Sattahip Naval Base, Royal Thai Navy, would like to welcome Royal Malaysian Navy for port visit at Chuk Samet Port, Sattahip, Chonburi.
On November 3, 2565, CAPT Makapong Darapan, Director of Chuk Samet port, on behalf of VADM Sutin LayCharoen, Commandant of Sattahip Naval Base, has given a warm welcome to Royal Malaysian ships KD Jebat, KD GAGAH SEMUDERA, and KD PENDEKAR. RADM Farizal Myeor, Commander Naval Area 1, is in charge of the Squadron Commander. Royal Malaysian Squadron has scheduled a visit from 3-6 November 2022 to strengthen relationship between two navies.
กองทัพเรือ โดย ฐานทัพเรือสัตหีบ ให้การต้อนรับกองทัพเรือมาเลเซีย เนื่องในโอกาสเดินทางมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ ณ ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี
วันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ พลเรือโท สุทิน หลายเจริญ ผู้บัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ มอบหมายให้ นาวาเอก มาฆะพงศ์ ดาราพันธุ์ หัวหน้าท่าเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ เป็นผู้แทนให้การต้อนรับ เรือ KD JEBAT เรือ KD GAGAH SEMUDERA และเรือ KD PENDEKAR
โดยมีผู้บัญชาการภาคเรือที่ ๑ กองเรือภาคตะวันตก กองทัพเรือมาเลเซีย เป็นผู้บังคับหมู่เรือ เนื่องในโอกาสเดินทางมาเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพเรือทั้งสองประเทศ ระหว่างวันที่ ๓ - ๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
หมู่เรือของกองทัพเรือมาเลเซีย(RMN: Royal Malaysian Navy, TLDM: Tentera Laut Diraja Malaysia) ที่ประกอบด้วย เรือฟริเกต KD Jebat (29), เรือฝึก KD Gagah Samudera (271) และเรือเร็วโจมตีปืน KD Pendekar (3513) รวม ๓ลำ พร้อมกำลังพล
โดยมี พลเรือตรี Farizal Myeor ผู้บัญชาการภาคเรือที่1(Naval Area 1) กองเรือภาคตะวันตก(Western Fleet Command) เดินทางมาถึง ท่าเทียบเรือจุกเสม็ด การท่าเรือสัตหีบ ฐานทัพเรือสัตหีบ จังหวัดชลบุรี กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๕(2022)
ในฐานะส่วนหนึ่งของการวางกำลังการมีส่วนร่วมในภูมิภาค Regional Engagement Deployment 2022 โดยกำหนดการเยือนไทยของหมู่เรือกองทัพเรือมาเลเซียอยู่ระหว่างวันที่ ๓-๖ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ นับเป็นกองทัพเรือมิตรประเทศชาติล่าสุดที่เดินทางมาเยือนกองทัพเรือไทย
เรือฟริเกต KD Jebat เป็นเรือลำที่สองของเรือฟริเกตชั้น Lekiu ที่มีสองลำ โดยเข้าประจำการในปี 1999 มีระวางขับน้ำเต็มที่ 2,300tons ความยาวเรือ 106m ระบบขับเคลื่อนเครื่องยนต์ดีเซล MTU 20V 1163 TB93 สี่เครื่องกำลัง 33,300hp ทำความเร็วได้ที่ 28knots ระยะปฏิบัติการ 5,000nmi
ระบบอาวุธ ปืนเรือ Bofors 57mm หนึ่งแท่น ปืนกล MSI DS30M 30mm สองแท่น อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Exocet MM40 Block 2 แปดท่อยิง อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Sea Wolf ในแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launch System) 16ท่อยิง
และ Torpedo เบาปราบเรือดำน้ำ A244-S ในแท่นยิงแฝดสามสองแท่นยิง ท้ายเรือมีดาดฟ้าบินเฮลิคอปเตอร์และโรงเก็บอากาศยานรองร้อบเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Super Lynx 300 ได้หนึ่งเครื่อง กำลังพลประจำเรือ 146นายเป็นนายทหาร 18นาย
เรือฝึก KD Gagah Samudera เป็นเรือลำแรกของเรือฝึกชั้น Gagah Samudera ที่มีสองลำซึ่งเข้าประจำการพร้อมกับเรือฝึก KD Teguh Samudera(272) เรือลำที่สองของชั้นในเดือนเมษายน 2018(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/2-kd-gagah-samudera-kd-teguh-samudera.html)
มีความยาวตัวเรือ 76m กว้าง 11m กินน้ำลึก 3m ระวางขับน้ำประมาณ 1,270tons ทำความเร็วได้สูงสุด 20knots ระยะเวลาปฏิบัติการนาน 21วันที่ความเร็วมัธยัสถ์ 12knots ระยะทำการไกล 2,500nmi อาวุธ MSI DS30M 30mm สหราชอาณาจักร หนึ่งแทนยิง, ปืนกล 7.62mm สองแท่นยิง
ท้ายเรือมีดาดฟ้าเฮลิคอปเตอร์ซึ่งสามารถรองรับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทางทะเล Super Lynx 300 และ Fennec และยังมีเรือยางท้องแบน(RHIB: Rigid Hull Inflatable Boat) ติดตั้งไปกับเรือ เรือมีกำลังพล 50นาย และรองรับนักเรียนนายเรือได้ 60นาย
เรือเร็วโจมตีปืน KD Pendekar (3513) เป็นเรือเร็วโจมตีชั้น Handalan ลำที่สามจากสี่ลำ ซึ่งสองลำแรก KD Handalan (3511) และ KD Handalan (3512) เข้าประจำการในปี 1978 และสองลำหลัง KD Pendekar และ KD Gempita (3514) เข้าประจำการในปี 1979
มีความยาวตัวเรือ 43.6m กว้าง 7.1m กินน้ำลึก 2.3m ระวางขับน้ำเต็มที่ 268tons ทำความเร็วสูงสุดที่ 34.5knots ระยะทำการ 2,977nmi ที่ความเร็วมัธยัสถ์ 14knots อาวุธปืนเรือ Bofors 57mm หนึ่งแท่น และปืนเรือ Bofors 40mm หนึ่งแท่น เดิมเคยติดอาวุธปล่อยนำวิถี Exocet MM38 แต่เลิกใช้แล้ว กำลังพลประจำเรือ 40นาย
ในเดือนตุลาคม ๒๕๖๕ ที่ผ่านมา ฐานทัพเรือสัตหีบก็ได้ต้อนรับการมาเยือนของเรือฟริเกต FFH338 HMCS Winnipeg กองทัพเรือแคนาดา และ FFH151 HMAS Arunta กองทัพเรือออสเตรเลียครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/ffh338-hmcs-winnipeg-ffh151-hmas-arunta.html)
