วันศุกร์ที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2565

สหรัฐฯจะประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทยสำหรับเครื่องบินขับไล่ F-35A




The US Air Force Lockheed Martin F-35A Lightning II. (USAF)

A U.S. Air Force inspection team will reportedly be sent to Thailand to assess the readiness of the Royal Thai Air Force to operate and maintain fifth-generation fighter jets.
As part of the inspection, the U.S. team will look closely at the RTAF's resources and capabilities to see if they can support the purchase of advanced stealth fighters.
According to reports, a committee tasked with overseeing the planned military procurement has been looking closely at fifth-generation aircraft with advanced stealth capabilities, including Lockheed Martin F-35 jets, to replace Thailand’s aging F-16s.
Although the Cabinet approved a budget of 13.8 billion baht in January for the purchase of four jets, the jets would most likely need to be purchased using funds from next year's budget.

ผู้บัญชาการทหารอากาศ เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือข้อราชการและร่วมงาน CSAF & CMSAF International Honor Roll ตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และคณะ เดินทางเยือนสหรัฐอเมริกา เพื่อหารือข้อราชการกับผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา และหน่วยงานด้านความมั่นคงของสหรัฐอเมริกา ณ กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. 
พร้อมทั้งร่วมงาน Chief of Staff of the Air Force and Chief Master Sergeant of the Air Force International Honor Roll (CSAF & CMSAF International Honor Roll) ณ ฐานทัพอากาศ Maxwell รัฐอลาบามา ระหว่างวันที่ 12 - 19 เมษายน 2565 ตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐอเมริกา
 
ในโอกาสนี้ ได้ร่วมหารือเกี่ยวกับประเด็นการขยายความร่วมมือด้านการปฏิบัติการทางทหาร การแลกเปลี่ยนแนวคิดการปฏิบัติการของกำลังทางอากาศในภูมิภาค การพัฒนากำลังทางอากาศในอนาคต และการปฏิบัติการทางอากาศด้วยเครื่องบินขับไล่/โจมตี
สำหรับงาน Chief of Staff of the Air Force and Chief Master Sergeant of the Air Force International Honor Roll (CSAF & CMSAF International Honor Roll) จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ศิษย์เก่าของสถาบัน Air University ที่ประสบความสำเร็จในการรับราชการ 
และได้ดำรงตำแหน่งระดับสูงของกองทัพอากาศ โดยผู้บัญชาการทหารอากาศ เคยเข้ารับการศึกษาหลักสูตรเสนาธิการทหารอากาศสหรัฐอเมริกา (ACSC) เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2538 - 13 มิถุนายน 2539 ณ ฐานทัพอากาศ Maxwell รัฐอลาบามา สหรัฐอเมริกา

NBT World ช่องโทรทัศน์ภาษาอังกฤษของกรมประชาสัมพันธ์ รัฐบาลไทย รายงานข่าวเมื่อวันที่ ๒๗ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕(2022)ว่า ทีมตรวจสอบของกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: US Air Force) จะถูกส่งมายังไทย เพื่อประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทย(RTAF: Royal Thai Air Force) ที่จะปฏิบัติการและบำรุงรักษาเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ ในฐานะส่วนหนึ่งของการตรวจสอบทีมจากสหรัฐฯจะประเมินทรัพยากรและขีดความสามารถต่างๆกองทัพอากาศไทยอย่างใกล้ชิด เพื่อให้เห็นว่าตนสามารถที่จะสนับสนุนการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขั้นก้าวหน้าตรวจจับได้ยาก stealth ให้ได้หรือไม่

กองทัพอากาศไทยได้แสดงเจตนารมณ์ของตนมาหลายครั้งก่อนหน้าแล้วว่าต้องการจัดหาเครื่องบินขับไล่ขับไล่ยุคที่๕ แบบ Lockheed Martin F-35A Lightning II สหรัฐฯ(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-16ab-f-35a.html) ซึ่งเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ แบบเดียวที่มีสายการผลิตในปัจจุบัน
เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙ บ.ข.๑๙/ก Lockheed Martin F-16A/B Block 15 Fighting Falcon ที่ใช้งานมานานมากกว่า ๓๐ปีของตน(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-16a-adf.html) ซึ่งน่าจะถูกนำเข้าประจำการในฝูงบิน๑๐๒ กองบิน๑ โคราชเป็นฝูงบินแรก

ในต้นปี ๒๕๖๕ ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรีไทยเห็นชอบอนุมัติวงเงินประมาณ ๑๓,๘๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($415 million) สำหรับโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35A ระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่อง ที่ยังจำเป็นต้องได้รับมติเห็นชอบจากรัฐสภาไทยสำหรับงบประมาณผูกพันปี พ.ศ.๒๕๖๖-๒๕๖๙(2023-2026)
อย่างไรก็ตามวงเงินสำหรับโครงการนี้จำเป็นต้องได้รับการอนุมัติเห็นชอบโดยรัฐสภาไทยเพื่อบรรจุในงบประมาณกลาโหมปี พ.ศ.๒๕๖๖(2023)ก่อน(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/covid-19.html) รวมถึงรัฐบาลสหรัฐฯและสภา Congress สหรัฐฯจะต้องเห็นชอบการขาย F-35 ให้ไทยด้วย

ก่อนหน้านี้ไม่นาน พลอากาศเอก นภาเดช  ธูปะเตมีย์ ผู้บัญชาการทหารอากาศไทยและคณะนายทหารกองทัพอากาศไทยได้เดินทางเยือนสหรัฐฯตามคำเชิญของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ระหว่างวันที่ ๑๒-๑๙ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๕ เป็นที่เข้าใจว่าการจัดหา F-35 ของไทยจะเป็นประเด็นในการพูดคุยด้วย
การที่มีรายงานตามหลังว่ากองทัพอากาศสหรัฐฯจะส่งทีมมาประเมินความพร้อมของกองทัพอากาศไทย น่าะเป็นส่วนหนึ่งเป็นการนำไปสู่การพิจารณาความเป็นไปได้ในการขายเครื่องบินขับไล่ F-35A แก่ไทยในรูปแบบความช่วยเหลือทางทหารต่อมิตรประเทศ Foreign Military Sales(FMS)

การจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์จากสหรัฐฯในรูปแบบความช่วยเหลือทางทหารของกองทัพไทยก่อนหน้านั้น ระบบที่มีสมรรถนะและความซับซ้อนสูง ก็จำเป็นที่ต้องมีประเมินความพร้อมของสถานที่ที่จะระบบเข้าประจำการมีความเหมาะสมหรือไม่ ต้องปรับปรุงอะไรเพิ่ม และฝึกกำลังพลที่จะใช้งานอย่างไร
โดยการขายเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙ F-16A/B ให้กองทัพอากาศไทยในอดีตสหรัฐฯก็มีการส่งทีมมาประเมินความพร้อมที่ไทยเช่นกัน ซึ่งช่วงนั้นกองทัพอากาศไทยต้องการ F-16A/B Block 15 OCU ไม่ใช่รุ่น F-16/79 รุ่นส่งออกที่มีสมรรถนะต่ำกว่าที่กองทัพอากาศสหรัฐและชาติยุโรป NATO ใช้เอง

การจัดหาเครื่องบินขับไล่ F-35 ของลูกค้ารูปแบบการขาย FMS ในกลุ่มประเทศเอเชีย-แปซิฟิกที่เข้าประจำการไปแล้วอย่างญี่ปุ่น(https://aagth1.blogspot.com/2022/04/ai-uav.html) และสาธารณรัฐเกาหลี(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/f-35a-40.html
หรือที่กำลังสั่งจัดหาเช่นสิงคโปร์(https://aagth1.blogspot.com/2022/03/blog-post.html) ก็เป็นไปในแนวทางนี้เช่นกัน อย่างไรก็ตามในขณะนี้บริษัท Lockheed Martin สหรัฐฯผู้ผลิต และตัวแทนของรัฐบาลสหรัฐฯยังไม่อยู่ในสถานะที่จะออกมาให้ความเห็นเกี่ยวกับการขาย F-35 ให้ไทยได้ครับ