https://www.janes.com/article/93046/mdhi-reveals-block-ii-advancement-for-md-530g-helo
บริษัท MD Helicopters Inc(MDHI) สหรัฐฯได้ประกาศรุ่นปรับปรุงขีดความสามารถเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ/โจมตีเบา MD 530G Block II(2) ที่ได้รับการพัฒนาในความเป็นหุ้นส่วนกับบริษัท Elbit Systems อิสราเอล
รุ่นขยายขีดความสามารถของเฮลิคอปเตอร์ตระกูล Little Bird ที่มีอยู่ซึ่งได้รับการเปิดเผยโดยบริษัทเมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2019 มีคุณสมบัติระบบอาวุธขั้นก้าวหน้าและขีดความสามารถการจัดการภารกิจ
"ระบบอาวุธบูรณาการ(IWS: Integrated Weapons System) นักบินเป็นศูนย์กลางที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว ประกอบด้วยหมวกนักบินติดจอแสดงผลและระบบติดตาม(HDTS: Helmet Display and Tracking System),
ระบบบริหารจัดการอาวุธ(WMS: Weapons Management System) และระบบบริหารจัดการภารกิจ(MMS: Mission Management System)" MDHI สหรัฐฯกล่าวในแถลงการณ์
ตามที่เน้นย้ำโดย MDHI สหรัฐฯ ระบบเหล่านี้จะมาพร้อมกันในส่วนติดต่อผู้ใช้-อุปกรณ์(HMI: Human-Machine Interface) ที่ได้รับการปรับปรุงที่รวมถึงจอแสดงผลเอนกประสงค์(MFD: Multifunctional Display) แบบ touch-screen ที่เรียกว่า "ห้องนักบินพหุภารกิจ"(multimission cockpit)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งระบบ IWS นั้นได้เป็นแนวทางที่ได้รับการพิสูจน์แล้วที่ปัจจุบันถูกในในเฮลิคอปเตอร์ตะวันตกแบบอื่นๆแล้ว "จะมอบความยืดหยุ่นในการปฏิบัติการอย่างยิ่งใหญ่และเพิ่มพูนสมรรถนะการปฏิบัติการ" MDHI กล่าว
หมวกนักบิน HDTS ทำให้สามารถปฏิบัติการได้ทั้งกลางวันและกลางคืน ขณะที่ระบบ WMS ทำให้สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Lockheed Martin AGM-114 Hellfire และ/หรือจรวดนำวิถีอากาศสู่พื้น BAE Systems Advanced Precision-Kill Weapon System(APKWS)
ที่น่าสนใจคือเมื่อเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ MD 530G Block I เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2014 Jane's ได้รับการบอกโดย MDHI ว่า ฮ.ลาดตระเวนติดอาวุธMD 530 ไม่สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น Hellfire ได้เนื่องจากข้อจำกัดด้านน้ำหนัก
แต่คุณสมบัติการใช้อาวุธนำวิถีดังกล่าวควรจะได้รับการติดตั้ง(ตั้งแต่การยกเลิก)เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ/โจมตีเบา MD 540A แล้ว จึงดูเหมือนว่าบริษัท MDHI ได้ระบุข้อจำกัดเฉพาะนี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม ฮ.ตระกูล Little Bird ที่มีสายการผลิตของบริษัทอื่นคือเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ Boeing AH-6i เช่นที่อนุมัติการขายให้กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army) มีขีดความสามารถในการใช้ Hellfire และ APKWS(https://aagth1.blogspot.com/2019/09/ah-6i.html)
ระบบ MMS มีคุณสมบัติขีดความสามารถแผนที่ digital ที่สามารถบริหารจัดการผ่านจอแสดงผล touchscreen MFD เช่นเดียวกับการบูรณาการโโยตรงผ่านระบบตรวจจับกล้อง EO/IR(Electro-Optical/Infrared) "เพื่อเปิดการใช้, ตรวจจับ และเก็บข่าวกรอง
ที่ทำให้มั่นใจว่าเมื่อเป้าหมายได้รับการจับเป้าไว้ นักบินสามารถเลือกโจมตีเป้าหมายด้วยอาวุธนำวิถีจากระยะไกลหรืออาวุธไม่นำวิถีโดยใช้การคำนวนขีปนวิถีแบบ CCIP(Continuously Calculated Impact Point) ที่แสดงผลบนหมวก HDTS" MDHI ย้ำครับ
