วันอาทิตย์ที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2567

ญี่ปุ่นทำพิธีปล่อยเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่ห้าลงน้ำ SS-517 Chogei

Japan Launches Fifth Taigei-Class Submarine for JMSDF 







5th Taigei-Class Submarine "Chogei" (Credit: Kosuke Takahashi)



อู่เรือบริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK)ชั้น Taigei ลำที่ห้า เรือดำน้ำ SS-517 JS Chogei(ちょうげい) สำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) 
เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่ห้า เรือดำน้ำ SS-517 Chogei ระวางขับน้ำ 3,000tonne ได้ถูกปล่อยลงสู่น้ำเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2024 ในพิธีที่จัดขึ้นโดยอู่เรือบริษัท MHI ญี่ปุ่นในนคร Kobe และจะใช้เครื่องยนต์ดีเซล Kawasaki 12V 25/31 รุ่นใหม่ที่ให้กำลังขับสูงตามเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สี่ เรือดำน้ำ SS-516 JS Raigei(https://aagth1.blogspot.com/2023/10/taigei-ss-516-raigei.html)

เรือดำน้ำ SS-517 JS Chogei ซึ่งมีราคาในการสร้างเรือที่ 64.8 billion yen($443 million) คาดว่าจะเข้าประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้ในเดือนมีนาคม 2026 "Chogei"(ちょうげい, 長鯨)ในภาษาญี่ปุ่นแปลว่า "วาฬยาว"(long whale) เป็นเรือลำที่สามของญี่ปุ่นที่ได้รับตั้งชื่อนี้
ต่อจากลำแรกเเรือลำเลียง Chogei Maru ของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นในสมัยสงคราม Boshin ยุคการปฏิรูป Meiji(ถูกตั้งชื่อหลังจากจัดซื้อเรือที่สร้างโดยสหราชอาณาจักร) และลำที่สองเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำ Chogei(submarine tender) เป็นเรือพี่เลี้ยงเรือดำน้ำชั้น Jingei ลำที่สองของกองทัพเรือจักรวรรดิญี่ปุ่นช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง

เรือดำน้ำชั้น Taigei ทั้งหมดได้นำคำว่า "Gei"(鯨, วาฬ, whale) ในภาษาญี่ปุ่นมาตั้งเป็นชื่อเรือ โดยตัวคำว่า "Taigei"(たいげい, 大鯨) มีความหมายว่า 'วาฬใหญ่'(big whale) เช่นเดียวกับเรือดำน้ำชั้น Oyashio ที่ใช้คำว่า "Shio"(潮, กระแสน้ำ, tide) และเรือดำน้ำชั้น Soryu ที่ใช้คำว่า "Ryu"(龍, มังกร, dragon) มาใช้ประกอบในตั้งเป็นชื่อเรือดำน้ำที่เข้าประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นก่อนหน้า
ตามข้อมูลจากกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เรือดำน้ำ SS-517 Chogei ใหม่มีกำลังพลประจำเรือประมาณ 70นาย มีความยาวเรือรวมที่ 84m, ความกว้าง 9.1m กินน้ำลึก 10.4m และมีระวางขับน้ำปกติที่ราว 3,000tonnes มีขนาดใหญ่กว่าเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า(SSK)ชั้น Soryu รุ่นก่อนหน้าซึ่งมีระวางขับน้ำปกติที่ 2,950tonnes เล็กน้อย(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/soryu-12-ss-512-toryu.html)

เรือดำน้ำชั้น Taigei มีคุณสมบัติพื้นที่ห้องภายในเรือสำหรับทหารที่เป็นสุภาพสตรี เช่น พื้นที่พักอาศัยที่รองรับทหารเรือหญิง 6คน ตามข้อมูลจากกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น เป็นเรือดำน้ำชั้นแรกของญี่ปุ่นที่มีคุณลักษณะเช่นนี้ 
จนถึงเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สาม เรือดำน้ำ SS-515 JS Jingei(https://aagth1.blogspot.com/2024/03/taigei-ss-515-jingei.html) เครื่องยนต์ดีเซล  Kawasaki 12V 25/25SB สองเครื่องได้ถูกใช้เป็นเครื่องยนต์หลักของเรือดำน้ำชั้น Taigei แต่เรือดำน้ำ SS-516 Raigei ได้เริ่มต้นที่จะใช้เครื่องยนต์ดีเซล Kawasaki 12V 25/31 ใหม่ที่มีกำลังขับสูงเป็นครั้งแรก 

เครื่องยนต์ดีเซลใหม่เหล่านี้มีความเข้ากันได้กับระบบท่อรับอากาศเข้า snorkel แบบใหม่ด้วยการเพิ่มขยายการกำเนิดพลังงานไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพ ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าระบบเครื่องยนต์ใหม่นี้จะเพิ่มกำลังขับเพลาใบจักร mortor ไฟฟ้าของเรือหรือไม่
โดยเครื่องยนต์ดีเซลกำเนิดพลังงานไฟฟ้า Kawasaki 12V 25/25SB ที่ใช้ในเรือดำน้ำชั้น Taigei ปัจจุบันสามารถสร้างพลังงานให้ mortor ไฟฟ้าขับเพลาใบจักรได้ที่ 6,000hp เช่นเดียวกับทำความเร็วขณะดำใต้น้ำได้สูงสุดที่ 20knots

กองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นกล่าวว่าเรือดำน้ำชั้น Taigei ติดตั้งด้วยแหล่งกักเก็บพลังงาน battery แบบ Lithium-ion แทนที่ battey แบบตะกั่ว-กรด lead-acid เดิมเช่นเดียวกับเรือดำน้ำชั้น Soryu สองลำสุดท้ายเรือดำน้ำ SS-511 JS Oryu และเรือดำน้ำ SS-512 JS Toryu บริษัท GS Yuasa ญี่ปุ่นใน Kyoto ผู้พัฒนาและผลิตระบบ battery ได้ส่งมอบ lithium-ion battery แก่เรือดำน้ำใหม่เหล่านี้ 
จนถึงตอนนี้ญี่ปุ่นเป็นประเทศเดียวที่เป็นที่ทราบว่าได้ติดตั้ง lithium-ion battery ในเรือดำน้ำโจมตีดีเซล-ไฟฟ้า SSK ของตน สาธารณรัฐเกาหลีถูกคาดว่าจะเป็นประเทศต่อไปที่จะใช้ lithium-ion battery ดังกล่าวกับเรือดำน้ำชั้น Dosan Ahn Chang-ho(KSS-III Batch II) ทุกลำของตนซึ่งมีกำหนดจะเข้าประจำการในปี 2026(https://aagth1.blogspot.com/2023/12/hd-hhi.html)

เรือดำน้ำชั้น Taigei ยังติดตั้งด้วยระบบอำนวยการรบ(CMS: Combat Management System) แบบใหม่ที่ผสมผสานระบบตรวจจับบูรณาการขั้นก้าวหน้า, ระบบควบคุมและบัญชาการ และระบบการโจมตีด้วยอาวุธ กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นกล่าว นอกจากนี้ยังนำระบบท่อ snorkel แบบเพิ่มขยายเพื่อลดการแพร่สัญญาณ และระบบ sonar รุ่นใหม่ที่มีพื้นฐานจากวิทยาการ fiber-optic array เพื่อเพิ่มขยายขีดความสามารถการตรวจจับ 
เรือดำน้ำชั้น Taigei ติดตั้งระบบมาตรการต่อต้าน torpedo แบบเดียวกับที่ใช้งานในเรือดำน้ำชั้น soryu สี่ลำสุดท้าย เป็นที่คาดว่าเรือดำน้ำชั้น Taigei จะใช้ torpedo หนักแบบ Type 18 รุ่นใหม่ล่าสุดของญี่ปุ่นที่มาแทนที่ torpedo หนัก Type 89 torpedo แบบ Type 18 ใหม่จะมีคุณสมบัติที่เพิ่มขึ้นหลายด้านรวมถึงระบบขับเคลื่อน การจับเป้าหมาย และการประมวลผล 

กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นในกรุง Tokyo กำลังตั้งเป้าที่จะติดตั้งเรือดำน้ำใหม่ที่ถูกนำเข้าประจำการต่อจากเรือดำน้ำชั้น Taigei ด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีร่อนพิสัยไกลนอกระยะยิงฝ่ายตรงข้าม ซึ่งสามารถโจมตีเรือข้าศึกนอกระยะอาวุธปล่อยนำวิถีของพวกมัน(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/kawasaki.html)
แบบของอาวุธปล่อยนำวิถีที่กำลังได้รับการพิจารณาเพื่อติดตั้งเป็นรุ่นปรับปรุงของอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้นต่อต้านเรือผิวน้ำ Type 12(https://aagth1.blogspot.com/2024/01/tomahawk.html) ที่มีพื้นฐานจากรุ่นของกองกำลังป้องกันตนเองทางบกญี่ปุ่น(JGSDF: Japan Ground Self-Defense Force) โดยมีระยะยิงเพิ่มขยายสูงสุดที่ราว 1,500km

จนถึงตอนนี้ เรือดำน้ำชั้นต่างๆของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้รับการติดตั้งด้วยอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Boeing UGM-84L Harpoon Block II แต่อาวุธปล่อยนำวิถีที่ยิงจากเรือดำน้ำแบบใหม่จะสามารถโจมตีฐานข้าศึกบนบกจากระยะไกลได้ด้วย กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้เริ่มต้นการพัฒนาอาวุธปล่อยนำวิถีที่ยิงจากเรือดำน้ำแบบใหม่นี้ในปีงบประมาณ 2023 โดยมีบริษัท MHI เป็นผู้รับสัญญา 
ในการร้องของบประมาณปี 2025 กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นได้รับการจัดสรรงบประมาณวงเงิน 3 billion yen($20.5 million) สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายการจัดหาและจะเริ่มต้นการผลิตจำนวนมากในปีงบประมาณ 2025 เช่นเดียวกัน กำหนดการพัฒนาจะเสร็จสิ้นในปีงบประมาณ 2027

โดยเรือดำน้ำชั้นใหม่ต่อไป กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นยังตั้งเป้าที่จะนำแท่นยิงแนวดิ่ง(VLS: Vertical Launch System) มาใช้เพิ่มเติมต่อวิธีการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีจากท่อยิง torpedo ตามแบบ งบประมาณปี 2025 รวมวงเงิน 30 billion yen สำหรับการวิจัยท่อยิง VLS นี้ การวิจัยและการสร้างต้นแบบจะได้รับการดำนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ 2025-2029 
ตั้งแต่ค่าใช้จ่ายการสร้างเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่เก้าได้ถูกร้องขอแล้วในงบประมาณของปีหน้า เป็นที่คาดว่าเรือดำน้ำใหม่ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นที่จะติดตั้งด้วยระบบสิ่งอุปกรณ์ใหม่ต่างๆเหล่านี้จะยังไม่ปรากฏขึ้นจริงจนกว่าจะถึงปี 2031 หรือหลังจากนั้น หลังจากที่มีการสร้างเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สิบ

เรือดำน้ำชั้น Taigei ยังติดตั้งระบบมาตรการต่อต้าน torpedo(TCM: Torpedo Counter Measures) ซึ่งได้ถูกนำมาใช้ตั้งแต่เรือดำน้ำชั้น Soryu ลำที่แปด เรือดำน้ำ SS-508 JS Sekiryu ระบบ TCM นี้เป็นระบบที่ตรวจจับการยิง torpedo จากเรือดำน้ำข้าศึกได้ จะยิงทุ่น buoy หรือเป้าลวง decoy 
เพื่อจำลองเสียงของใบจักรเรือ เป็นการเลี่ยง torpedo จากการพุ่งเข้าหาเรือ เรือดำน้ำชั้น Taigei ยังเป็นเรือดำน้ำแบบแรกที่ติดตั้งกล้องตาเรือ(periscope) แบบไม่เจาะผ่านตัวเรือที่สร้างในประเทศโดยบริษัท Mitsubishi Electric ญี่ปุ่น

เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำแรกเรือดำน้ำ SS-513 Taigei เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2022(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/taigei-ss-513-taigei.html) เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สอง เรือดำน้ำ SS-514 JS Hakugei เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2023(https://aagth1.blogspot.com/2023/03/taigei-ss-514-hakugei.html
เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สาม เรือดำน้ำ SS-515 JS Jingei เข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2024 เรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่สี่ เรือดำน้ำ SS-516 JS Raigei ถูกปล่อยลงน้ำในเดือนตุลาคม 2023 ปัจจุบันกำลังอยู่ในการดำเนินงานติดตั้งสิ่งอุปกรณ์และการทดสอบที่หลากหลายในการเตรียมการสำหรับการเข้าประจำการในเดือนมีนาคม 2025

เรือดำน้ำของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นได้ถูกแบ่งการสร้างโดยอู่เรือ MHI ใน Kobe และอู่เรือบริษัท Kawasaki Heavy Industries(KHI) ญี่ปุ่นใน Kobe สลับกันในแต่ละปี ปัจจุบันเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่หกกำลังถูกสร้างโดยอู่เรือ KHI และเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่เจ็ดกำลังถูกสร้างโดยอู่เรือ MHI 
ค่าใช้จ่ายการสร้างเรือดำน้ำ JS Taigei เรือลำแรกของชั้นอยู่ที่ราว 80 billion yen ขณะที่การร้องของบประมาณสำหรับปีงบประมาณ 2025 ที่ได้รับการประกาศในสิ้นเดือนสิงหาคม 2024 นี้ได้รวมวงเงิน 116.1 billion yen สำหรับการสร้างเรือดำน้ำชั้น Taigei ลำที่เก้า เพิ่มขึ้นเป็น 1.45เท่าจากค่าใช้จ่ายเดิม นี่เป็นผลโดยตรงจากการเพิ่มขึ้นของราคาวัสดุและสิ่งอุปกรณ์อื่นๆ และการอ่อนค่าของเงิน Yen ในแต่ละปี

จนถึงเรือดำน้ำชั้น Harushio ตัวเรือของเรือดำน้ำของกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นเป็นรูปทรงหยดน้ำตา(teardrop) แต่ได้เปลี่ยนไปเป็นทรง cigar ตั้งแต่เรือดำน้ำชั้น Oyashio เป็นต้นมา เรือดำน้ำชั้น Taigei เป็นเรือดำน้ำตัวเรือรูปทรง cigar ยุคที่สาม 
นอกเหนือจากหางเสือท้ายของเรือดำน้ำชั้น Oyashio และเรือดำน้ำก่อนหน้าที่เป็นทรงเครื่องหมายบวก แต่ตั้งแต่เรือดำน้ำชั้น Soryu เป็นต้นมาได้เปลี่ยนไปใช้หางเสือทรงเครื่องหมาย X หางเสือแบบตัว X มีข้อได้เปรียบในความคล่องแคล่วการเคลื่อนที่ใต้น้ำที่ยอดเยี่ยม และเกิดความเสียหายขึ้นต่อหางเสือได้น้อยกว่าเมื่อเรือชนพื้นทะเลครับ