วันพุธที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2566

ความคืบหน้าโครงการจัดหาอาวุธยุทโธปกรณ์ของกองทัพไทยในปี ๒๕๖๖-๒












Long Live The King!, Royal Thai Air Force (RTAF)'s Airbus A340-500 of 602nd Squadron, Wing 6 Don Mueang has bring royal gifts to help Turkey Earthquake from Bangkok to Ankara on 15 February 2023,
RTAF 230 royal flight Airbus A340-500 back from Ankara Turkey to Bangkok Thailand with Thai victims both dead body and alive families to their homeland on 16 February 2023. (Royal Thai Air Force) 
On 9 February 2023, Urban Search and Rescue (USAR) team from Department of Disaster Prevention and Mitigation (DDPM) of Ministry of Interior of Thailand 
with ParaMedic and Humanitarian Assistance and Disaster Relief (HADR) team from Royal Thai Armed Forces (RTARF), Ministry of Defence of Thailand have arrived in Turkey to support earthquake relief efforts and completed mission on 18 February 2023.
RTAF 235 2nd Royal Flight of Airbus A340-500 from Thailand to Incirlik Air Base Turkey for helping Turkey Earthquake relief on 23 February 2023 and brought Thai citizens back to their homeland on 24 February 2023.







ASELSAN has displayed its product at Defense & Security 2022 show in Bangkok during 29 August-1 September 2022. (My own Photos)
The Representative of ASELSAN the turkish defence company with Mrs.Serap Ersoy the Ambassador of the Republic of Turkia (Turkey) in Thailand was visited commander-in-chief of Royal Thai Navy (RTN) on 2 February 2023.

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานสิ่งของแก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกี
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกีอย่างใกล้ชิด ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐตุรกี 
กรณีเกิดแผ่นดินไหวที่จังหวัดคาห์รามันมาราช สาธารณรัฐตุรกีด้วยน้ำพระราชหฤทัยห่วงใย
ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ในการจัดหาสิ่งของต่าง ๆ ที่จำเป็น เพื่อพระราชทานความช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว 
โดยในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 15.00 น. ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ นายจิรายุ  อิศรางกูร ณ อยุธยา องคมนตรี เชิญสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ 
เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กซึ่งมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ถุงนอนกันหนาวที่กันความเย็นได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส เต็นท์นอนขนาดใหญ่ สำหรับ 5 - 6 คน ผ้านวมกันหนาว อาหารแห้ง นม และน้ำดื่ม 
ไปมอบให้แก่ นางแซรัป  แอร์ซอย (Her Excellency Mrs. Serap Ersoy) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐตุรกีประจำประเทศไทย ณ โรงเก็บอากาศยาน ฝูงบิน 601 กองบิน 6 กองทัพอากาศ เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร 
โดยมี นายศรัณย์ เจริญสุวรรณ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และ พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ร่วมพิธี
ทั้งนี้ กองทัพอากาศ ได้จัดเที่ยวบินพิเศษ เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) จำนวน 1 เครื่อง นำส่งสิ่งของพระราชทาน ไปยังสาธารณรัฐตุรกี เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีต่อไป 
โดยกำหนดออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 23.20 น. ไปยังสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี 
สำหรับในเที่ยวบินขากลับ จะรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ และลำเลียงร่างผู้เสียชีวิตกลับประเทศไทย ตามที่ได้รับการประสานจากกระทรวงการต่างประเทศ 
โดยมีกำหนดเดินทางกลับถึงประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.10 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง
สาธารณรัฐตุรกี เกิดเหตุแผ่นดินไหวที่จังหวัดคาห์รามันมาราช เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2566 ความเสียหายอันเกิดจากแผ่นดินไหวขนาด 7.8 ริกเตอร์ และการสั่นสะเทือนที่ตามมานั้น ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต ผู้บาดเจ็บ ผู้เสียหาย และผู้ไร้ที่อยู่อาศัยเป็นจำนวนมาก 
ทั้งยังก่อให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเรือน ทรัพย์สิน และโครงสร้างพื้นฐานเป็นวงกว้าง

“กองทัพอากาศ จัดเครื่องบิน Airbus 340-500 นำส่งสิ่งของพระราชทานไปยังสาธารณรัฐตุรกี”
พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นาวาอากาศเอกหญิง พรรณประภา  วัณณรถ นายกสมาคมแม่บ้านทหารอากาศ และ นายนฤชัย นินนาท รองอธิบดีกรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ รับฟังการบรรยายสรุปแผนการบิน 
พร้อมให้กำลังใจนักบินและเจ้าหน้าที่ของกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปยังสาธารณรัฐตุรกี 
เพื่อนำไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว เมื่อวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.30 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง
ทั้งนี้ กองทัพอากาศ จัดเที่ยวบินพิเศษ เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในคืนวันพุธที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 23.20 น. ไปยังสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ใช้เวลาบิน 10 ชั่วโมง 15 นาที 
โดยปฏิบัติภารกิจบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน ได้แก่ เครื่องปั่นไฟขนาดเล็กซึ่งมีความจำเป็นในสถานการณ์ปัจจุบัน ถุงนอนกันหนาวที่กันความเย็นได้ถึงอุณหภูมิติดลบ 24 องศาเซลเซียส เต็นท์นอนขนาดใหญ่ สำหรับ 5 - 6 คน ผ้านวมกันหนาว อาหารแห้ง นม และน้ำดื่ม 
โดยในเที่ยวบินขากลับ จะรับคนไทยที่มีความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ ซึ่งในเบื้องต้นได้รับแจ้งจากกระทรวงการต่างประเทศว่ามีจำนวน 38 คน และลำเลียงร่างผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ร่าง 
โดยมีกำหนดออกเดินทางจากสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี ในวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.00 น. (เวลาท้องถิ่น) และเดินทางถึง ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในเวลา 21.10 น. (เวลาประเทศไทย)
ทั้งนี้ กองทัพอากาศจัดชุดแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพขั้นต้นและเฝ้าระวังสุขภาพระหว่างการเดินทางให้แก่คนไทยที่เดินทางมากับเที่ยวบินดังกล่าว 
พร้อมทั้งจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ร่วมรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจด้วย
สำหรับเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) เป็นเครื่องบินที่สามารถบินเดินทางระยะไกล สามารถบรรทุกบุคคล อุปกรณ์ และสัมภาระได้จำนวนมาก สามารถแยกพื้นที่ (Zoning) ให้ผู้ประสบภัยและผู้เสียชีวิต รวมทั้งผู้ติดเชื้อโควิด-19 ร่วมเดินทางได้พร้อมกัน 
อีกทั้งยังง่ายต่อการส่งแผนการบินข้ามเส้นน่านฟ้าหลายประเทศ เนื่องจากมีการจดทะเบียนในรูปแบบอากาศยานพลเรือน

“เที่ยวบิน RTAF 230 ของกองทัพอากาศ นำคนไทยผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกี กลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ”
พลอากาศเอก อลงกรณ์  วัณณรถ ผู้บัญชาการทหารอากาศ พร้อมด้วย นายรุจ  ธรรมมงคล อธิบดีกรมการกุงสุล กระทรวงการต่างประเทศ และนางอภิญญา ชมภูมาศ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
ร่วมให้การต้อนรับ คนไทยที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐตุรกีด้วยเที่ยวบิน RTAF 230 ของกองทัพอากาศ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 16 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 21.30 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง 
เที่ยวบินดังกล่าวมีคนไทยเดินทางกลับมา จำนวน 36 คน (เป็นชาย 5 คน หญิง 24 คน เด็กชาย 4 คน และเด็กหญิง 3 คน) และผู้เสียชีวิต จำนวน 1 ราย
เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 แล้ว คนไทยทั้ง 36 คน จะได้รับบริการตรวจสุขภาพขั้นต้น โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 
การให้คำแนะนำเพื่อสมัครเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ และชี้แจงสิทธิประโยชน์ของสมาชิกฯ เพื่อไปทำงานอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยกรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน 
และการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งการบริการให้คำแนะนำปรึกษา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้ว จะเดินทางไปยังสถาบันบำราศนราดูร จังหวัดนนทบุรี เพื่อตรวจสุขภาพเพิ่มเติมและแยกย้ายกลับภูมิลำเนา โดยกระทรวงคมนาคมได้จัดรถให้บริการรับ-ส่ง สำหรับร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย สภากาชาดไทยรับดำเนินการส่งกลับไปยังจังหวัดชัยภูมิต่อไป
สำหรับเที่ยวบิน RTAF 230 เป็นเที่ยวบินพิเศษที่กองทัพอากาศได้รับมอบภารกิจจากรัฐบาลและกระทรวงกลาโหม ในการบินนำส่งสิ่งของพระราชทานพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี 
ไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว และรับคนไทยจากสาธารณรัฐตุรกีกลับประเทศไทย
โดยกองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินอังการา สาธารณรัฐตุรกี 
โดยมีคณะทำงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอพยพคนไทยจากเหตุแผ่นดินไหว ณ สาธารณรัฐตุรกี (ส่วนของกองทัพอากาศ) เป็นผู้ประสานการปฏิบัติ 
พร้อมทั้งจัดชุดแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพขั้นต้นและเฝ้าระวังสุขภาพให้แก่คนไทยตลอดการเดินทาง รวมทั้งจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจด้วย
ด้วยขีดความสามารถและความพร้อมของกำลังทางอากาศ รวมถึงความมุ่งมั่นตั้งใจของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทุกคน ทำให้ภารกิจที่ได้รับมอบหมายนี้ประสบความสำเร็จ สามารถนำส่งสิ่งของพระราชทานไปถึงชาวตุรกีที่ประสบภัย และรับพี่น้องชาวไทยกลับสู่มาตุภูมิด้วยความปลอดภัยและอบอุ่น

เที่ยวบินพิเศษกองทัพอากาศ AIRBUS 340-500 เที่ยวบินที่ 2 ออกเดินทางสู่ตุรกี
เมื่อ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 01.30 น. พลอากาศเอก ณรงค์  อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารอากาศ มาส่งเที่ยวบินพิเศษกองทัพอากาศ AIRBUS 340-500 นามเรียกขาน RTAF 235 ซึ่งเป็นเที่ยวบินที่ 2  
มีภารกิจในการช่วยเหลือสาธารณรัฐตุรกีจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งรุนแรง
เที่ยวบินพิเศษเที่ยวบินที่ 2 ได้ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 02.45 น. ที่ผ่านมา โดยเชิญสิ่งของพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวตุรกี 
ประกอบด้วย เครื่องปั่นกระแสไฟฟ้า เครื่องนอนกันหนาว ข้าวของเครื่องใช้จำเป็น และอาหารแห้ง น้ำหนักกว่า 10 ตัน 
AIRBUS 340-500 ของกองทัพอากาศ นามเรียกขาน RTAF 235 ซึ่งมีเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศฝ่ายอำนวยการ รวมถึงนักบิน ลูกเรือ แพทย์ พยาบาล ของกองทัพอากาศ จำนวน 47 คน และสิ่งของพระราชทาน 
จะเดินทางถึงสาธารณรัฐตุรกี ณ ฐานทัพอากาศอินเคอร์ริก ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น.(เวลาท้องถิ่น) หรือ 13.30 น. ของประเทศไทย

AIRBUS 340-500 กองทัพอากาศ เที่ยวบินที่ 2 เชิญสิ่งของพระราชทานถึงสาธารณรัฐตุรกี และพร้อมรับคนไทยเดินทางกลับประเทศ
เครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 หรือ AIRBUS 340-500 นามเรียกขานในภารกิจนี้ RTAF 235 ได้เดินทางจากกองบิน 6 ดอนเมือง ถึง ณ ฐานทัพอากาศอินเคอร์ริก สาธารณรัฐตุรกี 
ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 09.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น (13.30 น.ตามเวลาประเทศไทย) เป็นที่เรียบร้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 11 ชั่วโมง 
โดย นายอภิรัตน์  สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง เอกอัครราชทูต ณ กรุงอังการา และภริยา รวมถึง Ambassador Ege Turemen และ Ambassador Fusun Aramaz เป็นผู้แทนฝ่ายตุรกีให้การต้อนรับ
นาวาอากาศเอก อนุรักษ์  รมณารักษ์ รองผู้อำนวยการสำนักยุทธการและการฝึก กรมยุทธการทหารอากาศ ในฐานะ หัวหน้าคณะเดินทาง พร้อมคณะเจ้าหน้าที่กองทัพอากาศไทย ได้เชิญสิ่งของพระราชทาน ลงจากเครื่องบิน AIRBUS 340-500 
ประกอบด้วย เครื่องปั่นไฟฟ้า ถุงนอนกันหนาว อาหารแห้ง รวมถึงขนมและของใช้จำเป็น เพื่อเตรียมการส่งมอบช่วยเหลือประชาชนชาวตุรกี 
โดยได้รับความร่วมมือจากฐานทัพอากาศอินเคอร์ริก และส่วนสนับสนุนต่างๆ ณ สนามบินปลายทาง ในการเชิญสิ่งของพระราชทานเตรียมกระทำพิธีส่งมอบต่อไป
     สำหรับเที่ยวบินพิเศษ เที่ยวบินที่ 2 นามเรียกขาน RTAF 235 ในขากลับจะรับคนไทยที่ประสงค์ขอเดินทางกลับประเทศด้วย จำนวน 11 คน และเจ้าหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ 2 คน 
โดยมีกำหนดเดินทางออกจากฐานทัพอากาศอินเคอร์ริก ในวันเดียวกัน เวลาประมาณ 13.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น และจะกลับถึงประเทศไทยในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลาประมาณ 01.00 น. 

“กองทัพอากาศ นำคนไทยผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในสาธารณรัฐตุรกี กลับสู่มาตุภูมิโดยสวัสดิภาพ เป็นเที่ยวบินที่ 2”
พลอากาศเอก ณรงค์  อินทชาติ เสนาธิการทหารอากาศ พร้อมด้วย นางสาวอุไร เล็กน้อย ผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และ นายอำนาจ พละพลีวัลย์ ผู้อำนวยการกองคุ้มครองและดูแลผลประโยชน์คนไทยในต่างประเทศ กรมการกงสุล 
ร่วมให้การต้อนรับคนไทยที่เดินทางมาจากสาธารณรัฐตุรกีด้วยเที่ยวบิน RTAF 235 ของกองทัพอากาศ เมื่อวันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 02.25 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง 
ซึ่งเที่ยวบินดังกล่าวมีคนไทยเดินทางกลับมา จำนวน 11 คน (เป็นผู้ใหญ่ 6 คน และเด็ก 5 คน)
เมื่อเดินทางถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 แล้ว คนไทยทั้ง 11 คน ได้รับบริการตรวจสุขภาพขั้นต้น โดยกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข, การอำนวยความสะดวกด้านการตรวจเอกสารการเดินทาง โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ 
และการดำเนินการให้ความช่วยเหลือเป็นเงินค่าพาหนะและค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับภูมิลำเนา รวมทั้งการบริการให้คำแนะนำปรึกษา โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 
เมื่อเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดแล้ว ได้เข้าพักที่อาคารพักรับรองของกองทัพอากาศ 1 คืน ก่อนจะเดินทางกลับภูมิลำเนาในวันรุ่งขึ้น
สำหรับเที่ยวบิน RTAF 235 เป็นเที่ยวบินพิเศษที่กองทัพอากาศได้รับมอบภารกิจในการบินนำส่งสิ่งของพระราชทาน สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ไปช่วยเหลือและบรรเทาทุกข์แก่ประชาชนชาวตุรกีที่ประสบเหตุภัยพิบัติแผ่นดินไหว 
และรับคนไทยจากสาธารณรัฐตุรกีกลับประเทศไทย เป็นเที่ยวบินที่ 2
โดยกองทัพอากาศ ได้จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 19 (Airbus 340-500) ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังฐานทัพอากาศอินเคอร์ริก สาธารณรัฐตุรกี 
โดยมีคณะทำงานช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและอพยพคนไทยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว ณ สาธารณรัฐตุรกี (ส่วนของกองทัพอากาศ) เป็นผู้ประสานการปฏิบัติ 
พร้อมทั้งจัดชุดแพทย์จากกรมแพทย์ทหารอากาศ และสถาบันเวชศาสตร์การบินกองทัพอากาศ ร่วมเดินทางไปกับเที่ยวบินนี้ เพื่อดำเนินการตรวจสุขภาพขั้นต้นและเฝ้าระวังสุขภาพให้แก่คนไทยตลอดการเดินทาง รวมทั้งจัดหน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วมรักษาความปลอดภัยในการปฏิบัติภารกิจด้วย

เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐทูร์เคีย ประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะ และขอนำผู้แทนจากบริษัท ASELSAN เข้าพบ ผู้บัญชาการทหารเรือ
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 พลเรือเอกเชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ นางแซรัป แอร์ซอย (Mrs. Serap Ersoy) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐทูร์เคีย (สาธารณรัฐตุรกี) ประจำประเทศไทย 
ในโอกาสนำผู้แทนจากบริษัท ASELSAN เข้าหารือเรื่องการพัฒนาความร่วมมือด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศระหว่างกัน ณ ห้องรับรอง กองบัญชาการกองทัพเรือ พระราชวังเดิม

แม้ว่าตุรกีจะยังไม่ประสบความสำเร็จในโครงการจัดหาหลักของกองทัพไทย แต่ตุรกีก็มีความพยายามที่จะเปิดโอกาสของตนอย่างต่อเนื่อง ตามที่ตัวแทนของบริษัท AELSAN ตุรกีได้หารือการพัฒนาความร่วมมืออุตสาหกรรมความมั่นคงกับกองทัพเรือไทยเมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖(2023)
ต่อมาได้เกิดแผ่นดินไหวใหญ่ที่ตุรกีในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ สร้างความเสียหายในหลายเมืองแถบชายแดนตุรกี-ซีเรียและมีผู้ได้รับเจ็บและเสียชีวิตจำนวนมาก ในฐานะมิตรประเทศไทยได้ส่งหน่วยค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง USAR กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยไปตุรกีเมื่อวันที่ ๙ กุมภาพันธ์
รวมถึงกองทัพอากาศไทยได้จัดเครื่องบินลำเลียง บ.ล.๑๙ Airbus A340-500 ฝูงบิน๖๐๒ กองบิน๖ จัดส่งสิ่งของช่วยเหลือพระราชทานจากกรุงเทพฯไปยัง Ankara ตุรกี เมื่อวันที่ ๑๕-๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ และเที่ยวบินที่สองไปฐานทัพอากาศ Incirlik เมื่อวันที่ ๒๓-๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ ครับ


Royal Thai Air Force (RTAF)'s Saab Gripen C 70107 of 701st Squadron, Wing 7 Surat Thani was flying shown at RTAF Flying Training School Kamphaeng Saen in Nakhon Pathom Province during Children's Day 2023 on 14 January 2023. 


Royal Thai Air Force (RTAF)'s Saab Gripen D of 701st Squadron and Saab 340B Erieye AEW&C(Airborne Early Warning and Control) of 702nd Squdron were displayed and flight shown during Children's Day 2023 at Wing 7 Surat Thani on 14 January 2023.

During visited Ministry of Defence of Thailand and Wing 7 RTAF base on 1-2 February 2023, Micael Johansson President and CEO of SAAB AB the Swedish defence firm is looking for further strengthen with Royal Thai Armed Forces (RTARF),
including planned for modernization of aging Saab 340 Erieye AEW&C aircrafts and potential of more new Squadron of Gripen fighter aircrafts if US Government denied to sale F-35A for RTAF.

รมช.กห. ให้การต้อนรับ ออท.สวีเดน/ไทย 
พันเอก จิตนาถ ปุณโณทก รองโฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า  พลเอก ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ให้การต้อนรับ นาย Jon Astrom Grondahl (ยอน ออสเตริม เภรินดาห์ล) ออท.สวีเดน/ไทย 
และ นาย Micael Johansson (มิกาเอล โยฮันสัน) ประธาน และประธานกรรมการบริหาร บริษัท Saab AB พร้อมคณะ เมื่อ วันที่ 1 ก.พ.66 เพื่อหารือในประเด็นด้านการป้องกันประเทศ ณ ห้องรับรอง รมว.กห. ในศาลาว่าการกระทรวงกลาโหม
การเข้าพบหารือ ระหว่าง ไทย-สวีเดน ในครั้งนี้ จะเป็นการดำเนินความสัมพันธ์อันใกล้ชิดและเป็นมิตรที่มีมากว่า 155 ปี 
ทั้งสองประเทศมีความร่วมมือร่วมกันหลายด้าน อาทิ ด้านการศึกษาและเทคโนโลยี นวัตกรรม พลังงานและสิ่งแวดล้อม การบำบัดน้ำเสีย เทคโนโลยีอวกาศ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนาและการป้องกันประเทศ 
สำหรับความสัมพันธ์อันดีทางทหารได้มีการพัฒนาความสัมพันธ์และความร่วมมือทางทหารในด้านต่างๆเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ อาทิ การฝึกร่วม/ผสม Cobra Gold การแลกเปลี่ยนการเยือน การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์ 
ตลอดจนจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งบำรุง นับเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการพัฒนาประสิทธิภาพกำลังพลและเสริมสร้างศักยภาพของกองทัพ
รมช.กห. ได้กล่าวขอบคุณสวีเดนและบริษัท Saab AB ที่ได้นำอาวุธยุทโธปกรณ์มาเข้าร่วมจัดงาน Defense & Security 2022 ที่ผ่านมา โดยได้รับความสนใจจากบริษัทผู้ประกอบการเป็นจำนวนมาก และ ขอเชิญร่วมจัดงานในปลายปีนี้ อีกเช่นเคย  
การหารือกันในวันนี้ เป็นเรื่องที่น่ายินดี นับว่าเป็นประโยชน์ต่อการสนับสนุน และส่งเสริมความสัมพันธ์ร่วมกันในทุกด้าน อันจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นของทั้งสองประเทศ
ออท.สวีเดน และ ปธ.Saab AB ต่างขอบคุณการต้อนรับที่อบอุ่น และพร้อมสนับสนุน ประเทศไทยใน ด้าน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศ ด้านเทคโนโลยี ฯลฯ และขอขอบคุณเรื่องการเชิญร่วมการฝึก Cobra Gold และการจัดงานDefense &Security 2023
ที่เป็นการ แสดงถึงความเป็นมิตรที่ดีต่อกัน และความสัมพันธ์ที่ แน่นแฟ้น ตลอดไป

กองบิน 7 ให้การต้อนรับประธานบริษัท Saab AB 
Mr.Micael  Johansson ประธานบริษัท Saab AB จำกัด และคณะ เดินทางมาเยี่ยมชมภารกิจ และกิจการของกองบิน 7 
โอกาสนี้ นาวาอากาศเอก ณัฏฐวุธ  ดวงสูงเนิน ผู้บังคับการกองบิน 7 มอบหมายให้ นาวาอากาศเอก พิเชษฐ์  บ้วนหลี หัวหน้ากองเทคนิค กองบิน 7 พร้อมด้วยข้าราชการที่เกี่ยวข้องร่วมให้การต้อนรับฯ และพบปะพูดคุย ณ ห้องประชุม ฝูงบิน 701 กองบิน 7 เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566

การเยือนไทยของประธานและผู้อำนวยการบริหารบริษัท Saab สวีเดน ช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ทั้งที่กระทรวงกลาโหมไทย และกองบิน๗ สุราษฎร์ธานี ได้มีการมองที่จะขยายความร่วมมือด้านความมั่นคงกับไทยหลายประกาศเช่นการเชิญสวีเดนเข้าร่วมการฝึกผสม Cobra Gold
ด้านอาวุธยุทโธปกรณ์แก่กองทัพไทย Saab สวีเดนยังมองโอกาสของตนที่จะเพิ่มขยายบทบาทด้านการเป็นผู้ผลิตและส่งออกอาวุธแก่กองทัพไทยจากอาวุธที่มีอยู่แล้วเช่น ปืนไร้แรงสะท้อน Carl Gustav ของกองทัพบกไทย, ระบบอำนวยการรบและระบบตรวจจับบนเรือฟริเกตของกองทัพเรือไทย,
และกองทัพอากาศไทยที่เป็นลูกค้าหลักสำคัญ นอกจากอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RBS 70 ของอากาศโยธิน ยังมีการเสนอแผนที่จะปรับปรุงเครื่องบินควบคุมและแจ้งเตือนทางอากาศ บ.ค.๑ Saab 340 Saab 340 ERIEYE AEW&C ฝูงบิน๗๐๒ กองบิน๗ ที่ตัวระบบมีอายุการใช้งานมานานด้วย

Saab ยังมองโอกาสสำหรับเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๒๐ Gripen ฝูงที่สอง จากที่กองทัพอากาศไทยมี บ.ข.๒๐/ก Gripen C/D ฝูงบิน๗๐๑ กองบิน๗ อยู่แล้ว เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B Block 15 OCU และ F-16A/B ADF ฝูงบิน๑๐๓ กองบิน๑ โคราช ที่มีอายุการใช้งานมานาน
แม้กองทัพอากาศไทยจะแสดงความตั้งใจของตนชัดเจนว่าต้องการจะทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B ของตนด้วยเครื่องบินขับไล่ยุคที่๕ คือเครื่องบินขับไล่ F-35A เท่านั้น แต่ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯยังไม่ตัดสินใจการอนุมัติการขาย F-35 แก่ไทย การพิจารณาตัวเลือกทดแทนจึงเป็นไปได้
ถ้าการเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ใหม่ทดแทน F-16A/B เกิดขึ้นถ้าสหรัฐฯไม่ขาย F-35 ให้ เครื่องบินขับไล่ Saab Gripen สวีเดนจะต้องแข่งขันกับเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin F-16V Block 70/72 สหรัฐฯ ซึ่งมีข้อได้เปรียบด้านการเปลี่ยนแบบสำหรับกองบิน๑ และผู้ใช้งานทั่วโลกที่มากกว่าครับ

Flying formation of Lockheed Martin F-16A and F-16B of 103rd Squadron, Wing 1 Korat and Lockheed Martin F-16AM and F-16BM of 403rd Squadron, Wing 4 Takhli, Royal Thai Air Force (RTAF). (Sompong Nondhasa)



Lockheed Martin F-16A/B Block 15 OCU and F-16A ADF of 103rd Squadron, Wing 1 Korat aduring Children's Day 2023 on 14 January 2023. (Wisarut Mankit https://www.facebook.com/groups/441463545871708/user/100001917566076/)
Air Chief Marshal (retired) Prapan Dhupatemiya former Commanders-in-Chief of Royal Thai Air Force (1983-1987) was Airman who protects the country and was honored upon his departure.
But Representatives in Parliament said on 2 February 2023 that he doesn't deserve anything from taxpayers?, It become to personally attack on political interest rather than matter on value for the people's tax.

กองทัพอากาศชี้แจงกรณีการทำการบินของเครื่องบิน F-16 
ตามที่ปรากฏข่าวในสื่อสาธารณะ เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566 กรณีความผิดปกติในการใช้เครื่องบิน แบบ F-16 ของกองทัพอากาศนั้น
พลอากาศตรี ประภาส สอนใจดี โฆษกกองทัพอากาศ ชี้แจงถึงการบินดังกล่าว ว่าเป็นการบินทดสอบการปฏิบัติการร่วมในภารกิจการบินลาดตระเวนและแจ้งเตือน 
ซึ่งการปฏิบัติภารกิจนี้เป็นวงรอบการฝึกเพื่อดำรงความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจการป้องกันประเทศ เพื่อบูรณาการขีดความสามารถในการปฏิบัติการตามแผนป้องกันประเทศ
อนึ่ง ในวันดังกล่าว เมื่อสิ้นสุดการปฏิบัติภารกิจการบินทดสอบการปฏิบัติการร่วมแล้ว กองทัพอากาศ ได้นำเครื่องบินในหมู่บินดังกล่าว บินผ่านเพื่อเทิดเกียรติในพิธีลอยอังคารของ พลอากาศเอก ประพันธ์ ธูปะเตมีย์ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ 
ซึ่งเป็นผู้ที่มีคุณูปการในการพัฒนาขีดความสามารถกำลังทางอากาศ โดยท่านเป็นผู้ริเริ่มในการจัดหาเครื่องบินขับไล่อเนกประสงค์สมรรถนะสูงแบบ F-16 เข้าประจำการในกองทัพอากาศไทย 
ซึ่งถือเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนากองทัพอากาศให้มีความทันสมัย พร้อมรองรับความท้าทายและภัยคุกคามในขณะนั้น ที่เป็นยุคสงครามเย็น 
โดยการบินดังกล่าวเป็นการกระทำพิธีให้สมเกียรติ สืบเนื่องมาจาก พิธีพระราชทานเพลิงศพของท่าน ทั้งนี้กองทัพอากาศมุ่งมั่นในการพัฒนากองทัพอากาศ ตามวิสัยทัศน์ของ อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศเพื่อดำรงไว้ซึ่งขีดความสามารถของกองทัพอากาศสืบไป




RTAF completes upgrades to F-5 fighter aircraft fleet
The Royal Thai Air Force's upgraded F-5E/F TH ‘Super Tigris' force has improved combat capabilities. The RTAF expects the aircraft to provide another 10 to 15 years of operational service. (Royal Thai Air Force)

"กองบิน ๒๑ จัดพิธีปิดโครงการปรับปรุงขีดความสามารถ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5TH)"
พลอากาศเอก พงษ์สวัสดิ์ จันทสาร ผู้ช่วยผู้บัญชาการทหารอากาศ (สายงานกิจการพิเศษ) ประธานกรรมการบริหารโครงการปรับปรุงขีดความสามารถ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5TH) เดินทางมาเป็นประธานในพิธีปิดโครงการปรับปรุงขีดความสามารถ บ.ข.๑๘ ข/ค (F-5TH) ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๒ 
ในการนี้ นาวาอากาศเอก ประณต คุณอนันต์ ผู้บังคับการกองบิน ๒๑ ให้การต้อนรับ ณ ลานจอดอากาศยานแผนกช่างอากาศ กองเทคนิค กองบิน ๒๑ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖

พิธีปิดโครงการปรับปรุงขีดความสามารถเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH Super Tigris ระยะที่๑ และระยะที่๒ เมื่อวันที่ ๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ณ ฝูงบิน๒๑๑ กองบิน๒๑ อุบลราชธานี ยังเหลือระยะที่๓ ในการจัดซื้อเก้าอี้ดีดตัว Martin-Baker Mk.16 จำนวน ๑๕ชุดที่จะดำเนินการต่อไป
ทำให้เครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข F-5E TH ๑๑เครื่อง และเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ค F-5F TH ๒เครื่อง สามารถประจำการต่อไปได้ถึงราวปี พ.ศ.๒๕๗๒-๒๕๗๕(2029-2032) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่จะต้องจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ โดยประเทศอื่นเช่นสวิตเซอร์แลนด์จะปลด F-5E/F ของตนในปี 2025
อย่างไรก็กองทัพอากาศไทยยังคงเผชิญกับอุปสรรการขัดขวางจากผู้ไม่หวังดีต่อชาติและสื่อไร้จรรยาบรรณที่คัดค้านการจัดหาเครื่องบินขับไล่ใหม่ทดแทน บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F และ บ.ข.๑๙/ก F-16A/B เห็นได้กรณีโจมตีอดีต ผบ.ทอ.ผู้ล่วงลับว่าไม่มีประโยชน์ที่ประเทศไทยจะมีกองทัพอากาศครับ




The Royal Thai Air Force currently has 12 of T-50TH Golden Eagle lead-in fighter trainer (LIFT) aircrafts in service at 401st Sqaudron, Wing 4 Takhli, seen here on displayed during Children's Day 2023 at Wing 4 on 14 January 2023. (Royal Thai Air Force)
The last two of RTAF's T-50TH "013" (40113) and "014" (40114) are in production line at Korea Aerospace Industries (KAI) in Sacheon, Republic of Korea.

โครงการจัดหาเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ขั้นต้นสำหรับเครื่องบินขับไล่และฝึก บ.ขฝ.๒ T-50TH ระยะที่๑ จำนวน ๔เครื่อง, ระยะที่๒ จำนวน ๘เครื่อง, ระยะที่๓ ในการปรับปรุงขีดความสามารถ และระยะที่๔ จำนวน ๒เครื่อง รวมทั้งหมด ๑๔เครื่อง ที่จะเข้าประจำการในฝูงบิน๔๐๑ กองบิน๔ ตาคลี
รวมงบประมาณทั้งโครงการราว ๑๖,๕๒๐,๐๓๒,๓๗๕บาท($484.5 milion) นอกจากที่กองทัพอากาศไทยจะได้รับระบบอากาศยานเพื่อการฝึกนักบินขับไล่พร้อมรบแบบบูรณาการแล้ว ยังเป็นเครื่องบินรบขนาดเบาที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินโจมตีที่มีขีดความสามารถระดับหนึ่งด้วย
การจัดหาเพิ่มในมาตรฐานเครื่องบินขับไล่โจมตี FA-50 Black 20 อาจเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจในการทดแทนเครื่องบินขับไล่ บ.ข.๑๘ข/ค F-5E/F TH และเครื่องบินโจมตี บ.จ.๗ Alpha Jet TH รวมถึงระเบิดนำวิถีดาวเทียม GBU-38 JDAM ที่แสดงข้อมูลในงานวันเด็ก๒๕๖๖ ที่กองบิน๔ ครับ(https://aagth1.blogspot.com/2023/02/fa-50.html)










Royal Thai Naval Air Division (RTNAD), Royal Thai Fleet (RTF) ,Royal Thai Navy (RTN) first modernized Dornier Do 228NG maritime patrol aircraft (MPA) serial 1114 under US Maritime Security Initiative (MSI) programme at U-Tapao RTN airbase in February 2023. (https://www.facebook.com/groups/229786333883301/posts/2085531461642103)

เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล บ.ลว.๑ Do 228 หมายเลข 1114 ฝูงบิน๑๐๑ กองบิน๑ กองการบินทหารเรือ กบร. กองทัพเรือไทย เครื่องแรกที่ได้รับการปรับปรุงความทันสมัยภายใต้โครงการเสริมสร้างความมั่นคงทางทะเล(MSI: Maritime Security Initiative) โดยรัฐบาลสหรัฐฯ
ได้มีพิธีต้อนรับ ณ ท่าอากาศยานนานาชาติอู่ตะเภา เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ซึ่ง บ.ลว.๑ Do 228 หมายเลข 1112 และหมายเลข 1114 เป็นเครื่องชุดแรก ๒เครื่องที่ถูกส่งไปปรับปรุงความทันสมัยที่ RUAG MRO International ในท่าอากาศยาน Oberpfaffenhofen เยอรมนี
ตั้งแต่ปลายเดือนธันวาคม พ.ศ.๒๕๖๓(2020) เครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล บ.ลว.๑ Do 228NG ที่ได้รับการปรับปรุงขีดความสามารถอย่างครอบคลุม จะมีการดำเนินการต่อเครื่องที่กองทัพเรือไทยมีทั้งหมด ๗เครื่อง ที่จะทำให้สามารถประจำการต่อไปได้อีกถึง ๑๕-๒๐ปีครับ




Admiral Choengchai Chomchoengphaet, the commander-in-chief of Royal Thai Navy (RTN) was attend to opening ceremony for Naval Exercise Fiscal Year 2023 on 10 February 2023.
The demonstration include FK-3 medium-range air-defence system and Dzhigit launcher with two Igla-S on Thairung Transformer 4x4 short-range air-defence system of Air and Coastal Defense Command (ACDC). (Royal Thai Navy)



ทันสมัย ระยะยิงไกลที่สุดของกองทัพไทย ...ระบบอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยาน FK3 ของสอ.รฝ. จรวดมีระยะยิงไกลสุด 100 กม. เรดาร์ติดตามเป้าหมายได้ไกล  142 กม. Photo Sompong Nondhasa

หลังจากที่มีการจัดแสดงเป็นการภายในหน่วยของกองทัพเรือไทย อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศระยะปานกลางแบบเคลื่อนที่ FK-3 และอาวุธนำวิถีต่อสู้อากาศยานระยะใกล้แบบเคลื่อนที่ Igla-S ของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง สอ.รฝ. ก็ได้เปิดตัวต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก
ระหว่างพิธีเปิดการฝึกกองทัพเรือประจำปี ๒๕๖๖ ณ กองบัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน ค่ายกรมหลวงชุมพรฯ อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ โดยมี พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือไทย เป็นประธานในพิธี และรับชมการสาธิตปฏิบัติการ
การฝึกกองทัพเรือประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๖ ที่เริ่มต้นตั้งแต่วันที่ ๒๘ พฤศจิกายน พ.ศ.๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๒๒ มิถุนายน พ.ศ.๒๕๖๖ ยังรวมถึงการยิงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่พื้น RGM-84D Harpoon Block 1C จากเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชุดเรือหลวงกระบี่ เรือหลวงประจวบคีรีขันธ์ ในทะเลอันดามันด้วย

อย่างไรก็ตามคำถามจากสื่อมวลชนที่เข้าร่วมงานต่อ ผบ.ทร.ยังคงเป็นประเด็นเกี่ยวกับเหตุอับปางของเรือหลวงสุโขทัย เมื่อวันที่ ๑๘ ธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งกองทัพเรือยังคงยืนยันว่าจะปฏิบัติการค้นหาลูกเรือที่ยังสูญหาย ๕นายต่อไปและมีการชดเชยให้แก่กำลังพลที่รอดชีวิต เสียชีวิต และสูญหายแล้ว
และการกู้ ร.ล.สุโขทัย ที่จมในอ่าวไทยลึกราว 40m ถูกประเมินว่าจะใช้วงเงินเกิน ๒๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($5,925,224) จากที่ก่อนหน้านี้ประเมินว่าอยู่ที่ราว ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐บาท($2,992,758) ซึ่งกองทัพเรือไทยต้องการกู้เรือขึ้นมาในสภาพสมบูรณ์เพื่อหาหลักฐานของเหตุการณ์และนำเรือกลับมาใช้ใหม่
แต่ทว่าเรื่องนี้กำลังได้รับการคัดค้านอย่างหนักจากกลุ่มเคลื่อนไหวที่ต้องการจะกำจัดความสามารถกองทัพเรือ ซึ่งรวมถึงการตัดงบประมาณกลาโหมและลดขนาดกองทัพ ที่ถ้าเกิดขึ้นจะส่งผลลบต่อทหารเรือชั้นผู้น้อยที่เป็นผู้ปฏิบัติงานจริงและทุกโครงการที่จะทำอะไรไม่ได้เลยเพราะขาดคนและเงินครับ




Sattahip Naval Base, Royal Thai Navy, held a welcome ceremony for Royal Navy ship, P234 HMS Spey visit and PASSEX at Chuk Samet Port, Sattahip, Chonburi. 
The ship visit is scheduled between February 20 - March 1, 2023. (Royal Thai Navy)

การเดินทางเยือนกองทัพเรือไทยและฝึก PASSEX ในอ่าวไทยของเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P234 HMS Spey กองทัพเรือสหราชอาณาจักรระหว่างวันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์-๑มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖ เป็นส่วนหนึ่งของการวางกำลังในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกระยะเวลา ๕ปี เพื่อแสดงความร่วมมือกับมิตรประเทศ 
เรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง P234 HMS Spey และ P233 HMS Tamar ที่กองทัพเรือสหราชอาณาจักรส่งมาวางกำลังในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก เป็น เป็นเรือตรวจการณ์ไกลฝั่งชั้น River Batch 2 สองลำสุดท้ายจากทั้งหมด ๕ลำ ซึ่งใช้แบบเรือตรวจการณ์ 90m OPV ของบริษัท BAE Systems Maritime
ซึ่งได้ถูกสร้างในไทยเข้าประจำการในกองทัพเรือไทยคือเรือตรวจการณ์ไกลฝั่ง ร.ล.กระบี่ และ ร.ล.ประจวบคีรีขันธ์ BAE Systems และบริษัทอู่กรุงเทพ(Bangkok Dock) ไทย ยังเสนอแบบเรือฟริเกตเบาในโครงการสร้างเรือฟริเกตสมรรถนะสูงใหม่ในไทยด้วยครับ(https://aagth1.blogspot.com/2022/09/defense-security-2022-90m-opv.html)







An F-35B Lightning II, assigned to Marine Fighter Attack Squadron (VMFA) 122, 13th Marine Expeditionary Unit (MEU), lands on the flight deck of amphibious assault ship USS Makin Island (LHD 8) in the Gulf of Thailand, Feb. 22, 2023. 



การฝึกร่วมผสม Cobra Gold 2023 ได่เริ่มขึ้นแล้วตามพิธีเปิดการฝึกเมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ ที่จะดำเนินไปจนถึงวันที่ ๑๐ มีนาคม ๒๕๖๖ ซึ่งมีกำลังจากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐฯ อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ กองกำลังป้องกันตนเองญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี และอีกหลายชาติเข้าร่วม
กองทัพเรือสหรัฐฯได้นำเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ LHD-8 USS Makin Island วางกำลังด้วยเครื่องบินขับไล่ F-35B ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธิน VMFA-122 และอากาศยานใบพัดกระดก MV-22B ฝูงบินอากาศยานใบพัดกระดกขนาดกลางนาวิกโยธิน(เสริมกำลัง) VMM-362(Rein.)
ซึ่งเป็นครั้งที่สองที่สหรัฐฯได้นำเครื่องบินขับไล่ F-35 มาฝึกในไทยหลังการฝึก Cobra Gold 2020 ที่นำเรือยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์จู่โจม LHA-6 USS America วางกำลังด้วย F-35B ฝูงบิน VMFA-121 ซึ่งยังมีการพบว่า F-35B ฝูงบิน VMFA-122 ล่าสุดมาลงจอดที่สนามบินอู่ตะเภาด้วยครับ



Field Training Exercise (FTX) of Joint Operation Civilian, Police and Military exercise for Fiscal Year 2023 at training area in Lopburi Province on 11 February 2023 
involved Royal Thai Air Force (RTAF)'s Saab RBS 70 air defence missile on Thairung 4x4 and Type 74 37mm anti-air artillery of RTAF Security Force Command and Royal Thai Army (RTA)'s Starstreak air defence missile on Type 51 utility vehicle of 1st Anti-Aircraft Artillery Battalion, 2nd Anti-Aircraft Artillery Regiment Royal Guard, Anti-Aircraft Artillery Division. (SMART Soldiers Strong Army)

การฝึกปฏิบัติการร่วม พลเรือน ตำรวจ ทหาร ประจำปี ๒๕๖๖ กฝร.พตท.๖๖ ในส่วนการฝึกภาคสนามที่สนามฝึกบ้านดีลัง จังหวัดลพบุรีระหว่างวันที่ ๑๑-๑๖ กุมภาพันธ์ พ.ศ.๒๕๖๖ กองทัพบกไทย และกองทัพอากาศไทยได้นำระบบป้องกันภัยทางอากาศของตนร่วมการฝึกบูรณาการหลายแบบรวมถึงอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ Saab RBS 70 บนรถยนต์บรรทุก Thairung อากาศโยธิน กองทัพอากาศไทย และ Thales UK Starstreak บนรถยนต์บรรทุก รยบ.๕๑ กองพันทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๑ กรมทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยานที่๒ กองพลทหารปืนใหญ่ต่อสู้อากาศยาน กองทัพบกไทย
ที่ในโครงการจัดหาระบบป้องกันฐานบิน(GBAD: Ground-Based Air Defence) ใหม่ของกองทัพอากาศไทย Saab สวีเดนจะเสนอ RBS 70NG รุ่นใหม่ และ Thales UK จะเสนอ Starstreak พร้อมระบบ ForceSHIELD ซึ่งต่างเป็นการบูรณาการแท่นยิงอัตโนมัติและ radar เข้ากับรถยนต์ของไทยครับ




FV101 Scorpion CVR(T) light tank of 27th Cavalry Battalion, 2nd Cavalry Division Royal Guard, Royal Thai Army has accident during Joint Operation Civilian, Police and Military FY2023 exercise at training area in Lopburi Province on 14 February 2023,
Two crews Master Sergeant and 3rd year class cadet of Chulachomklao Royal Military Academy have seriously injured and later killed in action. (SMART Soldiers Strong Army/Sompong Nondhasa)

ด่วน!เกิดเหตุรถถังเบา Scorpion พลิกตะแคงพลประจำรถเสียชีวิตรวม 2 นาย 
…วันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 0740 น. ณ พื้นที่ฝึกศูนย์การทหารปืนใหญ่ บ้านดีลัง จ.ลพบุรี ซึ่งมีกำลังพลจากหน่วยงานด้านความมั่นคงเข้าร่วมในการฝึกปฏิบัติการร่วม พลเรือน ตำรวจ ทหารประจำปี 2566 
ในระหว่างการเคลื่อนพลด้วยยานพาหนะเข้าพื้นที่ฝึกได้เกิดอุบัติเหตุ  รถบรรทุกทหารขนาด 2 ตันครึ่ง แบบ FTS ขับสวนทางกับรถถังเบาแบบ 21 Scorpion ทำให้รถทั้ง 2 คันต้องทำการเลี้ยวหักหลบ ส่งผลให้ รถถัง Scorpion ที่เลี้ยวหักหลบรถ FTS ปีนขึ้นเนินดิน และพลิกตะแคงในที่สุด 
เป็นเหตุให้ผู้เข้ารับการฝึกได้รับบาดเจ็บสาหัส 2 นาย ได้แก่ จ่าสิบเอก สง่า จ้อยโถ สังกัด กองพันทหารม้าที่ 27 กองพลทหารม้าที่ 2 รักษาพระองค์ และนักเรียนนายร้อย ภูวนัย กำลังดี นักเรียนนายร้อยชั้นปีที่ 3 
ซึ่งกองอำนวยการฝึกได้เข้าช่วยเหลือและใช้เฮลิคอปเตอร์พยาบาลแบบ 145 ลำเลียงผู้บาดเจ็บไปรับการรักษาที่โรงพยาบาลอานันทมหิดลโดยทันที ทีมแพทย์ได้ให้การรักษาในภาวะวิกฤตฉุกเฉินอย่างเต็มศักยภาพ แต่อาการบาดเจ็บรุนแรงจนทำให้กำลังพลทั้ง 2 นาย เสียชีวิตในเวลาต่อมา 
ในช่วงเกิดเหตุ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก ซึ่งอยู่ในระหว่างการตรวจเยี่ยมการฝึกได้รับทราบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มีโอกาสพบปะ แสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้หน่วยต้นสังกัดดูแลการจัดพิธีศพอย่างสมเกียรติ 
เนื่องจากทั้ง 2 นาย เสียชีวิตในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ รวมถึงการดูแลอำนวยความสะดวกให้กับครอบครัวอย่างเต็มที่ ...อย่างไรก็ตาม จะมีการตั้งคณะกรรมการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริง แก่หน่วยงานและครอบครัวนำไปดำเนินการตามระเบียบของทางราชการต่อไป
...Photo Sompong Nondhasa