วันเสาร์ที่ 4 ธันวาคม พ.ศ. 2564

สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ลงนามสัญญาจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale F4 ฝรั่งเศส 80เครื่อง

Historical contract for the acquisition of 80 Rafale F4 by the United Arab Emirates


In the presence of the President of the French Republic, Emmanuel Macron, and Sheikh Mohammed ben Zayed Al Nahyane, Crown Prince of Abu Dhabi and Vice-Commander of the Armed Forces of the United Arab Emirates (UAE), Eric Trappier, Chairman and CEO of Dassault Aviation, signed a historical contract with Tareq Abdul Raheem Al Hosani, CEO of Tawazun Economic Council, in charge of security and defense acquisitions, for the acquisition of 80 Rafale F4 for the United Arab Emirates Air Force & Air Defence (UAE AF & AD).

This contract is the result of total mobilization by Dassault Aviation alongside the Emirates Air Force and comes on the back of a more than 45-year long relationship of trust between the United Arab Emirates and our company, built on the Mirage family of fighter aircraft, notably the Mirage 2000-9, the modernization of which began two years ago.



ต่อหน้าพิธีที่เชิญประธานาธิบดีสาธารณรัฐฝรั่งเศส Emmanuel Macron และมกุฎราชกุมารแห่ง Abu Dhabi และรองผู้บัญชาการกองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE: United Arab Emirates) Sheikh Mohammed ben Zayed Al Nahyane เข้าร่วม
Eric Trappier ประธานและผู้อำนวยการบริหารบริษัท Dassault Aviation ฝรั่งเศส ได้ลงนามสัญญาประวัติศาสตร์กับ Tareq Abdul Raheem Al Hosani ผู้อำนวยการบริหารสภาเศรษฐกิจ Tawazun ที่รับผิดชอบการจัดซื้อจัดจ้างด้านความมั่นคงและกลาโหมของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับการจัดหาเครื่องบินขับไล่ Rafale F4 จำนวน 80เครื่องสำหรับกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์(UAE&AD: United Arab Emirates Air Force & Air Defence) เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม 2021

เครื่องบินขับไล่ Rafale F4 สำหรับกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งจะเป็นผู้ใช้รายแรกนอกฝรั่งเศส จะทำให้กองทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์มีเครื่องมือที่มีขีดความสามารถในการรับประกันอธิปไตยและเอกราชการปฏิบัติการ
สัญญานี้เป็นผลของการขับเคลื่อนทั้งหมดโดย Dassault Aviation ฝรั่งเศสควบคู่ไปกับกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเป็นการกลับมาของความสัมพันธ์ของความเชื่อถือระหว่างสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และบริษัท
ที่สร้างขึ้นจากเครื่องขับไล่ตระกูล Mirage ที่โดดเด่นคือเครื่องบินขับไล่ Mirage 2000-9 ซึ่งการปรับปรุงความทันสมัยได้เริ่มต้นเมื่อสองปีก่อน(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/rafale-f4.html)

Eric Trappier กล่าวว่า "การขายเครื่องบินขับไล่ Rafale จำนวน 80เครื่องแก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์เรื่องราวความสำเร็จของฝรั่งเศส ผมภูมิใจอย่างยิ่งและดีใจอย่างมากตามผลสรุปนี้ ผมต้องขอขอบคุณตัวแทนผู้มีอำนาจของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
สำหรับการกลับมามั่นใจต่อเครื่องบิของเราหลังเครื่องบินขับไล่ Mirage 5 และเครื่องบินขับไล่ Mirage 2000 สัญญาเครื่องบินขับไล่ Rafale นี้สร้างความมั่นคงในความสัมพันธ์ทางยุทธศาสตร์ที่ผูกพันสองประเทศของเรา 
และความพึงพอใจของกองทัพอากาศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หุ้นส่วนที่ยาวนานและมีความต้องการสูงของบริษัทเรา ผมหวังที่จะขีดเส้นใต้คุณภาพและประสิทธิภาพของความสัมพันธ์ระหว่างผู้มีอำนาจฝรั่งเศสและภาคอุตสาหกรรมซึ่งมีส่วนต่อความสำเร็จนี้โดยทีมฝรั่งเศส"

"สัญญานี้เป็นข่าวที่ยอดเยี่ยมสำหรับฝรั่งเศสและภาคอุตสาหกรรมการบินฝรั่งเศส สำหรับระบบนิเวศทั้งหมดของ 400บริษัท ทั้งขนาดใหญ่และขนาดเล็กซึ่งมีส่วนร่วมในเครื่องบินขับไล่ Rafale นี่แสดงถึงการรับประกันงานหลายพันตำแหน่งในภาคส่วนของเราสำหรับทศวรรษที่จะมาถึง
สัญญานี้ซึ่งเป็นสัญญาที่ใหญ่ที่สุดที่เคยได้รับโดยภาคอุตสาหกรรมอากาศยานรบฝรั่งเศส สร้างความแข็งแกร่งฐานอุตสาหกรรมแห่งชาติ ซึ่งไม่ต้องสงสัยต่อความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวในยุโรป 
ตามที่มันประกอบด้วยกลุ่มหลักและวิสาหกิจและอุตสาหกรรมขนาดกลางและขนาดย่อม(SME/SMI: Small and Medium Enterprises/Industrial) ตลอดทั้งบริษัทซึ่งได้เป็นผู้รับสัญญาหลักสำหรับอากาศยานทางทหารและพลเรือนทุกรุ่นเป็นเวลาผ่านมา 70ปี" Trappier กล่าว

ความสำเร็จของ Rafale กับกองทัพฝรั่งเศสของเราและการขายแก่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เช่นเดียวกับการส่งออกแก่อีกห้าประเทศที่เป็นลูกค้าแล้ว แสดงอย่างชัดเจนว่าการบินรบของฝรั่งเศสถูกจัดเป็นศูนย์กลางความเป็นเลิศระดับนานาชาติบนภาคพื้นอุตสาหกรรมแห่งชาติแล้ว" Trappier เสริม
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์จะเป็นลูกค้านานาชาติรายล่าสุดและรายใหญ่ที่สุดสำหรับเครื่องบินขับไล่ Rafale ต่อจากอียิปต์จำนวน 54เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/05/rafale-30.html), กาตาร์จำนวน 36เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2019/06/rafale.html
อินเดียจำนวน 36เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2020/09/rafale.html), กรีซจำนวน 12เครื่อง(https://aagth1.blogspot.com/2021/07/rafale.html) และโครเอเชียจำนวน 12เครื่องครับ(https://aagth1.blogspot.com/2021/11/rafale.html