วันพุธที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562

สิงคโปร์ปลดประจำการเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศ KC-135R

Singapore air force concludes KC-135R operations





A RSAF KC-135R Stratotanker preparing for take-off during an overseas exercise. The service’s fleet of four Stratotankers has now been retired in favour of six Airbus A330 MRTTs. Source: IHS Markit/Kelvin Wong
https://www.janes.com/article/92483/singapore-air-force-concludes-kc-135r-operations


กองทัพอากาศสิงคโปร์(RSAF: Republic of Singapore Air Force) ได้ยุติการปฏิบัติการเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ Boeing KC-135R Stratotanker ของตนทั้ง 4เครื่องในเดือนมิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา
โดยเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ Airbus A330 MRTT(Multi-Role Tanker Transport) ใหม่ 6เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2018/09/airbus-a330-mrtt.html)
จะมาทดแทนในภารกิจเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ(AAR: Air-to-Air Refuelling), การสนับสนุนการลำเลียงทางอากาศ และการส่งกลับทางสายแพทย์ทางอากาศ

กองทัพสิงคโปร์(SAF: Singapore Armed Forces) เปิดเผยเรื่องนี้อย่างเป็นทางการระหว่างการบรรยายสรุปต่อสื่อที่จัดขึ้น ณ ฝูงบิน112 เมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2019
กองทัพอากาศสิงคโปร์ได้จัดหาเครื่องบินเติมเชื่อเพลิงทางอากาศ KC-135A Stratotanker ที่เคยประจำการในกองทัพอากาศสหรัฐฯ(USAF: United States Air Force) 4เครื่อง ในปี 1996 ซึ่งเป็นที่เข้าใจว่ามีวงเงินประมาณ $280 million ในเวลานั้น
เพื่อเติมเต็มฝูงเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ Lockheed Martin KC-130B จำนวน 4เครื่อง และเครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ KC-130H Hercules จำนวน 1เครื่องที่กองทัพอากาศสิงคโปร์มีใช้งานอยู่

KC-135A Stratotanker ทั้ง 4เครื่องได้รับการปรับปรุงเป็นมาตรฐานรุ่น KC-135R โดยบริษัท Boeing สหรัฐฯที่นำมาจากเครื่องที่เก็บรักษาไว้ กลุ่มซ่อมบำรุงและฟื้นฟูอากาศยาน(Aerospace Maintenance and Regeneration Group) ฐานทัพอากาศ Davis-Monthan AFB(Air Force Base)
และส่งมอบให้กองทัพอากาศสิงคโปร์ที่ส่วนแยกการฝึก Peace Guardian ที่จัดตั้งขึ้นใหม่ ณ ฐานทัพอากาศ McConnell AFB กองทัพอากาศสหรัฐฯในมลรัฐ Kansas ตั้งแต่ปี 1999
KC-135R เครื่องแรกเดินทางกลับมาถึงสิงคโปร์ในปี 2000 โดยประจำการ ณ ฝูงบิน112 ที่ตั้งที่ฐานทัพอากาศ Changi(ตะวันตก) และบรรลุความพร้อมปฏิบัติการเต็มอัตรา(FOC: Full Operational Capability) ในเดือสิงหาคม 2002

การปรับปรุงหลักของการเข้าสู่มาตรฐาน KC-135R รวมถึงเครื่องยนต์ไอพ่น Turbofan แบบ CFM International CFM56(F108) ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นร้อยละ25 ที่ความเร็วเดินทาง และมีความน่าเชื่อถือมากกว่าเครื่องยนต์ไอพ่น Turbojet แบบ J57 ดั้งเดิม
ทั้งยังได้รับประโยชน์จากห้องนักบินแบบ Glass Cockpit และชุด Avionic ใหม่ภายใต้โครงการ Pacer CRAG(Compass, Radar, and GPS) ของกองทัพอากาศสหรัฐฯ ซึ่งลดภาระงานตามระบบการทำงานอัตโนมัติหลายอย่างของห้องนักบิน และควบคู่ไปกับเทคนิควิศวกรรมปัจจัยมนุษย์สมัยใหม่
นี่ทำให้เครื่องบินเติมเชื้อเพลิงทางอากาศ KC-135R สามารถจะปฏิบัติการได้โดยปราศจากการมีตำแหน่งเจ้าหน้าที่นำร่อง(Navigator) และลดลูกเรือในห้องนักบินลงเหลือ 2นาย

KC-135R สิงคโปร์ได้เคยทำภารกิจช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม(HADR: Humanitarian Aid and Disaster Relief) หลายปฏิบัติการ เช่น เหตุ Tsunami ทะเลอันดามันปี 2004, น้ำท่วมใหญ่กรุงเทพฯ ไทยปี 2011, วิกฤตผู้อพยพจากรัฐยะไข่ในพม่าที่บังคลาเทศ และแผ่นดินไหวเมือง Christchurch นิวซีแลนด์ ปี 2011
รวมถึงปฏิบัติการทางทหารในการวางกำลังที่อ่าวเปอร์เซีย ตะวันออกกลาง เพื่อสนับสนุนการเติมเชื้อเพลิงกลางอากาศแก่อากาศยานกำลังผสมพันธมิตรนานาชาติในปฏิบัติการที่อัฟกานิสถานและอิรักปี 2004-2008
ตลอดจนการฝึกผสมทางอากาศกับกองทัพมิตรประเทศ เช่น การฝึกผสมทางอากาศ Cope Tiger ที่ประเทศไทย, Pitch Black ที่ออสเตรเลีย และ Red Flag-Alaska ที่สหรัฐฯ ตลอดระยะเวลาที่เครื่องประจำการในกองทัพอากาศสิงคโปร์ครับ