วันศุกร์ที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566

Defense & Security 2023: DTI ไทยและ ST Engineering สิงคโปร์ร่วมมือพัฒนารถยนต์บรรทุกเบา 4x4 ใหม่

Defense & Security 2023: DTI, ST Engineering partner on light vehicle





Thailand's DTI and ST Engineering unveiled a 4x4 light utility vehicle fitted with the Singapore company's GDAMS and Adder Light RWS at the Defense & Security 2023 show in Bangkok. (My Own Photos/Sompong Nondhasa/Ministry of Defence of Thailand)

รถบรรทุกเบาอเนกประสงค์ ทำในไทย...เป็นรถบรรทุกเบาติดตั้งป้อมอัตโนมัติ ADDER ของ ST Engineering สิงคโปร์ พร้อมปืนขนาด 7.62 มม. และที่ท้ายรถติดตั้งเครื่องยิงลูกระเบิดขนาด 120 มม. ที่สามารถโหลดลงมาตั้งบนพื้นพร้อมฐาน เพื่อทำการยิงได้เอง 
โดยรถใช้เครื่องยนต์ดีเซลขนาด 210 แรงม้า มีความเร็ว 120 กม./ชม. ซึ่งป้อม ADDER นี้ สามารถเปลี่ยนไปติดตั้งอาวุธปืนขนาด 5.56 มม. 12.7 มม. หรือ 30 มม. รวมถึงอาวุธนำวิถีต่อสู้รถถัง...เหมาะเป็นรถโจมตีเคลื่อนที่เร็วทางภาคพิ้นดินเป็นอย่างยิ่ง 
...นอกจากนี้ตัวรถยังสามารถดัดแปลงเป็นรถลาดตระเวนตรวจการณ์ รถรถหุ้มเกราะ รถบรรทุกทหาร รถขนส่งทางยุทธวิธี และรถพยาบาลสนามได้อีกด้วย ...Photo Sompong Nondhasa

สถาบันเทคโนโลยีป้องกันประเทศ สปท. DTI(Defence Technology Institute) ไทย และบริษัท ST Engineering สิงคโปร์ได้ร่วมจัดตั้งทีมขึ้นเพื่อที่จะบูรณาการรถยนต์บรรทุกเบาแบบ๕๑ รยบ.๕๑ 4x4(Type 51 light utility vehicle 4x4) ของไทย
เข้ากับระบบเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจร GDAMS(Ground Deployed Advanced Mortar System) ขนาด 120mm และป้อมปืน remote(RWS: Remote Weapon Station) แบบ Adder Light ของ ST Engineering สิงคโปร์

เจ้าหน้าที่จากบริษัท ST Engineering กล่าวกับ Janes ณ งานนิทรรศการอุปกรณ์ป้องกันประเทศ Defense & Security 2023 ที่อาคาร Challenger Hall 9-12 ศูนย์จัดแสดงสินค้า Impact เมืองทองธานี กรุงเทพฯ ประเทศไทย ระหว่างวันที่ ๖-๙ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ที่ผ่านมาว่า
รถยนต์บรรทุกเบา 4x4 เป็นรุ่นใหม่ล่าสุดที่ได้รับการพัฒนา โดยการทดสอบมีกำหนดจะดำเนินการในต้นปี พ.ศ.๒๕๖๗(2024) ป้อมปืน Adder Light RWS ที่ติดตั้งบนรถที่งานแสดงติดตั้งด้วยปืนกลขนาด 7.62mm

เจ้าหน้าที่ ST Engineering กล่าวว่ารถแคร่ฐานเครื่องยนต์ของรถยนต์บรรทุกเบา 4x4 ถูกใช้ในรูปแบบที่เป็นระบบที่ทำงานร่วมกันกับส่วนอื่นๆโดยไม่ต้องการการปรับแต่งใดๆ(agnostic)
เขาเสริมว่าขณะที่ระบบอาวุธบนรถถูกสร้างในสิงคโปร์ การผลิตในไทยมีความเป็นไปได้ขึ้นอยู่กับขนาดของความต้องการต่างๆ DTI ไทย และ ST Engineering สิงคโปร์วางแผนที่จะเสนอการออกแบบนี้แก่กองทัพไทย(RTARF: Royal Thai Armed Forces)

ST Engineering สิงคโปร์เปิดตัวเครื่องยิงลูกระเบิด GDAMS 120mm ในงานแสดง DSEI 2023 ในกรุง London สหราชอาณาจักรในเดือนกันยายน 2023 ที่ผ่านมา Janes รายงาน ณ เวลานั้นว่า
ระบบเครื่องยิงลูกระเบิด GDAMS กำลังอยู่ในการพัฒนาและมีกำหนดสำหรับการับรองคุณสมบัติในไตรมาสแรกของปี 2024 สายการผลิตของระบบ ค.GDAMS มีกำหนดจะมีขึ้นภายในสิ้นปี 2024 ขึ้นอยู่กับคำสั่งจัดหา

ระบบเครื่องยิงลูกระเบิด GDAMS 120mm ซึ่งมีน้ำหนัก 700kg มีวัตถุประสงค์สำหรับใช้งานกับลูกระเบิดยิงจากเครื่องยิงลูกระเบิดความแม่นยำสูงหลากหลายแบบของ ST Engineering สิงคโปร์ 
ตามข้อมูลจากบริษัท ค.GDAMS สามารถวางกำลังเตรียมยิงได้ภายในเวลา ๒๕วินาที เครื่องยิงลูกระเบิดมีมุมส่ายที่ +/-90degrees และมีมุมก้มเงยที่ 45-80degrees มีระยะยิงถึง 9km

อุปกรณ์ลดแสงปากกระบอก(blast diffuser) ถูกออกแบบเพื่อลดการรบกวนการยิงสำหรับพลประจำเครื่องยิงลูกระเบิด และต้องการกำลังพลเพียง ๒นายสำหรับยิงที่อัตราการยิงที่ ๑๖นัดต่อนาทีเป็นเวลา ๓นาที
ระบบเครื่องยิงลูกระเบิด GDAMS 120mm สามารถเก็บเพื่อเตรียมเดินได้ในเวลา ๒๕วินาที และยังถูกออกแบบให้กระจายพลังงานขณะทำการยิงโดยตรงจากฐานตั้งยิงไปยังพื้นแทนที่จะเป็นตัวรถ

ความเห็นวิเคราะห์
เจ้าหน้าที่ ST Engineering กล่าวกับผู้เขียนว่าระบบเครื่องยิงลูกระเบิดอัตตาจร GDAMS 120mm ถูกพัฒนาขึ้นโดยมุ่งเน้นการส่งออกต่างประเทศเป็นหลัก โดยลูกค้าที่มองนอกจากไทยยังรวมถึงในตะวันออกกลางเช่นซาอุดีอาระเบียและสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และในยุโรปอย่างสหราชอาณาจักร
ค.GDAMS เป็นระบบที่สามารถติดตั้งกับรถยนต์บรรทุกขนาด Toyota Land Cruiser ได้หลายแบบ ซึ่งรถยนต์บรรทุก รยบ.๕๑ 4x4 ที่ DTI ไทยนำมาใช้ติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซล 210hp ทำความเร็วได้ที่ 120km/h ออกแบบและผลิตโดยบริษัท S.S.S. Automotive Industry Co.,Ltd ไทยครับ