วันจันทร์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2562

จีนส่งมอบเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 มืองสอง 2ลำแก่บังคลาเทศ

China hands over two ex-PLAN frigates to Bangladeshi Navy



One of the two ex-PLAN Jiangwei II-class frigates that were formally handed over to the BN on 18 December. The ship shown here, formerly known as Lianyungang, was overhauled at the Shenjia Shipyard in Shanghai. Source: Via haohanfw.com
https://www.janes.com/article/93346/china-hands-over-two-ex-plan-frigates-to-bangladeshi-navy

เรือฟริเกตชั้น Type 053H3 (NATO กำหนดรหัสชั้น Jiangwei II) จำนวน 2ลำที่ปลดประจำการจากกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีน(PLAN: People's Liberation Army Navy) แล้ว
ได้ถูกส่งมอบให้แก่กองทัพเรือบังคลาเทศ(BN: Bangladesh Navy) ในพิธีส่งมอบที่มีขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2018 ณ อู่เรือ Shenjia ในมหานคร Shanghai สาธารณรัฐประชาชนจีน

กองทัพเรือบังคลาเทศกล่าวในแถลงการณ์ว่าเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 ระวางขับน้ำ 2,200ton ความยาวเรือ 112m และความกว้างเรือ 12.4m ทำความเร็วได้สูงสุด 24knots
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ CODAD(Combined Diesel and Diesel) สองเครื่องยนต์ดีเซล MTU กำลัง 8,715shp และสองเครื่องยนต์ดีเซล 18E390VA กำลัง 23,600shp

ทั้งสองลำคือเรือฟริเกต FFG-521 Jiaxing และเรือฟริเกต FFG-522 Lianyungang ที่ได้รับการปรับปรุงแล้ว ซึ่งจะถูกเปลี่ยนชื่อเรือเป็น F16 BNS Umer Farroq(หรือออกเสียงได้ว่า Umar Farooq) และ F19 BNS Abu Ubaidah เมื่อเข้าประจำการในกองทัพเรือบังคลาเทศ
มีกำหนดจะเดินทางมาถึงบังคลาเทศหลังพิธีส่งมอบเรือ โดยเรือฟริเกตทั้งสองได้รับการทำสีหมายเลขเรือบนตัวแล้ว ตามข้อมูลจากกองทัพเรือบังคลาเทศ

ตามข้อมูลจากสื่อจีน กองทัพเรือบังคลาเทศได้จัดหาเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 สองลำที่เคยประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนภายใต้ข้อตกลงที่ลงนามในเดือนมิถุนายน 2018
ในเดือนกันยายน 2019 กองทัพเรือบังคลาเทศได้ลงนามสัญญาจัดหาเรือฟริเกตชั้น Type 053H3 เพิ่มอีก 2ลำที่รวมเรือฟริเกต FFG-523 Putian ซึ่งคาดว่าจะถูกเปลี่ยนชื่อเรือเป็น BNS Khalid Bin Walid เมื่อเข้าประจำการในกองทัพเรือบังคลาเทศ

เรือฟริเกตชั้น Type 053H3 ที่ประจำการในจีนมีอาวุธประจำเรือประกอบด้วย ปืนเรือ 100mm แฝดสอง, อาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ YJ-83 ในแท่นยิงแบบเฉียง 8ท่อยิง, อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้ HHQ-7 ในแท่นยิง 8ท่อยิง และปืนกล 37mm แฝดสอง 4ป้อม
ไม่มีอาวุธชนิดใดถูกถอดออกจากเรือที่ถูกส่งมอบให้บังคลาเทศ แม้ว่าอาวุธปล่อยนำวิถี YJ-83 และ HHQ-7 อาจจะถูกเปลี่ยนเป็นอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ C-802A และอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศพิสัยใกล้ FM-90 รุ่นส่งออก โดยเฉพาะส่วนที่เกี่ยวกับการจัดส่งอาวุธปล่อยนำวิถี

ปัจจุบันกองทัพเรือบังคลาเทศมีเรือฟริเกตประจำการ 4ลำคือ เรือฟริเกต F18 BNS Osman เป็นเรือฟริเกตชั้น Type 053H1 (Jianghu II) ที่เก่าที่สุดที่จัดหาจากจีนในปี 1989, เรือฟริเกต F25 BNS Bangabandhu มีพื้นฐานดัดแปลงจากเรือฟริเกตชั้น Ulsan จัดหาจากสาธารณรัฐเกาหลีในปี 2001 และเรือฟริเกตชั้น Type 053H2 (Jianghu III) ที่เคยประจำการในกองทัพเรือปลดปล่อยประชาชนจีนมาก่อน 2ลำคือ F15 BNS Abu Bakar และ F17 BNS Ali Haider ที่ได้รับมอบในปี 2014

กองทัพเรือบังคลาเทศยังมีเรือตัดน้ำแข็ง(cutter) ชั้น Hamilton ระวางขับน้ำ 3,250ton ที่เคยประจำการในหน่วยยามฝั่งสหรัฐฯ(USCG: US Coastguard) 2ลำ
คือ F28 BNS Somudra Joy และ F29 BNS Somudra Avijan ที่ติดตั้งปืนเรือ Oto Melara 76mm/62caliber ที่จัดหาในปี 2013 และปี 2015

นอกจากบังคลาเทศแล้ว รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมจีนได้แจ้งว่าจะสร้างและส่งมอบเรือฟริเกตชุดเรือหลวงเจ้าพระยา(Type 053HT) ให้แก่กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) อีก ๒ลำ โดยจะขอรับซากเรือฟริเกตที่กองทัพเรือไทยปลดประจำการ ๒ลำเพื่อนำกลับไปเป็นพิพิธภัณฑ์
ทั้งนี้กองทัพเรือไทยได้แจ้งความต้องการรับมอบเรือฟริเกต Type 053H3 Jiangwei II เนื่องจากเป็นแบบเรือที่ทันสมัย และมีขีดความสามารถที่สูงกว่าเรือฟริเกตชุดเรือหลวงกระบุรี(Type 053HT(H)) ๒ลำที่ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยไปแล้วครับ