วันอาทิตย์ที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2562

Raytheon ได้สัญญาส่งมอบอาวุธปล่อยนำวิถี AIM-120 แก่สหรัฐฯและ 23ประเทศรวมถึงไทย

US contract for Raytheon to deliver AMRAAM air-t-air missiles to US and 23 foreign countries

A munitions load truck containing Air Intercept Missile-120 Advanced Medium Air-to-Air Missiles AMRAAM and Air Intercept Missile-9 Sidewinders is used for an F-22 Raptor weapons load training at Joint Base Elmendorf-Richardson, Alaska, July 15, 2018.
(Picture source U.S. DoD)(https://www.flickr.com/photos/redripper24/42602227151/)
http://www.airrecognition.com/index.php/news/defense-aviation-news/2019-news/december/5768-us-contract-for-raytheon-to-deliver-amraam-air-t-air-missiles-to-us-and-23-foreign-countries.html

Royal Thai Air Force's Saab Gripen D 701st Squadron, Wing 7 Surat Thani with AIM-120C-7 AMRAAM

Royal Thai Air Force's Lockheed Martin F-16A ADF 102nd Squadron, Wing 1 Korat with AIM-120C-5 AMRAAM

กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ Pentagon ได้ประกาศเมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2019 ว่า บริษัท Raytheon Missile Systems Co. สหรัฐฯ ใน Tucson มลรัฐฯ Arizona ได้รับสัญญาราคาราคาคงที่แบบจูงใจที่ไม่ใช่การแข่งขันวงเงิน $768,283,907
เพื่อส่งมอบอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศพิสัยกลาง AIM-120 AMRAAM(Advanced Medium Range Air-to-Air Missile) สายการผลิต Lot 33 แก่สหรัฐฯและอีก 23ประเทศ

สัญญานี้จะเป็นการส่งมอบสำหรับการผลิตของอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 AMRAAM, อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศลูกฝึก CATM-120, ส่วนนำวิถี, ระบบตรวจวัด telemetry ของ AMRAAM, อะไหล่และสิ่งอุปกรณ์สนับสนุนการผลิตทางวิศวกรรมอื่นๆ
งานจะดำเนินการในโรงงานของบริษัท Raytheon สหรัฐฯใน Tucson มลรัฐฯ Arizona โดยคาดว่าจะมีกำหนดเสร็จสิ้นในวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2023

สัญญานี้ได้ร่วมการเปิดเผยข้อมูลปกปิดการขาย FMS(Foreign Military Sales) แก่ ออสเตรเลีย, เบลเยียม, แคนาดา, เดนมาร์ก, อินโดนีเซีย, ญี่ปุ่น, คูเวต, โมร็อกโก, เนเธอร์แลนด์, นอร์เวย์,
โอมาน, โปแลนด์, กาตาร์, โรมาเนีย, ซาอุดีอาระเบีย, สิงคโปร์, สโลวาเกีย, สาธารณรัฐเกาหลี, สเปน, ไทย, ตุรกี และสหราชอาณาจักร ซึ่งคิดเป็นร้อยละ47 ของวงเงินในสัญญา

อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 AMRAAM เป็นอาวุธนำวิถีครองอากาศที่ซับซ้อนมากที่สุดในโลก โดยได้รับการออกแบบ, ปรับปรุง, ทดสอบและผลิตมากกว่า 25ปี
อาวุธปล่อยนำวิถี AMRAAM เดินหน้าเพื่อตรงความตามความต้องการของนักรบทางอากาศทั้งหมด ขีดความสามารถของมันได้รับการสาธิตในการทดสอบยิงมากกว่า 4,200ครั้ง และชัยชนะในการรบอากาศสู่อากาศ 10ครั้ง

ในภารกิจอากาศสู่อากาศไม่มีอาวุธปล่อยนำวิถีอื่นที่เทียบเคียงได้กับ AIM-120 AMRAAM ส่วนนำวิถีเชิงรุกขั้นก้าวหน้าของอาวุธได้มอบความยืดหยุ่นงและการสังหาในการรบระดับสูงแก่นักบิน
การออกแบบระบบตรวจจับที่สมบูรณ์พร้อมทำให้มันสามารถหาเป้าหมายได้อย่างรวกเร็วในสภาพแวดล้อมการรบที่มีความท้าทายมากที่สุด AIM-120 AMRAAM ได้รับการจัดหาโดย 37ประเทศรวมถึงสหรัฐฯ ที่ได้รับการพิสูจน์ในการรบจริง

โดยได้ถูกบูรณาการติดตั้งกับเครื่องบินขับไล่ F-15, เครื่องบินขับไล่ F-16, เครื่องบินขับไล่ F/A-18, เครื่องบินขับไล่ F-22, เครื่องบินขับไล่ Typhoon, เครื่องบินขับไล่ Gripen, เครื่องบินขับไล่ Tornado และเครื่องบินโจมตี Harrier
AIM-120C5 และ AIM-120C7 ได้ถูกบูรณาการเต็มรูปแบบกับเครื่องบินขับไล่ F-35 และสนับสนุนความพร้อมปฏิบัติการขั้นต้นของเครื่องบินขับไล่ F-35B นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) ในฐานะอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศแบบเดียวที่ได้รับการรับรองใช้กับ F-35

สำหรับกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) อาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศ AIM-120 AMRAAM ได้ถูกนำติดตั้งใช้กับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 ADF ฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราช,
เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU(Enhance Mid-Life Upgrade) ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐/ก SAAB Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ สุราษฎร์ธานี ครับ