Lockheed Martin has displayed Model of F-35A Lightning II Joint Strike Fighter
at Defense and Security 2017 exhibition in Bangkok Thailand on 6-9 November.
(My Own Photo)
Artist impression of Belgian Air Force and Polish Air Force, the future
operators for F-35A Lightning II. (Lockheed Martin)
Lockheed Martin has presented its F-35 Lightning II cockpit demonstrator at
Kaivopuisto Air Show 2021 in Helsinki, Finland from 6-7 August 2021. (Lockheed
Martin)
F-35A CTOL (Conventional Take-Off and Landing) cockpit demonstrator
F-35B STOVL (Short Take-Off Vertical Landing) simulator
F-35C CV (Carrier Variant) cockpit demonstrator
Air Chief Marshal Naphadet Thupatemi, the Commander-in-Chief of Royal Thai Air
Force policy 2022 Statement in 5 October 2021.
การแถลงนโยบายผู้บัญชาการทหารอากาศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.๒๕๖๕(2022) โดย
พลอากาศเอก นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศท่านปัจจุบัน
ได้มีการกล่าวถึงนโยบายของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force)
ที่จะดำเนินการปฏิบัติหลายด้าน
เช่นการศึกษาการใช้งานอากาศยานไร้คนขับ(UAV: Unmanned Aerial Vehicle)
อย่างอากาศยานไร้นักบินทางยุทธวิธีขนาดกลางติดอาวุธ RTAF U1-M(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/f-5th-super-tigris-rtaf-u1-m-singapore.html) ว่าควรจะไปในทิศทางใด
การพัฒนาระบบการฝึกศิษย์การบินทั้งการจัดหาเครื่องบินฝึกใบพัด T-6TH(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/t-6c.html) และเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/t-50th.html) และแนวทางการพัฒนาระบบเครือข่าย Data Link เป็นต้น(https://aagth1.blogspot.com/2018/12/link-t.html)
ในการตอบคำถามจากสื่อมวลชนหลังการถ่ายทอดสดการแถลงนโยบาย
ผู้บัญชาการทหารอากาศท่านที่๒๘ ได้กล่าวถึงอดีตผู้บัญชาการทหารอากาศท่านที่๑๐
พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ ผู้เป็นบิดาที่ถึงแก่กรรมไปเมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม
พ.ศ.๒๕๖๒(2019) สิริรวมอายุ ๙๒ปีว่า
พล.อ.อ.ประพันธ์ เคยกล่าวไปเมื่อ ๔-๕ปีก่อนว่า
กองทัพอากาศไทยน่าจะคิดถึงการมีเครื่องบินขับไล่ที่ดีกว่าในปัจจุบัน
ซึ่งเครื่องที่น่าสนใจคือเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-35 Lightning II
สหรัฐฯ
เพราะเครื่องบินที่มีใช้งานแม้จะทันสมัยในปัจจุบันแต่ในอนาคตก็จะล้าสมัยไปในที่สุด
โดยอดีต ผอ.ทอ.ท่านนี้เป็นหนึ่งในผู้ผลักดันโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่
บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/f-16ab-2020s.html) ซึ่งมีสมรรถนะสูงกว่าเครื่องบินไล่ Northrop F-20 Tigershark
ที่สหรัฐฯนำเสนอให้ไทยมากกว่าในช่วงเวลานั้น
การถอนทหารสหรัฐฯออกจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รวมถึงประเทศไทยที่ตามมาด้วยการรวมชาติเวียดนามในวันที่
๓๐ เมษายน พ.ศ.๒๕๑๘(1975) การปฏิวัติอิหร่าน พ.ศ.๒๕๒๑-๒๕๒๒(1978-1979)
ที่ทำให้สหรัฐฯเสียอาวุธสมรรถนะสูงที่ตนเคยขายให้ประเทศเหล่านั้นไปตกอยู่กับฝ่ายตรงข้าม
ทำให้ในช่วงต้นทศวรรษปี 1980s
สหรัฐฯมีนโยบายที่จะไม่ส่งออกอาวุธระดับเดียวกับที่ตนเองใช้ให้มิตรประเทศ
ในกรณีนี้ก็รวมถึงเครื่องบินขับไล่ F-16/79 ที่ใช้เครื่องยนต์ turbojet แบบ
General Electric J79 ที่มีสมรรถนะด้อยกว่าเครื่องยนต์ turbofan แบบ Pratt &
Whitney F100 ที่ F-16 ใช้
ตัวเลือกที่สหรัฐฯและนักวิชาการขณะนั้นบอกว่าเหมาะสมที่สุดคือ F-20
เพราะเข้ากันได้กับ บ.ข.๑๘ข/ค F-5/F Tiger II ที่กองทัพอากาศไทยมีใช้งานอยู่
ตัวเลือกอื่นยังมีเครื่องบินขับไล่ Tornado
ซึ่งเป็นรุ่นโจมตีมีขีดความสามารถจำกัด และเครื่องบินขับไล่ Mirage 2000
ที่ไม่คุ้นเคยกับระบบฝรั่งเศส
เครื่องบินขับไล่ F-20
ที่ต้นแบบสามเครื่องตกไปสองเครื่องโดยมีนักบินลองเครื่องเสียชีวิตไปสองนายขณะการเดินสายสาธิตในต่างประเทศจนทำให้ไม่มีลูกค้าเลย
การที่กองทัพอากาศไทยยืนยันจะจัดหา F-16A/B เท่านั้นไม่เอา F-16/79
ที่ต่อมาสิงคโปร์ก็จัดหาตามจึงเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้อง
และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B
ก็ได้พิสูจน์ตนเองมาตลอดระยะเวลาที่ประจำการมาเกิน
๓๐ปีแล้วว่าเป็นกระดูกสันหลังของของกำลังรบทางอากาศของกองทัพไทย
ผ่านการจัดหาในโครงการ Peace Naresuan I,II,III,IV
และเครื่องที่เคยประจำการในกองทัพอากาศสิงคโปร์(Peace Carvin I)
ตามทีมีการปรับโอน F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ ที่เหลือทั้งหมดไปยังฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑
โคราช ในเดือนกันยายน ๒๕๖๔ แผนในสมุดปกขาว 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/2020.html) ระบุสองโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ทดแทน F-16 ทั้งสองฝูงบินรวม
๒๔เครื่อง
แม้ว่าการให้สัมภาษณ์ของ
ผอ.ทอ.ดังกล่าวจะเป็นเพียงการมองอนาคตในระยะยาวไม่ใช่แผนการจัดหา
ซึ่งจำเป็นต้องมีการศึกษาแนวคิดความต้องการโครงการ(COPR: Concept of Project
Requirements) และแนวคิดการปฏิบัติการ(CONOPS: Concept of Operations)
ล่วงหน้าเป็นเวลาหนึ่งก่อน
ก่อนหน้านี้เครื่องบินขับไล่ F-35 ถูกกล่าวมาถึงบ้างแล้ว ในปี พ.ศ.๒๕๖๒(2019) ที่
พลอากาศเอก มานัต วงษ์วาทย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศท่านที่๒๖
ปฏิเสธข่าวการจัดหาฝูงเครื่องบินขับไล่ใหม่ที่ทันสมัยสูงและราคาแพงในขณะนั้น(https://aagth1.blogspot.com/2019/10/software.html)
ซึ่งที่ผ่านมาบริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิตได้เสนอเครื่องบินขับไล่ F-16V
Block 70/72
ของตนให้ไทยและอินโดนีเซียเพราะมองว่ามีความเหมาะสมด้านราคาและระบบสนับสนุนที่ทั้งสองชาติมีอยู่แล้วมากกว่า
F-35 เช่นที่เห็นได้จากงานแสดง Defense & Security ในไทย(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/defense-security-2019-lockheed-martin-f.html)
F-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕
ที่มีสายการผลิตแบบเดียวในปัจจุบันที่ประสบความสำเร็จในการส่งออกเป็นจำนวนมาก
ด้วยจำนวนที่ส่งมอบไปแล้วมากกว่า ๗๐๕เครื่อง จากสั่งจัดหามากกว่า
๓,๐๐๐เครื่องในเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ ทั้งกลุ่มชาติหุ้นส่วนและการขายรูปแบบ Foreign
Military Sale(FMS)
นอกจากเข้าประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force)(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/f-35a-b61-12.html) กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy)(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/f-35c.html)
และนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps)(https://aagth1.blogspot.com/2021/10/f-35b-ddh-183-js-izumo.html,
https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35c.html) ผู้ใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 ระดับนานาชาติที่เข้าประจำการแล้ว กำลังจัดหา
หรือเลือกจัดหาแล้วกว่า ๑๓ชาติ
ประเทศที่ใช้งานเครื่องบินขับไล่ F-35 เหล่าประกอบด้วยเช่น สหราชอาณาจักร(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/f-35b.html,
https://aagth1.blogspot.com/2021/06/f-35b-apache-hms-prince-of-wales.html), อิตาลี(https://aagth1.blogspot.com/2018/01/f-35b.html),
เนเธอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2019/02/f-35a.html), ออสเตรเลีย(https://aagth1.blogspot.com/2018/04/f-35a.html), เดนมาร์ก(https://aagth1.blogspot.com/2021/04/f-35a.html), นอร์เวย์(https://aagth1.blogspot.com/2019/11/f-35a.html),
อิสราเอล(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35i.html), ญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2020/07/f-35.html), สาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/dsme-hhi-cvx.html,
https://aagth1.blogspot.com/2020/04/covid-19_17.html),
เบลเยียม(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/f-35a-f-16.html), โปแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/f-35a.html) และสวิตเซอร์แลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35a-patriot.html) รวมถึงการแข่งขันในฟินแลนด์(https://aagth1.blogspot.com/2020/10/f-35a-fa-18ef-ea-18g.html)
แคนาดาเป็นหุ้นส่วนโครงการ JSF
แต่กำลังมีการแข่งขันเครื่องบินขับไล่ใหม่เช่นกัน(https://aagth1.blogspot.com/2020/08/boeing-lockheed-martin-saab.html) ส่วนตุรกีถูกตัดจากโครงการ JSF จากการจัดหาระบบ S-400 รัสเซีย(https://aagth1.blogspot.com/2020/07/f-35a.html)
ในกลุ่มชาติ ASEAN มีเพียงสิงคโปร์ที่สั่งจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35B
รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงจอดทางดิ่ง(STOVL: Short Take-Off Vertical Landing)
๔เครื่องและมีตัวเลือกเพิ่มอีก ๘เครื่องรวม ๑๒เครื่องโดยคาดว่าจะได้รับมอบในปี
2026(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/f-35-4-8.html)
สำหรับความเป็นไปได้ในกองทัพอากาศไทยน่าจะเป็นเฉพาะเครื่องบินขับไล่ F-35A
รุ่นขึ้นลงตามแบบ(CTOL: Conventional Take-Off and Landing)
ซึ่งเป็นรุ่นมาตรฐานสำหรับกองทัพอากาศส่วนใหญ่ที่มีราคาต่อเครื่อง $80 million
ตามที่ Lockheed Martin ตั้งเป้าจะลดราคาในสายผลิตของตน
ต่างจากผู้ใช้กลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกทั้งญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี
และสิงคโปร์ที่จะนำ F-35B มาปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินของตน
กองทัพอากาศไทยไม่น่าจะมีแนวคิดที่จะนำ F-35B มาวางกำลังบนเรือบรรทุกเฮลิคอปเตอร์
เรือหลวงจักรีนฤเบศร กองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy)
แม้จะเป็นที่น่าสนใจว่าทั้งสหราชอาณาจักร อิตาลี ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี
และสิงค์โปร์ให้ F-35B
อยู่ในสังกัดกองทัพอากาศและวางกำลังบนเรือของกองทัพเรือตนก็ตาม(https://aagth1.blogspot.com/2019/01/f-35b-av-8b.html,
https://aagth1.blogspot.com/2017/09/blog-post_9.html)
ถึงจะมีรายงานปัญหาหลายอย่าง(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35.html,
https://aagth1.blogspot.com/2021/06/f-35.html) แต่นับแต่ที่มีการผลิตเครื่องชุดทดสอบจริงเครื่องแรกในปี 2006
และเข้าประจำการมา ๑๕ปี F-35 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่ปลอดภัยมากที่สุดแบบหนึ่ง
อุบัติเหตุตกที่เกิดจนถึงขณะนี้มีเพียงสี่ครั้งคือ F-35B
นาวิกโยธินสหรัฐฯตกในเดือนกันยายน 2018 นักบินดีดตัวปลอดภัย(https://aagth1.blogspot.com/2018/10/f-35.html), F-35A ญี่ปุ่นตกทะเลในเดือนเมษายน 2019 นักบินเสียชีวิต(https://aagth1.blogspot.com/2019/04/f-35a_15.html),
F-35A กองทัพอากาศสหรัฐฯตกในเดือนพฤษภาคม 2020 นักบินดีดตัวอาการคงที่ และ F-35B
นาวิกโยธินสหรัฐฯชนกลางอากาศระหว่างการฝึกกับเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ
KC-130J ในเดือนกันยายน 2020 นักบินได้รับบาดเจ็บขณะดีดตัว
สาเหตุส่วนใหญ่มาจากความผิดพลาดของนักบิน
F-35 มีนวัตกรรมที่ปฏิวัติการรบทางอากาศหลายอย่าง ทั้งคุณสมบัติตรวจจับได้ยาก
Stealth ห้องบรรทุกอาวุธภายในลำตัว ระบบตรวจจับแบบบูรณาการ AN/APG-81 AESA(Active
Electronically Scanned Array) radar และ AN/AAQ-40 EOTS(Electro-Optical
Targeting System)
F-35
เป็นเครื่องบินขับไล่แบบแรกที่เข้าประจำการจริงที่ห้องนักบินติดตั้งจอแสดงผลขนาดใหญ่
PCD(Panoramic Cockpit Display) และหมวกนักบินติดจอแสดงผล HMDS(Helmet-Mounted
Display System) โดยไม่มีจอภาพตรงหน้า HUD(Head-Up Display)
การควบคุมเครื่องผ่านคันบังคับควบคุมและคันเร่งแบบ HOTAS(Hands-On Throttle and
Stick) และจอ PCD นั้นสะดวกและมีระบบอัตโนมัติต่างๆช่วยเป็นจำนวนมาก
การฝึกนักบินผ่านเครื่องจำลองการบิน(Flight Simulator) นั้นประหยัดมีประสิทธิภาพ
ทั้งลดจำนวนเครื่องในรูปแบบการทวีกำลังรบ
เทียบกับรัสเซียที่เครื่องบินขับไล่ Su-57 สายการผลิตยังไม่พร้อมสำหรับส่งออก(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/rosoboronexport-asean-su-57.html) และเครื่องบินขับไล่ Su-75 Checkmate ที่ยังไม่มีต้นแบบจริง(https://aagth1.blogspot.com/2021/09/sukhoi-checkmate.html)
เครื่องบินขับไล่ FC-31 จีนที่ยังมีต้นแบบเพียง ๒เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2019/07/avic-fc-31.html) และเครื่องบินขับไล่ KF-21 สาธารณรัฐเกาหลีที่เครื่องรุ่นแรก Block I
ยังเป็นเพียงเครื่องบินขับไล่ยุคที่๔.๗๕ เท่านั้นแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2021/08/kf-21.html)
F-35 เป็นตัวเลือกเครื่องบินขับไล่ยุค๕
ที่เป็นไปได้มากที่สุดของกองทัพอากาศไทยในการทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก
F-16A/B ในระยะยาวทั้ง F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒ และ F-16A/B Block 15 OCU ฝูงบิน๑๐๓
ด้วยความต้องการสองฝูง๒๔เครื่อง เหลือเพียงฝูงเดียว ๑๒เครื่องในกองบิน๑
ที่ผ่านมาเครื่องบินขับไล่ F-35
ถูกมองว่ามีราคาและค่าใช้จ่ายการปฏิบัติการที่สูงเกินกว่าที่กองทัพอากาศไทยจะรับได้
ในการทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๒
จึงควรจะเป็นเครื่องบินขับไล่ยุคที่๔.๕ เช่นเครื่องบินขับไล่ F-16V
หรือเครื่องบินขับไล่ Saab Gripen สวีเดนมากกว่า
แต่ในอดีตที่ผ่านมาการจัดหา บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU
ในอดีตก็เคยมีข้อโต้แย้งในลักษณะนี้มาแล้ว
ถ้าดูจากภัยคุกคามจากกองกำลังต่างชาติด้านพรมแดนตะวันออกที่มีโซเวียตรัสเซียสนับสนุนด้วยเครื่องบินขับไล่
MiG-23 ที่สมรรถนะสูงกว่า F-5E/F ของกองทัพอากาศไทยในขณะนั้น
เมื่อเข้าสู่ทศวรรษปี 2030s เครื่องบินขับไล่ที่ไม่ใช่เครื่องบินขับไล่ยุคที่๕
จะไม่มีโอกาสรอดในสงครามทางอากาศยุคหน้าอีกต่อไป
ดังนั้นถ้ากองทัพอากาศไทยได้รับงบประมาณมากพอที่จะจัดหา F-35 ได้ก็ควรจะทำ
และสหรัฐฯก็ควรจะอนุมัติการขายให้ถ้ายังมองว่าไทยเป็นพันธมิตรหลักของตนอยู่
อย่างไรก็ตามการระบาดของ Covid-19 ต่อเนื่องหลายปีที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ
ทำให้ไทยตัดลดงบประมาณกลาโหมมาต่อเนื่องสามครั้งแล้ว(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/covid-19.html)
จึงเป็นไปได้ยากที่กองทัพอากาศไทยจะตั้งโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ได้ในเร็วๆนี้
โครงการจัดหาเครื่องบินลำเลียงใหม่ ๑๒เครื่องทดแทน บ.ล.๘ C-130H Hercules
ฝูงบิน๖๐๑ กองบิน๖ ดอนเมือง(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/c-130h.html) ที่มีความจำเป็นกว่ายังถูกเลื่อนออกไป
ผู้ผลิตอากาศยานต่างๆอาจจะมองว่าไทยไม่ใช่โอกาสการแข่งขันของตนในตอนนี้(https://aagth1.blogspot.com/2020/12/eurofighter-typhoon.html)
อีกประเด็นคือความเคลื่อนไหวของกลุ่มที่มีแนวคิดเป็นภัยความมั่นคงที่ใช้สื่อไร้จรรยาบรรณสร้างข่าวเท็จให้ประชาชนหลงเชื่อ
จะเป็นอุปสรรคสำคัญในการโจมตีกองทัพอากาศไทยเพื่อต่อต้านการจัดหาอากาศยานทุกรูปแบบ
ซึ่งทั้งหมดเป็นเรื่องในอนาคตอีกยาวเกินกว่าที่จะคาดการณ์ได้ถูกต้องครับ
(ผู้ไม่หวังดีต่อชาติพวกนี้เริ่มพูดถึงการ 'สร้างประเทศใหม่'
โดยมีคอสตาริกาเป็นแบบอย่าง ประเทศที่ปราศจากทหาร-ตำรวจ
ให้ประชาชนติดอาวุธปกป้องตัวเองเหมือนยุคบ้านป่าเมืองเถื่อน ไม่ก็ใช้
'หุ่นยนต์' ทำหน้าที่แทนทหาร-ตำรวจ
เพราะไม่ต้องจ่ายเงินเดือนและไม่ต้องกลัวว่าจะทำรัฐประหารด้วย)