Army Research and Development Office (ARDO), Royal Thai Army (RTA) conducte
live fire of new domestic modernized Bofors 40mm L/70 OES[Opto-Electronic
System] on stationary ground targets at 1,000 metre and moving aerial targets
at RTA Artillery Center's firing range Khao Phulon, Lopburi Province,
Thailand, on 20 April 2024.
Bofors 40mm L/70 OES[Opto-Electronic System] by Thailand's company Armisys
Supply Co.,Ltd and Kasetsart University with ARDO for Army Air Defense
Command, RTA. (Royal Thai Army)
10 เม.ย. 67 : พ.อ.มนต์ชัย ดวงปัญญา รอง ผอ.สวพ.ทบ.
พร้อมคณะทำงานทดสอบและประเมินผลฯ
เดินทางเพื่อเข้าร่วมการทดสอบและประเมินผลโครงการ พัฒนาระบบควบคุมการยิง
เพื่อดำรงสภาพยุทโธปกรณ์ ปตอ. ขนาด 40 มม. แอล 70
ณ ปตอ.1 พัน.5 ถ.แจ้งวัฒนะ แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่
กรุงเทพมหานคร
วัตถุประสงค์
เพื่อทดสอบต้นแบบงานวิจัยประกอบเป็นข้อมูลในการพิจารณารับรองผลงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารของกองทัพบก
ซึ่งจะมีการทดสอบและประเมินผลฯ ภาคสนาม : การทดสอบการยิงด้วยกระสุนจริง
ในวันที่ 22 เม.ย. 67 ณ สนามยิงปืนใหญ่เขาพุโลน ศป. จว.ล.บ.
22 เม.ย. 67 : พล.ต. ระวี ตั้งพิทักษ์กุล ผอ.สวพ.ทบ.
เป็นประธานในการทดสอบและประเมินผลโครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อดำรงสภาพและเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์
: การพัฒนาระบบควบคุมการยิง ปตอ. ขนาด 40 มม. แอล 70 ณ สนามยิงปืนใหญ่เขาพุโลน
ศป. จว.ล.บ.
การยิงทดสอบด้วยกระสุนจริงครั้งนี้
มีวัตถุประสงค์ในการทดสอบต้นแบบงานวิจัย
เพื่อเป็นข้อมูลประกอบในการพิจารณารับรองผลงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารของกองทัพบก
ซึ่งประกอบด้วยเกณฑ์การพิจารณา จำนวน 4 ประการ ได้แก่
1. การเชื่อมต่อระบบควบคุมการยิงนอกตัวปืน กับ ปตอ.40 มม. แอล 70
2. การทดสอบการสั่งลั่นไกยิงกระสุนจริง ในขั้นตอนการยิงอัดฐาน
3. การทดสอบความแม่นยำ การยิงเป้าหมายอยู่กับที่ระยะ 1,000 เมตร
4. การทดสอบความแม่นยำ การยิงแบบติดพันเป้าหมายอากาศเคลื่อนที่
โครงการวิจัยและพัฒนาเพื่อดำรงสภาพและเพิ่มประสิทธิภาพยุทโธปกรณ์
ระบบควบคุมการยิง(FCS: Fire Control System) สำหรับปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน Bofors
40mm L/70 ของสำนักงานวิจัยและพัฒนาการทางทหารกองทัพบก สวพ.ทบ.(ARDO: Army
Research and Development Office) กองทัพบกไทย(RTA: Royal Thai Army)
ได้มีความคืบหน้าล่าสุด หลังเตรียมความพร้อม ณ
กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๕ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๑(5th
Anti-Aircraft Artillery Battalion, 1st Anti-Aircraft Artillery Regiment)
หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ นปอ.(Army Air Defense Command) ในกรุงเทพฯ
เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๗(2024)
การทดสอบยิงด้วยกระสุนจริง ๒๐๐นัดของปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ Bofors 40mm L/70
OES สองหน่วยยิงที่เชื่อมกับระบบควบคุมการยิงใหม่ที่พัฒนาในไทย
ต่อเป้าหมายอยู่กับที่ระยะ 1,000m และเป้าอากาศเคลื่อนที่ก็ได้มีขึ้น ณ
สนามยิงปืนใหญ่เขาพุโลน ศูนย์การทหารปืนใหญ่ ศป.(Artillery Center) จังหวัดลพบุรี
เมื่อวันที่ ๒๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๗
ปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ Bofors 40mm L/70 OES[Opto-Electronic System] เป็นการปรับปรุงความทันสมัยโดยชุดอุปกรณ์ซ่อมปรับปรุงเพิ่มประสิทธิภาพปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน
ขนาด 40mm แบบ L/70 ของบริษัท อาร์มี่ซิส ซัพพลาย จำกัด (ARMISYS SUPPLY COMPANY
LIMITED) ไทย โดยความร่วมมือกับ สวพ.ทบ.ร่วมกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
ตามที่ กรมสรรพาวุธทหารบก กองทัพบกไทย(Royal Thai Army Ordnance Department)
ได้ประกาศโครงการจ้างซ่อมปรับปรุงปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน Bofors ขนาด 40mm L/70
กำหนดราคากลางอ้างอิงวันที่ ๒๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๓(2020) วงเงินงบประมาณ
๔๔๖,๕๐๐,๐๐๐บาท($13,996,873.07) ราคาต่อหน่วย ๒๓,๕๐๐,๐๐๐บาท($736,677.53)(https://aagth1.blogspot.com/2020/05/bofors-40mm-l70.html)
และมีการส่งมอบเพื่อใช้ในการฝึกภายในหน่วย(Unit School)
ของกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๒ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๒(2nd
Anti-Aircraft Artillery Battalion, 2nd Anti-Aircraft Artillery Regiment)
ระหว่างวันที่ ๑๘-๒๐ ตุลาคม พ.ศ.๒๕๖๕(2022)(https://aagth1.blogspot.com/2022/10/bofors-40mm-l70-oes.html)
โครงการวิจัยและพัฒนานี้เป็นการพัฒนาระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวปืนสำหรับการควบคุมการยิงการทำงานของกลุ่ม
ปตอ.Bofors 40mm L/70 จำนวน
๔กระบอก(หน่วยยิง)โดยระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวปืนนี้จะตรวจจับและติดตามเป้าหมายทางอากาศที่ได้รับมาจากกล้อง
Opto-Electronic
หลังจากนั้นจะส่งข้อมูลไปยัง ปตอ.Bofors 40mm L/70 ทั้ง
๔กระบอกที่ตั้งอยู่ในตำแหน่งต่างๆตามยุทธวิธีเพื่อให้ปืนเคลื่อนที่ติดตามเป้าหมายทางอากาศนั้นสัมพันธ์กัน
และเมื่อได้รับคำสั่งให้ป้องกันและทำลายเป้าหมาย
ระบบควบคุมการยิงแบบนอกตัวนี้จะส่งคำสั่งชดเชยแนววิถีกระสุนและคำสั่งยิงให้กับปืนแต่ละกระบอกในทันที
ซึ่งเป็นไปตามยุทธวิธีของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ นปอ. กองทัพบกไทย
สำหรับการเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันภัยทางอากาศด้วยกลุ่มปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานแบบ
Bofors 40mm L/70 OES(https://aagth1.blogspot.com/2023/06/rtaf-steel-challenge-2023.html)
ระบบควบคุมการยิง OES สามารถนำมาใช้ร่วมกับ ปตอ.Bofors 40mm L/70
ทั้งในรุ่นระบบสัญญาณแบบ Analog Synchro(แบบเดิม) และระบบสัญญาณ Digital
รุ่นที่ได้รับการปรับปรุง
ซึ่งเป็นไปตามการจัดอัตรายุทโธปกรณ์ตามหลักการกองพันผสมของหน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ
นปอ.
ที่ต้องมีระบบควบคุมการยิงนอกตัวปืนหลายระบบประจำในกองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน
ทำให้ นปอ.ขยายขีดความสามารถเพิ่มขึ้นในการป้องกันภัยทางอากาศ
โดยใช้งบประมาณที่คุ้มค่ากับการลงทุนเนื่องจากเป็นผลงานวิจัยที่พัฒนาด้วยตนเองในประเทศไทย
กองทัพบกไทยได้จัดหา ปตอ.Bofors 40mm L/70 ซึ่งใช้งานร่วมกับ radar
ควบคุมการยิงแบบ Flycatcher เนเธอร์แลนด์ตั้งแต่ช่วงปี 1980s
การปรับปรุงความทันสมัยล่าสุดนี้จะทำให้สามารถรับมือกับภัยคุกคามทางสมัยใหม่รวมถึงอากาศยานไร้คนขับ(UAV:
Unmanned Aerial Vehicle) ตั้งแต่ระบบที่ดัดแปลงจาก drone ใช้งานทางพลเรือน จนถึง
UAV ที่ออกแบบสำหรับใช้ทางทหารโดยตรงได้ครับ