วันเสาร์ที่ 4 มีนาคม พ.ศ. 2566

การยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก AMPHIBEX ในการฝึก Cobra Gold 2023






























Amphibious Exercise
On March 3, 2023, at 10 a.m., Admiral Choengchai Chomchoengpaet, Commander-in-Chief of the Royal Thai Navy; 
Mrs. Gwendolyn Cardno, Deputy Chief of Mission at the U.S. Embassy in Bangkok; and Mr. Moon Seoung-hyun, Ambassador of the Republic of Korea to Thailand 
visited the site of Cobra Gold 2023’s Amphibious Exercise at the Naval Training Field No. 15, in Hat Yao, Satthahip district, Chonburi province. 
During the amphibious exercise, naval ships and an amphibious combat unit seized an opposing force’s beachhead.  
The unit used naval artillery to fire a volley while aircraft simultaneously provided airborne support to decrease the opposing force’s ability to return fire.  
After reaching the beachhead, the amphibious combat unit breached the opposing force’s territory and secured the beachhead.  
Participating in this year’s exercise were Thai, U.S., and Korean forces, the USS Makin Island (LHD-8), U.S. F-35 fighters and other U.S. equipment, 
the Royal Thai Navy’s HTMS Angthong and HTMS Rawi, the Royal Thai Marine’s amphibious combat unit and vehicles, and Royal Thai Air Force F-16 fighters and KAVV amphibious vehicles from the Republic of Korea.
The amphibious exercise aimed to build the capacity of participating military forces during allied joint operations, in order to bolster the Royal Thai Armed Forces’ confidence in all domain operations.  
The exercise also strengthened the bonds among allies, ensuring continual national security.
Combined Joint Information Bureau (CJIB) 
Exercise Headquarter Cobra Gold 2023 
March 3, 2023

การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก 
วันที่ ๓ มีนาคม ๒๕๖๖ เวลา ๑๐.๐๐ นาฬิกา พลเรือเอก เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ พร้อมด้วยคุณ เกว็นโดลิน คาร์ดโน อัครราชทูตที่ปรึกษา ณ สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย 
และนาย มุนซึงฮยอน (Moon Seoung-hyun) เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ร่วมตรวจเยี่ยมการฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในการฝึกคอบร้าโกลด์ ๒๐๒๓ ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข ๑๕ หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี 
การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก มีหลักปฏิบัติเพื่อแย่งยึดพื้นที่บริเวณหัวหาดของฝ่ายตรงข้าม โดยใช้สรรพกำลังทางเรือ และกำลังรบยกพลขึ้นบก เริ่มจากการระดมยิงหัวหาดด้วยปืนใหญ่เรือ อากาศยานทำการสนับสนุนทางอากาศอย่างใกล้ชิด เพื่อลิดรอนอำนาจการยิงต่อต้านของข้าศึก 
หลังจากนั้นกำลังรบยกพลขึ้นบกจะเข้าแตะหาด และดำเนินกลยุทธ์รุกเข้าไปในดินแดนฝ่ายตรงข้ามต่อไป พร้อมทั้งสถาปนาหัวหาดให้มีความปลอดภัยต่อกำลังรบ ซึ่งในปีนี้มีกำลังพลเข้าร่วมการฝึกจากกองทัพไทย กองทัพสหรัฐอเมริกา และกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี 
โดยกองทัพสหรัฐอเมริกาได้นำเรือ USS Makin Island (LHD-8) และเครื่องบินขับไล่แบบ F-35 พร้อมอาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหารต่าง ๆ มาเข้าร่วมการฝึกฯ ร่วมกับกองกำลังฝ่ายไทย 
โดยกองทัพเรือได้นำเรือหลวงอ่างทอง และเรือหลวงราวี พร้อมกำลังรบยกพลขึ้นบก (นาวิกโยธิน) และรถสะเทินน้ำสะเทินบก ร่วมกับกองทัพอากาศ ซึ่งได้จัดเครื่องบินขับไล่แบบ F-16 เข้าร่วมการฝึกฯ 
สำหรับกองทัพสาธารณรัฐเกาหลี ได้นำรถสะเทินน้ำสะเทินบก KAAV เข้าร่วมในการฝึกฯ ครั้งนี้ด้วย
การฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก ในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความพร้อมรบและพัฒนาขีดความสามารถทางทหาร รวมทั้งแสดงแสนยานุภาพทางทหาร ในการปฏิบัติการร่วมกันของกองทัพพันธมิตร เพื่อสร้างความมั่นใจให้กองทัพไทยมีความพร้อมรบทุกมิติ 
รวมทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างมิตรประเทศ และความร่วมมือทางทหารอันเป็นหลักประกันความมั่นคงของชาติตลอดไป
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการฝึกคอบร้าโกลด์ ๒๐๒๓
๓ มีนาคม ๒๕๖๖

การฝึกร่วมผสม Cobra Gold 2023 ระหว่างวันที่ ๒๗ กุมภาพันธ์-๑๐ มีนาคม พ.ศ.๒๕๖๖(2023) ในส่วนการฝึกการยุทธ์สะเทินน้ำสะเทินบก(AMPHIBEX: Amphibious Exercise) ปีนี้ได้กลับมาจัดการฝึกแบบเต็มรูปแบบได้อีกครั้งหลังลดระดับลงมาหลายปีจากสถานการณ์ระบาด Covid-19
การฝึก ณ สนามฝึกกองทัพเรือ หมายเลข๑๕ หาดยาว อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี ในส่วนกำลังจากกองทัพเรือไทย(RTN: Royal Thai Navy) ประกอบด้วยเรืออู่ยกพลขึ้นบก เรือหลวงอ่างทอง(LPD-791 HTMS Angthong) และเรือระบายพลขนาดใหญ่ เรือหลวงราวี(LCU-785 HTMS Ravi) 

นาวิกโยธินไทย(RTMC: Royal Thai Marine Corps) รวมถึงรถสะเทินน้ำสะเทินบก AAV7A1 RAM/RS กองพันรถสะเทินน้ำสะเทินบก พัน.รยบ.(Marine Assault Amphibian Vehicle Battalion) และชุดปฏิบัติการจาก กองพันลาดตระเวน พัน.ลว.นย.(Reconnaissance Battalion)
กำลังจากกองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ประกอบด้วยเรืออู่ยกพลขึ้นบกบรรทุกเฮลิคอปเตอร์ชั้น Wasp LHD-8 USS Makin Island, เรืออู่ยกพลขึ้นบกชั้น San Antonio LPD-23 USS Anchorage และ LPD-26 USS John P. Murtha และยานเบาะอากาศ LCAC(Landing Craft Air Cushion)

วางกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps) หน่วยนาวิกโยธินโพ้นทะเลที่13(13th MEU: Marine Expeditionary Unit) รวมถึงยานเกราะล้อยางสะเทินน้ำสะเทินบก LAV-25 และรถยนตร์บรรทุก HMMWV และฝูงบินอากาศยานขนาดกลางนาวิกโยธินที่362 (VMM-362 (Rein.))
ประกอบด้วยอากาศยานใบพัดกระดก MV-22B Osprey และเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงหนัก CH-53E Sea Stallion และเครื่องบินขับไล่ F-35B  Lightning II ฝูงบินขับไล่โจมตีนาวิกโยธินที่122 VMFA-122 ซึ่งนี่เป็นครั้งที่สองที่สหรัฐฯนำ F-35 มาฝึกในไทยหลังครั้งแรกในการฝึก Cobra Gold 2020(https://aagth1.blogspot.com/2020/02/lha-6-uss-america-cobra-gold-2020.html)

กำลังจากนาวิกโยธินสาธารณรัฐเกาหลี(RoKMC: Republic of Korea Marine Corps) ประกอบด้วยรถสะเทินน้ำสะเทินบก KAAV และปืนใหญ่อัตตาจรสายพาน K55 และกองทัพเรือสาธารณรัฐเกาหลี(RoKN: Republic of Korea Navy) เรือยกพลขึ้นบก LST-688 ROKS Il Chul Bong
กองทัพอากาศไทยยังได้นำเครื่องบินขับไล่แบบที่๑๙/ก Lockheed Martin F-16AM/BM EMLU ฝูงบิน๔๐๓ กองบิน๔ ตาคลี เข้าร่วมการฝึกด้วย แม้ว่าการฝึกปีนี้จะไม่ได้มียุทโธปกรณ์เข้าร่วมมากนักเช่นรถถังหลักหรือเฮลิคอปเตอร์โจมตี แต่ก็ยังแสดงถึงความพร้อมระหว่างไทยและมิตรประเทศครับ