http://www.janes.com/article/69788/jmsdf-conducts-joint-drills-with-usn-csg-headed-to-korean-peninsula
กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) ได้เริ่มการร่วมฝึกผสมกับกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี(CSG: Carrier Strike Group) Carl Vinson กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน
โดยภายหลังมุ่งหน้าไปยังน่านน้ำคาบสมุทรเกาหลีซึ่งกำลังมีความตึงเครียดขั้นสูงในภูมิภาคเอเชียตะวันออก ณ ขณะนี้
"เรือบรรทุกเครื่องบินชั้น Nimitz CVN-70 USS Carl Vinson, เรือลาดตระเวนติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Ticonderoga CG-57 USS Lake Champlain และเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Arleigh Burke DDG-112 USS Michael Murphy
ได้ร่วมกับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นคือ เรือพิฆาตชั้น Murasame DD-106 JS Samidare และเรือพิฆาตติดอาวุธปล่อยนำวิถีชั้น Atago DDG-178 JS Ashigara ทั้งสองลำจากฐานทัพเรือ Sasebo ญี่ปุ่น
เช่นเดียวกับกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีจากฐานทัพเรือ San Diego สหรัฐฯ กำลังมุ่งหน้าเคลื่อนย้านกำลังขึ้นเหนือในแปซิฟิกตะวันตก" กองเรือที่7 กองทัพเรือสหรัฐฯกล่าวในการแถลง
กองทัพสหรัฐฯกล่าวว่าการฝึกซ้อมรบ 'ตามวงรอบ' นี้ ถูกออกแบบเพื่อเพิ่มพูนการตอบสนองกำลังผสมทางทะเลและขีดความสามารถทางความมั่นคง, เพิ่มความคล่องการดำเนินกลยุทธกำลังผสม และทำให้มั่นใจว่ากองกำลังทางทะเลที่มีอยู่พร้อมจะป้องกันภูมิภาคนี้เมื่อถึงเวลาเรียกใช้
"เรามองไปข้างหน้าตลอดเพื่อปฏิบัติการร่วมกับญี่ปุ่นพันธมิตรของเรา ความสัมพันธ์ระหว่างกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นและสหรัฐฯได้ดีขึ้นมากกว่าที่เคยและมันเป็นส่วนหนึ่งในการขอบคุณการฝึกซ้อมร่วมทวิภาคีนี้" พลเรือตรี Jim Kilby ผู้บัญชาการกลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตี Carl Vinson กล่าวแถลง
ซึ่งทางการสหรัฐฯกล่าวว่า CSG จะเดินทางถึงทะเลญี่ปุ่น(หรือทะเลตะวันออก)ในอีกไม่กี่วันนั้นได้ดำเนินการฝึกทวิภาคีกับ JMSDF สามการฝึกก่อนหน้านี้ตั้งแต่วางกำลังเมื่อต้นปีนี้ล่าสุดในเดือนมีนาคม
กองทัพเรือสหรัฐฯเน้นย้ำว่านี่เป็นการดำเนินการฝึกร่วมทวิภาคีและพหุภาคีตามวงรอบเช่นเดียวกับการปฏิบัติการในมหาสมุทรแปซิฟิกตะวันตกกับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นตลอดปี
ตามรายงานสำนักข่าว Yonhap สาธารณรัฐเกาหลี กลุ่มเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีคาดว่าจะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกร่วมผสมกับเรือของกองทัพเรือสาธาณรัฐเกาหลี(ROKN: Republic of Korea Navy)ใกล้คาบสมุทรเกาหลีด้วย
"การพิจาณาหารือกำลังดำเนินการเชื่อมโยงกับการฝึก" Moon Sang-gyun โฆษกกระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี ที่ Seoul กล่าวในการแถลงสรุปกับสื่อครับ
US carrier loses aircraft en route to Korean Peninsula
http://www.janes.com/article/69791/us-carrier-loses-aircraft-en-route-to-korean-peninsula
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 21 เมษายน เรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson ได้สูญเสียเครื่องบินขับไล่ F/A-18E Super Hornet ประจำกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2 จากอุบัติเหตุตกขณะกำลังเตรียมลงจอดในการบินตามวงรอบปกติที่ทะเล Celebes
นักบินได้ดีดตัวออกจากเครื่องอย่างปลอดภัยและได้รับการช่วยเหลือทันทีโดยเฮลิคอปเตอร์จากฝูงบิน HSC-4 ที่ประจำการบนเรือ Carl Vinson ซึ่งนักบินยังไม่พบว่าบาดเจ็บใดๆ สาเหตุของอุบัติเหตุกำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนครับ
USAF deploys F-35A to Estonia for 'training'
Estonian media has reported that the aircraft is being forward-deployed to that country for training. Source: US Air Force
http://www.janes.com/article/69807/usaf-deploys-f-35a-to-estonia-for-training
กองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) จะวางกำลังเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35A Lightning II Joint Strike Fighter(JSF) ที่เอสโตเนียเพื่อวัตถุประสงค์ในการฝึกตามที่สื่อรายงานเมื่อ 24 เมษายน
เครื่องบินขับไล่ F-35A ที่ไม่ระบุหมายเลขจำนวน 8เครื่องได้เดินทางมาถึงฐานทัพอากาศ Lakenheath กองทัพอากาศสหราชอาณาจักร(RAF: Royal Air Force) เมื่อวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นการวางกำลังนอกประเทศครั้งแรกตามที่ได้เคยรายงานไป
จากนั้น F-35A จะถูกนำไปกำลังปฏิบัติส่วนหน้าที่ฐานทัพอากาศ Amari ที่เอสโตเนียเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการฝึกร่วมของชาติพันธมิตร NATO ตามที่สำนักข่าว EER รายงาน F-35A จะยังคงประจำการอยู่ที่ Amari เป็นเวลาหลายสัปดาห์
กองบินขับไล่ที่48 กองทัพอากาศสหรัฐฯประจำฐานทัพอากาศ Lakenheath อังกฤษปฏิเสธที่จะให้ความเห็นโดยกล่าวกับ Jane's ว่า
"เนื่องจากการรักษาความปลอดภัยการปฏิบัติการ เราจะไม่กล่าวถึงรายละเอียดที่เฉพาะเจาะจงจองการฝึก, การปฏิบัติการ หรือการวางกำลังในอนาคต"
เป็นที่ตั้งข้อสังเกตุว่าแม้ว่ากระทรวงกลาโหมสหรัฐฯจะประกาศการวางกำลังที่ฐานทัพอากาศ Lakenheath ก่อนแล้ว โดยไม่มีความเห็นใดๆจากกองทัพอากาศสหรัฐฯที่ชัดเจนถ้า F-35A จะทำการบินโดยติดอาวุธ
แม้ว่าจะเป็นการวางกำลังเพื่อการฝึกซ้อม การวางกำลังส่วนหน้าที่เอสโตเนียเป็นส่วนหนึ่งของการขยายภารกิจการเสริมสร้างความมั่นคงเพื่อสร้างคามมั่นใจให้กลุ่มชาติสมาชิก NATO ในยุโรปตะวันออกซึ่งกำลังมีความกังวลต่อความตึงเครียดกับรัสเซีย
ที่ประธานาธิบดีรัสเซีย Vladimir Putin ได้สนับสนุนการรุกรานยูเครนและผนวก Crimea เป็นส่วนหนึ่งของสหพันธรัฐรัสเซียในปี 2014 และแทรกแซกกลุ่มติดอาวุธนิยมรัสเซียในภาค Donbass ทำสงครามกับกองกำลังความมั่นคงรัฐบาลยูเครนจนถึงปัจจุบัน
ก่อนหน้านี้กองทัพอากาศสหรัฐฯได้เคยวางกำลังเครื่องบินขับไล่ครองอากาศ Lockheed Martin F-22 Raptor ที่ฐานทัพอากาศสหรัฐฯด้วยเหตุผลเดียวกันนี้ การมาของเครื่องบินขับไล่ F-35A รุ่นล่าสุดจึงเป็นการส่งข้อความทางการทหารและการเมืองของสหรัฐฯและ NATO
"ในฐานะส่วนหนึ่งของการวางกำลังการฝึก เครื่องจะจะถูกวางกำลังส่วนหน้ายังชาติสมาชิก NATO เพื่อเพิ่มโอกาสการฝึกอย่างสุดสุด สร้างความเป็นหุ้นส่วนกับกองทัพอากาศชาติพันธมิตร และนำความคุ้นเคยอย่างกว้างขวางของสภาวะการปฏิบัติการที่หลากหลายของยุโรป
การนำเครื่องบินขับไล่ยุคที่5ชั้นเอกมายังพื้นที่ยุโรปในการนำความรับผิดชอบด้วยระบบตรวจจับที่ล้ำสมัย, การทำงานร่วมกัน และระบบอาวุธอากาศสู่อากาศและอากาศสู่พื้นขั้นก้าวหน้าจำนวนมาก ซึ่งนั่นจะช่วยคงรักษาสิทธิขั้นพื้นฐานของอำนาจอธิปไตยของทุกชาติ"
กองทัพอากาศสหรัฐฯกล่าวแถลงในการมาถึงของเครื่องบินขับไล่ F-35A ณ ฐานทัพอากาศ Lakenheath ครับ
