US Navy embarks F-35C on first operational deployment
A small number of F-35Cs can be seen on the flight deck of USS Carl Vinson as
it departs San Diego, although a number may have been located below deck. (US
Navy)
https://www.janes.com/defence-news/news-detail/us-navy-embarks-f-35c-on-first-operational-deployment
กองทัพเรือสหรัฐฯ(USN: US Navy) ได้วางกำลังเครื่องบินขับไล่ Lockheed Martin
F-35C Lightning II Joint Strike Fighter(JSF)
บนเรือบรรทุกเครื่องบินในการออกปฏิบัติการครั้งแรกของตน
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2021 เครื่องบินขับไล่ F-35C CV(Carrier Variant)
รุ่นใช้งานบนเรือบรรทุกเครื่องบินจากฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-147
'Argonauts'(Strike Fighter Squadron)(https://aagth1.blogspot.com/2019/03/f-35c.html)
ได้เข้าร่วมกองเรือบรรทุกเครื่องบินโจมตีที่1(CSG1: Carrier Strike Group 1),
กองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2(CVW-2: Carrier Air Wing 2)
บนเรือบรรทุกเครื่องบิน CVN-70 USS Carl Vinson
เพื่อการวางกำลังส่วนหน้าครั้งแรกของ F-35C
"USS Carl Vinson
เป็นเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกที่รองรับการผสมเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่4
และเครื่องบินขับไล่โจมตียุคที่4
เพื่อมอบอำนาจการสังหารและความอยู่รอดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน
และสร้างความมั่นใจแก่ทีมกองทัพเรือสหรัฐฯว่าจะสามารถปฏิบัติการและชนะในสนามรบที่มีการแข่งขันในปัจจจุบันและเช่นเดียวกับการเข้าสู่อนาคต"
นาวาเอก Tommy Locke ผู้บังคับการกองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2 กล่าว
ขณะที่กองทัพเรือสหรัฐฯไม่ได้เปิดเผยจำนวนเครื่องบินขับไล่ F-35C
ที่วางกำลังบนเรือบรรทุกเครื่องบิน USS Carl Vinson
ภาพถ่ายของเรือที่กำลังออกเรือจากท่าเรือ San Diego มลรัฐ California
แสดงให้เห็นถึงอากาศยานสี่แบบบนดาดฟ้าบินเรือ
อากาศยานบนเรือบรรทุกเครื่องบิน CVN-70 USS Carl Vinson
เหล่านี้ประกอบด้วยเครื่องบินขับไล่ที่นั่งเดี่ยวและสองที่นั่ง Boeing F/A-18E/F
Super Hornet และเครื่องบินโจมตีสงคราม Electronic แบบ Boeing EA-18G Growler รวม
24เครื่องและอากาศยานแบบอื่นๆ
อย่างไรก็ตามไม่เป็นที่ทราบว่ามีเครื่องบินขับไล่ F-35C
อีกกี่เครื่องที่อยู่ในโรงเก็บอากาศยานใต้ดาดฟ้าในเวลาที่ถ่ายภาพ โดยนอกจาก F-35C
ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-147 กองบินเรือบรรทุกเครื่องบินที่2 CVW-2
ยังมีฝูงบินขับไล่โจมตีและโจมตี Electronic หน่วยขึ้นตรงประกอบด้วย
ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-2 'Bounty Hunters'(F/A-18F), ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-113
'Stingers'(F/A-18E), ฝูงบินขับไล่โจมตี VFA-192 'Golden Dragons'(F/A-18E)
และฝูงบินโจมตี Electronic VAQ-136 'Gauntlets'(EA-18G)
F-35C
ได้รับการออกแบบโดยเฉพาะสำหรับปฏิบัติการบนเรือบรรทุกเครื่องบินกองทัพเรือสหรัฐฯ
ต่างจากเครื่องบินขับไล่ F-35A CTOL(Conventional Take-Off and Landing)
รุ่นขึ้นลงตามแบบ
และเครื่องบินขับไล่ F-35B STOVL(Short Take-Off and Vertical Landing)
รุ่นบินขึ้นระยะสั้นลงทางดิ่ง ที่เป็นเครื่องบินขับไล่ในตระกูล F-35 JSF
เช่นเดียวกัน
(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35.html,
https://aagth1.blogspot.com/2021/06/f-35.html,
https://aagth1.blogspot.com/2020/01/f-35.html,
https://aagth1.blogspot.com/2020/01/lockheed-martin-f-35.html)
เครื่องบินขับไล่ F-35C
มีคุณสมบัติพื้นที่ปีกขนาดใหญ่เพื่อลดความเร็วลงจอดและมีความจุเชื้อเพลิงที่มากขึ้น,
ปลายปีกที่พับได้เพื่อง่ายต่อการจอดและเข้าโรงเก็บอากาศยานบนเรือบรรทุกเครื่องบิน,
เพิ่มความแข็งแรงในส่วนโครสร้างอากาศยานช่วงล่างเพื่อรองรับอัตราร่วงหล่นที่รุนแรงเมื่อลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน
เช่นเดียวกับสลักยึดกับรางดีดส่งอากาศยาน catapult ที่ฐานล้อลงจอดส่วนหัว
และตะขอเกี่ยวลวดสำหรับรับกลับมาลงจอดบนเรือบรรทุกเครื่องบิน
ในเดือนกรกฎาคม 2021 นาวิกโยธินสหรัฐฯ(USMC: US Marine Corps)
ได้ประกาศประกาศความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตรา(FOC: Full Operational Capability)
ของ F-35C ของตนซึ่งจะถูกนำมาวางกำลังบนเรือบรรทุกเครื่องบินเช่นกันครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/f-35c.html)