วันอาทิตย์ที่ 30 เมษายน พ.ศ. 2560

กองทัพบกไทยใช้รถถังหลัก Type 69-II จีนฝึกเป็นข้าศึกสมมุติ











Type 69-II Main Battle Tank of 22nd Cavalry Sqauadron, Cavalry School, Cavalry Center, Royal Thai Army as Aggressor Unit during Task Force Training Cavalry Regiment 2017

วันที่ 20 - 29 เมษายน 2560 กองพันทหารม้าที22 ศูนย์การทหารม้า ดำเนินการฝึกและตรวจสอบเป็นหน่วยกองพัน(ในที่ตั้ง) เพื่อประกอบในการฝึกกรมทหารม้าเฉพาะกิจ ของกองทัพบก ประจำปี 2560 ณ พื้นที่การฝึก ค่ายอดิศร จังหวัดสระบุรี
https://www.facebook.com/22ndcavalrysquadron/posts/1380316222033899


การฝึกกรมทหารม้าเฉพาะกิจของเหล่าทหารม้ากองทัพบกไทยประจำปี พ.ศ.๒๕๖๐(2017) ซึ่ง กองพันทหารม้าที่๒๒ รับหน้าที่เป็นหน่วยข้าศึกสมมุติ(ที่จำลองรูปแบบจากกองทัพประเทศหนึ่งทั้งรูปแบบอาวุธ อัตราจัด และภาษา)นั้น
ได้มีการนำรถถังหลักแบบ ๓๐ Type 69-II อย่างน้อย ๗คันเข้ารวมการฝึก ซึ่ง ถ.๓๐ จำนวนอย่างน้อย ๔-๕คันนั้นเป็นรุ่นที่ NORINCO สาธารณรัฐประชาชนจีนผู้ผลิตได้ทำการปรับปรุงปืนใหญ่รถถังเป็นขนาด 105mm NATO แล้ว(เดิมเป็น ปถ.100mm)
การที่กองทัพบกยังคงมีรถถังหลัก Type 69-II ที่ใช้ปฏิบัติงานได้จำนวนหนึ่งก็เป็นการยืนยันข้อเท็จจริงที่ว่าสภาพตัวรถนั้นยังสามารถใช้งานต่อได้ แต่ที่กองทัพบกเลือกที่จะไม่ปรับปรุงรถส่วนใหญ่และปลดประจำการไป เนื่องจากความคุ้มค่าในด้านค่าใช้จ่ายการดำเนินการที่สูงเกินไปมากกว่า
ซึ่ง ถ.หลัก Type 69-II นี้เป็นรถถังที่จัดหาจากจีนในปี พ.ศ.๒๕๓๐(1987) ในราคาถูกเป็นพิเศษเพื่อรับมือกับภัยคุกคามด้านตะวันออกของไทยในขณะนั้น(รวมถึงข้อมูลปฏิบัติการลับอื่นๆ)
โดยจีนมีเงื่อนไขที่ทำให้ไทยไม่สามารถสำรองอะไหล่รถได้เองทำให้มีปัญหาการซ่อมบำรุงในระยะยาว จนเมื่อจีนเองก็ทำการปลดประจำการรถรุ่นนี้ไปแล้ว กองทัพบกไทยจึงจำเป็นต้องปลดประจำการรถส่วนใหญ่ลงตามความเหมาะสมคุ้มค่า
(จะเห็นได้กองทัพในกลุ่ม ASEAN ที่ใช้รถถังจีนรุ่นเก่ากว่าไทยเช่น Type 59M กองทัพบกพม่าที่ได้รับการปรับปรุงติด ปถ.105mm และเกราะปฏิกิริยาแรงระเบิด ERA เสริมก็ยังคงใช้งานได้อยู่)
ตรงนี้ก็เข้าใจว่าในส่วน ม.พัน.๒๒ เองจะยังคงรักษา ถ.๓๐ Type 69-II ต่อไปเพื่อการฝึกศึกษาและอนุรักษ์ในเชิงประวัติศาสตร์ทางทหารในอนาคตที่พิพิธภัณฑ์ทหารม้าครับ