วันเสาร์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2564

ญี่ปุ่นทำพิธีปล่อยเรือฟริเกตอเนกประสงค์ชั้น Mogami ลำที่สี่ลงน้ำ FFM-4 Mikuma

Japan’s MHI Launches ‘Mikuma’ Fourth FFM Mogami-class Frigate for JMSDF






Launch ceremony of the fourth Mogami-class frigate “Mikuma”. JMSDF picture. 



อู่เรือ Nagasaki Shipyard & Machinery Works บริษัท Mitsubishi Heavy Industries(MHI) ญี่ปุ่นในจังหวัด Nagasaki ได้ทำพิธีปล่อยเรือลงน้ำของเรือฟริเกตอเนกประสงค์ชั้น Mogami ลำที่สี่
เรือฟริเกต FFM-4 JS Mikuma (หมายเลขเรือ 4)  สำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น(JMSDF: Japan Maritime Self-Defense Force) เมื่อวันที่ 10 ธันวาคม 2021

เรือลำแรกของเรือฟริเกตชั้น Mogami คือเรือฟริเกต FFM-1 JS Mogami ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2021 ณ อู่เรือ Nagasaki(https://aagth1.blogspot.com/2021/03/ffm-1-mogami.html
เรือลำที่สองของชั้นเรือฟริเกต FFM-2 JS Kumano ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 2020 ณ อู่เรือ Tamano Works ของบริษัท Mitsui จังหวัด Okayama(https://aagth1.blogspot.com/2020/11/ffm-2-kumano.html)
และเรือลำที่สามของชั้นเรือฟริเกต FFM-3 JS Noshiro ถูกปล่อยลงน้ำเมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2021 ณ อู่เรือ Nagasaki(https://aagth1.blogspot.com/2021/06/mogami-ffm-3-noshiro.html)

เรือฟริเกต FFM-4 Mikuma ถูกตั้งชื่อตามแม่น้ำ Mikuma ที่ตั้งในจังหวัด Oita บนเกาะ Kyushu ซึ่งเคยถูกตั้งเป็นชื่อเรือลาดตระเวนหนักชั้น Mogami ลำที่สอง ที่ถูกจมโดยเครื่องบินโจมตีของกองทัพเรือสหรัฐฯในสมรภูมิ Midway เดือนสิงหาคมปี 1942
ต่อมาหลังสงครามถูกตั้งเป็นชื่อเรือพิฆาตคุ้มกันชั้น Chikugo ลำที่สาม คือเรือพิฆาตคุ้มกัน DE-217 JDS Mikuma โดยเข้าประจำการในกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่นในปี 1971 และปลดประจำการลงในปี 1997

เรือฟริเกต FFM-4 Mikuma จะได้รับการดำเนินการเข้าสู่ระยะการติดตั้งอุปกรณ์และอาวุธเพิ่มเติมก่อนเข้าสู่การส่งมอบเรือและขึ้นระวางประจำการที่มีกำหนดในสิ้นปี2022 ถึงต้นปี 2023
เรือฟริเกตชั้น Mogami หรือรู้จักในชื่อโครงการเรือฟริเกต 30FFM เป็นเรือฟริเกตอเนกประสงค์ยุคหน้าสำหรับกองกำลังป้องกันตนเองทางทะเลญี่ปุ่น ซึ่งคาดว่าจะได้รับการสั่งจัดหารวมทั้งหมด 22ลำ เรือชั้นนี้ทั้งหมดถูกตั้งชื่อตามแม่น้ำสายสำคัญของญี่ปุ่น

ตามข้อมูล MHI ญี่ปุ่นเรือฟริเกตอเนกประสงค์ชั้น Mogami มีระวางขับน้ำเต็มที่ประมาณ 5,500 tonne ความยาวตัวเรือ 132.5m กว้าง 16.3m และกินน้ำลึก 9m กำลังพลประจำเรือค่อนข้างน้อยที่ราว 90นาย จากการใช้ระบอัตโนมัติต่างๆเป็นจำนวนมาก
ติดตั้งระบบขับเคลื่อนแบบ CODAG(Combined Diesel and Gas) ประกอบด้วยเครื่องยนต์ดีเซลแบบ MAN 12V28/33D STC สองเครื่องและเครื่องยนต์ gas turbine แบบ Rolls-Royce MT30 หนึ่งเครื่อง ทำความเร็วสูงสุดได้ที่เกิน 30 knots

ระบบอาวุธที่ติดตั้งประกอบด้วยปืนเรือ BAE Systems Mk 45 mod 4 ขนาด 5"/62cal, ป้อมปืน Remote Weapon System ขนาด 12.7mm สองแท่นยิง, แท่นยิงแนวดิ่ง Mk 41 VLS(Vertical Launch System), 
ระบบป้องกันระยะประชิด(CIWS: Close-In Weapon System) อาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ SeaRAM หนึ่งแท่นยิง, แท่นยิงอาวุธปล่อยนำวิถีต่อต้านเรือผิวน้ำ Type 17(SSM-2) สองแท่น 8นัด และทุ่นระเบิดสำหรับสงครามทุ่นระเบิด

รวมถึง Radar ตรวจการณ์หลายรูปแบบการทำงาน Mitsubishi Electric OPY-2, กล้อง EO/IR(Electro-Optic/Infrared) แบบ Mitsubishi Electric OAX-3, Sonar ต่อต้านทุ่นระเบิด Hitachi OQQ-11,
sonar ลากท้าย VDS/TASS(Variable Depth Sonar/Towed Array Sonar System) แบบ NEC OQQ-25 และยานใต้น้ำไร้คนขับ UUV(Unmanned Underwater Vehicle) แบบ MHI OZZ-5 และยานผิวน้ำไร้คนขับ USV(Unmanned Surface Vessel)

ขั้นต้นเรือฟริเกตชั้น Mogami ยังไม่ได้รับการติดตั้งแท่นยิงแนวดิ่ง Mk 41 VLS ในลักษณะเตรียมการไว้แต่ยังไม้ได้ติด(FFBNW: fitted for but not with) การเปลี่ยนแปลงมีขึ้นตามข้อมูลในปลายเดือนพฤศจิกายน 2021
กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่นประกาศเสริมงบประมาณประจำปี 2021 ซึ่งรวมถึงงบประมาณสำหรับแท่นยิง Mk41 VLS สองชุดสำหรับเรือฟริเกตชั้น Mogami งบประมาณกลาโหมเสริมวงเงินราว $6.8 billion ซึ่งวงเงินราว $74 millionมีขึ้นสำหรับเพื่อจัดหาชุดแท่นยิง VLS

เรือฟริเกตชั้น Mogami สองลำจะได้รับการติดตั้งแท่นยิง Mk41 VLS ลำละ 16ท่อยิง ทำให้สามารถติดตั้งอาวุธปล่อยนำวิถีพื้นสู่อากาศ RIM-162 ESSM ในชุดบรรจุ quad-parcked รวมทั้งหมด 32นัด
เดิมเรือฟริเกต FFM ลำที่9 และลำที่10 ถูกระบุในการร้องของบประมาณกลาโหมประจำปี 2022 ได้รวมงบประมาณสำหรับแท่นยิง VLS ดังนั้นแท่นยิง VLS ที่ถูกระบุในงบประมาณกลาโหมเสริมจะถูกติดตั้งกับเรือฟริเกต FFM ลำที่1-8 ครับ