กองทัพเรือไทย-สหรัฐฯฝึกการตรวจการณ์ทางทะเลกับเครื่องบินลาดตระเวน P-8A

U.S., Royal Thai navies conduct Sea Surveillance Exercise

In this file photo, Aviation Structural Mechanic Airman Apprentice Alfonso Chavez-Luna, attached to VP-10, taxis a P-8A Poseidon at Misawa Air Base, Japan, in October. (U.S. Navy/MC1 Louis Rojas)

U-TAPAO, Thailand - The “Red Lancers” of Patrol Squadron (VP) 10 began working alongside the Royal Thai Navy (RTN) for the 4th annual Sea Surveillance Exercise (SEASURVEX), Dec. 15.
https://www.cpf.navy.mil/news.aspx/110902

ฝูงบินตรวจการณ์ VP-10 Red Lancers กองทัพเรือสหรัฐฯ(US Navy) ได้เริ่มต้นการทำงานร่วมกับกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) สำหรับการฝึกการตรวจการณ์ทางทะเล SEASURVEX(Sea Surveillance Exercise) ครั้งที่สี่
เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล Boeing P-8A Poseidon ฝูงบิน VP-10 ได้เดินทางมาถึงสนามบินอู่ตะเภา กองทัพเรือไทยเมื่อวันที่ ๑๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๒(2019) พร้อมกับกำลังพลรบทางอากาศ(Combat Air Crew) CAC 8

เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล, ส่งเสริมความร่วมมือ และส่งเสริมการฝึกร่วมกันระหว่างกองทัพเรือไทยและกองทัพเรือสหรัฐฯ เป้าหมายของการฝึกการตรวจการณ์ทางทะเล SEASURVEX จะเป็นการมอบโอกาสสำหรับสหรัฐฯและไทย เพื่อส่งเสริมและปรับแต่งการประสานงานระดับนานาชาติ
ในการหยั่งรู้ห้วงขอบเขตภาคทางทะเล(MDA: Maritime Domain Awareness) และสงครามปราบเรือดำน้ำ(ASW: Anti-Submarine Warfare) การฝึกประกอบด้วยหนึ่งเที่ยวบิน, การประชุมหลายครั้ง และการและเปลี่ยนกำลังพลช่งซ่อมบำรุงและหัวข้อประเด็นหารือของผู้เชี่ยวชาญ

ผู้บัญชาการภารกิจและนายทหารรับผิดชอบการฝึก นาวาตรี Doug Kettler กำลังมองไปข้างหน้าต่อการฝึกครั้งนี้ "SEASURVEX จะเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมเพื่อการทำงานเคียงข้างกันกับกองทัพเรือไทย
เพื่อเพิ่มความร่วมมือการปฏิบัติการร่วมกันของระบบต่างๆของเรา เช่นเดียวกับเพื่อสร้างความมั่นใจในเสรีภาพการเดินเรือในน่านน้ำสากล" นาวาตรี Kettler กล่าว

การบินของเครื่องบินลาดตระเวน P-8A สหรัฐฯประกอบด้วยการประสานงานภารกิจ MDA โดยมีเจ้าหน้าที่กองทัพเรือไทยอยู่บนเครื่อง, การอนุญาตให้ลูกเรือสองประเทศทำงานและแสดงการปฏิบัติการร่วมในภาคทางทะเลร่วมกัน
"ผมยินดีและตื่นเต้นสำหรับโอกาสที่จะทำงานเคียงข้างกองทัพเรือไทยระหว่างภารกิจ MDA มันจะประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่เพื่อส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนมืออาชีพให้ดำเนินต่อไปกับไทย" ลูกเรืออากาศนาวีชั้นสอง(Naval Aircrewman (Operator) 2nd Class) Luke Dahms กล่าว

ฝูงบินตรวจการณ์ VP-10 Red Lancers มีที่ตั้ง ณ สถานีอากาศนาวี(NAS: Naval Air Station) Jacksonville ในมลรัฐ Florida สหรัฐฯ และกำลังปฏิบัติการจากฐานทัพอากาศ Misawa ที่ญี่ปุ่น ที่กำลังดำเนินการตรวจการณ์ทางทะเลและลาดตระเวน
และปฏิบัติการประสานงานความมั่นคงร่วมพื้นที่ตลอดภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก ในการสนับสนุนจุดประสงค์ของผู้บัญชาการ กองกำลังเฉพาะกิจ CTF 72(Task Force 72), กองเรือที่7(7th Fleet) และกองบัญชาการอินโด-แปซิฟิก(INDOPACOM: US Indo-Pacific Command) ตลอดทั้งภูมิภาค

เดิมกองทัพเรือไทยเคยมี เครื่องบินต่อต้านเรือผิวน้ำ บ.ตผ.๒ Lockheed P-3T Orion จำนวน ๓เครื่องที่เคยประจำการ ณ ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ กองการบินทหารเรือ กบร. กองเรือยุทธการ กร. โดยมีแผนจะจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลใหม่ ๓เครื่องทดแทน
แม้ว่าโครงการซื้อเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลจะถูกยกเลิกไปปีงประมาณ พ.ศ.๒๕๖๒(2019)(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/blog-post_7.html) แต่ล่าสุดกองทัพเรือไทยมีแผนจะตั้งโครงการจัดหาเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเลขึ้นใหม่ในปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๔(2021) ครับ