วย
อิหร่านได้ลงนามสัญญาจัดหาระบบอาวุธปล่อยนำวิถีป้องกันทางอากาศ S-300 จากรัสเซียในปี 2007 อย่างไรก็ตามการจัดหานี้ถูกระงับไปเนื่องจากมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 1929 เมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2010 ที่ห้ามการส่งออกอาวุธที่ทันสมัยให้อิหร่าน
ต่อมาในเดือนเมษายนปี 2015 ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้ยกเลิกการระงับการส่งออกระบบ S-300 ให้อิหร่านโดยมีการเริ่มดำเนินการสัญญาจัดหาอีกครั้งในเดือนพฤศจิกายน 2015
ตามข้อมูลของ Sergei Chemezov ผู้อำนวยการบริหาร Rostec รัฐวิสาหกิจกลุ่มอุตสาหกรรมความมั่นคงของรัสเซียสัญญาการส่งมอบระบบป้องกันทางอากาศ S-300 ให้ิอิหร่านจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นปีนี้ ซึ่งรองนายกรัฐมนตรีรัสเซีย Dmitry Rogozin กล่าวก่อนหน้านี้ว่ารัสเซียได้ปฏิบัติตามสัญญาต่ออิหร่านแล้วร้อยละ50
ทั้งนี้่กองทัพอากาศอิหร่านนั้นมีความต้องการที่จะจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบใหม่ทดแทนเครื่องบินขับไล่รุ่นเก่าที่ประจำการมาก่อนการปฏิวัติปี 1979 หลายแบบ โดยเฉพาะเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงทดแทน F-14A Tomcat ที่อิหร่านเป็นผู้ใช้งานรายเดียวที่ยังคงประจำการอยู่ในปัจจุบัน
โดยที่ผ่านมามีรายงานว่ากองทัพอากาศอิหร่านให้ความสนใจในการจัดหาเครื่องบินขับไล่สองที่นั่งแบบ Sukhoi Su-30 รัสเซียเพื่อเสริมขีดความสามารถกำลังทางอากาศของตนครับ