วันศุกร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2564

KAI เกาหลีใต้กำลังพัฒนาทีมอากาศยานไร้คนขับ MUM-T กับเฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธของตน

ADEX 2021: KAI working on MUM-T capability for its armed helicopters



At ADEX 2021, KAI displayed a Surion MAH model fitted with, among other things, an enlarged stub wing-type structure mounting four canisters, each of which is designed to launch either a small UAV or a loitering munition. 
The display is meant to highlight the company's ongoing work on an MUM-T capability. (Dae Young Kim)

ADEX 2021: KAI pitches unmanned Light Armed Helicopter



A screenshot from a KAI video showing the LAH MUMT concept, released at the ADEX 2021 event in Seoul. (KAI)





บริษัท Korea Aerospace Industries(KAI) สาธารณรัฐเกาหลีได้ยืนยันว่าตนกำลังทำงานเพื่อมอบขีดความสามารถการทำงานเป็นทีมร่วมกับอากาศยานไร้คนขับ(MUM-T: Manned-Unmanned Teaming) แก่เฮลิคอปเตอร์ติดอาวุธใหม่ล่าสุดของตน
ณ งานแสดงการบินและกลาโหมนานาชาติ ADEX 2021(Seoul International Aerospace & Defense Exhibition 2021) ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 19-24 ตุลาคม 2021

บริษัท KAI ได้จัดแสดงแบบจำลองขนาดเท่าของจริงของเฮลิคอปเตอร์โจมตีนาวิกโยธิน Surion Marine Attack Helicopter(MAH) ที่แบบจำลองย่อขนาดถูกจัดแสดงครั้งแรกในงาน ADEX 2019(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/kai-marineon.html)
ที่ติดตั้งโครงสร้างปีกคานอาวุธขยายขนาดข้างลำตัวติดชุดบรรจุสี่นัด ซึ่งแต่ละนัดถูกออกแบบเพื่อทำการยิงได้ทั้งอากาศยานไร้คนขับขนาดเล็ก(UAV: Unmanned Aerial Vehicle) หรืออาวุธบินโจมตีทำลายตนเอง(loitering munition)

เฮลิคอปเตอร์โจมตีนาวิกโยธิน KAI Surion MAH จะถูกพัฒนาเพื่อให้ตรงความต้องการนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี(RoKMC: Republic of Korea Marine Corps) สำหรับอากาศยานปีกหมุนลักษณะดังกล่าว 20-24เครื่อง
คณะกรรมาธิการส่งเสริมโครงการกลาโหม(Defense Project Promotion Committee) สาธารณรัฐเกาหลีได้ตัดสินใจในเดือนเมษายน 2021 ที่จะพัฒนาและจัดหาโครงการซึ่งได้รับงบประมาณชั่วคราวที่ 1.6 trillion Korean Won($1.44 billion) คาดว่าจะเริ่มต้นในปี 2022 และจะเสร็จสิ้นในปี 2031

เฮลิคอปเตอร์โจมตีนาวิกโยธิน Surion MAH มุ่งเป้าที่การเพิ่มขยายขีดความสามารถการโจมตีสะเทินน้ำเทินบกของของนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี โดยเฉพาะในหมู่เกาะทางตะวันตกเฉียงเหนือใกล้พรมแดนสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี
โดยมอบการสนับสนุนการยิงทางอากาศ เหนือสิ่งอื่นใดเฮลิคอปเตอร์จะต้องมีความเข้ากันได้สำหรับการปฏิบัติการร่วมไปกับเฮลิคอปเตอร์ใช้งานทั่วไปนาวิกโยธิน KAI MUH-1 Marineon ซึ่งมีประจำการในนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี

นอกจากนี้ KAI สาธารณรัฐเกาหลีได้เปิดเผยแนวคิดของตนสำหรับรุ่นไร้คนขับของเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ Light Armed Helicopter(LAH) ที่ถูกพัฒนาขึ้นสำหรับกองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี(RoKA: Republic of Korea Army)
บริษัท KAI ได้ให้คุณสมบัติรุ่นไร้คนขับของเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH ในฐานะส่วนหนึ่งของหลายผลงงานแห่งอนาคตของระบบอากาศยานไร้คนขับ(UAS: Unmanned Aircraft System) ที่ถูกแสดงในวีดิทัศน์ที่เผยแพร่ช่วงเวลาสอดคล้องกับงานแสดง ADEX 2021

รู้จักในชื่อ LAH Manned-Unmanned Teaming(โดยปกติถูกย่อเป็น MUM-T แต่ KAI ได้ให้ชื่อย่อเป็น MUMT เพื่อวัตถุประสงค์ของโครงการนี้) แนวคิดได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ LAH MUMT รุ่นไร้คนขับทำการบินหมู่ผสมกับเฮลิคอปเตอร์ LAH รุ่นมีนักบินบังคับ
เป็นการมอบขีดความสามารถด้านจำนวนและการเสริมเติม ขณะที่ลดความเสี่ยงต่อนักบินเมื่อปฏฺิบัติการในสนามรบทางอากาศที่มีการแข่งขันรุนแรง(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/kai-lah-mum-t.html)

เฮลิคอปเตอร์ไร้คนขับ LAH MUMT จะถูกเสนอให้กองทัพบกสาธารณรัฐเกาหลี โดยความพร้อมใช้งานและจำนวนที่มากของระบบสำหรับการทำงานเป็นทีมร่วมกับอากาศยานไร้คนขับ
ไม่เพียงเฉพาะกับเฮลิคอปเตอร์ LAH แบบมีนักบิน แต่ยังกับเฮลิคอปเตอร์โจมตี Boeing AH-64E Apache Guardian ด้วย(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/36.html)

เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนและโจมตีเบาไร้คนขับจะสามารถบินล่วงหน้าเฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH หรือเฮลิคอปเตอร์โจมตี AH-64E Apache แบบมีนักบิน เพื่อให้มุมมองเหนือเส้นขอบฟ้าของสนามรบ 
เช่นเดียวกับใช้เพื่อโจมตีสถานที่ที่อาจจะเป็นภัยคุกคามต่อเฮลิคอปเตอร์แบบมีนักบิน ทั้งหมดนี้สามารถจะบรรลุความสำเร็จได้โดยปราศจากค่าใช้จ่ายและภาระที่เกี่ยวข้องกับการนำอากาศยานแบบใหม่ทั้งหมดเข้าประจำการ 

โดยมีพื้นฐานจากเฮลิคอปเตอร์ Airbus Helicopters H155(เดิม EC155 B1) เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH ติดตั้งปืนใหญ่อากาศสามลำกล้องหมุน Gatling ขนาด 20mm ที่ใต้หัวเครื่อง
เช่นเดียวกับปีกคานอาวุธข้างลำตัวสำหรับติดตั้งกระเปาะจรวด เฮลิคอปเตอร์ลาดตระเวนติดอาวุธ LAH ยังติดตั้งระบบตรวจจับ EO/IR(Electro-Optical/Infrared) ที่ปลายหัวเครื่องด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/kai-lah.html)