วันพฤหัสบดีที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2560

เกาหลีใต้กำลังพิจารณาการมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ประจำการ

KSS-III Jangbogo-class submarine model for Republic of Korea Navy(wikipedia.org)

(2nd LD) N.K. likely to fire more missiles, conduct nuke test: Seoul 
Song said in response to a question on what countermeasure the ministry has against the North's submarine-launched ballistic missile threat. "We are considering an atomic power (nuclear-powered) submarine."
http://english.yonhapnews.co.kr/news/2017/07/31/0200000000AEN20170731007452315.html

ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ของกองทัพประชาชนเกาหลีสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลีที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทั้งการทดสอบขีปนาวุธข้ามทวีป(ICBM: Intercontinental Ballistic Missile) Hwasong-14 ครั้งที่สองในรอบไม่กี่เดือน รวมถึงขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำติดขีปนาวุธของกองทัพเรือประชาชนเกาหลีหลายครั้ง
กระทรวงกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีจึงได้ตอบคำถามเกี่ยวกับการตอบโต้ภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือต่อสมาชิกสภานิติบัญญัติเกาหลีใต้ในหลายประเด็น ซึ่งช่วงหนึ่งมีการกล่าวถึงการพิจารณาการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ประจำการสำหรับกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(Republic of Korea Navy)

รัฐมนตรีกลาโหมสาธารณรัฐเกาหลี นาย Song Young-moo ได้ตอบคำถามเรื่องความจำเป็นในการสร้างเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์เพื่อเผชิญหน้ากับการเพิ่มขึ้นของภัยคุกคามทางทหารจากเกาหลีเหนือ
รัฐมนตรีกลาโหม Song กล่าวว่า "พร้อมที่จะทบทวนเรื่องนี้" ซึ่งดูจะมีการเปลี่ยนแปลงจากปีที่แล้วที่กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้บอกว่าไม่มีแผนการสร้างเรือดำน้ำนิวเคลียร์ดังกล่าว

"เพื่อที่จะจับเรือดำน้ำข้าศึกเราควรจะต้องมีสักลำ เรากำลังพิจารณาเรือดำน้ำพลังปรมาณู(พลังงานนิวเคลียร์)" รัฐมนตรี Song กล่าวในการตอบคำถามเรื่องจะใช้อะไรต่อต้านภัยคุกคามจากขีปนาวุธยิงจากเรือดำน้ำ(SLBM: Submarine-Launched Ballistic Missile) ของเกาหลีเหนือ
ก่อนหน้านี้ในปีที่แล้วกลุ่มสมาชิกรัฐสภาสาธารณรัฐเกาหลีจากพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้านรวมถึงผู้เชี่ยวชาญทางทหารพลเรือนในขณะนั้นได้เรียกร้องให้กระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้พิจารณาการมีเรือดำน้ำนิวเคลียร์ประจำการ(http://aagth1.blogspot.com/2016/09/blog-post_2.html)

ปัจจุบันกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลีกำลังอยู่ระหว่างการสร้างเรือดำน้ำโจมตีตามแบบดีเซลไฟฟ้า KSS-III ชั้น Jangbogo ซึ่งเป็นเป็นเรือดำน้ำแบบแรกที่เกาหลีใต้พัฒนาด้วยตนเองทั้งหมด และจะเป็นเรือดำน้ำดีเซล-ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่ที่สุดที่ประจำการในกองทัพเรือเกาหลีใต้
โดยเรือดำน้ำ KSS-III Batch I เรือสองลำแรกกำลังถูกสร้างโดยบริษัทอู่เรือ Daewoo Shipbuilding & Marine Engineering(DSME) ลำแรกจะปล่อยลงน้ำในปี 2018 เข้าประจำการในปี 2020 ลำที่สองเข้าประจำการในปี 2022 และลำที่สามสร้างโดยบริษัท Hyundai Heavy Industries(HHI)

สำนักงานโครงการจัดหากลาโหม(DAPA: Defense Acquisition Program Administration) สาธารณรัฐเกาหลีได้ออกแบบเรือดำน้ำ KSS-III Batch II ออกแบบปรับปรุงใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ทาง DAPA ได้เลือกให้ DSME เป็นผู้สร้างเรือรุ่น Batch II ลำแรก โดยจะมีการสร้าง 3ลำ
และมีการออกแบบพัฒนาเรือดำน้ำ KSS-III Batch III เป็นรุ่นล่าสุด โดยกองทัพเรือเกาหลีใต้มีความต้องการเรือดำน้ำชั้น Jangbogo(KSS-III) ทั้งรุ่น Batch I, Batch II และ Batch III รวม 9ลำ โดยลำสุดท้ายจะเข้าประจำการในปี 2029

เรือดำน้ำชั้น KSS-III Batch I ตัวเรือมีความยาว 83.5m กว้าง 9.6m เส้นผ่าศูนย์กลาง 7.7m กินน้ำลึก 7.62m สูง 14.7m ระวางขับน้ำที่ผิวน้ำ 3,358tons ระวางขับน้ำขณะดำใต้น้ำ 3,705tons พิสัยทำการ 10,000nmi ความเร็วสูงสุด 20knots กำลังพลประจำเรือ 50นาย
ระบบอาวุธนอกจากท่อยิง Torpedo หนัก 533mm 6ท่อยิงแล้ว ยังติดตั้งแท่นยิงอาวุธแนวดิ่ง VLS(Vertical Launch System) 6ท่อยิงสำหรับอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนยิงจากเรือดำน้ำ Hyunmoo ด้วย

สำหรับเรือดำน้ำชั้น KSS-III Batch I จะมีการปรับปรุงออกแแบบใหม่ให้มีท่อยิง VLS เพิ่มเป็น 10ท่อยิง โดยเพิ่มความยาวตัวเรือจะทำใหเรื่อมรระวางขับน้ำเพิ่มเป็นประมาณ 4,000tons
ทั้งนี้มีความเป็นไปได้มากว่าเกาหลีใต้อาจจะมีการพิจารณาการนำระบบขับเคลื่อนพลังงานนิวเคลียร์มาติดตั้งกับเรือดำน้ำชั้น KSS-III เพื่อพัฒนาเป็นเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ครับ